เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1087 ราชาหมาป่าตัวนั้น + ตอนที่ 1088 อยู่ตรงนี้แหละ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1087 ราชาหมาป่าตัวนั้น + ตอนที่ 1088 อยู่ตรงนี้แหละ
ตอนที่ 1087 ราชาหมาป่าตัวนั้น + ตอนที่ 1088 อยู่ตรงนี้แหละ
ตอนที่ 1087 ราชาหมาป่าตัวนั้น
แตกต่างจากหมาป่าขั้นเก้าใต้ต้นไม้ หมาป่าบนที่สูงตัวนั้นเป็นราชาหมาป่าระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ รูปร่างใหญ่โตแข็งแกร่งกว่าหมาป่าขั้นเก้าพวกนี้ที่กำลังสู้กับพวกต้วนเยี่ยเล็กน้อย
ขนของมันไม่เหมือนหมาป่าสีเทาข้างล่างพวกนี้ แต่เป็นสีขาวสว่างไสวราวหิมะ โดยเฉพาะภายใต้แสงจันทร์จะยิ่งเปล่งรัศมีสีขาวหิมะ งดงามแพรวพราวอย่างยิ่ง
ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์พละกำลังก็ใช้ได้ประมาณหนึ่ง แต่เธอมีหงส์ไฟเป็นสัตว์พันธสัญญาคู่ชีวิต มีอสูรกลืนเมฆาเป็นสัตว์นักสู้ มีเหล่าไป๋เป็นพาหนะ ซ้ำยังมีเสี่ยวเฮยที่ซื่อสัตย์คอยเฝ้าบ้าน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องการสัตว์พันธสัญญาสักเท่าไรเลยจริงๆ
แต่ว่า…
แววตาของเฟิ่งจิ่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในใจคิดแผนการ เธอไม่ต้องการแต่พวกของหนิงหลางมีเพียงต้วนเยี่ยที่มีสิงโตไฟ คนอื่นสามคนไม่มีสัตว์อสูรพันธสัญญา ในเมื่อพาพวกเขาเข้ามาฝึกวิชาที่นี่ ก็ให้โอกาสพวกเขาไป ส่วนจะฝึกหมาป่าหิมะตัวนี้ให้เชื่องและทำสัญญาได้หรือไม่ต้องดูพวกเขาเองแล้ว
ทันใดนั้นกรงเล็บที่แหลมคมน่ากลัวก็ตะครุบมาหาเธอด้านล่าง เธอดึงสายตากลับอย่างเย็นชา แล้วมองยังสัตว์ร้ายขั้นเก้าที่กระโจนเข้ามา ยามนี้ในดวงตาสดใสฉายประกายหนาวเหน็บ แรงกดดันของสัตว์เทวะในตำนานก็พุ่งออกไปจากในดวงตา
“กรร!”
หมาป่าขั้นเก้าที่กระโจนมาร้อนอย่างตื่นกลัว พลันตกลงไปจากกลางอากาศ แล้วโดนกงจักรแปดดาราในมือของต้วนเยี่ยเบื้องล่างปาดเข้าลำคอ
เพียงเห็นเลือดกระเซ็นออกไป กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งและเสียงร้องรุนแรงลอยตามกันออกไป กลิ่นเลือดของหมาป่ากระตุ้นหมาป่าตัวอื่นๆ แต่ละตัวต่างเห่าหอน กำลังต่อสู้ยิ่งโหดร้ายดุดัน
“ซี๊ด!”
เสียงสูดหายใจรวมถึงเสียงร้องอู้อี้อย่างเจ็บปวดดังมาจากปากพวกคนด้านล่างบ่อยครั้ง บนร่างของพวกเขาเดิมทีมีบาดแผล ยามนี้ยิ่งบาดเจ็บเพิ่มไปอีก ภายใต้การล้อมโจมตีของหมาป่าขั้นเก้ายี่สิบกว่าตัว ร่างกายล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลที่โดนกรงเล็บตะครุบ
เฟิ่งจิ่วมองศพของสัตว์ร้ายขั้นเก้าที่ล้มลงบนพื้น เห็นว่าในความท้าทายพวกเขายิ่งคล่องแคล่วขึ้น จึงเอ่ยปากบอกว่า “บนที่สูงตรงนั้นมีราชาหมาป่า นอกจากต้วนเยี่ย พวกเจ้าสามคนใครกล้าไปจัดการมันบ้าง?”
“อะไรนะ? ราชาหมาป่า? พวกเราคนเดียวสู้ราชาหมาป่าได้เสียที่ไหน? เจ้าพวกนี้ยังรับมือยากเพียงนี้ ราชาหมาป่าจะไม่ร้ายกาจกว่าหรือ?” หนิงหลางตะโกนไป ยามนี้เขากำลังหมอบเกาะบนหลังหมาป่าขั้นเก้าตัวหนึ่ง สองขากอดเกี่ยวร่างของมันไว้แน่น ในมือจับกริชแทงไปตรงหลังคอของหมาป่าอย่างโหดเหี้ยม
เพียงได้ยินเสียงดังสวบ กริชแทงเข้าไปยังหลังคอทำให้มันเห่าหอน ขาหน้าคุกเข่าลงไปข้างหน้า ศีรษะก้มต่ำลงไป ร่างกายชักกระตุกเล็กน้อย
เมื่อหนิงหลางดึงกริชเล่มนั้นเลือดก็กระเซ็นออกมา ทำให้เขาที่หลบไม่ทันโดนสาดเข้าหน้า เขาถ่มน้ำลายสองครั้งและยื่นมือไปเช็ด แค่รู้สึกอุ่นๆ บนหน้าก็คลื่นไส้อย่างอดไม่ได้
เลือดเปื้อนหน้าเป็นความรู้สึกที่น่าสะอิดสะเอียนนัก
“ตอนนี้ข้าจัดการไม่ไหว รับมือเจ้าพวกนี้ก็แทบขาดใจตายแล้ว”
ลั่วเฟยกล่าวไป เดิมทีตนเองบาดเจ็บมาไม่น้อย ก่อนหน้านี้ก็โดนกระชากและพันแผลใหม่ไป ภายใต้สถานการณ์ที่บาดเจ็บยังสู้เช่นนี้ได้ ต่อกรหมาป่าขั้นเก้าพวกนี้เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว หากไปท้าทายคิดจะกำราบราชาหมาป่าโดยไม่รู้ที่ตาย ผลลัพธ์สุดท้ายที่เป็นไปได้มากคือตนเองหลายเป็นของว่างรองท้องของราชาหมาป่า
เขานึกถึงข้อนี้ก็ส่ายหน้า ไปไม่ได้จริงๆ เพราะไม่มั่นใจ
………………………………………………….
ตอนที่ 1088 อยู่ตรงนี้แหละ
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ สายตามองผ่านคนอื่นอีกสองคน เห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้เหมือนกันก็พยักหน้า “เช่นนั้นก็เอาเถอะ!” เดิมคิดว่าคนหนึ่งในหมู่พวกเขาจะสบโอกาสเก็บอสูรศักดิ์สิทธิ์ไป แต่ดูท่าทางพวกเขาจะไม่มีความคิดและกำลังเช่นนั้น
แม้เธอไปจัดการราชาหมาป่ามาให้พวกเขาก่อนได้ แต่ใช้เป็นอสูรพันธสัญญาของตนเองต้องกำราบด้วยตนเองจะดีที่สุด มิเช่นนั้นคนที่อสูรพันธสัญญายอมจำนนคงไม่ใช่เขาคนเดียว
“กรรซ์!”
ราชาหมาป่าบนที่สูงร้องหอน หมาป่าพวกนั้นเบื้องล่างมากันไวถอยก็เร็ว เมื่อฝูงหมาป่าหลั่งไหลออกไป พวกเขาถอนหายใจเบาๆ แล้วมองศพหมาป่าบนพื้นสักพักอย่างหมดจะเอ่ย
แค่ฆ่าหมาป่าสองสามตัวกำลังกายของพวกเขาก็ไม่ไหวแล้ว แผลใหม่บวกแผลเก่ารวมกันเจ็บเสียจนทำให้พวกเขาแยกเขี้ยว หากหมาป่าพวกนั้นไม่ถอยไป เดาว่าสู้ต่อไปคงยื้อไม่ไหวจริงๆ
เห็นพวกเขาค้ำต้นไม้หอบแฮ่กตรงนั้น ดวงตาของเฟิ่งจิ่วแวววาวเล็กน้อย กำลังกายเช่นนี้ใช้ไม่ได้เลย แม้บอกว่าแผลเก่าบนร่างพวกเขายังไม่หายดี แต่แผลพวกนั้นไม่ได้ถือว่าสาหัสมาก โดนฝูงหมาป่าล้อมโจมตีไม่ทันไรก็เป็นเช่นนี้ ดูท่าทางต้องพัฒนากำลังกายของพวกเขาก่อน
หนิงหลางงัดผลึกอสูรสองสามเม็ดออกมา แล้วหยิบไปให้เฟิ่งจิ่วที่กระโดดลงมาจากต้นไม้ “นี่เป็นผลึกอสูรของหมาป่าพวกนั้น”
เฟิ่งจิ่วรับมาดูและกล่าวว่า “นี่เป็นผลึกอสูรธาตุลม ช่วยผู้ฝึกตนธาตุลมฝึกบำเพ็ญได้ ในหมู่พวกเจ้าใครเป็นธาตุลมก็แบ่งไปเถอะ!” พูดจบก็ยื่นให้หนิงหลาง แล้วเอ่ยอีกว่า “ไปกันเถอะ! ไปหาอาศรมในแผนที่”
พวกเขาเห็นเฟิ่งจิ่วเดินไปข้างหน้าโดยไม่ถามถึงบาดแผลบนร่างพวกเขาก็มองหน้ากันทันที ก่อนจะตามหลังเขาไปข้างหน้า ในใจกำลังคิดว่าทำไมเขาเหมือนจะไม่ค่อยดีใจเลย?
หรือจะไม่ค่อยพอใจในการกระทำของพวกเขา?
ทุกคนเดินตามหลังเขาไปไม่หยุด ระหว่างอาจเพราะอสูรกลืนเมฆาที่เดินอยู่ข้างหน้าปล่อยแรงกดดันของสัตว์เทวะออกไป ขอแค่เหล่าสัตว์ร้ายเข้าใกล้และสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของสัตว์เทวะจะหลบออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้พวกเขาเดินไปตลอดทางจึงไม่เจออันตรายสักนิด กระทั่งท้องฟ้าค่อยๆ สว่าง เฟิ่งจิ่วที่เดินข้างหน้าก็หยิบแผนที่มาอ่าน แล้วเดินไปข้างหน้าอีกสักระยะ ถึงจะหมุนตัวมองไปทางคนอื่นๆ ข้างหลัง
“ถ้ำภูเขาในแผนที่คืออาศรมด้านล่างยอดเขาข้างหน้า จากที่นี่ไปถึงตรงนั้นใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยาม เร่งความเร็วกันหน่อย!”
“ได้”
พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรมา อาจเพราะสำนึกได้ว่าเมื่อคืนไม่มีใครไปจัดการราชาหมาป่าทำให้เฟิ่งจิ่วผิดหวัง ด้วยเหตุนี้ตลอดทางเขาพูดอะไรจึงว่าไปตามนั้น
“ที่นี่แหละ”
เฟิ่งจิ่วเข้าไปตรวจดู เพียงยกมือใบมีดลมก็ตัดออกไป เถาวัลย์ที่ปิดทางเข้าถ้ำไว้พากันขาด เผยให้เห็นปากถ้ำแต่เดิมที
เธอเดินเข้าไปตรวจสอบ มันเป็นถ้ำภูเขา สิ่งที่แตกต่างคือในนี้เหมือนเมื่อก่อนจะเคยมีคนอาศัยอยู่ นอกจากเตียงหินยังมีโต๊ะหิน พื้นที่จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะเล็กก็ไม่เล็ก
เธอเดินออกมาบอกพวกเขาว่า “พวกเจ้าพักที่นี่สักพักเถอะ! จัดการบาดแผลบนร่าง อย่าวิ่งเพ่นพ่าน อยู่ตรงนี้รอข้ากลับมา” กล่าวจบก็ทิ้งอสูรกลืนเมฆาไว้ ส่วนตนเองเดินออกไป
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็มองหน้ากัน อดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ “เจ้าจะไปไหน?”
………………………………………………….