เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1043 วางหมากเหนือชั้น + ตอนที่ 1044 ชำนาญเรื่องจัดการคนน่าเป็นห่วง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1043 วางหมากเหนือชั้น + ตอนที่ 1044 ชำนาญเรื่องจัดการคนน่าเป็นห่วง
ตอนที่ 1043 วางหมากเหนือชั้น + ตอนที่ 1044 ชำนาญเรื่องจัดการคนน่าเป็นห่วง
ตอนที่ 1043 วางหมากเหนือชั้น
ระหว่างที่คนทั้งสองมองประเมิน เฟิ่งจิ่วหันไปมองเช่นกัน แล้วพิเคราะห์สองคนนั้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ รอจนพวกเขาเดินเข้ามาถึงลุกขึ้น พยักหน้าเล็กน้อยไปทางพวกเขา
“ผู้นำตระกูลลั่ว ลั่วฮูหยิน”
“เหอะๆๆ คุณชายท่านนี้เชิญนั่ง” ผู้นำตระกูลลั่วยิ่งมองเขายิ่งพึงพอใจ คิดว่าเพื่อนคนนี้ของลูกชายช่างโดดเด่นจริงๆ ไม่รู้โดดเด่นกว่าลูกชายของเขาตั้งกี่เท่า
อีกฝ่ายสวมชุดแดง พราวพร่างดั่งไฟ งามสง่าไม่มีสิ้นสุด
เด็กหนุ่มแสดงความเปิดเผยเอาแต่ใจของชุดแดงออกมา กลิ่นอายสูงศักดิ์ที่เผยจากเนื้อในและบุคลิกชั่วร้ายผสมผสานกัน กอปรกับรูปโฉมงดงามโดดเด่น ทำให้คนที่เห็นตกตะลึงหาใดเปรียบจริงๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเกิดจากตระกูลที่ดียิ่ง และได้รับการอบรมมาอย่างยอดเยี่ยม ถึงได้มีท่าทางและนิสัยเฉพาะตัวเช่นนี้
“ไม่ทราบว่าคุณชายมีนามว่าอะไร?” ผู้นำตระกูลลั่วยิ้มถามยามมองเด็กหนุ่มชุดแดงที่นั่งด้านล่าง
“ข้าแซ่เฟิ่ง ชื่อเดียวว่าจิ่ว ผู้นำตระกูลลั่วเรียกข้าเฟิ่งจิ่วก็ได้ขอรับ”
“เช่นนั้นเจ้าต้องเป็นเพื่อนที่เฟยเอ๋อร์ว่าไว้แน่ๆ” ลั่วฮูหยินยิ้มอ่อนโยน กล่าวว่า “เช้านี้เฟยเอ๋อร์บอกพวกเราว่าจะมีเพื่อนมาหา พวกเราเตรียมการตั้งแต่เช้าถึงตอนนี้ ด้วยเกรงว่าจะละเลยแขก คุณชายเฟิ่ง ในเมื่อมาแล้วก็ต้องเที่ยวเล่นที่นี่หลายๆ วันนะ”
ลั่วฮูหยินกล่าวจบ เหมือนจะคิดอะไรได้จึงเอ่ยอีก “จริงด้วย คุณชายเฟิ่งเป็นนักเรียนสำนักศึกษาสองดาราเช่นกันใช่หรือไม่ ไม่นึกว่าเฟยเอ๋อร์ของเราอยู่สำนักศึกษาจะได้คบหาเพื่อนที่โดดเด่นอย่างคุณชายเฟิ่งด้วย”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย ตอบว่า “ทั้งสองท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ใช่นักเรียนสำนักศึกษาสองดาราขอรับ”
ระหว่างพูดเธอหยิบป้ายหยกแสดงสถานะอาจารย์สำนักศึกษาออกมายื่นให้ “ข้าเป็นอาจารย์สำนักศึกษาสองดารา ท่านเจ้าสำนักยกลั่วเฟยรวมถึงนักเรียนคนอื่นอีกสามคนให้ข้าสั่งสอน ด้วยเหตุนี้ข้าจึงมาที่นี่เพื่อพาตัวเขาไปขอรับ”
“อาจารย์?”
สองสามีภรรยาแปลกใจอย่างยิ่ง อาจารย์อายุน้อยเช่นนี้? ครั้นรับป้ายหยกมาดู ก็เห็นเป็นอาจารย์สำนักศึกษาสองดาราจริงๆ
อาจเพราะทางตระกูลลั่วยังไม่ได้รับภาพเหมือนของภูตหมอ ดังนั้นแม้เป็นผู้นำตระกูลลั่วก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้าคือภูตหมอที่ชื่อเสียงเลื่องลือ อีกทั้งยามนี้พอเห็นป้ายหยกแสดงสถานะของเขา ก็ยิ่งไม่คิดอะไรมากแล้ว
“ขอรับ คนที่ลั่วเฟยบอกท่านทั้งสองไว้น่าจะเป็นพวกเรา นอกจากข้าแล้ว ข้างหลังยังมีนักเรียนสำนักศึกษาเดียวกันอีกสามคน ครั้งนี้ก็ร่วมทางมากับข้าด้วย” เธอกล่าวถึงตรงนี้ก็ยกมุมปากยิ้มๆ “แต่เดาว่ายามนี้พวกเขาคงยังอยู่ข้างนอก ผ่านไปอีกพักหนึ่งคงกลับมา”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง” สองสามีภรรยายิ้มมองหน้ากัน หลังจากรู้เรื่องราวก่อนหลัง ก็คุยเล่นกับเฟิ่งจิ่วอยู่ในห้องโถงขณะรอพวกเขากลับมา ทว่ารอไปเช่นนี้เกือบหนึ่งชั่วยามกว่า จนกระทั่งท้องฟ้าด้านนอกมืดลง ถึงจะเห็นพ่อบ้านเร่งฝีเท้าเข้ามารายงาน
“นายท่าน ฮูหยิน พวกคุณชายกลับมาแล้วขอรับ”
เสียงของพ่อบ้านเพิ่งกล่าวจบ ก็เห็นร่างหนึ่งหอบแฮ่กก้าวยาวเข้ามา เมื่อเห็นเด็กหนุ่มชุดแดงซึ่งกำลังนั่งคุยเล่นกับพ่อแม่ของเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสบายใจอยู่ด้านใน ความโกรธที่อดกลั้นมาตลอดทางปะทุขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว ครั้นย่างเข้าห้องโถงมาก็ตะคอก
“เจ้าคนแซ่เฟิ่ง! เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร!”
ปล่อยให้พวกเขาลำบากตามหาข้างนอกนานเพียงนั้น นึกว่าเขาไปไหน ใครจะรู้ว่าเขาวิ่งมาถึงในบ้านแล้ว หนำซ้ำยังได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเขาคุยกับพ่อแม่ของลั่วเฟยอยู่ที่นี่มาเกือบหนึ่งชั่วยามกว่าๆ แล้ว ทำให้เขาโกรธจัดจริงๆ
………………………………………………….
ตอนที่ 1044 ชำนาญเรื่องจัดการคนน่าเป็นห่วง
“พูดอะไรกัน นี่หรือท่าทีที่นักเรียนพึงมีต่ออาจารย์? นับวันเจ้ายิ่งเหิมเกริมจริงๆ!” ผู้นำตระกูลลั่วตะโกนเสียงเข้ม สีหน้าที่เคร่งเครียดเผยความน่ายำเกรงพลางจ้องลั่วเฟยอย่างโมโห
“ท่านพ่อ ท่านไม่รู้หรอก พวกเราตามหาเขาข้างนอกตั้งหนึ่งชั่วยามกว่า ใครจะรู้ว่าเขามาถึงบ้านเองเรียบร้อยแล้ว” ลั่วเฟยเอ่ยด้วยความโกรธ ถลึงตามองเฟิ่งจิ่วอย่างชั่วร้าย แม้แต่ความใสซื่อที่แสร้งทำยังโยนทิ้งไปข้างๆ
ต้วนเยี่ย หนิงหลาง รวมถึงซ่งหมิงทั้งสามคนกลับก้าวไปด้านหน้า ประสานมือคารวะ “คารวะผู้นำตระกูลลั่ว ลั่วฮูหยิน”
เวลานี้ สายตาของสองสามีภรรยาตระกูลลั่วหยุดบนร่างทั้งสามคน หลังจากเห็นพวกต้วนเยี่ยก็แอบพยักหน้า กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “พวกเจ้านั่งสิ นั่งพักผ่อนเร็วเข้าเถอะ!”
ทั้งสามขานรับก่อนจะนั่งลงข้างๆ เมื่อนั่งลงแล้วสามคนหกตาก็หยุดมองร่างเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพลางใช้มือหนึ่งเล่นเส้นขนของอสูรกลืนเมฆา
หลังจากหาตัวเขาไม่พบ พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมาตระกูลลั่วแล้ว เพียงแต่คนทั้งสามคาดเดาถึงข้อนี้ได้ กลับไม่เตือนลั่วเฟย แต่หาที่นั่งดื่มชามองลั่วเฟยตามหาไปทั่วเมืองถึงหนึ่งชั่วยามกว่า สุดท้ายถึงจะกลับมาตระกูลลั่วด้วยกัน
ด้วยนิสัยของเฟิ่งจิ่ว จะยอมเสียเปรียบได้อย่างไร? ลั่วเฟยคิดจะจัดการเขา ท้ายสุดก็แค่จัดการตัวเองเท่านั้น
“พวกเจ้าสามคนนามว่าอะไร ทุกคนเป็นนักเรียนสำนักศึกษาสองดาราหรือ?” ลั่วฮูหยินยิ้มถาม แววตาอ่อนโยนมองร่างเด็กทั้งสาม
“พวกเราเหมือนลั่วเฟย ไม่ค่อยชอบอยู่ในสำนักศึกษา ดังนั้นจึงช่วยงานในตระกูลมาตลอดขอรับ” หนิงหลางเอ่ยถึงตรงนี้ เท้าก็โดนเหยียบไปทีหนึ่ง เขาสูดลมหายใจเล็กน้อย เห็นว่าซ่งหมิงขมวดคิ้วมาทางตนเอง เขาดึงสติกลับแล้วมองสองคนตรงตำแหน่งผู้อาวุโสพลางยิ้มเจื่อนๆ
“เหอะๆๆ ความจริงอยู่บ้านก็ดีมาก พ่อแม่ของข้าต่างรักใคร่เอ็นดูข้า จริงด้วย พ่อของข้าคือหนิงหย่วน เขาเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นกาฬ ข้านามว่าหนิงหลางขอรับ”
“โอ้ ที่แท้เป็นคุณชายของเจ้าเมืองหนิงนี่เอง”
ผู้นำตระกูลลั่วพยักหน้า ดวงตาเผยความชื่นชม “ได้ยินว่าคุณชายหนิงช่วยเจ้าเมืองหนิงหาเงินและออกความคิดมาตลอดตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเงินโดยกำเนิด วันนี้ได้พบคุณชายหนิง ท่าทางมั่งคั่งมากโชคลาภ ข้าอิจฉาเจ้าเมืองหนิงจริงๆ ที่มีคุณชายเช่นนี้”
หนิงหลางโดนชมเสียจนขัดเขิน ใบหน้าน่าเอ็นดูเผยความอึดอัด เกาๆ ศีรษะยิ้มเอ่ยอย่างเขินอายว่า “ผู้นำตระกูลลั่วชมเกินไปแล้วขอรับ”
“ข้าคือซ่งหมิง ท่านนี้คือต้วนเยี่ย พวกเราล้วนเป็นนักเรียนของสำนักศึกษาสองดารา ครั้งนี้ตามอาจารย์ออกมาฝึกวิชาเช่นกัน” ซ่งหมิงยิ้มพลางแนะนำตัว มองลั่วเฟยที่มีสีหน้าขุ่นเคืองและอัดอั้นตันใจ ก่อนพูดยิ้มๆ ว่า “พวกเราออกเดินทางแล้ว ยังขาดแค่ลั่วเฟยคนเดียว”
ผู้นำตระกูลลั่วได้ยินก็ยิ้มตาหยี “มีพวกเจ้าอยู่ด้วย ซ้ำยังมีอาจารย์เฟิ่งนำคณะ เราวางใจอย่างยิ่งที่จะให้เด็กคนนี้ตามพวกเจ้าออกไป เพียงแต่เขาเป็นคนน่าเป็นห่วง เกรงว่าจะสร้างปัญหาให้อาจารย์เฟิ่ง” ระหว่างพูดจายังมองทางเฟิ่งจิ่วซึ่งอยู่ด้านข้าง
เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ บอกว่า “ผู้นำตระกูลลั่ววางใจได้ ข้าชำนาญเรื่องจัดการนักเรียนที่น่าเป็นห่วงพวกนี้”
“ฮ่าๆๆ ดีๆๆ เช่นนั้นลูกชายของข้าคนนี้คงต้องรบกวนอาจารย์เฟิ่งแล้ว อาจารย์เฟิ่งโปรดดูแลให้มากๆ”
เขาหัวเราะลั่น มองลูกชายข้างๆ กันแล้วตะโกนว่า “เฟยเอ๋อร์ เจ้าจะนิ่งตรงนั้นทำไม ยังไม่รีบเข้ามาคารวะอาจารย์ ขอให้เขาดูแลเจ้าให้มากอีก”
………………………………………………….