ไหปีศาจ - บทที่ 855 หนึ่งสู่สอง
บทที่ 855 หนึ่งสู่สอง
บทที่ 855
หนึ่งสู่สอง
เหวินเสี่ยวด้านมืดและด้านสว่างเป็นคนที่รู้จักกันและกันดีที่สุด
พวกเขาสามารถเห็นความของกันและกันได้เพียงแค่มอง
ฝ่ายหนึ่งสามารถเข้าใจอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นเท่ากันเสมอ แต่การมาของทาว์นนั้นส่งผลต่อความสมดุลอย่างเห็นได้ชัด หลังจากการทำสัญญาเสร็จสิ้น เหวินเสี่ยวด้านสว่างจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
เป็นสิ่งที่เหวินเสี่ยวด้านมืดไม่อาจยอมรับได้
เขาเลยต้องทำ
ด้วยความช่วยเหลือของเหวินเสี่ยวด้านมืด สีหน้าของทาว์นที่เพิ่งก่อตัวขึ้นมาใหม่ก็ค่อย ๆ สงบลง เพราะพลังงานมืดที่พัวพันอยู่ในตัวเขาซึ่งกำลังจะดูดซึมถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็ว
เดิมทีแสงที่ปกคลุมเขาจะต่อต้าน แต่ตอนนี้มันมีความมืดครึ่งหนึ่งและสว่างครึ่งหนึ่ง
พลังงานที่ผสมกันปะทะกันอย่างต่อเนื่อง เกิดเมฆพายุคลั่งราวกับจะทิ้งรอยร้าวขนาดใหญ่ไว้บนท้องฟ้า
แต่พลังงานทั้งสองชนิดนี้ไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้
ในไม่ช้าพลังแห่งความมืดก็ถูกสกัดโดยเหวินเสี่ยวด้านมืดและควบแน่นเป็นรูปร่าง รูปร่างนั้นเหมือนกับทาว์น แต่ร่างกายนั้นเป็นภาพลวงตา
ปีกทั้งสิบสองไม่สมบูรณ์และแตกหัก และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความนิ่ง ความโกรธที่บอกไม่ถูกและความเจ็บปวดปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ความปรานีซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
อาจมีเพียงเหวินเสี่ยวสองคนในโลกนี้ที่สามารถช่วยทาว์นแก้ปัญหาการถูกความมืดครอบงำได้
ตอนนี้ทาว์นแบ่งออกเป็นสองร่าง
เมื่อพวกเขามองหน้ากัน พวกเขาทั้งหมดก็คาดไม่ถึง
มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นแล้ว
ร่างหนึ่งยังคงสว่างไสวและศักดิ์สิทธิ์เหมือนทาว์นคนเก่า เพียงไม่เชื่อในแสงศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปเพราะตอนนี้เขาถูกสร้างขึ้นจากแสงบริสุทธิ์
อีกร่างหนึ่งควบแน่นด้วยความมืด ปกคลุมไปด้วยกระแสแห่งความมืด ด้วยอารมณ์ด้านลบนับไม่ถ้วน เหมือนกับเทพตกสวรรค์ในตำนาน
แต่เทวทูตที่เกิดใหม่ทั้งสองนั้นไม่มีพลังมากนัก เพราะถูกบังคับให้แบ่งออกเป็นสองส่วน และตอนนี้พวกเขาจึงอ่อนแออย่างยิ่ง
“นี่มัน…”
ลั่วอู๋เบิกตากว้างและมองไปยังเทวทูตทั้งสอง
พวกเขาทั้งคู่มีพลังแห่งสัญญา แต่ยังไม่สมบูรณ์ ดูเหมือนมีเพียงครึ่งเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่างได้
“สองตัวตนที่แยกกัน” ฉูจงฉวนอดไม่ได้ที่จะทึ่ง “มันไม่คาดคิดจริง ๆ”
ช่วงเวลาที่พิเศษ สถานการณ์ที่พิเศษ และได้เจอคนที่พิเศษสองคน จึงได้ผลลัพธ์ที่พิเศษเช่นนี้
เหวินเสี่ยวทั้งสองรู้สึกถึงแรงดึงดูดของจิตวิญญาณ
พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นทุกคนก็เร่งพลังของสัญญาอย่างรวดเร็ว สัญญาของทั้งสองสำเร็จอย่างไม่ต้องแปลกใจ
แต่ก็ยังมีความน่าเสียดายอยู่เล็กน้อย
มีช่องว่างในสัญญาทั้งสอง
เทวทูตแสงคำนับ เขารักษาสัญญาและเรียกเหวินเสี่ยวด้วยเสียงต่ำ “นายท่าน”
เหวินเสี่ยวด้านสว่างโล่งใจมาก
แม้ว่าการแบ่งปันชีวิตทำให้เขาต้องสูญเสียหนักมาก
แต่เขาก็มีความสุขมากที่ได้เห็นการกำเนิดของเทวทูตซึ่งเป็นตัวแทนของแสงสว่างอันบริสุทธิ์
นี่อาจเป็นเทวทูตเพียงตนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เชื่อในแสงเท่านั้นแต่ไม่เชื่อในแสงศักดิ์สิทธิ์
ส่วนอีกด้านก็เช่นเดียวกัน
เหวินเสี่ยวด้านมืดพอใจมากกับเทพตกสวรรค์ที่เขา “สร้าง” ด้วยความพยายามอย่างมาก “มันเป็นผลงานชิ้นเอก ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดที่สมบูรณ์แบบ”
และเทวทูตตกสวรรค์เอาความรู้สึกด้านลบทั้งหมดในตัวทาว์นไป แสดงความเกลียดชังต่อทุกสิ่ง แต่เขาเข้าหาเหวินเสี่ยวด้านมืด
นี่คงเป็นเพราะมีกลิ่นเดียวกัน
สิ่งมีชีวิตที่แห่งความมืดเหมือนกันก็เข้าหากันได้ง่ายเสมอ
แต่ไม่ว่าอย่างไร ทาว์นคนนี้คือผู้ทรยศโดยสมบูรณ์
เป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะยอมรับว่าเขาได้ยอมจำนนต่อมนุษย์และละทิ้งราชินีภูตและแสงศักดิ์สิทธิ์ มีความรู้สึกตีกันที่เจ็บปวดอย่างมากในหัวใจของเขา
นับเป็นผลดีที่จะสามารถแยกออกเป็นสองส่วนได้
ให้แสงสว่างกลับคืนสู่แสงสว่าง และความมืดกลับคืนสู่ความมืด
ทุกคนมีความสุข
ลั่วอู๋มองดูผู้คนที่อยู่ข้างหน้าเขาและมีความสุขมากสำหรับพวกเขา
ฉูจงฉวนประสบความสำเร็จในการทำให้อาชูร่ากลายเป็นราชาอาชูร่าและความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่เหวินเสี่ยวทั้งสองมีเทวทูตเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เทวทูตทั้งสองนี้ยังคงอ่อนแอมากและต้องใช้เวลาในการฝึกฝนใหม่อีกมาก
“รีบออกจากที่นี่กันเถอะ เราอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว” ลั่วอู๋กล่าว
ทุกคนพยักหน้า
ลั่วอู๋พาทุกคนเข้ามาในโลกไหและหนีไปอย่างรวดเร็ว
พลังงานอันทรงพลังค่อยๆ ลดลง
ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้มากมาย
ภูตจำนวนหนึ่งค่อย ๆ เข้ามาใกล้อย่างระมัดระวังและสำรวจสถานการณ์สงคราม แต่พวกเขาไม่เห็นอะไรเลย
มันแปลกมาก
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสองตัวต่อสู้กัน พวกเขาจะไม่ทิ้งอะไรให้เห็นเลยได้อย่างไร?
พวกเขาจะตายไปด้วยกันรึเปล่า?
มันไม่ควรจะไม่เหลือศพไว้สิ
ในไม่ช้าทางภูตก็ส่งคนสำรวจ แต่เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์นั้นมีแต่ไม่พบอะไรเท่านั้น
ราชาอาชูร่ากำเนิดขึ้น
เทวทูตตกสวรรค์
หากภูตสักตนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะทำให้อาณาจักรโบราณหมื่นอมตะสั่นสะเทือนครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้
……
……
ลั่วอู๋กลับสู่ทะเลแห่งดาบ
เหตุสั่นสะเทือนที่โลกภายนอกไม่ส่งผลกระทบต่อทะเลแห่งดาบเลย
ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในทะเลแห่งดาบจะถูกตัดขาดจากโลกด้วยการฝึกฝนตนเอง จึงไม่ค่อยเห็นวิญญาณดาบหรือสิ่งมีชีวิตอื่นสื่อสารกัน
เทพดาบเก็บตัว
พวกลั่วอู๋ก็เดินเล่นอยู่ในทะเลดาบ
ความกว้างใหญ่ของทะเลแห่งดาบมีผลบางอย่างต่อการฝึกฝนของพวกเขา
แน่นอนลั่วอู๋และเสี่ยวกงเป็นผู้รับผลประโยชน์มากสุด
ลั่วอู๋เน้นที่การทำความเข้าใจแก่นแท้ของดาบพิทักษ์
เสี่ยวกงก็ลับคมวิชาดาบของเขา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เขาเบื่อที่จะต้องเห็นทิวทัศน์ของทะเลดาบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อยากจากไปเพราะแก่นแท้แห่งดาบก็เหมือนทะเลแห่งดวงดาว แต่ลั่วอู๋ไม่ได้สนใจมันเลยและเพ่งความสนใจไปที่ตัวเขาเอง
ดาบมีแก่นแท้มากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดาบ
หลายครั้ง เขาแทบต้านทานแรงล่อลวงที่จะทำให้ขอบเขตดาบแห่งการป้องกันของเขาสมบูรณ์แบบไม่ได้
โชคดีที่เขารั้งตัวเองไว้
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาศึกษาแก่นแท้ดาบแห่งการทำลายล้างในทะเลดาบ จากนั้นเขาก็เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง
ลั่วอู๋มาถึงจุดสูงสุดของความเข้าใจแก่นแท้แห่งการทำลายล้างแล้ว
ห่างจากเส้นทางสุดท้ายเพียงก้าวเดียว
แต่ขั้นนี้ถือว่าใกล้มากแล้ว แต่ลั่วอู๋กลับรู้สึกว่าห่างไกล
ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถเชี่ยวชาญแก่นแท้อย่างใดอย่างหนึ่งได้ ลั่วอู๋ก็ใช้ประโยชน์จากภูตสวรรค์แห่งการเกิดใหม่และการทำลายล้างเพื่อเข้าใจแก่นแท้แห่งการทำลายล้าง
“ในเมื่อการก้าวข้ามระดับมันยากนัก ก็ไปเชี่ยวชาญในแก่นแท้อื่น ๆ จะดีกว่า”
ลั่วอู๋เข้าใจแก่นแท้ของดาบทุกรูปแบบ และในที่สุดก็รวมแก่นแห่งการทำลายล้างเข้ากับมิติวิญญาณของเขาเอง
ตอนนี้ดาบแห่งการป้องกันไม่ได้จำกัดแค่การป้องกันเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการโจมตีที่แข็งแกร่งอีกด้วย
มิติวิญญาณกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ลั่วอู๋หวังไว้
ซึ่งหมายความว่าลั่วอู๋กำลังเข้าใกล้มิติวิญญาณระดับเพชรมากขึ้น
ในวันสุดท้ายก่อนจะออกไป ลั่วอู๋กลับมายังโลกไห เขาต้องการเห็นราชาผีดิบ
ครั้งล่าสุด เขาโยนศพของราชาผีดิบไปให้กับต้าหวงไป แล้วเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก
“โฮ่ง โฮ่ง”
ต้าหวงกระดิกหางอย่างตื่นเต้น
ลั่วอู๋กอดต้าหวงด้วยรอยยิ้มแล้วลูบหัว “ต้าหวง ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?”
“โฮ่ง โฮ่ง”
“อืม ร่างอมตะพัฒนาขึ้นงั้นรึ ดีมาก”
ลั่วอู๋พอใจมาก
ต้าหวงดูดกลืนต้นกำเนิดของราชาผีดิบและได้รับทักษะใหม่ [ร่างอมตะจำลอง] น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงระดับ A และความเร็วในการพัฒนาไม่เป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามของต้าหวงในช่วงนี้ ทักษะระดับ A นี้ได้รับการยกระดับไปเป็นระดับ S
ตอนนี้ทักษะนี้ได้พัฒนาลั่วอู๋อย่างมาก
“แล้วราชาผีดิบเป็นยังไงบ้าง?” ลั่วอู๋ถาม
“โฮ่ง โฮ่ง”
“’งั้นรึ” ลั่วอู๋ครุ่นคิด