เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1167 ชายชราคนนั้น + ตอนที่ 1168 สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งก็มีผู้อ่อนแอ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1167 ชายชราคนนั้น + ตอนที่ 1168 สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งก็มีผู้อ่อนแอ
ตอนที่ 1167 ชายชราคนนั้น + ตอนที่ 1168 สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งก็มีผู้อ่อนแอ
ตอนที่ 1167 ชายชราคนนั้น
“จะตามมาถึงที่นี่หรือไม่?” หนิงหลางเอ่ยถามอย่างกังวลใจ
“อาจจะใช่” เฟิ่งจิ่วมองพวกเขา “ดังนั้นพวกเจ้าเจออะไรต้องใจเย็น อยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง จะเป็นหรือตายแค่พริบตาเดียวเท่านั้น”
ได้ยินเช่นนี้ หัวใจของพวกเขาเย็นวาบแวบหนึ่ง รู้ว่าเรื่องราวร้ายแรง ด้วยเหตุนี้จึงนั่งล้อมวงหารือวิธีรับมือ
“พวกเขามุ่งไปทางยอดเขานั้น โชคดีว่าพวกเราไม่ได้ไปทางนั้น” ลั่วเฟยเอ่ยขึ้นขณะมองเฟิ่งจิ่ว เห็นอีกฝ่ายเก็บกลิ่นอายระดับกำเนิดวิญญาณทั้งหมดไป หากพวกเขาไม่รู้ว่าเขาบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณ ก็มองไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณแล้ว
“พักผ่อนเถอะ! ไม่ต้องหนีแล้ว หนีต่อไปโดนพบเข้าสถานการณ์จะยิ่งแย่ลง ทำตามวิธีรับมือที่พวกเราหารือกันเมื่อครู่เป็นพอ” เฟิ่งจิ่วพูดเปรย ตอนนี้ฟ้ายังไม่สว่าง ให้พวกเขานั่งพิงใต้ต้นไม้พักผ่อนไป
ทั้งสี่คนพยักหน้า ทุกคนนั่งพิงพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ครั้นผ่านไปหนึ่งชั่วยาม จู่ๆ กลิ่นอายทรงพลังก็ถาโถมเข้ามา แรงกดดันที่ทำให้คนไม่อาจเมินเฉยปกคลุมพวกเขาไว้ ทำให้พวกเขาตกใจตื่นขึ้นมากันหมด
อันที่จริงก็ตื่นตั้งนานแล้ว ถึงอย่างไรใครจะหลับลงในตอนนี้? เพียงแต่พวกเขาทุกคนเป็นคนฉลาด มีคนไหนบ้างแกล้งทำไม่เป็น?
“นั่นใคร?”
เฟิ่งจิ่วเอ่ยถามพลางมองไปกลางเวหา ตรงนั้นมีชายชราชุดเทาคนหนึ่งยืนอยู่บนท้องฟ้า ชุดคลุมสะบัดไหวท่ามกลางสายลม แรงกดดันที่แข็งแกร่งกระจายมาจากร่างของฝ่ายตรงข้าม แรงกดดันเช่นนั้นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังรับไม่ไหวแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง พวกของต้วนเยี่ยที่ลุกขึ้นมาด้านหลังจึงหน้าซีดเซียวเล็กน้อย เลือดลมในตัวปั่นป่วน เลือดทะลักออกจากปาก เหงื่อเม็ดเท่าถั่วไหลลงจากหน้าผาก รู้สึกราวว่ามีคนกำลังบีบคอของพวกเขาไว้ ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก
เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วก็แอบขบให้เลือดไหลจากมุมปาก จากนั้นรีบประสานมือคารวะอย่างยากลำบาก
“คะ คารวะผู้อาวุโส”
สีหน้าท่าทางของพวกเขาล้วนสะท้อนเข้าสู่สายตาของชายชรา เขายืนอยู่กลางอากาศพลางพินิจมองเด็กหนุ่มสองสามคนเบื้องล่าง เห็นว่าพวกเขามีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลังไม่ผิดปกติอะไร แต่ว่าเด็กหนุ่มสวมชุดแดงตรงหน้ากลับทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย ภายใต้อำนาจกดดันของเขา นึกไม่ถึงว่าจะยังรู้จักคารวะกัน
ดังนั้นเขาจึงเก็บแรงกดดัน ถามเสียงเข้มว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”
อีกฝ่ายเก็บแรงกดดันกลับ ประหนึ่งยกหินก้อนใหญ่ที่กดทับบนอกของพวกเขาออกไป ทำให้พวกเขาถอนหายใจทันควัน แต่ก็ไม่กล้าผ่อนคลายอารมณ์
หลังจากอีกฝ่ายเก็บแรงกดดันกลับไป พวกของต้วนเยี่ยทรุดนั่งบนพื้น สีหน้าขาวซีดเล็กน้อยเหมือนถูกทำให้กลัว ทรุดลงนั่งด้วยร่างกายสั่นเทิ้ม
มีเพียงเฟิ่งจิ่วที่พอค่อยยังชั่วแล้ว ก็ตอบกลับด้วยความเคารพ “เรียนผู้อาวุโส ผู้น้อยเป็นลูกชายตระกูลชั้นสูงที่มาฝึกวิชาเขตรอบนอกนี้ ฟ้ามืดแล้วจึงพักผ่อนกันในป่าขอรับ”
“ได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่” ชายชราถามอีกครั้ง สายตาหยุดบนร่างของเฟิ่งจิ่ว
“ผิดปกติ? ตอนพวกเราหลับไปก่อนหน้านี้คล้ายจะได้ยินเสียงหงส์ร้องขอรับ แต่แค่ครู่เดียวก็หายไป” หนิงหลางเช็ดคราบเลือดตรงมุมปากพลางเอ่ยตอบ
“ขอรับ ถูกต้องแล้ว ก่อนหน้านี้น่าจะมีคนทะลวงขั้น พวกเรายังได้ยินเสียงฟ้าร้องด้วย เหมือนจะมาจากทางนั้น” ซ่งหมิงพยักหน้ากล่าว พร้อมชี้ไปยังทิศทางที่พวกเขาเคยอยู่
ชายชราได้ยินเช่นนี้ก็หรี่ตาลง ถามว่า “ในเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง พวกเจ้าไม่สงสัยหรือ ไม่คิดจะเข้าไปดูเสียหน่อยหรือไร?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ขอรับ พวกเราไปดูมาแล้ว!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1168 สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งก็มีผู้อ่อนแอ
คนพูดคือลั่วเฟย เขามองชายชราพลางกล่าว “ผู้อาวุโส ท่านไม่รู้หรอก ที่นั่นเหมือนจะวางค่ายกลไว้ มีผู้ฝึกตนไม่น้อยล้อมที่นั่นไว้ พวกเรามีแค่สองสามคนไม่กล้าเข้าไปขอรับ”
“ไม่กล้าเข้าไป?” สายตาของชายชรามองผ่านร่างของพวกเขา เหมือนกำลังพิจารณาคำพูดของพวกเขา
ใบหน้าเจ้าเนื้อของหนิงหลางฉายรอยยิ้มซื่อๆ เขาเกาศีรษะบอกว่า “ขอรับ! ก่อนออกจากบ้านมาบิดาของข้ากำชับว่าอย่าไปเบียดเสียดในที่ที่คนเยอะๆ อย่าไปแย่งสิ่งของกับผู้อื่น ผู้อาวุโส ท่านมีเรื่องอะไรใช่หรือไม่?”
ได้ยินดังนี้ ชายชราจ้องมองหนิงหลางสักพักก่อนจะถาม “พวกเจ้าเห็นใครน่าสงสัยผ่านมาแถวนี้หรือไม่”
“คนน่าสงสัย?”
เฟิ่งจิ่วคิดเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “เหมือนจะมีคนหนึ่งขอรับ แต่เห็นคนคนนั้นไม่ชัด รู้แค่ว่าเป็นคนวัยกลางคนสวมชุดสีเทาขี่กระบี่ต่ำมากพุ่งผ่านไปในป่า ครู่เดียวก็ไม่เห็นเงาแล้ว พวกเรานึกว่าเป็นใครจึงไม่กล้าส่งเสียงขอรับ”
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปนิด ถามว่า “ไปทางไหน?” คนที่สามารถบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณเป็นคนวัยกลางคนนั้นพอยอมรับได้ ส่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าพวกนี้ สองสามคนในนั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังขั้นเริ่มต้น ส่วนเด็กหนุ่มชุดแดงเป็นระดับหลอมแก่นพลังขั้นกลาง
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่นำคนพวกนี้มาคิดรวมกับคนที่ตัวเองตามหาอยู่
เมื่อเห็นชายชราเหลือบมองมา ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อจากไป พวกเขามองหน้ากันแวบหนึ่งถึงจะนั่งลงใต้ต้นไม้ วิกฤตินี้ถือว่าคลี่คลายแล้วกระมัง?
“ฟ้าสว่างพวกเราค่อยไป” เฟิ่งจิ่วที่นั่งพิงต้นไม้เอ่ยปากบอก มองท้องฟ้าพลางกล่าว “พวกเจ้านอนเถอะ! ข้าจะคอยเฝ้า”
พวกเขามองแวบหนึ่ง คิดๆ แล้วกล่าวว่า “พวกเราก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ไปเสียตอนนี้เลยไม่ดีกว่าหรือ?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็แย้มยิ้ม “กลัวหรือ?”
“กลัว? เปล่าเลย แต่วรยุทธ์ของคนเมื่อครู่แข็งแกร่งมาก ไม่นึกเลยว่าพวกเราจะมองไม่ออก ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณแน่”
“อืม ไม่ใช่ระดับกำเนิดวิญญาณจริงๆ คนที่เข้ามาในเทือกเขาอเวจีได้ วรยุทธ์จะอยู่แค่ระดับกำเนิดวิญญาณหรือ?” เธอเอ่ยเสียงเบา มองแสงดาวเล็กๆ ที่ระยิบระยับบนท้องฟ้ามืดมิด แววตาอ่อนลงอย่างอดไม่ได้
เธอถึงระดับกำเนิดวิญญาณแล้ว แม้สัญญาสิบปียังมาไม่ถึง แต่เธอสามารถไปแปดจักรวรรดิใหญ่ได้แล้ว แต่ว่าก่อนหน้านั้น หลังออกจากที่นี่เธอต้องไปแคว้นระดับหนึ่ง แล้วพาแม่ของเธอกลับไปอยู่พร้อมหน้าพ่ออย่างสมเกียรติ เช่นนี้ถึงจะไปแปดจักรวรรดิใหญ่ได้อย่างวางใจ
พวกเขาได้ยินคำพูดนี้ หัวใจสั่นไหวเล็กน้อย ถามว่า “เหนือกว่ากำเนิดวิญญาณเป็นระดับอะไร?”
หากมองไปในแต่ละแคว้นเล็กใหญ่ แม้แต่ภายในแคว้นระดับหนึ่ง ผู้มีวรยุทธ์สูงสุดคือผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ เช่นนั้นระดับเหนือกว่าผู้ฝึกตนกำเนิดวิญญาณจะเป็นอะไร?
มีแรงกดดันและรัศมีอำนาจมากมายเฉกเช่นผู้แข็งแกร่งคนก่อนหน้านั้น? ประดุจว่าแค่หนึ่งสายตาและดวงจิตก็แข็งแกร่งเสียจนสังหารพวกเขาได้หรือ?
“เหนือกว่ากำเนิดวิญญาณเป็นระดับอะไร?” เฟิ่งจิ่วพึมพำเบาๆ ผ่านไปนานถึงค่อยยกมุมปากยิ้มเอ่ย “ในเมื่อตอนนี้ยังไม่ได้สัมผัส บอกไปก็เปล่าประโยชน์ วันหลังเจอย่อมรู้แน่นอน”
เสียงของเธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า “อันที่จริง ในแปดจักรวรรดิใหญ่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าระดับกำเนิดวิญญาณ อย่างคนเมื่อครู่มีกำลังเหนือปกติเช่นนั้นจะต้องมีฐานะไม่ธรรมดาเป็นแน่ แต่คนเช่นนี้มีไม่มากนัก ตรงกันข้าม สถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งมากมาย ผู้อ่อนแอก็จะเยอะมากเช่นกัน อย่างไรเสียคนที่ไม่อาจเห็นกันได้ทั่วไปก็ล้วนมีพลังไม่ธรรมดาเช่นผู้แข็งแกร่งคนเมื่อครู่นี้”
………………………………………………….