เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1125 กระบวนท่าพิฆาต + ตอนที่ 1126 ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1125 กระบวนท่าพิฆาต + ตอนที่ 1126 ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ
ตอนที่ 1125 กระบวนท่าพิฆาต + ตอนที่ 1126 ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ
ตอนที่ 1125 กระบวนท่าพิฆาต
“ฟุ่บ! ตู้ม!”
“อ๊าก!”
ลูกไฟที่วิ่งผ่านพลันจู่โจมไปหาผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังตรงหน้า พุ่งปะทะร่างของผู้ฝึกวิชามารในพริบตาแล้วระเบิดอีกครั้ง เกิดเป็นเสียงดังสนั่น
ขณะที่ประกายไฟปะทุอย่างกะทันหัน เพียงได้ยินเสียงกรีดร้องเล็กแหลมดังมาจากในเปลวไฟ กึกก้องในป่าอยู่เนิ่นนาน…
คนของตระกูลนั้นเห็นภาพเช่นนี้ สีหน้าทั้งประหลาดใจและตกใจเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงไม่หยุด พวกเขาอยากดูต่อไปอีกว่าคนพวกนี้จะสู้และสังหารผู้ฝึกวิชามารทั้งหมดอย่างไร ทว่าในที่สุดก็ต้านทานฤทธิ์ยาไม่ไหว รู้สึกแต่ว่าหนังตาหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายแต่ละคนหมดสติล้มลง
“ใบมีดลม! ฆ่ามัน!”
สีหน้าของซ่งหมิงเย็นเยียบ ยามนี้ใบหน้าของหนุ่มน้อยรูปงามเผยความเย็นชา เพียงเห็นเขาโยนกระบี่ในมือออกไป สองมือทำปางมือที่ซับซ้อน จากนั้นกระแสลมพัดโหมจากในร่างเขา แล้วควบคุมกระบี่คมกลางอากาศด้วยดวงจิต
“ฟิ้วๆๆ!”
จู่ๆ กระบี่คมก็แบ่งออกเป็นแปดเล่ม กลายเป็นค่ายกลกระบี่แทงไปหาผู้ฝึกวิชามระดับหลอมแก่นพลังอีกคนหนึ่ง กระบี่แปดเล่มล้อมจู่โจมสังหารพร้อมๆ กัน แม้ผู้ฝึกวิชามารระดับหลอมแก่นพลังจะมีฝีมือ เวลานี้ยังโดนแทงเป็นรังแตนอย่างต้านไม่ไหว
“อึก! อ๊าก…”
หนิงหลางกับลั่วเฟยเห็นว่าไม่ทันไรอีกสองคนก็ฆ่าคนที่เหลือได้ จึงอดถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้ คิดว่าหากพวกเขาสองคนสู้ไม่ได้ ก็ยังมีเคล็ดวิชาลับของตระกูลอีกทั้งธาตุของตนเองมาสู้ได้
แต่ดูท่าทางพวกเขาจะไม่ได้ใช้แล้ว ไม่ว่าอย่างไร แค่ขจัดอันตรายได้ก็พอ
หลังจากทั้งคู่ถอนหายใจและเก็บกลิ่นอายพลังวิญญาณ หนิงหลางซึ่งบาดเจ็บน้อยที่สุดจึงรีบวิ่งเข้าไปประคองต้วนเยี่ยที่บาดเจ็บตรงท้อง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง มาๆๆ นั่งลงก่อน”
หนิงหลางพยุงเขามานั่ง แล้วรีบร้อนหยิบยามาพันแผลให้ ตอนเห็นเลือดมากมายที่ไหลออกมาตรงท้อง ก็อดตกใจไม่ได้ “ทำไมบาดเจ็บหนักเพียงนี้?” ขณะกำลังจะใส่ยาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมา
“ให้ข้าจัดการเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามาโดยมีกลืนเมฆาตามอยู่ข้างกาย ก่อนจะนั่งลงตรวจดูบาดแผลข้างๆ ต้วนเยี่ย พลางบอกหนิงหลางว่า “เจ้าไปดูแผลของพวกเขา ช่วยทำแผลให้ที”
“ได้”
หนิงหลางเห็นว่าเป็นเฟิ่งจิ่ว จึงค่อยเดินไปอย่างวางใจ ประคองซ่งหมิงกับลั่วเฟยสองคนเข้ามา ช่วยพวกเขาทำแผลตามร่างกายเสียก่อนพลางพึมพำไม่หยุด “พวกเจ้าดู นี่เป็นผลจากการไม่เลือกของวิเศษให้ดีๆ เจ้าบอกตระกูลของพวกเจ้าก็ไม่เล็ก ซ้ำยังมีเงินทอง ทำไมไม่รู้จักหาเสื้อวิเศษป้องกันตัวอย่างข้ามาสักสองสามตัว? อย่างน้อยๆ สู้กับใครจะได้ไม่บาดเจ็บมากนัก!”
พวกเขาได้ยินหนิงหลางพูดก็กลอกตา ของเช่นนี้หากต้องการก็มีได้เลยเสียที่ไหน ของวิเศษเอาตัวรอดของเขา ปกติพบเจอได้แต่เรียกร้องมาไม่ได้ หากใช้เงินซื้อมาได้ตามใจชอบ ถนนใหญ่คงมีขายกันเกลื่อนแล้ว
อีกด้าน เฟิ่งจิ่วตรวจดูบาดแผลตรงท้องของต้วนเยี่ย กล่าวว่า “แผลลึกมาก แต่โชคดีที่ไม่บาดเจ็บร้ายแรง หลังจากใส่ยาแผลยังไม่หายก็อย่าไปสู้กับใคร บาดแผลตรงท้องจะได้ไม่เปิด เกิดติดเชื้อจะยิ่งสาหัส”
ระหว่างพูดเธอทำความสะอาดแผลให้เขา จากนั้นโรยยารักษาแผลภายนอก เมื่อพันแผลเสร็จเห็นสีหน้าเขาขาวซีด หน้าผากมีเหงื่อออกเท่าเม็ดถั่ว จึงถอนใจเบาๆ พลางส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ แล้วหยิบยาอายุวัฒนะเม็ดหนึ่งมายื่นให้
“กินเสีย!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1126 ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ
ต้วนเยี่ยเห็นดังนั้นก็รับยามากลืนลงไป “ขอบคุณ”
“เฟิ่งจิ่ว นั่นเป็นของดีอะไร ข้าอยากได้บ้าง” หนิงหลางประคองสองคนเข้ามา ก่อนจะเข้ามาใกล้และกะพริบตามองเฟิ่งจิ่วในชุดแดงที่มีท่าทางลอยชาย
พวกเขาสามคนบาดเจ็บตามร่างกาย มีเลือดไหล ส่วนหนิงหลางตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ก็ยังมีสภาพนี้ ร่างกายไม่มีบาดแผลสักนิด แม้แต่เสื้อผ้ายังสะอาดเช่นตอนแรก เทียบกันแล้วช่างน่าหงุดหงิดเสียจริง
พวกเขาได้ยินคำพูดของหนิงหลาง ทั้งยังเห็นเขามองเฟิ่งจิ่วด้วยท่าทางเอาใจราวกับสุนัขตัวน้อย ก็มุมปากกระตุกพร้อมกันอย่างอดไม่ได้
เฟิ่งจิ่วชายตามองเขา ถามว่า “อยากได้หรือ?”
“ใช่ๆ อยากได้” หนิงหลางฉีกยิ้มพยักหน้า
“อยากได้ก็ได้ เจ้าคว้านท้องตัวเองสิ ข้าจะให้เจ้าเม็ดหนึ่ง”
หนิงหลางได้ฟังก็เกาศีรษะ ยิ้มเจื่อนๆ ให้ “เช่นนั้นช่างเถอะ ข้าไม่ชอบเจ็บตัวสักเท่าไร คว้านท้องต้องเจ็บมากแน่!”
“พอแล้ว ยังไม่รีบไปเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยอีก?” เธอเอ่ยเปรย ก่อนจะเดินไปพิงต้นไม้ข้างๆ โดยไม่พูดอะไร
“ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็พักผ่อนเถอะ”
หนิงหลางกล่าวจบก็จัดการเรื่องด้านหลังด้วยความรวดเร็ว หลังจากแน่ใจว่าผู้ฝึกวิชามารไม่มีเหลือรอด ถึงจะเก็บถุงฟ้าดินต่างๆ บนตัวพวกเขามา ไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็กลับมาข้างกายพวกเขา
“ผู้ฝึกวิชามารพวกนี้ต้องปล้นชิงสิ่งของมาไม่น้อยแน่ ข้าดูแล้ว ในถุงฟ้าดินมีของเยอะแยะเลย” หนิงหลางพูดพลางแบ่งของเป็นสองสามส่วนและยื่นให้พวกเขา แม้แต่เฟิ่งจิ่วยังได้ไปส่วนหนึ่ง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร นี่เป็นระเบียบเริ่มต้นไปแล้ว เฟิ่งจิ่วก็เก็บของมาโดยไม่ปฏิเสธเช่นกัน
“คนพวกนั้นคล้ายจะโดนวางยาแล้วยังสลบอยู่” หนิงหลางมองเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “ข้าเพิ่งลองดู เรียกพวกเขาไม่ตื่นเลย กดจุดเหรินจงก็ไม่ได้ผล จะปลุกพวกเขาอย่างไรดี?”
เรื่องวางยา เฟิ่งจิ่วน่าจะรู้เรื่อง
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ขยับแขนเสื้อ ยื่นขวดใบหนึ่งให้เขา “วางตรงจมูกให้พวกเขาได้กลิ่น ตื่นมาแน่นอน”
“ได้”
หนิงหลางรับมา แล้ววิ่งเหยาะๆ ไปทางนั้น เริ่มจากวางขวดไว้ใต้ลมหายใจของหนึ่งในนั้น ไม่นานนักก็เห็นเขาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
“ตื่นแล้วหรือ มาๆ เจ้ายื่นไปให้พวกเขาดมเสียหน่อย พวกเขาก็จะฟื้นเหมือนกัน” หนิงหลางยื่นขวดในมือไปให้เป็นนัย
ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ ยามนี้มองเด็กวัยรุ่นตรงหน้าที่ชัดเจนว่าแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิง แต่เสียงกลับเป็นผู้ชาย หลังจากพยักหน้าก็รับมาวางตรงลมหายใจของคนข้างๆ ไม่นานก็เห็นคนคนนั้นฟื้นคืนสติ
“ให้ทุกคนดมสิ่งนี้ มันแก้พิษในร่างได้” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณกล่าว สื่อให้คนคนนั้นรับขวดในมือไป
“ขอรับ” ชายวัยกลางคนขานรับ รับของไปก่อนวางตรงลมหายใจของคนพวกนั้นพักหนึ่งทีละคนๆ ก็เห็นพวกเขาแต่ละคนฟื้นขึ้นมา
“ขอบคุณคุณชายทุกท่านมากสำหรับความช่วยเหลือ” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณประสานมือเอ่ย คารวะให้พวกเขาเล็กน้อยพร้อมพยักหน้า
ขณะกล่าวขอบคุณ ดวงตาเฉียบคมของเขามองผ่านกลุ่มหนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างแนบเนียน เห็นว่าตามร่างกายของสามคนที่สู้กับผู้ฝึกวิชามารก่อนหน้านี้ล้วนบาดเจ็บ ตอนนี้บางคนกำลังนั่งพิงพักเอาแรงอยู่ใต้ต้นไม้ บางคนยืนอยู่
เมื่อสายตาของเขาหยุดบนร่างของเฟิ่งจิ่วในชุดแดงก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้หนุ่มน้อยชุดแดงไม่ปรากฏตัว แต่ดูท่าทางเหมือนจะมาด้วยกันกับเด็กหนุ่มพวกนี้?
ยังมีเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนคนนั้น จำได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะสลบ ก็เห็นพลังมหาศาลซึ่งระเบิดจากวิชาลูกไฟที่เขาใช้…
………………………………………………….