ไหปีศาจ - บทที่ 751 กลัวที่จะถูกฆ่า
บทที่ 751 กลัวที่จะถูกฆ่า
บทที่ 751
กลัวที่จะถูกฆ่า
เวลาผ่านไป
พรรคพวกของลั่วอู๋นั้นกำลังฝึกฝนอยู่ใน สำนักเฉียนหลง
ฉูจงฉวนได้ทำพันธสัญญากับราชาแห่งน้ำ ซึ่งในขณะที่เขาพยายามเข้าใจแก่นแท้ของธาตุทั้ง 5 เขาก็ได้ศึกษาวิธีการเปลี่ยนราชาแห่งน้ำให้เป็นรูปร่างอื่นไปด้วย โดยมีหลินยูหลันอยู่กับเขาเสมอ
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งคู่กลับหลีกเลี่ยงหัวข้อเรื่องการแต่งงานไปโดยปริยายเนื่องจากพวกเขายังขาดพยานคนสำคัญในงานไป
เหวินเสี่ยวสีดำและสีขาว เดินทางออกจากสำนัก เฉียนหลงไปตามหาสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา
คนหนึ่งกลับไปที่ทะเลเหนือสุดขอบอีกครั้ง ในขณะที่อีกคนเดินทางลึกเข้าไปในป่าหวงชา
องค์หญิงเจียโรว ไม่รีบร้อนที่จะหาสัตว์วิญญาณตัวใหม่ นางใช้เวลาส่วนมากคอยดูแลมิติไหเป็นหลัก
ห้าปีผ่านไป
หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในห้าปีนี้
เกิดข้อพิพาทระหว่างหน่วยสยบมังกรและอาณาจักรภูเขาแห้งแล้ง ผู้บัญชาการหลิงหลงได้เข้าทำลายชนเผ่าที่เป็นศัตรูและยั่วยุหลายเผ่าด้วยความโกรธเกรี้ยว
ฝั่งภูเขาแห้งแล้งเองเผ่าเที่ยนหวู่ก็ได้ไล่ปราบปรามชนเผ่าหลัก ๆ ที่ขัดขืนมาโดยตลอด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับหน่วยสยบมังกร อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะไม่ได้กลมกลืนเหมือนเดิมอีกต่อไป
มีใครบางคนวางแผนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีเจตนาไม่ดี
คฤหาสน์ชวนเทียนนั้นตั้งอยู่ระหว่างสองประเทศ อย่างที่ทุกคนรู้คฤหาสน์ชวนเทียน นั้นควบคุมธุรกิจทั่วจักรวรรดิ
แต่ จู่ ๆ นายใหญ่ผู้ลึกลับของคฤหาสน์ชวนเทียนก็ปรากฏตัวขึ้น ใช้ทักษะต่อต้านสวรรค์สืบย้อนกลับไปยังแหล่งที่มา จนพบตัวผู้ที่ชี้นำความขัดแย้งเบื้องหลัง
ทว่าเบาะแสก็ถูกขัดจังหวะลงอย่างกะทันหัน เพราะเขาพบว่าเบาะแสเบื้องหลังมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับคนระดับสูงของทั้งสองประเทศ
และเนื่องจากมีผู้ประสงค์ร้ายผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากการเจรจาหลายครั้งการปรองดองจึงสำเร็จผล
อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์นี้ทั้งสองประเทศก็ได้เริ่มขยายกองทัพและชนเผ่าต่าง ๆ ในภูเขาแห้งแล้งก็ได้รวมตัวสามัคคีกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่า รอยแยกแห่งสวรรค์บนท้องฟ้าดูเหมือนจะเริ่มปิดลง ท้องฟ้าสีแดงนั้นค่อย ๆ อ่อนลง เรื่อย ๆ
คนที่รู้ความหมายที่อยู่เบื้องหลังมันมีความสุขที่ได้เห็นฉากนี้ แต่คนอื่น ๆ บางคนก็รู้สึกเสียใจที่ฉากแปลก ๆ กำลังจะหายไป
ห้าปีที่ผ่านมามีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้น
สิ่งมหัศจรรย์หลายอย่างได้ตกลงมาจากท้องฟ้า
ใช่แล้ว มีสัตว์วิญญาณตกลงมาจากท้องฟ้า อีกทั้งมันยังเป็นสัตว์วิญญาณปีศาจที่หายากมาก สัตว์วิญญาณ ประเภทปีศาจนั้นค่อนข้างหาได้ยาก
อีกทั้งชายผู้มีดวงตาคมกริบในการสังเกตก็ได้พบว่ามีวัตถุวิญญาณหลุดออกมาจากรอยแยกแห่งสวรรค์
สิ่งนี้ยังกระตุ้นความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
แม้ว่าสัตว์วิญญาณประเภทปีศาจจะดุร้ายและก้าวร้าว และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพิชิต แต่บางคนก็ชอบสัตว์วิญญาณประเภทนี้
แต่ละคนมีความชอบสัตว์วิญญาณในแบบที่แตกต่างกันเสมอ
นอกจากนี้ยังมีสัตว์วิญญาณที่ทรงพลัง ในบรรดาสัตว์วิญญาณประเภทปีศาจอยู่มากมาย พวกมันจึงเป็นที่นิยมมาก
ดังนั้นทุก ๆ วันคนกลุ่มใหญ่จะมารวมตัวกันภายใต้รอยแยกแห่งสวรรค์
เมื่อใดก็ตามที่ปีศาจตกลงมาจะมีคนกลุ่มหนึ่งแห่กันมาเพื่อจับตัวมันไป
ในช่วงแรกปีศาจที่ตกลงมานั้นค่อนข้างอ่อนแอ พวกมันมีระดับมิติวิญญาณราวทองแดง และเงิน ทว่าต่อมาก็เริ่มมีปีศาจระดับทองปรากฏตัวขึ้น
มันจึงกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนจำนวนมาก
สัตว์วิญญาณหายากและมีค่าย่อมมีน้อย ปีศาจระดับทองที่ใช้งานในการต่อสู้จริงได้ย่อมมีมูลค่าสูงกว่า
นี่ทำให้มีอาชีพใหม่เกิดขึ้นที่เรียกกันว่า -นักล่าปีศาจ
แน่นอนว่าชื่อนี้ฟังดูดี แต่อันที่จริงแล้ว พวกเขาก็แค่สังเกตรอยแยกแห่งสวรรค์ทุก ๆ วัน สำรวจเวลาที่มีสัตว์วิญญาณ หรือ วัตถุวิญญาณตกลงมา แล้วเรียกนักล่าไปจัดการ
คนวงในบางคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ต่อมาพวกเขาก็พบว่าพบว่ารอยแยกแห่งสวรรค์กำลังจะปิดลงและพลังวิญญาณชั่วร้ายจากนรกมนตราเองก็ไม่เคยล้นออกมา มันเป็นเพียงการปรากฏตัวของสิ่งมหัศจรรย์อันเรียบง่าย ที่ไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ
ระหว่างนั้นสิ่งที่น่าสนใจก็เกิดขึ้น
ว่ากันว่ามีนักล่าปีศาจคนหนึ่งเจอเรื่องแปลก ๆ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่สูงนัก แต่เขาก็เป็นถึงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง เขามีไหวพริบดีและสามารถค้นหาสิ่งมหัศจรรย์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าได้เป็นคนแรก ๆเสมอ
ทว่าวันหนึ่งเขากลับจับเด็กน้อยที่สวมหน้ากากได้ เด็กน้อยนั้นสวมหน้ากากที่เหมือนแสยะยิ้มสีเขียวและมีเขี้ยวดูน่ากลัว เด็กน้อยนั้นมีดาบหยาบ ๆ ขนาดใหญ่ในมือของเขา
เขายืนยันว่าเด็กคนนั้นเป็นสัตว์วิญญาณประหลาดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ เขาจึงพยายามเอาไปขายให้ได้ในราคาสูง
ผลก็คือมีคนที่แข็งแกร่งออกมาเพื่อระบุตัวตนของมัน จึงได้รู้ว่า “สัตว์วิญญาณประหลาดที่คล้ายมนุษย์” แท้จริงแล้วเป็นเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น เขาเพียงแค่สวมหน้ากากแสยะยิ้ม ที่ถอดออกได้ยาก
นักล่าปีศาจคนนั้นจึงถูกประชาชนเยาะเย้ย ว่าเขา คลั่งไคล้เงินจนเสียสติ เป็นผลให้เขาต้องวิ่งหนีด้วยความตกใจและไม่ปรากฏตัวออกมาอีกเลย
เรื่องตลกนี้ยังคงแพร่กระจายออกไปในหมู่นักล่าปีศาจ ถูกส่งต่อไปปากต่อปาก
……
……
ขณะเดียวกับ การรับสมัครในรอบทศวรรษของสำนักเฉียนหลงก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
นักเรียนกลุ่มใหม่ได้เข้ามาศึกษาในสำนักเฉียนหลง ในขณะที่นักเรียนกลุ่มก่อนก็เลือกเส้นทางของตัวเองว่าจะอยู่ในฐานะอาจารย์พิเศษ เพื่อฝึกฝนต่อหรือเลือกที่จะออกไป
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมในสำนักเฉียนหลง
แต่ก็ยังมีบางอย่างหลงเหลืออยู่
ตัวอย่างเช่นตำนานต่าง ๆ
กาลครั้งหนึ่งมีอัจฉริยะระดับปีศาจชื่อ เอ๋าเฉียนจุน เขาทำให้ทั่วทั้งเมืองหลวงของจักรวรรดิต้องตกตะลึง ต่อมาเขาไม่สามารถหาคู่ต่อสู้ที่พึงพอใจได้ เขาจึงเลือกที่จะจากไป
มีนักเรียนอัจฉริยะระดับปีศาจอีกคนที่สามารถก้าวทันเอ๋าเฉียนจุนได้ เขาแข็งแกร่งขนาดเคยขัดขวางการกบฏของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันในอดีตได้ และทำให้องค์จักรพรรดิลำบากอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่แล้วเขาก็หายตัวไป
นอกจากนี้ยังนักเรียนผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งได้ออกจากสำนักเฉียนหลง กลายเป็นราชินีแห่งฝันร้ายที่ฆ่าผู้คนโดยไม่กะพริบตา
มีตำนานมากเกินไป มากเกินไปจริง ๆ
นักเรียนกลุ่มใหม่ที่เข้าสู่ สำนักเฉียนหลง ต่างเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า หนุ่มสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนแสงยามเช้า
หลี่หวู่หยวน มองไปที่กลุ่มนักเรียนและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
นักเรียนรุ่นนี้เองก็มีฝีมือที่ดีมากเช่นกัน
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเทียบได้กับ เอ๋าเฉียนจุน
ทันใจนั้นเองความสนใจของเขาก็ถูกดึงดูดไปที่เด็กผู้ชายสวมหน้ากากหน้าตาบูดบึ้ง
เด็กชายคนนั้นถือดาบขนาดใหญ่ที่ดูหยาบ ๆ เหมือนกระแสน้ำหนา ๆ เขายืนอยู่เงียบ ๆ
บางทีอาจเป็นเพราะหน้ากากของเขานั้นน่ากลัวเกินไป จึงไม่มีใครไปยืนใกล้ ๆ กับเขา คนอื่น ๆ ต่างมองเขาด้วยความกลัวและรังเกียจ
“เด็กชายคนนั้นเป็นใคร … ” หลี่หวู่หยวนอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ทูตเฉียนหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เด็กชายคนนั้นมีชื่อว่านารุ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขามาจากไหนขอรับ เขาแลกกับตระกูลต่าง ๆ ด้วยวัตถุวิญญาณ จนมาถึงสำนักเฉียนหลง”
“ ชื่อแปลก ๆ เขาอายุเท่าไหร่?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุเพียงแค่เก้าขวบ”
หลี่หวู่หยวน รู้สึกประหลาดใจ
เก้าขวบ?
เขาดูไม่เหมือนอายุ 9 ขวบเท่าไหร่
อายุเก้าขวบเป็นวัยพื้นฐาน จึงยังไม่เหมาะสำหรับการฝึกฝนพลังวิญญาณ มิฉะนั้นก็อาจจะทำให้เส้นวงจรพลังวิญญาณเสียหายอย่างที่ไม่สามารถแก้กลับคืนมาได้
แม้ว่าลมปราณของเด็กคนนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งนัก แต่อย่างน้อย ๆ ก็มีความแข็งแกร่งในระดับ เงิน มิติ 6
หลี่หวู่หยวน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินเข้าไปหาเขา
เมื่อเห็นรองประธานเดินเข้ามานักเรียนคนอื่น ๆ ก็ดูกังวลและตื่นเต้นกันมาก แต่เด็กชายผู้สวมหน้ากากกลับไม่มีความผันผวนและยังคงสงบนิ่ง
“เจ้าชื่อว่านารุสินะ?” หลี่หวู่หยวนถาม
เด็กชายพยักหน้า “เจ้าเป็นรองเจ้าสำนักเหรอ?”
เด็กนั้นมักจะพูดออกมาอย่างเรียบง่ายจนน่าแปลกใจ เพราะพวกเขามีใส่ซื่อมากเกินไป
เมื่อเผชิญกับคำถามเช่นนี้หลี่หวู่หยวนก็หัวเราะแล้วส่ายหัว
นี่มันน่าสนใจมาก
รอบ ๆ ตัวเขาเหล่าหนุ่มสาวที่เห็นรองเจ้าสำนัก ต่างก็มองไปที่นารุ ด้วยความอิจฉา
พวกเขามองนารุในแบบที่ไม่เพียงแค่อิจฉา แต่ยังหวาดกลัวด้วย
หลี่หวู่หยวน ไม่เข้าใจ แม้ว่าหน้ากากนี้จะน่ากลัว แต่ก็คงไม่ใช่เหตุผล เพราะเขาเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดในรุ่น
“ พวกเขาดูกลัวเจ้านะ” หลี่หวู่หยวนสนใจเด็กชายคนนี้มาก
นารุ ยังคงดูสงบสุขุม เขาตอบกลับไปอย่างสบาย ๆ “พวกเขาคงกลัวว่าจะถูกฆ่า … ”