เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1133 รูปร่างเหมือนไก่ชน + ตอนที่ 1134 อินทรียังต้องกลายเป็นนกน้อย
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1133 รูปร่างเหมือนไก่ชน + ตอนที่ 1134 อินทรียังต้องกลายเป็นนกน้อย
ตอนที่ 1133 รูปร่างเหมือนไก่ชน + ตอนที่ 1134 อินทรียังต้องกลายเป็นนกน้อย
ตอนที่ 1133 รูปร่างเหมือนไก่ชน
เฟิ่งจิ่วที่ร่อนขนนกบินตามไปอีกครั้ง หลังจากไล่ไปกว่าครึ่งวัน ในที่สุดก็ดึงระยะเข้ามาใกล้ แต่ยามนี้นกสีดำฝูงหนึ่งบินจากในป่าพุ่งมาหาเธอ
เห็นนกสีดำอย่างน้อยร้อยกว่าตัว แม้ขนาดเท่าแค่กำปั้น เธอไม่คิดว่านกพวกนี้จะไม่อันตราย แม้ฝูงนกสีดำจะขนาดแค่กำปั้นแต่เป็นนกพันธุ์ดุร้าย ทั้งยังเห็นเลือดลมของพวกมันที่หลั่งไหลโดยรอบก็รู้ว่าเป็นพวกกินเนื้อ
เห็นระยะห่างจากนกอินทรีข้างหน้าเข้ามาใกล้และนกฝูงหนึ่งมาขวางหูขวางตาเช่นนี้ สีหน้าของเธอเย็นเยียบทันใด จิตสังหารทั้งร่างยิ่งมากล้น
เรียกกลิ่นอายจากในร่างและปล่อยเปลวไฟ ขณะนกสีดำฝูงนั้นบินมาก็โยนกระบี่คมในมือออกไป พร้อมปล่อยเปลวไฟไปทางฝูงนกสีดำทันที ส่วนตนเองไล่ตามไปข้างหน้าโดยไม่มีหยุด
นกอินทรีข้างหน้าโมโห ตีปีกหันกลับไปมองร่างเล็กๆ ของมนุษย์ที่ไล่มาข้างหลัง ในดวงตาลุกโชนด้วยไฟโทสะ รอบนี้มันไม่จับอาหารบินไปรังแต่ตีปีกหยุดอยู่กลางอากาศ รอมนุษย์คนนั้นเข้ามาใกล้
เฟิ่งจิ่วเหยียบขนนกบินมาหยุดห่างจากมันสามจั้ง เห็นหนิงหลางที่สลบไปแขนขาห้อยลงเวหา ก็ขมวดคิ้วจ้องมองนกอินทรี “ปล่อยเขา”
“เจ้ามนุษย์ ช่างใจกล้านัก! คิดจะสั่งข้าหรือไร?”
ดวงตาแหลมคมของนกอินทรีแฝงด้วยแรงกดดันของสัตว์เทวะกวาดมองไปทางเฟิ่งจิ่ว ขณะเอ่ยปากคลื่นเสียงและกระแสลมก็จู่โจมออกไป คิดจะพุ่งชนมนุษย์ตรงหน้าให้กระเด็นออกไป ใครจะรู้ว่า…
กลับเห็นมนุษย์ตัวเล็กที่เหยียบขนนกยืนบนท้องฟ้าไม่นึกว่าจะไม่กลัวแท้แต่น้อย ภายใต้แรงกดดันระดับสัตว์เทวะยังไม่รู้สึกไม่สบายสักนิด มันเห็นเช่นนี้ก็หรี่ตา ดวงตาคมกริบนิ่งจ้องเขา พร้อมถามว่า “เจ้ามนุษย์ เจ้าเป็นใครกันแน่!”
มนุษย์ทั่วไปจะไม่กลัวแรงกดดันระดับสัตว์เทวะได้เช่นไร? อีกอย่างกำลังของเขาก็ไม่สูง พละกำลังอ่อนแอเพียงนี้ ภายใต้แรงกดดันระดับสัตว์เทวะยังไม่ตกใจกลัวและไม่ไหวติงได้อย่างไร?
“นกอินทรี ปล่อยคนของข้าเสีย มิเช่นนั้นเจ้าจะต้องเสียใจแน่”
ระหว่างพูดเฟิ่งจิ่วก็หยิบกระบี่คมพยับออกมา กระบี่คมพยับส่องประกายสีดำปล่อยพลังกระบี่ที่แหลมคมและน่าสะพรึงตรงไปหานกอินทรีระดับสัตว์เทวะตรงหน้า
นกอินทรีจ้องมองเฟิ่งจิ่ว เห็นชุดแดงของมนุษย์พลิ้วไหวท่ามกลางสายลม พร้อมถือกระบี่ที่เปล่งประกายสีดำ บนร่างกระจายไปด้วยกลิ่นอายน่ากลัวที่ทรงพลังและดุดัน ก็อดหวั่นใจเล็กน้อยไม่ได้
มนุษย์คนนี้มีที่มาเช่นไรกันแน่?
เพราะรู้สึกไม่ปกติสักเท่าไร คิดว่ามนุษย์อาจไม่กลัวมันจริงๆ ด้วยเหตุนี้เดิมทีคิดจะจัดการเขา ยามนี้มันตีปีกถอยหลัง แล้วบินออกไปไกลสามจั้งในทันที
“คิดจะหนีหรือ? ปล่อยคนมาเสีย!”
ดวงตาของเฟิ่งจิ่วหรี่เล็กลง กระบี่คมพยับในมือตวัดไปสะท้อนพลังกระบี่รุนแรงพุ่งตรงไปหานกอินทรี เพียงเห็นประกายสีดำวาดผ่านกลางอากาศ ก่อนจะโจมตียังนกอินทรีตรงหน้าที่ห่างไปหกจั้งกว่าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
นกอินทรีรู้สึกถึงจิตสังหารและอันตรายเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง แววตาหดลง แล้วหลบออกไปโดยเร็วไว แม้เป็นเช่นนี้ตรงปีกยังคงโดนพลังกระบี่ดุร้ายโจมตีเสียจนขนนกตกไปสองเส้น…
“เจ้ามนุษย์ตัวร้าย! กล้าทำร้ายขนนกสีดำของข้า!”
นกอินทรีคลุ้มคลั่งเล็กน้อย เหมือนจะโกรธเคืองเป็นอย่างยิ่ง ขนนกตรงหัวล้วนตั้งขึ้นมาราวไก่ชน
………………………………………………….
ตอนที่ 1134 อินทรียังต้องกลายเป็นนกน้อย
เพียงเห็นมันแหงนหน้าร้องลั่นตีปีก หมุนตัวบินตรงขึ้นไปและโฉบลงจากที่สูง ปากนกอินทรีปลายแหลมมีจะงอยเฉกเช่นตะขอคมเข้ารับใบมีดลมและจู่โจมลงไปตรงเหนือศีรษะของเฟิ่งจิ่ว
“ข้ารอเจ้าอยู่แล้ว!”
เฟิ่งจิ่วแค่นเสียงเย็น เท้าเหยียบบนขนนกบิน อาศัยแรงเรียกพลังขึ้นไป กระบี่ยาวในมือเหวี่ยงหมุนไปตามท่วงท่าหมุนตัวของเธอ เกิดเป็นวังวนกลางอากาศ
“ฟู่!”
“ฟิ้ว!”
หนึ่งตัวข้างบนหนึ่งคนข้างล่าง สองกระแสลมพุ่งเข้าชนกัน กระแสลมกับแรงกดดันแข็งแกร่งสะเทือนไปในอากาศ ทำให้กระแสลมล้วนสั่นไหวเล็กน้อย แล้วถูกสองกระแสลมดูดกลืนดั่งว่าทำให้ผิดเพี้ยนไป
“ตู้ม!”
สองกระแสลมลอยเข้าหากัน ทันทีที่พุ่งชนเพียงได้ยินเสียงตู้มดังมา กระแสลมลอยแกว่งออกไป ก่อนจะหลั่งไหลไปกลางอากาศราวกับคลื่นทะเลถูกพัดขึ้น
ภายใต้แรงพุ่งชนทั้งสอง ยามนี้เฟิ่งจิ่วกับนกอินทรีต่างถูกชนกระเด็นออกไป ร่างนกอินทรีโซเซอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างโดนกระแทกขนนกตามตัวร่วงกระจัดกระจาย สองอุ้งเล็บกลับยังคงจับหนิงหลางไว้แน่นไม่ปล่อย
เฟิ่งจิ่วกลัวพลังกระบี่รุนแรงจะทำให้หนิงหลางบาดเจ็บ จึงไม่กล้าโจมตีเต็มกำลังได้แต่ใช้พลังไม่กี่ส่วน เช่นนี้จึงทำให้นกอินทรีมีโอกาสหนีไป
เมื่อเห็นว่านกอินทรีหนีไปด้วยความรวดเร็วในทันทีที่โดนกระแสลมพุ่งชน เธอก็กัดฟันกรอด “ปล่อยคนเสีย! มิเช่นนั้นข้าจะทำลายรังของเจ้าแน่!”
นกอินทรีตรงหน้าที่ตีปีกบินพุ่งไปได้ยินคำพูดนี้ก็สั่นเทาไปทั้งร่าง ไม่รู้ว่าตกใจ หวาดกลัว หรือโกรธเคือง หลังจากร่างกายสั่นเทิ้มอยู่กลางอากาศก็ร่วงลงมาหลายจั้งถึงจะประคองไว้ได้
“เจ้ามนุษย์ นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าข่มขู่ข้า! ข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างแน่นอน! เจ้าอยากให้ข้าปล่อยเจ้ามนุษย์คนนี้? ข้าไม่ปล่อยหรอก! ข้าจะให้เขาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของลูกชายข้า! หากยังกล้าตามมาอีก ข้าจะจับเจ้าไปด้วยแน่!”
มันโกรธจัด คิดว่ามันบรรลุระดับสัตว์เทวะ กลายเป็นสัตว์เทวะมาหลายปีเพียงนี้แล้ว เพิ่งเจอมนุษย์ที่กล้าข่มขู่บอกจะทำลายรังของมันเป็นครั้งแรก ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!
หากไม่เห็นว่ามนุษย์ชุดแดงผอมบางเช่นนั้น ร่างกายไม่ค่อยมีเนื้อ มันคงจับเขาไปด้วยกันแน่!
ยามนี้แม้ในใจยอมรับว่ามนุษย์ชุดแดงรับมือได้ยาก ปากของมันก็ไม่แสดงความอ่อนแอแม้แต่น้อย เจ้ามนุษย์คนนี้น่าแค้นใจนัก! มันจะทำให้เขาไล่ไม่ทันและบ้าคลั่งเพราะตามหามันไม่พบ!
นึกถึงตรงนี้มันออกแรงเต็มที่ตีปีกบินไปบนท้องฟ้า ความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า แทบในชั่วพริบตาก็ไปถึงบริเวณข้างหน้าที่ไกลออกไปมาก ทำให้เฟิ่งจิ่วข้างหลังทำได้เพียงมองร่างเล็กๆ ของนกอินทรีอย่างเลือนราง
แต่น่าแปลก รอบนี้เธอไม่ตามไปต่อ แต่จ้องมองทิศทางที่นกอินทรีจากไปพลางยกมุมปากเผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมา กระทั่งไม่เห็นรเงาอย่างสมบูรณ์ถึงจะตามหลังไป
นกอินทรีไม่รู้ว่าระหว่างการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เธอโรยบางอย่างบนขนนกของมัน สัตว์เทวะแล้วอย่างไร? ขอแค่มาตอแยเธอ อินทรียังต้องกลายเป็นนกน้อย!
เธอไม่เชื่อหรอก ว่าครั้งนี้มันจะพาหนิงหลางหนีไปจากสายตาของเธอได้!
นกอินทรีข้างหน้าที่บินไปอย่างรวดเร็วหลังจากบินไปสักระยะเหมือนจะรู้สึกผิดปกติตรงไหน ปีกตีขยับหนักอึ้งเสียจนตีไม่ขึ้นสักเท่าไร ความเร็วก็ค่อยๆ ชะลอลง…
………………………………………………….