ไหปีศาจ - บทที่ 713 พิษ
บทที่ 713 พิษ
บทที่ 713
พิษ
ราชินีแห่งฝันร้าย ผู้มีตัวตนเป็นปริศนาได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 5 เดือนก่อน ซึ่งทำให้ทั่วทั้งอาณาจักรราชวงศ์มังกรเร้นกายต้องตกอยู่ในความตื่นตระหนก
ขุนนางและคนมีอำนาจมากกว่าหนึ่งร้อยคนถูกลอบสังหารในช่วงเวลาห้าเดือนที่ผ่านมา
ขุนนางและเจ้าของร้านเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่สนับสนุน การก่อกบฏของหลี่ซวนซง
องค์จักรพรรดิทรงกริ้วมากจึงได้ส่งกองกำลังต่าง ๆ ไปจับตัวราชินีแห่งฝันร้าย โดยบางคนนั้นมีพลังมากถึงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร แต่พวกเขาก็ยังจับตัวนางกลับมาได้ไม่สำเร็จ
ข้าราชบริพารและผู้มีอำนาจต่างก็ตกอยู่ในอันตราย พวกเขาต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างผู้ใช้พลังวิญญาณที่ทรงพลังมาคุ้มครอง แต่ทว่าพวกเขาก็ยังไม่สามารถหยุดการลอบสังหารของนางได้
นางเป็นเหมือนวิญญาณร้ายที่ไม่มีใครรู้จักรูปร่างหน้าตาที่แท้จริง เห็นก็เพียงแต่ชุดสีดำและเงี่ยงกรงเล็บอันแหลมคมที่เปล่งแสงอันเย็นเฉียบออกมา
ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองขั้นสูง ที่อยู่มานานแล้วได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจำสัตว์วิญญาณที่กับหญิงสาวลึกลับได้ ซึ่งทำให้เขาตกใจกลัวมาก “มันคือฝันร้าย สัตว์วิญญาณที่มาพร้อมกับความโกลาหล เหตุการณ์นองเลือดเมื่อ 300 ปีก่อนกำลังจะกลับมาอีกครั้ง”
เรื่องราวนี้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งจักรวรรดิราชวงศ์มังกรเร้นกาย ภายใต้การส่งเสริมจากเหล่าผู้ที่มีเจตนาจะโจมตีความน่าเชื่อถือขององค์จักรพรรดิ
แม้ว่าหลี่ซวนซงจะสามารถควบคุมกลุ่มอำนาจในจักรวรรดิทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีคนจำนวนมากที่คิดต่อต้านจักรพรรดิองค์ปัจจุบันอย่างลับ ๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงการต่อต้านมากนัก แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นและสนับสนุนในราชินีแห่งฝันร้ายผู้ลึกลับหวังว่านางจะล้มล้างการปกครองของหลี่ซวนซงลงได้
น่าเสียดายที่ราชินีแห่งฝันร้ายไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าอับอายมาก
ท้ายที่สุดคนเหล่านั้นก็ถูกล้อมกรอบกวาดล้างลงไป ด้วยแผนขององค์จักรพรรดิหลี่ซวนซง แต่มันก็สายเกินไป เพราะตอนนี้ชื่อของราชินีแห่งฝันร้ายได้แพร่กระจายออกไปทั่วจักรวรรดิแล้ว
ด้วยความสามารถในฐานะมือสังหารอันยอดเยี่ยมไม่มีใครเทียบได้ นางสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดายแม้จะต้องอยู่ในเงื้อมมือของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร
มีบางคนเคยกล่าวว่าราชินีแห่งฝันร้ายนั้นคล้ายกับหญิงสาวคนหนึ่งในสำนักโล่พิทักษ์สาขาเมืองหลวงของจักรวรรดิ นางดูเหมือนสาวใช้ของ ลั่วอู๋อัจฉริยะแห่งสำนักเฉียนหลง
แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่
ล้อกันเล่นรึเปล่า?
แม้ว่าลั่วอู๋จะสามารถแข่งขันเทียบเคียงกับเอ๋าเฉียนจุนได้ แต่เขาก็เพิ่งเข้าสู่มิติวิญญาณระดับทองขั้นสูงได้ไม่นาน
แบบนั้นแล้วสาวใช้ของเขาที่น่าจะมีสถานะต่ำต้อยกว่าจะไปเป็นราชินีแห่งฝันร้ายในตำนานได้อย่างไรกัน
ในความคิดของหลาย ๆ คนราชินีแห่งฝันร้ายผู้ไร้เทียมทานนั้น อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร
ยิ่งไปกว่านั้นสำนักโล่พิทักษ์นั้นได้หายไปนานแล้ว เหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง และป่าไผ่กับกระท่อมที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
แน่นอนว่าเจียหมิงหยู ไม่ได้สนใจราชินีแห่งฝันร้ายเลยสักนิด
นางก็เป็นเพียงแค่กบฏ
แม้ว่านางจะก่อให้เกิดผลกระทบอันเลวร้ายมาก แต่เขาก็เชื่อว่าองค์จักรพรรดิจะต้องสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ที่กองทัพหมาป่าออกมาห่างไกลจากเมืองหลวงของจักรวรรดิ มาประจำการในมณฑลเชิงหยุนนั้นมีสาเหตุสำคัญอยู่
หนึ่งก็คือเพื่อฝึกฝนเหล่าทหาร
สถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้กับชายแดนซึ่งมีอากาศร้อนและแห้ง มันอยู่ติดกับป่าหวงชาทางทิศตะวันตกและภูเขาหยู่ซงทางทิศใต้ ที่นี่มีสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังปรากฏตัวออกมาอยู่เรื่อย ๆ เพื่อทำร้ายผู้คน จึงเหมาะกับการนำทหารมาฝึก
อีกประการหนึ่งก็คือการปกป้องพรมแดนและป้องกันไม่ให้คนเถื่อนจากภูเขาแห้งแล้งข้ามภูเขาหยู่ซงมารุกราน
มีการรุกรานจากอาณาจักรภูเขาแห้งแล้งเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์มังกรเร้นกาย พวกเขามักจะแอบลักลอบเข้ามาในชายแดนของราชวงศ์มังกรเร้นกาย เพื่อฆ่าและปล้นสะดม นั่นก็เพราะไม่ใช่ทุกเผ่าในภูเขาแห้งแล้งที่จะยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเผ่าผู้นำ
แต่เจียหมิงหยูไม่คาดคิดเลยว่าราชินีแห่งฝันร้ายจะกล้ามุ่งเป้ามาโจมตีกองทัพหมาป่าของเขา
และในครั้งนี้นางก็ไม่ได้ดำเนินการเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน
“เวรเอ๊ย!” เจียหมิงหยู กัดฟัน “ลั่วอู๋ตายไปตั้งนานแล้วแท้ ๆ ทำไมกองทัพผีถึงยังคงยืนหยัดต่อสู้อยู่อีก”
มันเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?
ที่ว่าราชินีแห่งฝันร้าย ผู้นั้นคือสาวใช้ผู้ต่ำต้อยข้างกายของลั่วอู๋ มันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?
ไม่หรอก มันไม่น่าจะเป็นไปได้
นางไม่ได้แข็งแกร่งถึงขนาดนั้นแน่
มันต้องเป็นเพราะมรดกของลั่วอู๋ กำลังทำงานร่วมกับราชินีแห่งฝันร้าย
เวลานี้กองทัพหมาป่าต้องเผชิญกับปัญหามากมาย แม้ว่ากองทัพหมาป่าจะมีประสบการณ์เพียงพอที่จะจัดการกับนักฆ่าลัทธิเต๋าผู้ทรงพลังในอดีต แต่พวกเขาก็ยังคงต้องสูญเสียอย่างหนัก
นั้นทำให้ในครั้งนี้แม้ว่าพวกเขาจะต้องเจอ ทั้งภูเขาไฟระเบิด แม่น้ำถล่ม การรุกรานของกองทัพนายพลผี การบุกก่อกวนของฝูงนกลึกลับ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็ก ๆ เท่านั้น
ทหารของกองทัพหมาป่าล้วนมีเจตจำนงอันแข็งแกร่ง และการบริหารจัดการอันดีเยี่ยม นอกจากนี้คนของกองทัพหมาป่าล้วนเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง ปัญหาเหล่านี้จึงไม่ได้สามารถสร้างความเดือดร้อนให้กับกองทัพหมาป่าสักเท่าไหร่
ปัญหาเดียวของพวกเขาก็คือราชินีแห่งฝันร้าย
นางร้ายกาจราวกับเงาที่ซ่อนอยู่ในมุมมืด นางอาจปรากฏตัวได้ทุกเมื่อ เพื่อสร้างความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่นางจะทำได้
ทุกครั้งที่กองทัพหมาป่าเผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่าประหลาดใจต่าง ๆ ราชินีแห่งฝันร้ายก็จะปรากฏตัวออกมาสังหารผู้บัญชาการที่ดูแลกองทหารอย่างเงียบ ๆ แล้วจากไป
ตามหลักแล้วกองทัพหมาป่านั้นมีการบริหารจัดการอันดีเยี่ยม ทันทีที่พวกเขาสูญเสียนายพลไป คำสั่งต่าง ๆ จะกลับมารักษาเสถียรภาพได้ในเวลาอันสั้น เนื่องจากรองนายพลจะขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ทว่าเมื่อรองนายพลขึ้นมาออกคำสั่งแทน เขาเองก็จะถูกลอบสังหารตามไปด้วย เรียกได้ว่าทุกคนที่ขึ้นมาออกคำสั่งจะต้องถูกฆ่า ราวกับคำสาป
กองทัพที่ปราศจากการสั่งการ ย่อมหละหลวมลงตามธรรมชาติ ทำให้เหล่ากองทัพทหารผีและฝูงนกวิญญาณ สามารถฆ่าพวกเขาได้
แม้ว่าจะมีผู้ใช้พลังวิญญาณจำนวนมากถูกสั่งให้มาเข้าร่วมกับกองทัพหมาป่าโดยองค์จักรพรรดิ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาร่องรอยของราชินีแห่งฝันร้ายได้เลย นับประสาอะไรกับการจับกุมตัวนาง
แน่นอนว่ายังไม่มีการส่งผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรที่ทรงพลังมาจัดการกับเรื่องนี้
นั่นก็เพราะมีคนที่แข็งแกร่งในระดับนี้อยู่น้อยเกินไป อีกทั้งพวกเขาเองก็ไม่ใช่ตัวตนที่จะสามารถนำมาใช้งานได้ง่าย ๆ อีกด้วย
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชรจึงมีเพียงแค่ เจียหมิงหยู คนเดียวในกองทัพหมาป่าทั้งหมด
แน่นอนเขาเองก็ได้พยายามตามหาตัวของราชินีแห่งฝันร้ายเช่นกัน แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งการลอบสังหารของนางได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำได้เพียงแค่โจมตีนางเท่านั้น ซึ่งก็ไม่สำเร็จเสียด้วย
เกรงว่าแบบนี้อีกฝ่ายก็จะยิ่งระมัดระวังตัวขึ้น และมีรูปแบบการโจมตีที่เข้าใจได้ยากขึ้นไปอีกในครั้งต่อไป
“ ไร้สาระสิ้นดี” เจียหมิงหยู หัวเราะกับตัวเอง
กองทัพหมาป่าที่ยิ่งใหญ่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ผู้ใช้พลังวิญญาณเพียงคนเดียวได้เสียอย่างนั้น
ขณะมองไปยังเหล่านายพลที่เงียบสงัดอยู่ตรงหน้าเขา เจียหมิงหยู ก็ได้กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าได้รายงานกับองค์จักรพรรดิเกี่ยวกับราชินีแห่งฝันร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
ดวงตาของเหล่านายพลต่างสว่างขึ้นไปตาม ๆ กัน
ตอนนี้สภาพจิตใจของพวกเขาอ่อนแอลงมากจริง ๆ ด้วยอิทธิพลจากราชินีแห่งฝันร้าย
“หากเป็นองค์จักรพรรดิละก็ ท่านจะต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องราชินีแห่งฝันร้ายได้อย่างแน่นอน” นายพลคนหนึ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น
บารมีของ หลี่ซวนซง นั้นสูงมาก
มีผู้ที่ติดตามสรรเสริญเขามากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกองทัพหมาป่า องค์จักรพรรดิคนปัจจุบัน เปรียบได้กับนายเหนือหัวของแผ่นดินใหญ่ ไม่มีอะไรที่จะน่าพึ่งพาไปมากกว่าเขาอีกแล้ว
ทว่าเจียหมิงหยู ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ
หากปัญหาเรื่องราชินีแห่งฝันร้ายแก้ไขได้ง่าย ๆ ละก็ นางคงจะไม่สามารถสร้างเหตุวุ่นวายในเมืองหลวงของจักรวรรดิได้ถึงขนาดนี้
“อีกไม่กี่วันองค์จักรพรรดิน่าจะส่งผู้ใช้พลังวิญญาณมาสนับสนุนพวกเรา ฉะนั้นก่อนที่เขาจะมา พวกเราจะต้องไม่เปิดช่องว่างให้ราชินีแห่งฝันร้ายใช้ประโยชน์จากระยะเวลาช่วงต่อนี้” เจียหมิงหยู กล่าว
นี่คือสาเหตุที่เขาเรียกเหล่านายพลมารวมกันในวันนี้
คนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาล้วนเป็นคนสนิทของเขา พวกเขาเหล่านี้ต่างก็เป็นนายพลคนสำคัญ และมีอำนาจมากที่สุดของกองทัพหมาป่า
หากพวกเขาตาย กองทัพหมาป่าจะเป็นอัมพาตไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
นายพลทุกคนพยักหน้า
ในช่วงเวลาเช่นนี้ แม้จะเป็นตอนไปเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็ต้องไปกับผู้ใช้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งในกองทัพ พวกเขาต้องระมัดระวังเสมอ
แต่แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นข้างนอกค่าย
เสียงโหยหวนและหวาดกลัวมากมายดังขึ้น “พวกเราถูกโจมตี พวกเราถูกโจมตี!”
เหล่านายพลต่างตกตะลึง
พวกเขากำลังถูกโจมตีงั้นเหรอ!
เจียหมิงหยู ขมวดคิ้วเดินออกจากค่ายไปพร้อมกับคำรามด้วยเสียงทุ้ม “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? การโจมตีของศัตรูแล้วมันจะทำไม? มีอะไรที่กองทัพหมาป่าของพวกเราต้องกลัวรึไง?”
สมแล้วที่เขาเป็นถึงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเพชร ผู้ทรงพลัง
เสียงคำรามต่ำนั้นได้ระงับทุกเสียงร้องลงในทันที
เสียงของเขาทำให้ทุกคนสงบลง
แต่แล้วทหารของหน่วยลาดตระเวนก็ได้มาคุกเข่าลงต่อหน้าเขาด้วยความเจ็บปวดแล้วรายงานว่า “ยาพิษขอรับ”
ต่อมาเขาก็ล้มลงกับพื้น เสียชีวิตลง พร้อมเลือดสีดำที่ไหลออกมาจากปาก
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกยาพิษเล่นงาน อีกทั้งยังเป็นยาพิษที่น่ากลัวมากเสียด้วย
หน่วยลาดตระเวนกว่าสิบทีม ซึ่งมีทหารราว ๆ 100 คน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กลับมาด้วยแรงใจอันแข็งแกร่ง แต่แล้วเขาก็ต้องเสียชีวิตลงหลังจากที่ได้พูดออกมาเพียงคำเดียว
สิ่งนี้ทำให้จิตใจของทุกคนเริ่มหวั่นไหวด้วยความกลัว
เหล่าทหารต่างพากันมองออกไปนอกค่าย พวกเขาเริ่มเห็นหมอกสีเขียวจาง ๆ ค่อย ๆ แผ่ปกคลุมท้องฟ้าและปิดกั้นดวงอาทิตย์ให้มืดลงราวกับยามราตรี