ไหปีศาจ - บทที่ 821 ปิดบัง
บทที่ 821 ปิดบัง
บทที่ 821
ปิดบัง
จี๋โป หัวหน้าเผ่าเจตจำนงแห่งลม
ว่ากันว่านั่นไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของเขา แต่เป็นชื่อที่ใช้เรียกกันในเฉพาะหัวหน้าเผ่า หลังจากที่เขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าแล้ว เขาก็จะสืบทอดชื่อนี้จนกว่าชีวิตของเขาจะจบลง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำขอบคุณของจี๋โป ลั่วอู๋ก็ตอบกลับอย่างนอบน้อม “ด้วยความยินดี ไม่เป็นไรหรอก”
ทุกคนต่างมองไปที่ลั่วอู๋ที่แสนไร้ยางอาย มันเป็นเรื่องยากที่จะทนกลั้นขำเอาไว้
“ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว เชิญรับประทานอาหารเลย” จี๋โปกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ลั่วอู๋เลิกทำตัวสุภาพ
เพราะพวกเขานั้นเดินทางมาอย่างยาวนาน เขาจึงไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ แม้ว่าจะไม่มีปัญหาในการกินหรือว่านอน แต่สิ่งพวกเขาต้องการก็คือความสุข
อาหารของเผ่าเจตจำนงแห่งลมที่นำมาเสิร์ฟนั้นอร่อยมาก ทำให้ทุกคนสามารถรับประทานอาหารได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ลังเลอยู่พักหนึ่ง จี๋โปก็ถามขึ้นมาว่า “แขกจากโลกภายนอก ท่านมาที่นี่ทำไมรึ?”
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว และหัวเราะออกมา
จากนั้น เขาก็พูดออกมา
“พวกเรามาที่นี่ด้วยความบังเอิญ พวกเรามาเพื่อตามหาบางสิ่งบางอย่าง” ลั่วอู๋พยักหน้า
จีโบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “โลกภายนอกเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”
“หืม?”
ลั่วอู๋แสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็น
จี๋โปรีบพูดต่อ “พวกเรานั้นติดต่อกับโลกภายนอกได้เพียงน้อยนิด ดังนั้นเราจึงต้องการถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกภายนอก”
ลั่วอู๋หัวเราะ
การติดต่อกับโลกภายนอกได้เพียงน้อยนิด จึงทำให้ไม่ได้รับข่าวสารอะไรเลย
เห็นได้ชัดว่า พลังของท่านหม่าเฉินค่อย ๆ อ่อนแอลง และสถานที่อันโดดเดี่ยวนี้ก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป ทำให้ชนเผ่า ณ ที่แห่งนี้เริ่มตื่นตระหนก
ความกลัวในสิ่งที่ตนไม่รู้จัก
ลั่วอู๋ได้บอกทุกอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกภายนอก แต่จำกัดเฉพาะเรื่องใจภูเขาแห้งแล้งนี้เท่านั้น เขาเกรงว่าจะต้องใช้เวลากว่าหลายเดือนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกภูเขาแห้งแล้งด้วย
หลังจากที่ได้ยินนั้น จี๋โปก็ถอนหายใจด้วยความโลกอก ที่ในที่สุดก็ได้รู้สถานการณ์ของโลกภายนอกบ้าง
เนื่องจากคนอื่นส่วนใหญ่ ณ ที่แห่งนี้ไม่รู้เรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกเขาจึงจำเป็นต้องปิดบังเอาไว้
“ตอนนี้ ข้าได้ตอบคำถามของเจ้าแล้ว ข้าสงสัยว่าเจ้าจะตอบของข้าได้หรือยัง?” ลั่วอู๋ถาม
จี๋โปพุดด้วยรอยยิ้ม “อะไรนะ”
“ว่ากันว่าหินที่อยู่ในป่าหินนั้นไม่สามารถถูกทำลายได้ หรือเพราะว่ามันอาจจะนำไปสู่ความโชคร้ายก็ได้ ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน” จี๋โปตกใจอย่างมาก
ลั่วอู๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้รู้มันมาจากลูกสาวของเจ้า แต่นางบาดเจ็บมากจนหมดสติไป หลังจากที่ได้พูดเรื่องนี้ออกมา”
“เป็นอย่างงั้นเองหรือ” จี๋โปพยักหน้า “ใช่แล้ว หินพวกนั้นมีความสดใสอย่างมาก เหมือนดั่งการแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงแห่งลมเลยก็ว่าได้”
เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี และเขาก็ไม่ควรที่จะบอกให้คนนอกได้รับรู้ด้วย
จากนั้น ลั่วอู๋ก็ได้ถามขึ้นว่า “แล้วอะไรคือความโชคร้ายกันล่ะ?”
“ข้าเกรงว่าข้าไม่สามารถบอกกับเจ้าเรื่องนี้ได้” จี๋โปกล่าว
เห็นได้ชัดว่า ลั่วอู๋นั้นก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับความลับของเผ่าของจี๋โป ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะถามออกไป
“ลมมีเจตจำนงของตัวเองด้วยอย่างนั้นหรือ?” ลั่วอู๋ถาม
จี๋โปกล่าวตอบ “แน่นอน สายลมนั้นเป็นสัญลักษณ์ของเผ่าเรา ทุกสิ่งที่เราทำนั้นก็คือการทำตามคำแนะนำของสามลม”
“นั่นแหละ คือท่านหม่าเฉิน”
“เจ้ารู้จักท่านหม่าเฉินหรือไม่?”
“แน่นอนข้ารู้” ลั่วอู๋พยักหน้า
สีหน้าของจี๋โปเปลี่ยนไปเป็นสับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมคนจากโลกภายนอกถึงได้รู้จักท่านหม่าเฉิน
เห็นได้ชัดว่า ลั่วอู๋นั้นไม่พร้อมที่อธิบายให้เขาฟัง
มีบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถเจาะลึกได้
“ท่านหม่าเฉินนั้นเป็นคนฉลาด และทรงพลังอย่างมาก คอยชี้แนะพวกเราดั่งศาสดา ซึ่งควรค่าให้พวกเราทุกคนเคารพนับถือ แต่ใครจะบอกได้กันว่าการที่ท่านหม่าเฉินปรากฏตัวมานั้น ไม่ใช่ประสงค์ของสายลมกัน?” จี๋โปกล่าว
ชิ! เจ้าก็สามารถพูดทุกอย่างได้
ลั่วอู๋ได้ยินดังนั้น เขาก็พูดอย่างใจเย็น “ดูเหมือนว่าจะไกลตัวเหลือเกิน เจตจำนงแห่งสายลมอาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้”
จี๋โปกล่าว “แม้ว่าเจ้าจะเป็นแขกก็ตาม เจ้าก็ไม่สามารถว่าร้ายอักขระของพวกเราได้ แม้ว่าเจ้าจะช่วยลูกสาวของข้าไว้ก็ตามที แต่เผ่าของของข้าก็จะไม่ปรองดองต่อเจ้าแน่”
ในใจของลั่วอู๋นั้นมีแต่ความสบประมาท
ว่าร้ายงั้นเหรอ?
การว่าร้ายก็แค่ลมปาก
ถ้าเจ้าได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ข้าเกรงว่าเจ้าจะต้องเข้าต่อสู้กับข้าแน่
แต่มันก็ดูเป็นเรื่องที่โง่เขลาที่จะมาต่อสู้กัน ดังนั้นลั่วอู๋จึงได้ถามต่อไปว่า “เจ้ารู้จักสถานที่ที่มีน้ำพุใกล้ ๆ กับที่นี่ไหม?”
ดวงตาของจี๋โปส่องประกาย และเขาก็ส่ายหัว “ไม่รู้”
“ข้าได้ยินมาว่ามีชนเผ่าจำนวนมากที่อยู่ที่นี่ เจ้าช่วยถามให้หน่อยได้ไหมมันอาจจะมีคนรู้จักก็เป็นได้” ลั่วอู๋กล่าว
“ได้” จี๋โปพยักหน้าแล้วรีบลุกยืนขึ้น “ข้ามีบางอย่างที่จะต้องทำ ข้าต้องขอตัวก่อน แขกทั้งหลายโปรดพักผ่อนเถอะ หรือว่าต้องการที่จะจากไป ข้าก็จะพาพวกเจ้าไปส่งให้เอง”
“รบกวนด้วย” ลั่วอู๋พูด้วยรอยยิ้ม
“ด้วยความยินดี”
หลังจากคุยกันเสร็จ จี๋โปก็ออกไปจากห้องในทันที
ดวงตาของลั่วอู๋เปล่งประกายแสงสีทอง เขาจ้องมองไปที่ด้านหลังของจี๋โป ในขณะที่เขากำลังออกไป
ฉ จงฉวนได้ดื่มไวน์ผลไม้ไปหนึ่งแก้ว และเขาก็พูดขึ้น “นี่มันรสชาติดีมาก มันมีกลิ่นหอมเข้มข้น นี่เป็นไวน์ชั้นเลิศเลย”
เขาวางแก้วลง และพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวนะ พวกเราจะออกไปตามหาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์กันเลยไหม?”
ท้ายที่สุด การตามหาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ก็คือจุดประสงค์ของการเดินทางมา ณ ที่แห่งนี้
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ไม่ เราควรจะอยู่ที่นี่กันก่อน”
“ทำไมล่ะ?” ทุกคนต่างสงสัย
แสงสีทองในดวงตาของลั่วอู๋ได้มาบรรจบกัน และเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “จี๋โปนั้นได้รีบออกไป แต่แทนที่จะไปดูลูกสาวของเขาที่หมดสติ แต่เขากลับตรงออกจากเผ่าของเขา”
ทุกคนต่างประหลาดใจ
ข้าคิดว่าเขาจะเข้ามาดูลูกสาวของเขา ก่อนที่เขาจะกลับไปยังเผ่าของเขา
ถ้าหากมีสิ่งที่สำคัญกว่าลูกสาวของเขาจริง ๆ ทำไมเขาต้องเข้ามาคุยกับพวกเราด้วย
คงจะเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างเห็นได้ชัด
“และเมื่อข้าถามเกี่ยวกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เขากลับปฏิเสธอย่างจริงจัง” ลั่วอู๋กล่าว
ฉู จงฉวนไม่เข้าใจ “มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”
“มันจะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ ลองนึกถึงสิ่งที่ข้าได้ถามออกไปสิ”
ทุกคนต่างจำได้ว่า ลั่วอู๋นั้นไม่ได้ถามเกี่ยวกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เลย แต่แค่ถามว่ามีร่องรอยของน้ำพุอยู่ใกล้ ๆ ที่แห่งนี้หรือไม่
เมื่อทุกคนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็พบความผิดปกติเข้าให้แล้ว
ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ในสถานที่ที่ใหญ่เช่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีน้ำพุ ถึงแม้มันจะไม่มีจริง ๆ เขาก็ไม่ควรที่จะตอบอย่างนั้นแน่นอน เห็นได้ชัดว่า ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนที่จะใส่ใจอะไร เขาก็อาจจะกำลังซ่อนบางอย่างเอาไว้อยู่ก็ได้”
“ถ้างั้นเราจะตามเขาไปดีไหม?” ฉู จงฉวนกล่าว
ลั่วอู๋พยักหน้า “ข้าจะไปกับหลี่หยิน เจ้าต้องอยู่ที่นี่”
“ทำไมล่ะ?”
“หลี่หยินนั้นมีความรวดเร็ว ข้ามีตาวิเศษ ข้าสามารถมองเห็นพลังของอักขระที่เจ้าไม่สามารถมองเห็นมันได้ งานนี้เหมาะกับเรา” ลั่วอู๋กล่าว
“เจ้ามีมิติไหไม่ใช่หรือ? เจ้าสามารถพาพวกเราไปกับเจ้าก็ได้นี่”
ลั่วอู๋ส่ายหัว “หากพวกเราทุกคนหายไป มันอาจจะผิดปกติเกินไป พวกเรามาที่นี่เพื่อสำรวจ พวกเราไม่ต้องการสร้างความตื่นตระหนก”
พอพูดเช่นนี้พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลมาหักล้าง
ลั่วอู๋ได้เดินทางออกจากเผ่าเจตจำนงแห่งลมพร้อมกับหลี่หยินอย่างลับ ๆ