魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ - ตอนที่ 21 สาวน้อยเวทมนตร์มีแผนจะเก็บช้างไว้ในตู้เสื้อผ้า
- Home
- 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์
- ตอนที่ 21 สาวน้อยเวทมนตร์มีแผนจะเก็บช้างไว้ในตู้เสื้อผ้า
เดท ③
ถัดจากคาราโอเกะคืออาร์เคด(เกมตู้หยอดเหรียญ)
มันถูกสร้างขึ้นในมุมหนึ่งของสถานบันเทิงทั่วไป แล้วถึงแม้ว่ามันไม่ใหญ่โตเท่าอาร์เคดของเมืองโอตาคุแห่งหนึ่ง แต่มันก็เป็นมุมพักผ่อนที่ดีสำหรับสาวน้อยเวทย์มนตร์ที่เป็นเกมเมอร์และมีสินค้ามากมายจึงสามารถทดแทนกันได้เป็นอย่างดี
น่าเสียดายที่ครั้งนี้เป้าหมายของ เอเลเฟ่นซึ่งแต่เดิมไม่คุ้นเคยกับการเล่นเกมในอาร์เคด นั้นไม่ได้เกี่ยวกับเกมอาร์เคด(เกมตู้)เลยแม้แต่น้อยแต่เป็นเครนเกม(คีบตุ๊กตา)ต่างหาก โดยเธอเดินไล่ตรวจดูรางวัลเครนเกมอย่างมีความสุข
“ดูสิ ดูสิ ซิลฟ์จัง! มีตุ๊กตาช้างด้วย! น่ารักจัง!”
“จะว่าน่ารักก็น่ารักอยู่หรอกค่ะ แต่ของแบบนี้ซื้อเอาเองจะถูกกว่าไม่ใช่เหรอคะ?”
“โม่ว! ไม่เข้าใจเลยน้าซิลฟ์จังเนี่ย นี่น่ะเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งพิเศษเพราะได้มาจากความพยายามที่ทุ่มเทเพื่อให้ได้มันมาต่างหากล่ะ! เป็นสร้างความทรงจำดีๆด้วยตุ๊กตาสัตว์ล่ะ!”
ในครั้งนี้เอเลเฟ่นจะเป็นฝ่ายที่โกรธเพราะความคิดเห็นอันไร้ความฝันที่ ซิลฟ์ ได้เอ่ยออกมาจึงเป็นเหตุให้เธอบังคับตัวเองให้เล่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ตุ๊กตาช้างยัดนุ่นตัวนี้
“อุหวา! ทำไมถึงไม่ได้สักทีนะ!”
“อีกนิดเดียว! อีกนิดเดียวเอง!”
“ปล่อยปุ่ม! เฮะ! ซิลฟ์จังก็เห็นเหมือนกันใช่ไหม! ฉันเพิ่งปล่อยมือจากปุ่มแท้ๆ!”
“อาอา นี่มี 40 แต้มไปแล้วนะใช้เงินไปแล้วตั้ง 4,000 เยน…”
“โอะ โอ้ะ โอ้ โอ้ โอ้ว! สำเร็จแล้ว! สำเร็จแล้วล่ะซิลฟ์จัง! ได้มาแล้วล่ะ!”
เอเลเฟ่นตะโกนเสียงดังออกมาอย่างมีความสุขแม้จะมีบางที่เธอเศร้าหลังจากเล่นไปในแต่ละครั้ง จนในบางครั้งก็มีสาวน้อยเวทมนตร์แปลกหน้าก็มองมาที่เธอ แต่เธอไม่สนใจและหมกมุ่นอยู่กับการเล่นเครนเกมอย่างเต็มที่
ซิลฟ์มองดูเอเลเฟ่นจากระยะไกลขณะแกล้งทำเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักกัน
“อาเร๊ะ? ซิลฟ์อยู่ไหนนะ!?”
“อยู่ตรงนี้ค่ะ คุณเอเลเฟ่นส่งเสียงดังเกินไปฉันก็เลยต้องซ่อนตัวสักพักค่ะ”
“เอ๋? ใจร้ายจังนะ ซิลฟ์จัง…”
เอเลเฟ่นทำหน้าเศร้าขณะถือตุ๊กตาช้างเป็นรางวัลเอาไว้
ซิลฟ์ ไม่สนใจเอเลเฟ่น และแตะมากิโฟนไปที่ตู้เครนที่มีตัวละครยอดนิยมสีเหลืองเป็นรางวัล
“อาเร๊ะ? ซิลฟ์จังชอบตัวละครตัวนี้หรอกเหรอ?”
“ไม่ได้ชอบมันเป็นพิเศษหรอกค่ะแต่เพราะได้เห็นคุณเอเลเฟ่นที่ดูเหมือนว่าจะสนุกกับมันมากก็เลยทำให้ฉันอยากจะลองเล่นดูสักครั้งค่ะ แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการตัวละครนี้แต่ก็คิดว่าน่าจะสามารถหาคนซื้อมันได้อยู่ค่ะ”
“เห จะเป็นตัวแทนจำหน่ายงั้นเหรอ…”
“อืม”
ซิลฟ์รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับคำพูดของเอเลเฟ่นอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนอารมณ์และหันหน้าไปทางตู้ โดยคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโต้แย้งกันไปมากกว่านี้
เธอสังเกตเห็นเอเลเฟ่นเริ่มร้อนรนขึ้นเรื่อยๆจากที่ไกลๆ ดังนั้นเธอจึงคิดว่าถ้าเล่นอย่างใจเย็นๆ และระมัดระวังมันน่าจะง่ายมากถ้ากดปุ่มอย่างถูกจังหวะ
“ทำไมกันคะ! ทำไมถึงได้ไปตรงนั้นแล้วกลับมาล่ะคะ!”
“น่าจะอีกนิดนึงค่ะ! อีกแค่นิดหน่อยค่ะ!”
“ตู้นี่พังแล้วไม่ใช่เหรอคะ! ฉันปล่อยปุ่มแล้วนะคะ!”
“อูวว ฉันเสียไปแล้ว 40 คะแนนค่ะ จะถอยไม่ได้แล้วค่ะ…”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าา! ฉันทำได้แล้วค่ะ! ทำได้แล้วค่ะ! คุณเอเลเฟ่น อ…”
ผ่านไปครึ่งทาง ซิลฟ์ ก็เริ่มดื่มด่ำกับเครนเกมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเมื่อเอเลเฟ่นอยากจะช่วยโดยให้เปลี่ยนตัวกันเธอก็บอกว่าไม่เป็นไร และเมื่อพยายามขอออกเงินแทนเธอเองก็ปฏิเสธมันเช่นกันโดยบอกว่าถ้าทำแบบนั้นมันไม่มีความหมาย
เอเลเฟ่นเฝ้าดูซิลฟ์อย่างใกล้ชิดอยู่พักใหญ่ๆ และเธอรู้สึกอบอุ่นราวกับว่ากำลังดูอะไรบางอย่างที่ชวนให้ยิ้มได้
“มะไม่ใช่นะคะ เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันแค่กำลังเลียนแบบคุณเอเลเฟ่นอยู่เท่านั้นเอง”
“อือ อือ นั้นสิน้า ปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นก็แล้วกันนะ”
เมื่อตระหนักว่าเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ซิลฟ์ จึงยัดรางวัลลงในกระเป๋าอย่างเงียบๆ โดยคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้อีก
ในขณะที่เอเลเฟ่นเห็นซิลฟ์ทำอย่างนั้นเธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ซิลฟ์จัง ถ้าไม่ว่าอะไร ช่วยแลกรางวัลอันนี้กับของรางวัลของซิลฟ์จังได้ไหม?”
“เอ๊ะ ทำไมล่ะคะ?”
“สร้างความทรงจำร่วมกันน่ะ สร้างความทรงจำร่วมกัน ก็เพราะซิลฟ์จังจะอยู่ด้วยกันแค่ในวันนี้เท่านั้น ใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากจะได้ของบางอย่างที่ทำให้ระลึกถึงวันนี้น่ะ”
“เป็นตุ๊กตาช้างยัดนุ่นตัวนั้นไม่ได้เหรอคะ?”
“ถ้าเป็นตุ๊กตาที่จับมาได้ด้วยตัวเองน่ะไม่ว่าเมื่อไหร่ทำได้เสมอนะ!”
“งั้นเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”
ซิลฟ์ ยอมรับการแลกเปลี่ยนอย่างว่าง่าย บางทีมันอาจเป็นเพราะเธอกังวลเกี่ยวกับการถูกเรียกว่าตัวแทนจำหน่ายก่อนหน้านี้
“งั้นก็คิดว่าช้างตัวนี้คือฉันและดูแลมันให้ดีนะ!”
“อย่าพูดอะไรแปลกๆสิคะ ฉันจะเก็บมันไว้ในตู้เสื้อผ้าค่ะ”
“มันโหดร้ายนะแบบนั้นน่ะ!”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเอเลเฟ่น ซิลฟ์ก็ยิ้มอย่างมีความสุข
จากนั้นเอเลเฟ่นก็เอาชนะได้บ้าง หรือไม่ก็ยอมแพ้ไปบ้างสองสามรางวัล และแล้วการเล่นเครนเกมก็สิ้นสุดลงเมื่อพวกเธอมีสัมภาระเต็มไปหมด
“จะไม่ใช้บริการส่งถึงบ้านเหรอคะ?”
“มันใช้คะแนนค่อนข้างเยอะเลยน่ะสิ ก็เลยจะพยายามถือกลับไปเองเท่าที่ไหวน่ะ”
ถึงแม้ว่าการถือกลับมันจะดูยุ่งยากในสายตาของ ซิลฟ์แต่สำหรับเอเลเฟ่นแล้วมันดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก
“ใช่แล้วล่ะ! ในเมื่อฉันมาถึงเกมเซ็นเตอร์แล้ว ฉันก็อยากจะใช้พุริคุระ(ตู้ถ่ายรูป)เป็นที่ระลึกก่อนกลับบ้านสักหน่อยนะ!”
“ไม่ใช่ว่ามีของที่ระลึกมากเกินพอแล้วเหรอคะ?”
“อันนั้นกับอันนี้มันคนละอย่างกันนะ!”
เอเลเฟ่นเข้าไปในเครื่องถ่ายรูปพุริคุระพร้อมกับซิลฟ์ที่ทำท่าทางเหมือนไม่อยากเข้าไปด้วยและหลังจากหยิบตุ๊กตาสัตว์ที่เธอเพิ่งได้รับพร้อมกับเลือกจำนวนคนและจำนวนเฟรมแล้ว การถ่ายภาพก็เริ่มขึ้น
เอเลเฟ่นที่โพสท่าถือตุ๊กตาสัตว์ด้วยท่าทางที่คุ้นเคยและรอยยิ้ม
ในทางกลับกัน ซิลฟ์ ยืนตัวตรงและอุ้มช้างยัดนุ่นไว้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ซิลฟ์จังไม่จำเป็นต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกน้า เอาล่ะลองเลียนแบบฉันดูสิ”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะค่ะ…”
ถือตุ๊กตาสัตว์ด้วยมือข้างหนึ่งในขณะที่โพสท่าตัววี(พีช)ใต้คางของเธอ , ทำสัญลักษณ์รูปหัวใจด้วยมือทั้งสองข้างที่ถือตุ๊กตาสัตว์อยู่ , เอเลเฟ่นทำท่าน่ารักๆ ต่อไปเรื่อยๆ แต่ซิลฟ์มีขีดจำกัดในการโพสท่าต่างๆ และบางครั้งเธอก็แสดงสีหน้าบูดบึ้งราวกลับจะบอกว่าเธอไม่สามารถทำท่าน่ารักแบบนั้นตามได้
เมื่อการถ่ายภาพจบลงและพวกเธอก็ย้ายไปที่บูธกราฟฟิตี้ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้มันเป็นภาพของทั้งสองคนที่ดูจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่
“มันดีที่มีอะไรแบบนี้ใช่มั้ยล้า?”
“มันน่าอายแล้วก็ไม่น่าสนใจด้วยค่ะ…แล้วเขียนอะไรอยู่คะเนี่ย!”
เริ่มต้นด้วยการเปิดหารูปแบบข้อความที่อยู่ในหมวดของเพื่อนจากนั้นเอเลเฟ่นก็เริ่มเพิ่มคำอย่างเพื่อนซี้ หรือเพื่อนรักเข้าไปในภาพ ส่วน ซิลฟ์นั้นไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปดี และเธอก็ลังเลใจว่าจะลบพวกกราฟฟิตี้ที่ดูเล่นๆ ดีไหมแต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรจนเวลาสิ้นสุดลง
หลังจากเลือกส่วนที่เป็นกรอบ ฯลฯ เรียบร้อยแล้วเธอก็ออกมาข้างนอกเพื่อรอให้รูปพิมพ์ออกมาและเมื่อเธอดูสิ่งที่พิมพ์ออกมาได้อย่างปลอดภัย เธอก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็น พุริกุระ ระหว่างเพื่อนแต่มันกลับมีกราฟฟิตี้แนวนั้นเขียนอยู่เยอะมากๆ และที่แปลกที่สุดก็คือมันสร้างขึ้นโดยอ้างว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน
“อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันน่าสนใจดีนะ!”
“มันน่าอายค่ะ ฉันจะไม่ทำพุริกุระอีกแล้ว…”
เอเลเฟ่นปลอบใจซิลฟ์ที่กำลังไม่พอใจในตัวเองที่ถูกสถานการณ์พาไปจนเข้าไปถ่ายพุริกุระว่าทุกคนเองก็เป็นมือใหม่ในตอนแรก ดังนั้นอย่าพึ่งท้อนะ
แต่สำหรับซิลฟ์ที่ไม่ต้องการดูน่ารักเป็นพิเศษในการถ่ายรูปมันช่างเป็นความช่วยเหลือที่ไม่จำเป็น
・
เป็นเวลา 15.00 น.แล้วเมื่อพวกเธอออกจากอาร์เคด และตอนนั้นเองที่เอเลเฟ่นบอกว่าเดี๋ยวมานะ แล้วปล่อยให้ ซิลฟ์ รอเธออยู่ที่ม้านั่งแล้วเดินไปที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยตัวคนเดียว
ซิลฟ์ที่ไม่มีอะไรทำในขณะที่เธอกำลังรอแต่เมื่อเธอเริ่มนั่งนิ่งๆ อยู่ๆ เธอก็เริ่มนึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีนักและเริ่มถอนหายใจ
“เฮ้ออออออออ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยล้า! ความสุขจะหนีไปหมดนะรู้มั้ย?”
เมื่อซิลฟ์ที่กำลังก้มหน้าเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตรงหน้ามีเด็กสาวผมสีดำที่มัดผมแกะสองข้างและสวมเสื้อคลุมสีดำยืนอยู่ ด้านในเสื้อคลุมนั้นมืดจนมองไม่เห็น ทุกอย่างบนตัวเธอนั้นล้วนเป็นสีดำ ยกเว้นเพียงใบหน้าที่แสดงให้เห็น ซึ่งในแวบแรกซิลฟ์รู้สึกราวกับว่านี่คือกลุ่มก้อนของจูนิเบียว
[TL:ใครนึกทรงผมไม่ออกมันคือทรงผมของอาสึกะในอีวาเกเลี่ยน]
“คุณเป็นใครเหรอคะ?”
“เอ๋? ไม่รู้จักฉันหรอกเหรอ?”
ดวงตาที่สวยงามราวกับหินออบซิเดียนมองเข้าไปในดวงตาของซิลฟ์ และเธอก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ราวกับจะขอให้เธอมองดูให้ดีอีกครั้ง
ในสถานการณ์นี้ซิลฟ์รู้สึกได้ว่ามันเป็นอะไรที่เดจาวูเล็กน้อย
“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ แต่ฉันเป็นมือใหม่ ฉันก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับสาวน้อยเวทย์มนตร์มากนัก แต่ดูจากน้ำเสียงของคุณแล้ว คาดว่าคุณน่าจะเป็นแม่มดใช่ไหมคะ?”
“ปิงป๋อง ปิงป๋อง! ถูกต้องแล้วจ้า! ถ้าไม่รู้ก็ช่วยไม่ได้ล่ะน้าา ฉันเรดบอลจังเองค่า! ผู้คนส่วนใหญ่เรียกฉันว่าแม่มดแห่งแรงโน้มถ่วง จำเอาไว้ให้แม่นๆล่ะ ฮะฮ่าๆ! “
“อา ฉันจะจำเอาไว้ให้ดีค่ะ ขอเสียมารยาทสักนิดนะคะแต่ตอนนี้ฉันกำลังรอใครบางคนอยู่เพราะงั้นถ้าคุณไม่มีธุระอะไรช่วยไปที่อื่นได้ไหมคะ?”
“ไม่มีธุระอะไรหรอกน้า บายๆ!”
“ลาก่อนค่ะ”
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเด็กสาวที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นและจากไปราวกับพายุ ซิลฟ์ถอนหายใจอีกครั้งโดยคิดว่าพวกแม่มดล้วนมีแต่คนพิลึก เพราะถ้าหากลองมองสังเกตดูดีๆ จะพบว่าเรดบอลที่เห็นอยู่ไกลลิบในตอนนี้กำลังเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นต่ออีก และมันคงจะเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนเลยที่ว่าเธอนั้นไม่มีธุระอะไรด้วย และเธอแค่ว่างจนไม่มีอะไรจะทำจริงๆ เพราะเธอดูเหมือนจะเข้าไปพูดคุยกับทุกคน ใช่แล้วทุกคนจริงๆ เลยล่ะ