เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1137 ไม่ใช่ไข่นกอินทรี + ตอนที่ 1138 คืนไข่ให้ข้าเสีย
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1137 ไม่ใช่ไข่นกอินทรี + ตอนที่ 1138 คืนไข่ให้ข้าเสีย
ตอนที่ 1137 ไม่ใช่ไข่นกอินทรี + ตอนที่ 1138 คืนไข่ให้ข้าเสีย
ตอนที่ 1137 ไม่ใช่ไข่นกอินทรี
หนิงหลางเห็นเขตอาคมตรงหน้าแตกออก พลันเข้าไปอย่างยินดี “เฟิ่งจิ่ว ข้ารู้ว่าเจ้าจะมาช่วยข้า”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ยื่นมือไปดีดหน้าผากของเขา “เจ้าวิ่งเร็วที่สุดไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงโดนนกอินทรีจับไม่ถอยไปเล่า?”
“แหะ นี่ไม่เหมือนกัน! นกอินทรีสบโอกาสตอนข้าไม่ระวัง หากข้ารู้ต่อให้วิ่งก็จะวิ่งให้มันไล่ เอาล่ะๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ! ที่นี่ไม่ใช่ที่คนอยู่เลยจริงๆ” เขาเอ่ยขึ้นและมองไปรอบๆ ตรงหุบเหวรอบข้างลึกเสียจนไม่เห็นก้นบึ้ง จึงถอยกลับมาทันควัน
แอบคิดว่า ‘นกอินทรีตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่นึกว่าจะมาสร้างรังในสถานที่เช่นนี้’
แต่หันกลับไปคิดเสียหน่อยก็ปกติ ที่นี่สูงเพียงนี้ ทั้งยังแยกจากป่าไม้ทางนั้น นอกจากสัตว์มีปีก สัตว์ร้ายทั่วไปข้ามมาไม่ได้ สำหรับสัตว์ปีก ที่นี่มีเขตอาคมดวงจิตเป็นการป้องกันอย่างดียิ่ง
ทว่าสถานที่เช่นนี้เดาว่าคงเหมาะแค่ให้นกพวกนี้อยู่
“ไปเถอะ!” เฟิ่งจิ่วยื่นแขนไปลากเขามา แต่เมื่อสายตาเห็นไข่ที่อุ้มไว้ในอ้อมแขนของเขา ก็เลิกคิ้วขึ้นถามว่า “เจ้าคิดจะขโมยไข่นี่กลับไปหรือ?”
“หึ! นกอินทรีนี่ใช้ไม่ได้เลย บอกว่าจะจับข้ามาเป็นอาหารให้อินทรีน้อยที่จะเกิดมา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะขโมยไข่กลับไป ทำให้มันร้อนรนเสียจนหัวหมุน”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็มองไข่ที่เต็มไปด้วยลวดลาย เอ่ยว่า “นกอินทรีเป็นตัวผู้ จะออกไข่ได้อย่างไร? อีกอย่างไข่เหมือนจะไม่คล้ายไข่นกอินทรีเลยกระมัง?” ระหว่างพูดเธอก็รับมาพินิจมองโดยละเอียดจึงยิ่งมั่นใจ
“นี่ไม่ใช่ไข่ของอินทรีตัวนี้แน่ๆ แต่เป็นพันธุ์นกอินทรีจริง แม้ว่าลวดลายจะแปลกๆ ไปหน่อย” เธอกล่าวจบก็มองเขา พร้อมเอ่ยว่า “เจ้าจะเอาไปก็ได้ แต่ในนี้มีอสูรตัวน้อย เจ้าต้องใส่ใจปกป้อง ออกจากที่นี่ไปจะทำมันตกแตกไม่ได้”
หนิงหลางได้ยินคำพูดนี้ก็ดวงตาเป็นประกาย “วางใจเถอะๆ ข้าทำได้ ข้าจะให้มันฟักออกมาเองและพามันไปประหนึ่งเป็นลูกของข้าเลย”
มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุก เหลือบมองเด็กอ้วนท่าทางคึกคักโดยไม่พูดอะไรต่อไปอีก แค่บอกว่า “ไปเถอะ!” จากนั้นค่อยพาเขาร่อนขนนกเคลือบหลากสีออกจากที่นี่ไป
ก่อนหน้านี้หนิงหลางสลบและโดนจับมาที่นี่ ยามนี้มองลงไปจากกลางอากาศ สัตว์ร้ายในป่ามีมากมายและเหมือนจะรู้สึกถึงพวกเขาจึงเงยหน้าขึ้นมาจ้องมอง เมื่อได้สบกับดวงตาดุร้ายกระหายเลือด เขาก็ตัวสั่นงันงกทันที
“ทะ ที่นี่คงไม่ใช่รอบด้านในกระมัง? ทำไมสัตว์ร้ายในนี้ถึงมากกว่าตรงที่พวกเราอยู่ก่อนหน้านี้อีก?”
“หากรอบนอกแบ่งเป็นนอก กลาง ลึก สามระดับ ที่นี่ก็คือละแวกด้านในสุดของรอบนอก เป็นจุดใกล้รอบในที่สุด สัตว์ร้ายพวกนั้นไม่เพียงมีมากมายยังเป็นสัตว์ร้ายแปลกๆ ด้วย”
เฟิ่งจิ่วกล่าวจบก็ชำเลืองมองลงไป “ด้านนอกออกไปหน่อยยังได้เห็นคน ที่นี่เห็นคนได้ค่อนข้างน้อยแล้ว”
“เจ้าตามเข้ามาเช่นนี้ ไม่เจออันตรายเลยหรือ?” เขาแปลกใจเล็กน้อย ขณะกำลังพูดก็เห็นนกขายาวปากยาวขนสีเลือดฝูงหนึ่งโผล่มาเบื้องล่าง
“อ๊าก! อ๊าก…”
หนิงหลางกะพริบตาพลางร้องอุทานอย่างแปลกใหม่ “ขนของนกไม่นึกว่าจะเป็นสีเลือด ดูสิ คอของพวกมันไม่มีขนและยาวมาก เหมือนจะเห็นเลือดเนื้อตรงใต้คอได้เลย ขายาวๆ คู่นั้นก็เช่นกัน อุ้งเล็บคล้ายกรงเล็บภูตผี! น่าประหลาดนัก”
………………………………………………….
ตอนที่ 1138 คืนไข่ให้ข้าเสีย
“นั่นเป็นนกกินเนื้อ” เฟิ่งจิ่วกล่าวอย่างเย็นชา ชายตามองเขาและเสริมอีกประโยคว่า “ชอบคนอวบอ้วนชุ่มฉ่ำอย่างเจ้าโดยเฉพาะ”
“หา? เจ้าอย่าทำให้ข้ากลัวสิ” เขากอดไข่ในอ้อมแขนไว้แน่นพลางจ้องมองนกขายาวที่บินมาพวกนั้นอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งดึงกระบี่ยาวออกมา คิดจะรอฝูงนกขายาวเข้าใกล้ค่อยฟันออกไป
ทว่าในเวลานี้เสียงคำรามเกรี้ยวกราดพร้อมแรงกดดันระดับสัตว์เทวะก็ดังมาข้างหลังทั้งสอง แรงกดดันในเสียงคำรามกวัดแกว่งออกไปเช่นลายน้ำ ฝูงนกขายาวที่โถมไปหาเฟิ่งจิ่วกับหนิงหลางตกใจเสียจนกรีดร้อง ก่อนจะตีปีกจากไปโดยเร็ว
“เจ้ามนุษย์! เจ้ากล้าขโมยลูกของข้า! พวกเจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”
น้ำเสียงสะเทือนหูดังมาพร้อมไฟโทสะมากล้น เฟิ่งจิ่วหันกลับไปเห็นนกอินทรีโน้มโฉบมาทางพวกเขาด้วยความเร็วอันว่องไวยิ่ง จึงพาหนิงหลางมุ่งไปในป่าจากบนท้องฟ้าทันใด ใช้ต้นไม้เขียวชอุ่มในป่ามากันการโจมตีของอินทรี
“มันไล่ตามมา มันไล่มาแล้ว!”
หนิงหลางร้องอุทาน พลางยัดไข่เข้าไปซ่อนในอกเสื้อเป็นอย่างดี ก่อนจะโดนเฟิ่งจิ่วพาเข้าไปในป่าแทบจะทันที แล้วผลักเข้าไปในป่าไม้
“ไปเสีย!” เธอตะโกนไป มือออกแรงส่งเขาออกไปไกลหลายจั้งทำให้เขาออกห่างได้เร็วขึ้น เพราะเป็นสัตว์เทวะ เขาจึงรับและต้านทานแรงกดดันของสัตว์เทวะได้ไม่ไหว
หนิงหลางหันกลับไปตะโกน “ข้าไปแล้วเจ้าจะทำอย่างไร? เจ้าตัวคนเดียวจะไหวหรือ? มิเช่นนั้นข้าอยู่ช่วยเจ้าดีกว่า!” กล่าวจบยังจะวิ่งกลับไปช่วย
“นกอินทรีเป็นสัตว์เทวะ เจ้าต้านทานแรงกดดันและดวงจิตของมันไม่ไหวหรอก เจ้าอยู่ที่นี่ข้าต้องดูแลเจ้า วิ่งไปรวมกับพวกของต้วนเยี่ยเร็วเข้า พวกเขาน่าจะตามมาข้างหลัง”
หนิงหลางได้ยินเช่นนี้ก็ลังเลสักพัก เห็นนกอินทรีที่โฉบลงจากบนฟ้าปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงออกมาเช่นนั้น พลันรีบร้อนเรียกกลิ่นอายพลังวิญญาณ แล้ววิ่งไปในป่าด้วยฝีเท้าราวกับเหยียบสายฟ้า ยามนี้รองเท้าตามเมฆใต้เท้าของเขาใช้การได้อย่างดียิ่ง แม้สัตว์ร้ายต่างๆ คิดจะเข้าใกล้ ไม่ทันเข้าใกล้เขาก็ออกไปไกลแล้ว
“ผัวะ!”
“ฟิ้ว!”
เฟิ่งจิ่วในป่าไม้หันกลับไปมอง เห็นหนิงหลางวิ่งไปไกลถึงจะวางใจได้ ที่นี่ยังไม่ใช่รอบใน อันตรายที่เจอคงไม่ใหญ่นัก อีกอย่างเจ้าหนูนี่ยังกลัวตายมากๆ ประสาทสัมผัสต่ออันตรายยิ่งแข็งแกร่ง ทำให้เขาหนีไปเสียเองเธอจะสบายใจมากกว่า
ได้ยินเสียงและมองไปข้างหน้า ก็เห็นนกอินทรีบนฟ้าเก็บปีกโน้มโฉบมา ใบมีดลมดุร้ายน่ากลัวโจมตีมาจากหัวของมัน พุ่งต้านลมเข้าชนป่าไม้เบื้องล่าง
ระหว่างพุ่งลงมามันกางปีกตัดต้นไม้พวกนั้นขาดดุจกรรไกรหรือใบมีดคม เผยให้เห็นร่างสีแดงที่หลบซ่อนท่ามกลางแมกไม้
ทว่าเมื่อดวงตาแหลมคมและบ้าคลั่งของมันเห็นว่าข้างกายของเฟิ่งจิ่วไม่มีเจ้าเด็กอ้วนที่กอดไข่ไว้ จิตสังหารพุ่งพล่าน แล้วบินลงเข้าจู่โจม “เจ้ามนุษย์! คืนลูกมาให้ข้าเสีย!”
เฟิ่งจิ่วเขย่งปลายเท้าหลบไปเบาๆ “ลูกของเจ้า? อินทรีตัวผู้อย่างเจ้าออกไข่ได้ด้วยหรือ? ต่อให้ออกไข่ได้ก็ไม่ใช่ไข่พิลึกเช่นนั้น บนไข่กระจายไปด้วยแรงกดดันระดับสัตว์เทวะ แน่นอนว่าไม่ใช่ไข่ของเจ้า ไม่แน่เจ้าอาจขโมยมาจากที่ไหน?”
“คืนไข่มาให้ข้า!”
มันคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ปีกคมกริบปานดาบวาดใบมีดคมจู่โจมไปหาเฟิ่งจิ่วด้านล่าง อุ้งเล็บยื่นกางออกไปตะครุบเฟิ่งจิ่ว วาดเป็นรอยของสายลมสองสามเส้น
เฟิ่งจิ่วหลบจากการโจมตีของมัน เห็นร่องรอยปาดลึกสองสามเส้นที่รอยของสายลมฟันผ่านบนพื้นทิ้งไว้ จึงหลบไปอีกด้านอย่างรวดเร็วในทันที
………………………………………………….