ไหปีศาจ - บทที่ 691 ถูกไล่ล่าอีกครั้ง
บทที่ 691 ถูกไล่ล่าอีกครั้ง
บทที่ 691
ถูกไล่ล่าอีกครั้ง
แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีการต่อสู้ใด ๆ เกิดขึ้น
ลั่วอู๋พบว่าหยีเทียนเฉินถูกให้ความสำคัญมากเพราะเขามีเจ้าสมบัติพอที่จะวิจัยมังกรกระดูกผีได้ตามลำพังและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้องมัน
ไม่น่าแปลกใจที่มังกรกระดูกผีสองตัวตายอย่างรวดเร็ว
พวกสัตว์ประหลาดทั้งหมดสามารถวิจัยได้แค่เพียงตัวเดียว
“เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ยังไง?” ลั่วอู๋งงมาก
ไม่ใช่ว่าหยินมู่ชูสามารถชุบชีวิตได้เพียงครั้งเดียวหรอกหรือ?
ฉิงชากล่าวช้า ๆ “ข้ารวมหยินมู่ชูเข้ากับแก่นวิญญาณที่เหลือของเขาเพื่อที่จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง”
ลั่วอู๋แปลกใจเล็กน้อย “แล้วการทำแบบนี้มันทำได้กี่ครั้ง?”
“ครั้งเดียวเท่านั้น” ฉิงชาส่ายหัว “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะชุบชีวิตคนอื่นด้วยวิธีนี้อีกต่อไป”
“และสัตว์ประหลาดตัวน้อยก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดเช่นเดียวกับพวกเรา แค่ยังมีเลือดเนื้อและไม่กลัวแสงแดด”
“หยินมู่ชูรวมกับแก่นวิญญาณของเขา เมื่อหยินมู่ชูถูกทำลายสัตว์ประหลาดตัวน้อยนี้ก็จะตายด้วย ซึ่งนั่นเป็นจุดอ่อนเดียวของเขา”
ลั่วอู๋พยักหน้าและนึกอะไรบางอย่างได้ในทันที เขาถามว่า “หยินมู่ชูสามารถเปลี่ยนกลับไปเป็นประคำไร้ที่ติได้รึเปล่า?”
กุญแจสำคัญในการทำลายคำสาปอยู่ที่หยินมู่ชู เฉพาะเมื่อหยินมู่ชูเปลี่ยนกลับเป็นประคำไร้ที่ติแล้วเท่านั้นที่พวกเขาจะมีชีวิตอมตะได้จริงๆ
ฉิงชาส่ายหัว “แน่นอนว่าไม่”
“ไม่มีทาง นี่คือความหวังของเจ้าที่จะทำลายคำสาปเลยนะ” ลั่วอู๋พูดด้วยความประหลาดใจ
“ไม่เป็นไร ยังไงเราก็มีค่าพอสำหรับภูตไห หยินมู่ชูก็เป็นได้แค่หยินมู่ชูเท่านั้น เอาไปชุบชีวิตสัตว์ประหลาดตัวน้อยยังดีกว่า” ฉิงชาตอบ
“เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดไปจริง ๆ แล้ว เขาไม่สามารถฝึกฝนได้อีกต่อไป และความแข็งแกร่งของเขาจะอยู่ในระดับนี้ตลอดไป”
“ดังนั้นเขาจะทุ่มเทให้กับการศึกษาสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้นโดยหวังว่าจะหาพลังใหม่ได้”
“เขาคือความหวังของเรา”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงชาลั่วอู๋ก็เงียบ
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ หยีเทียนเฉิน
ลั่วอู๋ขอห้องที่เงียบ ๆ
จากนั้นเขาก็เตรียมตัวและเข้าสู่โลกไห
แม้ว่าพลังวิญญาณจะอ่อนแอถึงขั้นที่ใช้ทะลวงมิติก็ยังเจ็บปวด แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้
ด้วยแสงสีขาวสว่างขึ้น ลั่วอู๋ก็ปรากฏขึ้นในโลกไห
และผู้คนที่ต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ การได้เห็นลั่วอู๋ปรากฏตัวขึ้นก็แสดงสีหน้าโล่งใจในที่สุด
“นายน้อย” หลี่หยินวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของลั่วอู๋ เงยหน้าขึ้นดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาและกังวลที่อยู่ทั่วใบหน้าของนาง เห็นแล้วเขาก็รู้สึกสงสาร “ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ลั่วอู๋คิดดูแล้ว เขายังไม่พร้อมที่จะเล่าเรื่องที่เขาตายไปสองครั้ง
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องห่วง” ลั่วอู๋ลูบหัวของหลี่หยินและพูดอย่างสบายใจ
หลี่หยินกัดริมฝีปากของนาง “นายน้อยขี้โกง”
ลั่วอู๋ตกใจมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่หยินพูดอะไรแบบนี้
“เปล่าสักหน่อย”ลั่วอู๋กล่าว
ในขณะนั้นเองฉูจงฉวนก็เดินเข้ามาและถอนหายใจ “กำลังกายของเจียโรวได้รับความเสียหายอย่างมากเป็นเพราะลูกแก้วมังกรเสียหาย เจ้ายังบอกว่าเจ้าไม่เป็นไรอีกรึ?”
ลั่วอู๋พูดไม่ออก
เขามองไปที่เจียโรวที่อยู่อีกฝั่ง ใบหน้าของเจียโรวดูซีดลง แต่นางก็ยังพยายามที่จะยิ้ม “ข้าไม่เป็นไร”
ลั่วอู๋เข้าไปกอดเจียโรวและกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า “ข้าขอโทษ”
เจียโรววางฝ่ามือของนางไว้บนไหล่ของลั่วอู๋และกระซิบว่า “ลูกแก้วมังกรก็มีไว้ใช้เพื่อการนี้อยู่แล้ว ข้ามีความสุขมากที่ได้ช่วยเจ้า”
ลั่วอู๋กอดนางอยู่นานและในที่สุดหัวใจของเขาก็สงบลง
ฉูจงฉวนตาเป็นประกาย “ข้าก็ไม่ถือหรอกนะ แต่ควรสนใจสถานการณ์ตอนนี้ก่อนไหม? เรื่องที่คนเหล่านั้นพูดไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม?”
ลั่วอู๋หยุดกอดเจียโรว เขาหน้าแดงและเขินอาย แต่ก็เห็นด้วยว่ามันไม่ใช่เวลาจะมาจีบกัน
“ข้าเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องจริง” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
ใบหน้าของเจียโรวเปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้ง “แล้วพ่อของข้า…”
“เขาน่าจะยังไม่ตาย” ลั่วอู๋พูดอย่างจริงจัง “เราทุกคนรู้ถึงความแข็งแกร่งของจักรพรรดิดี และเขาก็อยู่ในวัง ไม่มีใครสามารถฆ่าจักรพรรดิได้โดยไม่ทำให้ผู้ทรงพลังในวังรู้ตัวได้หรอก”
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเขาเก่านั้นเหนือคำบรรยายอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากได้ยินคำนี้เจียโรวก็สบายใจขึ้นเล็กน้อย
“จักรพรรดิคนปัจจุบันคือหลี่ซวนซง แต่ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถควบคุมทั้งประเทศได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น” ลั่วอู๋กล่าวต่อ
ทุกคนพยักหน้า
“เราต้องหาทางตามหาจักรพรรดิคนเก่า ตอนนี้เราอยู่ในหุบเขามรณะซึ่งน่าจะปลอดภัย” ลั่วอู๋กล่าว
ลั่วอู๋ตัดสินใจยึดหุบเขามรณะเป็นฐานที่มั่น
สำหรับเรื่องที่ว่าจะไปต่อหรือจะพักฟื้นความแข็งแกร่งของเขา เขาต้องค่อย ๆ แก้ปัญหา
ผู้คนต่างกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลั่วอู๋
ตอนนี้เขากลับมาแล้วทุกคนก็สบายใจได้
หลังจากทำให้ทุกคนสงบแล้วลั่วอู๋ก็ออกจากโลกไหเพราะเขาต้องสังเคราะห์มังกรกระดูกผีให้กับสัตว์ประหลาดในหุบเขามรณะ
โชคดีที่ยังมีวัตถุดิบอยู่
แม้ว่าพลังวิญญาณของลั่วอู๋จะอ่อนแอ แต่อย่างน้อยมิติวิญญาณก็ยังเท่าเดิม
ด้วยความแข็งแกร่งระดับทองขั้นสูง 2 การสังเคราะห์มังกรกระดูกผีก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แต่ลั่วอู๋ก็มีความกังวลเล็กน้อย มังกรกระดูกผีนั้นมีความแข็งแกร่งระดับเพชร แม้ว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้จะแข็งแกร่งสมัยที่ยังมีชีวิต แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีความแข็งแกร่งเลย
มันยากมากที่จะปราบมังกรกระดูกผีได้
ทว่าในไม่ช้าลั่วอู๋ก็รู้สึกโล่งใจ เพราะแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้ แต่ก็ไม่มีทางเสียหายมากเกินไปเพราะพวกเขาไม่สามารถตายได้พวกเขาสามารถใช้จำนวนคนในการจัดการกับมังกรกระดูกผีได้
แต่ตอนก็นี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
หมอกพิษที่อยู่รอบนอกของหุบเขามรณะสลายไป และชายคนหนึ่งที่มีลมปราณแห่งความตายก็เดินเข้ามา
“ที่นี่คือหุบเขามรณะใช่ไหม” ใบหน้าของชายคนนั้นสงบนิ่งราวกับว่าเขาก้าวเข้ามาในหุบเขาธรรมดาแทนที่จะเป็นสถานที่สุดอันตรายในตำนาน
ลั่วอู๋ตกใจมาก
เซียวอวี้!
เขามาตามลั่วอู๋มาจริง ๆ
หมอกพิษของหุบเขามรณะไม่สามารถตบตาเซียวอวี้ได้เพราะเขาไม่ใช่คนที่มีชีวิต
เซียวอวี้เจอตัวลั่วอู๋ในทันทีและพูดช้า ๆ “จักรพรรดิช่างเฉลียวฉลาดจริง ๆ เขาเดาได้ว่าเจ้าอยู่ในหุบเขามรณะ”
ลั่วอู๋รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
นี่คือการคำนวณอันชาญฉลาดของหลี่ซวนซงรึ?
เขาไม่อยากเชื่อเลย
เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะเดาได้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาที่นี่ ต้องเป็นฝีมือภูตไหแน่นอน
หุบเขามรณะเกิดขึ้นมาเพราะภูตไห หยินมู่ชูก็ถูกส่งให้กับฉิงชาโดยภูตไห ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับภูตไหที่จะรู้ว่าลั่วอู๋ฟื้นคืนชีพที่นี่
ท่าไม่ดีแล้ว
หัวใจของลั่วอู๋เต้นรัว
พวกเขาสังเกตเห็นเซียวอวี้
“ศพเดินได้รึ?”
“ว่าไงไอหนู เจ้าเป็นเด็กใหม่เหรอ?”
“ไอ้เฒ่าฉิงชาออกมาและแนะนำเขาให้เรารู้จักหน่อยสิ”
“ทำไมเขาถึงไม่เป็นโครงกระดูกล่ะ?”
“ข้าสังหรณ์ว่าเขาเก่งกว่าเรามาก”
สายตาของเซียวอวี้กวาดไปทั่วพื้นที่ เขาค่อย ๆ ชี้นิ้วที่มีเล็บแหลมคมและน่ากลัวออกไป
“กลุ่มผีดิบระดับต่ำ ควรค่าแก่การมาเทียบกับข้างั้นรึ?” เซียวอวี้สะบัดนิ้วอย่างแรงและพลังแห่งความตายของเขาก็พุ่งออกไป
สัตว์ประหลาดถูกระเบิดแตกเป็นเศษกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อย
มังกรกระดูกผีซึ่งถูกสะกดไว้นั้นแทบจะกลัวจนหมดตัวสั่นเพราะแรงระเบิด ในขณะนี้มันกำลังจะตาย
ผีดิบเทพสถิตธรณีเกือบจะเป็นจุดสูงสุดของผีดิบทั้งหมด
เซียวอวี้ผู้สืบทอดส่วนหนึ่งของผีดิบเทพสถิตธรณีนั้นก็ต้องเป็นคนละระดับกับพวกโครงกระดูกตรงหน้าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย