ไหปีศาจ - บทที่ 79 หากท่านมีความสุขละก็
บทที่ 79
หากท่านมีความสุขละก็
บนรถม้าอันแสนงดงาม
นกหน้าโง่หวีขนสีขาวของมันอย่างหยิ่งผยองราวกับว่าเป็นกษัตริย์ที่กำลังเดินทางไปตรวจสอบอาณาเขตปกครอง มันยึดตำแหน่งที่สำคัญที่สุดบนรถ
มุมปากของหลี่ชวนเฉิงกระตุกเบาๆ
แม้ว่าจะยังมีมาดดูศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้าง แต่นิสัยของมันน่ารังเกียจเกินไป
ไม่แปลกใจเลยที่ลั่วอู๋สามารถมีชีวิตอยู่กับสัตว์วิญญาณเช่นนี้มาได้ตั้งหลายปี มันน่ารำคาญน่าหงุดหงิดพอ ๆ กันกับลั่วอู๋
“เจ้าหลบออกไปอยู่อีกด้านสิ” หลี่ชวนเฉิงกล่าวด้วยอารมณ์ไม่ดี
นกโง่เหลือบมองมาที่เขา จากนั้นมันก็แต่งขนของมันต่อโดยไม่สนใจเขา
คิ้วของหลี่ชวนเฉิงเกือบจะบิดเบี้ยวเป็นเชือก ข้าใช้เงิน 7 ล้านซื้อแกมา แต่แกกล้าที่จะปฏิบัติตัวกับข้าอย่างนี้งั้นเหรอ
หลี่ชวนเฉิงนำแผ่นควบคุมสัตว์วิญญาณออกมาทันที “เจ้านกโง่ออกไปจากที่นั่งเดี๋ยวนี้ นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับสัตว์ขนแบนอย่างเจ้าจะนั่งได้”
นกโง่โกรธ
สัตว์ขนแบน
แม้แต่ลั่วอู๋ก็ยังไม่กล้าเรียกข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าดูถูกข้าได้อย่างไร
หลี่ชวนเฉิงรู้สึกเย็นสันหลัง จู่ ๆ เจ้านกโง่ตัวนี้ก็ดูน่ากลัวขึ้นมาได้อย่างไรกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ข้าทำสัญญากับมันไปแล้วนี่
ทำไมมันถึงไม่ฟังข้า
หลี่ชวนเฉิงตรวจสอบแผ่นควบคุมสัตว์วิญญาณ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เขาตรวจสอบแร้งกลายพันธุ์ด้วยพลังวิญญาณของเขาและรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าพลังของพันธสัญญาได้หายไปแล้ว
ทำไมกัน ทำไมมันถึงไม่มีพันธสัญญาล่ะ
ก่อนหน้านี้เขารีบร้อนเกินไปที่จะใส่ใจกับการตอบสนองของแร้งกลายพันธุ์ เขาเพิ่งทำสัญญาไปและก็ไม่ได้สนใจมัน มันจึงเกิดเป็นความผิดพลาดได้อย่างนั้นเหรอ
“แกว๊ก!”
นกหน้าโง่ร้องเสียงดังขึ้นแล้วตบใบหน้าของหลี่ชวนเฉิงด้วยปีกของมันและกรงเล็บอันแหลมคมของมันก็จ่อมาที่หน้าของเขา
“อ๊ากกก”
หลี่ชวนเฉิงปิดใบหน้าของเขาด้วยความเจ็บปวด ยังคงมีรอยแดงจากการถูกตบและบาดแผลเล็ก ๆ หลายสิบแผลปรากฏบนร่างกายของเขา ในไม่ช้าเสื้อผ้าของเขาก็ดูโทรมและน่าสังเวช
“เจ้านกโง่!”
เขาต้องการให้ลูกน้องของเขายิงนกที่โง่เขลาตัวนี้
แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้
นกโง่ตัวนี้ถูกซื้อไปแล้วด้วยเงิน 7ล้านหินวิญญาณ อีกทั้งเขายังต้องนำมันไปให้กับองค์หญิงเจียโรวเพื่อขออภัยโทษ
“ใครจับมันอยู่กับที่ให้ข้าที”
ลูกน้องหลายคนวิ่งเข้ามาจากภายนอกและจับเจ้านกมัดในเวลาไม่นานนัก
“ตบข้า เจ้ากล้าที่จะตบข้างั้นเหรอ ” หลี่ชวนเฉิงตบนกโง่อย่างแรง
ดวงตาของนกหน้าโง่นั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เจ้ากล้าจ้องที่ข้าดวงสายตาแบบนั้นเหรอ”
หลี่ชวนเฉิงเตะนกโง่อีกครั้ง จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นควบคุมสัตว์วิญญาณออกมาและส่งพลังทำพันธสัญญาอีกครั้ง
นกหน้าโง่เริ่มคิดแผนฉลาด ๆ ได้ในทันที
“เอาล่ะไปกันเถอะ” หลี่ชวนเฉิงคิดว่าสัญญาได้เสร็จสิ้นแล้ว
แต่ในขณะที่ลูกน้องของเขาปล่อยนกโง่ออก ตาของมันก็เฉียบแหลมราวกับนกอินทรีที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ
นกหน้าโง่กระพือปีกและหายใจรวบรวมพลังวิญญาณเข้าทางปาก
“ตู้มมม”
แสงสีขาวส่องสว่างขึ้นสู่ท้องฟ้าและทำลายหลังคารถม้า
ลำแสงสีขาวยิงออกไปในทันที ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน ลำแสงนี้กะพริบในอากาศสองสามครั้งจากนั้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์
แน่นอนลำแสงนี้เป็นของเจ้าแร้งกลายพันธุ์
หลี่ชวนเฉิงมองไปที่รูบนหลังคารถและสักครู่ก็ตกอยู่ในความสับสนอย่างสมบูรณ์
ทำไมมันถึงต่อต้าน
เขาก็เห็นแล้วอย่างชัดเจนว่าพันธสัญญามีผลแล้ว
ทำไมมันถึงยังขัดขืนได้
เป็นเวลานาน มีเสียงเศร้าที่เกิดขึ้นในรถม้าที่ผุพัง “อ้า! หินวิญญาณของข้า ไปไล่จับไอ้เจ้านั่นมานี่สิ”
……
……
ลั่วอู๋นำพาองค์หญิงไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู
เมื่อได้เห็นถึงความสูงส่งขององค์หญิงแล้วตระกูลฉูก็ตกตะลึงและทุกคนก็ยุ่งวุ่นวายในทันที
อย่างไรก็ตามเนื่องจากองค์หญิงเจียโรวยังคงอยู่ในสภาพอ่อนแรง นางจึงไม่ปรากฏตัวออกจากราชรถ นางเพียงแค่พูดและส่งเสียงของนางออกมา ซึ่งก็เพียงพอที่จะกระตุ้นตระกูลฉู
มันเป็นความจริง
คุณสามารถได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงด้วยการครอบครองภูตดอกไม้
เห็นไหมว่าองค์หญิงมาด้วยถึงที่นี่ตัวเองและพวกเขายังเตรียมที่จะใช้คฤหาสน์ตระกูลฉู เป็นที่พักชั่วคราว มันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ
“บุตชายคนโตของเจ้าอยู่ที่ไหน “
ตัวละครหลักของตระกูลฉูยังไม่ปรากฏตัวออกมา ในฐานะที่เป็นดั่งน้องชายขององค์หญิง ลั่วอู๋จึงจำเป็นต้องหาใครสักคนมารับหน้าแทน
สาวใช้ของตระกูลฉูพูด “นายน้อยคนโตกำลังอยู่ในการช่วงเวลาการศึกษาของเขาเจ้าค่ะ … “
“ศึกษา”
ลั่วอู๋ขบริมฝีปากของเขาฉูจงฉวนสามารถอ่านหนังสือได้ด้วย ทำไมข้ารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ที่ฉูจงฉวนทำการศึกษาอยู่ ลั่วอู๋ในฐานะเพื่อนของฉูจงฉวน และตัวแทนขององค์หญิง ก็เดินเข้าไปที่ศาลาชั้นในของฉูจงฉวน และไปหา ฉูจงฉวนที่อยู่ระหว่างกำลังศึกษาหาความรู้
“เจ้าช่างเป็นหลานชายที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ให้ตายเถอะ ช่างยโสโอหัง” เสียงคำรามหนา ดังขึ้นในศาลาการศึกษา
“ท่านเองก็เป็นคนแก่ที่แย่มาก ท่านเพียงแต่พึ่งของเก่า ๆ คนเก่า ๆ และขายของเก่า เพื่อดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น”
เสียงของฉูจงฉวนดังขึ้น
ลั่วอู๋ซ่อนตัวอยู่ข้างๆอย่างเงียบ ๆ
“เจ้าจะยอมเอามันไปส่งดี ๆ ไหม” เสียงดังนี้คุ้นเคยกับลั่วอู๋ มันเป็นของฉูจานเทียน ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของตระกูลฉู
“ไม่!”
“ทำไมเจ้าไม่อยากเอามันไปส่ง หา “
“ก็ข้าไม่ชอบองค์หญิงนี่ จะให้ข้าวางตัวยังไง ถ้าข้าเอามันไปให้พวกเขา”
“เจ้าโม้เหม็นอะไรของเจ้าเนี่ย ” ฉูจานเทียนเยาะเย้ย
ฉูจงฉวนตบมือกับโต๊ะ “ท่านพูดอะไรของท่าน ไม่ใช่ว่าท่านต้องการให้ข้าดื่มด่ำกับความสูงส่งขององค์หญิง ปล่อยให้องค์หญิงได้รับอิทธิพลจากตระกูลฉู องค์หญิงจะได้สนใจพวกเรา เพื่อที่ข้าจะได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงรึไง หากท่านในอดีตยังไม่มีหวัง แล้วทำไมท่านถึงคิดว่าข้าจะทำมันได้ “
ตระกูลฉูเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจได้ไม่นานนัก
แม้ว่าความแข็งแกร่งทางฐานลูกค้าและเงินจะเพียงพอ แต่เส้นสายภายในนั้นยังไม่เพียงพอในสายตาของคนจำนวนมาก พวกเขายังคงเป็นตระกูลเศรษฐีใหม่
“เจ้า … ” ฉูจานเทียน สำลักอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความโกรธ “ถ้าเจ้าไม่ออกไปส่งมัน ข้าจะหักเงินเดือนทั้งหมดของเจ้า”
“ก็หักไปสิข้าไม่สนใจ”
ฉูจงฉวนมีรากฐานการเงินที่แข็งแกร่ง
เขาเพิ่งได้ 1 ล้านหินวิญญาณมาจากการขอลั่วอู๋ ซึ่งก็เพียงพอที่จะใช้เป็นเวลานาน
“ถ้างั้นข้าจะทุบซ่องทั้งหมดในเขตหมิงหนาน” ฉูจานเทียนใช้ไม้ตายนี้อีกครั้ง
ฉูจงฉวนเป็นคนใจร้อน “ท่านช่วยมีความคิดใหม่ ๆ ได้ไหม มาไม้นี้อีกกี่ครั้งข้าก็ไม่เดือดร้อน”
“แต่มันก็ได้ผลใช่ไหมล่ะ”
“ไปส่งให้ไวที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้เลย” ฉูจงฉวนมีเรื่องข้องใจ
“หึ สุดท้ายผู้อาวุโสอย่างข้าก็ยังเป็นบรรพบุรุษของเจ้า เจ้าน่ะยังเด็กเกินไป” ฉูจานเทียนเดินจากศาลาการศึกษาออกไปอย่างมีชัย
ฉูจงฉวนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าจากในศาลาการศึกษาของเขาและถอนหายใจ “ต้องโทษตัวข้า ที่ข้าดูดีเกินไป ข้าดูดีเกินไปจนตระกูลฉูทั้งหมด ไม่สามารถหาคนที่ยอดเยี่ยมได้สักครึ่งของข้ามาแทนที่ข้าได้”
“แหวะ ไร้ยางอาย”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นมา
ฉูจงฉวนโกรธขึ้น “ใครพูด คนที่กล่าวคำนั้นเมื่อกี้ จงเดินออกมา”
ลั่วอู๋เดินออกมาช้าๆ
“โอ้ ฮะฮะ น้องชายลั่วทำไมมาอยู่ที่นี่ได้” ฉูจงฉวนรีบเปลี่ยนท่าทีอย่างประหลาดใจ
“ข้ามาที่นี่ในนามขององค์หญิง” ลั่วอู๋กล่าว
หลังจากนั้นลั่วอู๋และฉูจงฉวน ก็พูดคุยเกี่ยวกับองค์หญิง ตั้งแต่เรื่องที่องค์หญิงถูกซุ่มโจมตีและสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว พวกเขาเพิ่งได้พบกับองค์หญิงและเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“ไม่ต้องกังวลไป องค์หญิงแค่ต้องการภูตดอกไม้และตอนนี้นางไม่ต้องการพบใครอีก” ลั่วอู๋กล่าว
ฉูจงฉวนโล่งใจจนหัวเราะออกมา “เยี่ยมมากข้ากำลังห่วงเลยว่า องค์หญิงจะเผลอตกหลุมรักข้ารึเปล่า”
ลั่วอู๋มองมาที่เขาอย่างละเหี่ยใจ
หากเจ้ามีความสุขแบบนี้ก็พอแล้วล่ะนะ…