เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1209 น้ำยาทำลายศพ + ตอนที่ 1210 กลับไปแคว้นเหินเวหาอีกครั้ง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1209 น้ำยาทำลายศพ + ตอนที่ 1210 กลับไปแคว้นเหินเวหาอีกครั้ง
ตอนที่ 1209 น้ำยาทำลายศพ + ตอนที่ 1210 กลับไปแคว้นเหินเวหาอีกครั้ง
ตอนที่ 1209 น้ำยาทำลายศพ
ร่างสีแดงเดินออกมาทำให้ทุกคนด้านล่างที่เดิมทีมองอย่างเฉยชาวิ่งเข้ามาทันควัน
“ภูตหมอ! เป็นภูตหมอ! ภูตหมอออกมาแล้ว!”
น้ำเสียงประหลาดใจดังขึ้น ผู้ฝึกตนชั้นล่างที่จะมาขอยาพวกนั้นพากันปรี่เข้ามา แต่ไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกปี้ซานขวางไว้
“ภูตหมอ ขอร้องท่านช่วยหลานชายของข้าเถอะ! ช่วยหลานชายข้าด้วย!”
มือหนึ่งของหญิงชราอุ้มเด็กน้อยไว้ อีกข้างหนึ่งจะไปดึงเฟิ่งจิ่ว ทว่าทันใดนั้นกริชส่องประกายเย็นเยียบกลับมาปรากฏในมือได้อย่างไรไม่รู้และแทงไปทางเฟิ่งจิ่วอย่างโหดเหี้ยม ขณะเดียวกันเด็กน้อยอายุเจ็ดแปดขวบที่ถูกหญิงชราอุ้มไว้ในอ้อมแขนก็กระโจนมา ขวดเล็กๆ ใบหนึ่งจากในมือของเด็กน้อยถูกเปิดฝาและสาดไปหาเฟิ่งจิ่วตรงหน้า
ปี้ซานตกใจจึงร้องอุทานเสียงหลง “นายท่านระวัง!” ขณะคิดจะเข้าไปกลับถูกแรงหนึ่งสะบัดออก ร่างกายถอยไปไกลหลายจั้ง
ระหว่างหญิงชรากระโจนมาเฟิ่งจิ่วก็เตะออกไป ขณะเดียวกันยังสะบัดแขนเสื้อผลักปี้ซาน ส่วนตนเองถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกสิ่งที่เด็กน้อยสาดมา
สิ่งนั้นปล่อยควันขาว กระเด็นลงพื้นเกิดเสียงซ่าๆ แม้แต่พื้นยังถูกกัดกร่อนเป็นรู เฟิ่งจิ่วที่ถอยไปเห็นภาพเช่นนั้นแววตายิ่งเยียบเย็น สายตาเย็นชามองเด็กน้อยที่คิดจะพุ่งมา เวลาต่อมาเข็มเงินในมือก็ยิงออกไป
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
“อื้ม!”
เข็มเงินแทงเข้ากลางหว่างคิ้ว ทิ้งไว้เพียงรอยเลือดแดงฉาน เขาตาเบิกโพลงร่างกายแข็งทื่อล้มลงไป จากมีชีวิตเป็นตายเพียงเวลาชั่วครู่
“กรี๊ด!”
หญิงชราตะโกนลั่นและพุ่งเข้าไปอีกครั้ง เห็นนางแววตาดุร้าย จิตสังหารกระหายเลือดพุ่งพล่านทั่วร่าง คนที่ไม่รู้ยังนึกว่ามีความแค้นอะไรกับเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วยืนไม่ขยับมองหญิงชรากระโจนเข้ามา กระทั่งเข้ามาใกล้ตรงหน้าถึงจะลงมือทันที กริชเล่มหนึ่งเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งรับด้วยความเร็วปานสายฟ้า กลิ่นอายพลังวิญญาณแข็งแกร่งที่แฝงไว้บนกริชทำให้หญิงชราคิดจะหลบก็หลบไม่ได้
“ฟิ้ว!”
“อื้ม!”
กริชที่แฝงด้วยกลิ่นอายรุนแรงทะลุผ่านตรงหัวใจของหญิงชรา แล้วแทงเข้าเสาด้านหลังลึกลงเนื้อไม้สามเฟิน
ร่างของหญิงชราที่พุ่งเข้ามาแข็งทื่อไปเพราะเหตุนี้ ปากอ้าเหมือนไม่กล้าเชื่อว่าตนเองจะถูกฆ่าง่ายดายเช่นนี้
“นายท่าน ข้าน้อยบกพร่องในหน้าที่ ขอนายท่านโปรดลงโทษ!”
ในที่สุดปี้ซานที่ตอบโต้กลับมาก็เข้าไปคุกเข่ากระแทกพื้นด้วยความรวดเร็ว เขาคุ้มกันไม่ดีทำให้นายท่านเกือบถูกลอบสังหาร ทั้งหมดเป็นเพราะเขา
ผู้ฝึกตนที่ประดังกันเข้ามาพวกนั้นตกตะลึงเพราะความชุลมุนวุ่นวาย กลางวันแสกๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าแทงสังหารภูตหมอในเมืองหลวง? อยากตายหรือไร!
เฟิ่งจิ่วสีหน้าดุจน้ำแข็ง ก้าวเข้าไปช้าๆ ดึงกริชที่ปักเสาออก แล้วเอ่ยเสียงเย็น “ดูซิว่าตามตัวของพวกเขามีเบาะแสอะไรหรือไม่”
“ขอรับ”
ปี้ซานรีบร้อนขานรับ เข้าไปค้นหากลับไม่พบเบาะแสอะไรเลย เพียงพบยาพิษจากฟันของพวกเขา เห็นเช่นนี้ก็รายงานว่า “นายท่าน สองคนนี้น่าจะเป็นหน่วยกล้าตาย ซ่อนยาพิษไว้ซอกฟัน ตามร่างกายไม่มีเบาะแสอะไรขอรับ”
“ลากไปจัดการเสีย” เฟิ่งจิ่วหมุนตัวเข้าไปข้างใน ในใจกำลังคิดว่าใครต้องการเอาชีวิตเธอ? ซ้ำยังใช้น้ำยาทำลายศพ
น้ำยาทำลายศพเป็นยาพิษที่ละลายศพกลายเป็นน้ำได้แหมือนกัน ทำให้คนเป็นเสียโฉมตาบอด ใครคิดจะจัดการเธอกันแน่?
………………………………………………….
ตอนที่ 1210 กลับไปแคว้นเหินเวหาอีกครั้ง
เรื่องที่เฟิ่งจิ่วถูกโจมตีในโรงเตี๊ยม ผู้นำตระกูลทุกกลุ่มอำนาจในเมืองได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าทำร้ายภูตหมอถึงที่นี่? ใครช่างใจกล้าเช่นนี้?
หลังจากตกตะลึงพวกเขามายังโรงเตี๊ยม คิดจะมาเยี่ยมเยียน มาถึงที่นี่ก็เห็นหัวหน้าตลาดมืดอยู่ในโรงเตี๊ยมแล้ว ผู้ครองแคว้นส่งคนเข้ามาหาก่อนพวกเขาก้าวหนึ่ง ยามนี้จึงคิดจะกลับไป
เพราะเกิดเรื่องเช่นนี้ โรงเตี๊ยมจึงถูกคนของผู้ครองแคว้นกวาดล้างพื้นที่ เหลือแต่พวกของเฟิ่งจิ่วสองคนนายบ่าว เจ้าของโรงเตี๊ยมไม่กล้าพูดอะไร ถึงอย่างไรภูตหมอเกือบจะเกิดเรื่องในโรงเตี๊ยมของพวกเขา ก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน
ตอนนี้โรงเตี๊ยมหลังจากเก็บกวาดก็ไม่มีผู้ไม่เกี่ยวข้อง แม้เข้าโรงเตี๊ยมยังต้องผ่านการตรวจสอบ โชคดีพวกเขามีชื่อเสียงในเมืองอยู่บ้าง ทหารอารักขาไปรายงานข้างในก็ให้พวกเขาเข้าไปแล้ว
“ภูตหมอ พวกเราได้ยินว่าวันนี้ท่านถูกโจมตี จึงรีบมาเยี่ยมเยียนเป็นพิเศษ ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง? ใครกันใจกล้าเพียงนี้ถึงกล้าสังหารท่านภูตหมอ?”
“ทุกท่านช่างมีน้ำใจ ข้าไม่เป็นอะไร” เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเชิญพวกเขานั่งลง แล้วสั่งเสี่ยวเอ้อยกน้ำชา
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ทุกคนพยักหน้า เผยรอยยิ้มและนั่งลง
ในที่สุดก็หาโอกาสคุยกับนางได้ แม้รู้ว่าขอยาอายุวัฒนะไม่ได้ แต่จะพูดคุยสร้างความคุ้นเคยเสียหน่อยก็เป็นเรื่องดี
พวกเขากับหัวหน้าตลาดมืดอยู่ด้วยกัน กินข้าวดื่มเหล้าในโรงเตี๊ยม กระทั่งเวลาช่วงเย็นถึงจะออกไปอย่างสุขใจ
เฟิ่งจิ่วกลับห้องไปพักผ่อน จวบจนวันต่อมาฟ้าสว่างก็ออกไปเงียบๆ ทำให้คนที่อยากมาส่งเธอพวกนั้นกระโจนเข้าหาความว่างเปล่า
ตั้งแต่เมื่อวานนายท่านเกือบโดนจู่โจม ปี้ซานโทษตนเองมาตลอด แม้ว่าเขาเดินทางข้างนอกมาหลายปี ไม่คิดว่าจะมีคนใช้เด็กกับหญิงชรามาฆ่าคน ทำให้เขายากจะป้องกัน
ไม่กล้าจินตนาการเลยจริงๆ หากตอนนั้นนายท่านหลบไม่เร็วพอ ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร?
ทว่านายท่านกลับไม่พูดอะไร ไม่มีแม้แต่คำพูดตำหนิ ทำให้เขายิ่งโทษตนเอง หากนายท่านด่าว่าเขาเสียหน่อย ในใจอาจสบายใจขึ้นบ้าง
“นายท่าน เมื่อวานข้าบกพร่องในหน้าที่ ท่านลงโทษข้าเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วตรงหน้าได้ยินคำพูดนี้ก็หันกลับไปมองเขา บอกว่า “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องโทษตนเอง คนที่คิดจะฆ่าข้าใช้คนแก่กับเด็ก แม้แต่ข้ายังไม่คาดคิด ทีหลังระวังหน่อยเป็นพอ”
เขาได้ยินเช่นนี้ก็ก้มหน้าลงทันควันและขานรับ “ขอรับ”
เห็นนายท่านตรงหน้ามายังพื้นที่ว่างเปล่า สะบัดแขนเสื้อไปในอากาศเรือเหาะลำหนึ่งก็ปรากฏ ทั้งสองขึ้นไปบนอากาศและก้าวเข้าไปในเรือเหาะ ก่อนจะมุ่งหน้าไปบนท้องฟ้า…
ผ่านไปหนึ่งเดือน แคว้นเหินเวหา
เช้าตรู่วันนี้เฟิ่งจิ่วพาปี้ซานมายังคฤหาสน์ เข้าไปในค่ายกลก็เห็นพวกของเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาวิ่งมาหาเธออย่างเริงร่า
“นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว!”
เหลิ่งหวามายังข้างกายนาง เอ่ยว่า “นายท่าน ท่านไปตั้งปีกว่า พวกเรารออยู่ที่นี่มาปีกว่าแล้ว หวังว่าท่านจะกลับมา”
“นายท่าน” คนอื่นๆ คารวะและขานเรียกด้วยความเคารพ เห็นนางกลับมาพวกเขาต่างดีใจยิ่งนัก
แต่คนคนนั้นข้างหลังนายท่านเป็นใคร? ทำไมถึงตามนายท่านมาที่นี่?
เฟิ่งจิ่วสังเกตเห็นสายตาของพวกเขาก็ยิ้มๆ บอกพวกเขาว่า “ข้าเพิ่งกลับมาจากแคว้นสวรรค์บันดาล มาถึงก็มาที่นี่ก่อนเลย มาสิ ข้าจะแนะนำพวกเจ้า คนนี้คือปี้ซาน”
………………………………………………….