เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1049 เฟิ่งจิ่วดีกับข้าเกินไป + ตอนที่ 1050 ปล่อยข้า
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1049 เฟิ่งจิ่วดีกับข้าเกินไป + ตอนที่ 1050 ปล่อยข้า
ตอนที่ 1049 เฟิ่งจิ่วดีกับข้าเกินไป + ตอนที่ 1050 ปล่อยข้า
ตอนที่ 1049 เฟิ่งจิ่วดีกับข้าเกินไป
หลังทั้งสามมองอยู่ตรงนั้นสักพักก็ออกไปเงียบๆ
ลั่วเฟยวางแผนจัดการเฟิ่งจิ่ว พวกเขาไม่กล้าช่วยเขาออกหน้า มิเช่นนี้ไฟอาจลุกลามมาถึงตัวพวกเขา
ระหว่างกลับไปหนิงหลางมองแสงจันทร์พลางถอนใจ “จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าเฟิ่งจิ่วดีกับข้ามากจริงๆ” อย่างน้อยๆ เขาแค่โดนคุกคามและจะขายไปโรงค้าเด็กหนุ่ม ไปไม่ถึงโรงค้าเด็กหนุ่มจริงๆ
ข้อนี้ต้วนเยี่ยเห็นด้วยอย่างยิ่ง “เทียบกับพวกเจ้า เขาดีกับข้าที่สุด เพราะข้าสมัครใจตามเขาไป ไม่อ้อมค้อมมากเพียงนั้น” เขาพบว่าเชื่อฟังอย่างว่าง่ายจะโดนจัดการน้อยกว่า หากต่อต้านเกินไป จุดจบก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนนึกไม่ถึงจริงๆ
หนำซ้ำเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำ เฟิ่งจิ่วทำคงไม่ไว้หน้าเจ้า คนอื่นจะพะว้าพะวังเรื่องฐานะของพวกเขา เฟิ่งจิ่วกลับไม่เลย ข้อนี้อยู่ด้วยกันมาตลอดทางก็เห็นเสียจนเข้าใจขึ้นมาก
พวกเขาเดินไปพลางพูดคุย กระทั่งกลับถึงในเรือน มองยังประตูห้องที่ปิดสนิท รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่เฝ้าด้านนอก ก็ใจสั่นไหวเล็กน้อย
มั่นใจได้เลยว่าเฟิ่งจิ่วกำลังหลับอยู่ข้างใน! มีเพียงเขา หลังจากวางหลุมพรางให้คนอื่นถึงจะหลับได้อย่างสบายใจเช่นนี้
ทั้งสามลอบยิ้มในใจ แยกย้ายกลับห้อง คิดว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาค่อยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
แต่เหนือความคาดหมายของพวกเขา เช้าตรู่วันต่อมาเมื่อพวกเขาล้างหน้าแปรงฟันออกมา เห็นเฟิ่งจิ่วที่นั่งกินอาหารเช้าในลานบ้านบอกพวกเขาว่า “กินอาหารเช้าเสร็จจะไปบอกลาพวกของผู้นำตระกูล”
“ต้องไปแล้วหรือ? เร็วเพียงนี้เชียว?”
ทั้งสามมองเขาอย่างประหลาดใจ อันที่จริงอยากจะถามมากๆ ว่า ‘ลั่วเฟยยังไม่กลับมาเลย! จะไปจริงๆ หรือ?’
“ทำไม? หรือพวกเจ้าพักจนติดใจแล้ว?” เธอชายตามองพวกเขาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
“เหอะๆ ได้อย่างไรเล่า” ทั้งสามหัวเราะเจื่อนๆ รีบนั่งกินอาหาร จากนั้นค่อยตามเขาไปบอกลาสามีภรรยาตระกูลลั่วยังเรือนด้านหน้าพร้อมๆ กัน
“ต้องไปแล้วหรือ? พวกเจ้าเพิ่งมาเมื่อวาน วันนี้ก็จะไป? ไม่พักอีกสองสามวันเล่า?” หลังได้ยินคำพูดของพวกเขา ผู้นำตระกูลลั่วก็ตะลึงเล็กน้อย
ลั่วฮูหยินเห็นท่าทางก็มองพวกเขาพลางเอ่ยว่า “นานๆ ทีเพื่อนจะมาบ้าน พวกเจ้าก็พักหลายๆ วันเถอะ! เฟยเอ๋อร์ยังไม่ทันพาพวกเจ้าไปเดินเล่นในเมือง จะไปเช่นนี้ พวกเราเกรงใจเล็กน้อย รู้สึกว่ารับรองได้ไม่ดี”
“ไม่หรอกขอรับ แค่พวกเราอยู่ที่นี่นานไม่ได้” เฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ย กล่าวว่า “ออกมาหลายวันแล้ว วันนี้เข้ามากล่าวลาพวกท่าน และบอกพวกท่านเสียหน่อย ว่าข้าจะพาลั่วเฟยไปด้วย”
“เฟยเอ๋อร์จะไปด้วย? เขายอมไปกับพวกท่านหรือ?” ลั่วฮูหยินแปลกใจเล็กน้อย
พวกของต้วนเยี่ยได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มๆ โดยไม่พูดอะไร เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ มองยังสามคนข้างๆ บอกว่า “ตอนแรกเริ่มพวกเขาสามคนก็ไม่ยอม”
หมายความว่าแม้ตอนนี้ไม่ยอม เวลานานเข้าจะเชื่อฟังอย่างว่าง่าย
สามีภรรยาตระกูลลั่วเห็นเช่นนี้ก็ตกใจ มองหน้ากันแวบหนึ่ง จากนั้นค่อยยิ้มเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ดี ให้เขาไปด้วยกันกับพวกเจ้าเถอะ! เขาได้ร่วมทางกับพวกเจ้า พวกเราก็วางใจ”
“เจ้าเด็กนี่ทำไมนอนถึงตอนนี้ยังไม่ตื่น?” ผู้นำตระกูลลั่วเห็นว่าเวลานี้สายแล้ว กลับไม่เห็นลูกชายเข้ามา ก็ขานเรียกว่า “พ่อบ้าน ไปตามคุณชายเข้ามา”
“ไม่ต้องหรอกท่านผู้นำตระกูลลั่ว เมื่อคืนเฟยเอ๋อร์ออกไปแล้ว ข้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน รอตอนพวกเราออกไปค่อยแวะไปตามเขาเป็นพอ” เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ พร้อมเอ่ยปากห้ามปราม เพราะรู้ว่าลั่วเฟยไม่อยู่บ้าน
………………………………………………….
ตอนที่ 1050 ปล่อยข้า
สามีภรรยาตระกูลลั่วได้ยินคำพูดนี้ แปลกๆ ในใจกลับไม่ถามมากความ เพราะพวกเขารู้ว่าพวกของเฟิ่งจิ่วจะไม่ทำร้ายลูกชายของพวกเขาแค่นั้นแหละ ด้วยเหตุนี้ลั่วฮูหยินจึงยิ้มพยักหน้า “ข้าจะเตรียมอาหารแห้งกับผลไม้ให้พวกเจ้า จะได้นำไปกินระหว่างทาง”
ข้อนี้พวกของเฟิ่งจิ่วไม่ปฏิเสธ คุยกับผู้นำตระกูลลั่วพลางรอ กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็ออกจากบ้านตระกูลลั่วโดยมีสามีภรรยาตระกูลลั่วไปส่ง
หลังจากพวกเขาไปแล้ว ผู้นำตระกูลลั่วเรียกเด็กรับใช้ในเรือนของลั่วเฟยมา ถามถึงสถานการณ์สักพัก หลังจากได้รู้เรื่องราว สองคนสีหน้าตกตะลึง โดยเฉพาะผู้นำตระกูลลั่วยิ่งหัวเราะเยาะ
“เจ้าเด็กไม่เอาไหน! พยายามคิดแผนร้ายต่างๆ ครั้งนี้ดีแล้ว ตกอยู่ในกำมือของคุณชายเฟิ่งข้าคิดว่าเขาจะคลั่งสักแค่ไหน หึ ต้องให้คนเช่นนี้มาขัดเกลาจิตใจของเขาเสียบ้าง”
“ไม่หรอก เช่นนี้จะไม่…” ลั่วฮูหยินกังวลใจเล็กน้อย ทำไมถึงส่งไปสถานที่เช่นนั้น? เฟยเอ๋อร์ก็ไม่ควรเกินไป
“วางใจเถอะ! คงไม่เป็นไร ในเมื่อคุณชายเฟิ่งเป็นอาจารย์ ย่อมมีความบันยะบันยัง เขาบอกข้าว่าหนึ่งปีเฟยเอ๋อร์จะกลับมา เอาล่ะ พวกเรากลับไปกันเถอะ!” เขากล่าวจบก็พานางเดินไปข้างใน
เวลาเดียวกัน ณ อีกด้านหนึ่ง เมื่อลั่วเฟยที่ตื่นมาตั้งแต่เที่ยงคืนเห็นผ้าบางโปร่งแสงรวมถึงกางเกงลิงยักษ์บนร่างก็ส่งเสียงร้องลั่น แต่ขณะเขาอ้าปากกรีดร้องกลับพบว่าร้องอะไรไม่ออกเลย หนำซ้ำพละกำลังในร่างยังโดนปิดผนึกไว้
ไม่มีใครมัดแค่ขังเขาไว้ในห้อง รอบๆ มีคนคอยเฝ้า เมื่อพยายามจะหนีออกไปยังโดนจับกลับมาอีก สุดท้ายหลังนึกได้อย่างยากลำบากว่าที่นี่คือที่ไหน สีหน้าของเขาก็ไม่ดีแล้ว
โรงค้าเด็กหนุ่ม? เป็นโรงเด็กหนุ่มได้อย่างไร? ชัดเจนว่าเขาให้ทหารอารักขาพาเฟิ่งจิ่วมาที่นี่! ทำไมกลายเป็นเขามาที่นี่เล่า? หนำซ้ำเสียงของเขาทำไมถึงพูดไม่ได้? พละกำลังวรยุทธ์ยังโดนปิดผนึกไว้อีก
นี่คือจังหวะให้เขาเสียตัวหรือ?
นึกถึงสถานที่นี่ แล้วคิดว่าเขาในตอนนี้โดนเปลื้องผ้าสวมเพียงกางเกงชั้นในและถูกขังไว้ที่นี่ จะโดนจัดไปพบแขกได้ทุกเมื่อ นึกถึงภาพนั้นก็ขนลุกและผุดลุกขึ้นมาโดยฉับพลัน
น่ารังเกียจเกินไปแล้ว
เขามาเจอสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร? เฟิ่งจิ่วสมควรตาย! ต้องเป็นแผนร้ายอะไรของเขาแน่ๆ แต่ตอนนี้เขาจะหนีออกไปเช่นไร? บอกพวกเขาว่าตนเองเป็นคุณชายตระกูลลั่ว? ใครจะเชื่อเล่า!
“นายท่านหวงมาลองดูสินค้าใหม่ ไป พาเด็กหนุ่มในห้องออกมา ให้ผ่านตาคุณชายหวงเสียหน่อย”
ลั่วเฟยได้ยินเสียงที่ลอยมาด้านนอก สีหน้าขาวซีด พลันถอยหลังไปอย่างรวดเร็วคิดจะหาทางหนี แต่ที่นี่ประตูหน้าต่างล้วนถูกปิดไว้หมด หากมีพละกำลังวรยุทธ์ยังดี ยามนี้กำลังวรยุทธ์โดนผนึกก็เป็นเช่นคนทั่วไปที่แม้แต่แรงจับไก่ยังไม่มี หนีออกไปไม่ได้เลย
แย่แล้วๆ นี่เป็นจังหวะจะเสียตัวจริงๆ ด้วย!
เฟิ่งจิ่วสมควรตาย! หากข้าลั่วเฟยเสียตัวจะไม่จบกับเจ้าแน่!
ประตูห้องเปิดออก ชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามา “ไปเสีย ข้างหน้ามีแขก”
ลั่วเฟยเห็นก็กระโจนไปบนเตียงใช้ผ้าห่มม้วนบนร่างและคลุมหัวตนเองทันใด เป็นตายร้ายดีอย่างไรจะไม่ยอมออกไป
สองชายฉกรรจ์เห็นเช่นนี้ก็มองหน้ากัน แล้วก้าวเข้าไปยกเด็กหนุ่มที่ห่อไว้ในผ้าห่มออกไปทันที
อ๊ากๆๆ! ปล่อยนะ! ปล่อยข้า! พวกเจ้ากล้าให้ข้าไปพบแขก ข้าจะถลกหนังพวกเจ้าทั้งเป็นแน่!
ลั่วเฟยดิ้นรนพลางอ้าปากร้องลั่น กลับเปล่งเสียงไม่ได้สักนิด
………………………………………………….