เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1243 ไม่เห็นหน้า + ตอนที่ 1244 หยั่งเชิง
ตอนที่ 1243 ไม่เห็นหน้า + ตอนที่ 1244 หยั่งเชิง
ตอนที่ 1243 ไม่เห็นหน้า
ชายชราได้ยินก็ประหลาดใจ รีบขานรับ “ขอรับ”
“ออกไปเถอะ!” อีกฝ่ายโบกมือให้สัญญาณ
ชายชราเห็นดังนั้นจึงพาเฟิ่งจิ่วคารวะและถอยออกไป จนกระทั่งเดินห่างไปสักระยะ เขามองเฟิ่งจิ่วหัวจรดเท้า แล้วกล่าวตรงๆ ว่า “เจ้าช่างโชคดีจริงๆ คนที่เรือนด้านนอกตั้งเท่าไรอยากเข้าไปเรือนด้านในล้วนทำไม่ได้ เจ้าเพิ่งมาครึ่งวันพ่อบ้านก็ให้เจ้าเข้าไปเรือนด้านในแล้ว มองไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าเป็นคนมีวาสนาถึงเพียงนี้เลย”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ฉีกยิ้ม ก่อนจะเกาศีรษะอย่างเขินอายเล็กน้อย “ท่านพ่อบ้านตามีแววขอรับ” เขาสายตาดีไม่ใช่หรือ ถึงรู้ว่าต้องส่งเธอไปรดน้ำดอกไม้กวาดพื้นที่เรือนด้านใน เทียบกับฮุยหลางแล้ว พ่อบ้านคนนี้พึ่งพาได้มากกว่า! แต่เขามีที่มาอย่างไรกันแน่ ดูจะแตกต่างจากคนทั่วไป?
เธอจึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอา พ่อบ้านเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ข้างนอกเลยนะขอรับ”
“อะไรเรียกว่าเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ข้างนอก? เดิมทีท่านพ่อบ้านเป็นคุณชายสูงศักดิ์น่ะสิ!” ชายชรากล่าวจบ ก็กดเสียงเบาลงเอ่ยอีก “อาจะบอกเจ้านะ พ่อบ้านของจวนเราคนนี้แซ่หยาง นามเดียวว่าหย่ง เป็นคุณชายรองของตระกูลหยางในเมืองหลวง แต่ติดตามนายท่านเรามาตลอด เป็นพ่อบ้านในจวนมาหลายปีแล้ว”
“โอ้ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง!” เป็นคุณชายดีๆ ไม่เอา วิ่งมาเป็นพ่อบ้านให้เซวียนหยวนโม่เจ๋อหรือ ช่างน่าแปลกจริงๆ
“เอาละๆ ไปเถอะ! ข้าจะพาเจ้าไปหาผู้ดูแลเรือนด้านใน ผู้ดูแลเรือนด้านนอกคืออาเอง แต่เรือนด้านในอาไม่ได้ดูแล เจ้าต้องฉลาดมีไหวพริบหน่อย ถึงเวลานั้นเกิดเรื่องขึ้นอาก็ช่วยเจ้าไม่ได้”
“ขอรับ ข้าทราบแล้วท่านอา วางใจเถอะ!” เธอยิ้มรับ แล้วเดินตามเขาไปข้างใน
เช้าตรู่วันต่อมา เธอตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก็ไปรดน้ำสวนดอกไม้ จากนั้นถือไม้กวาดกวาดพื้นเป็นพักๆ พลางมองรอบข้างอยู่บ่อยครั้ง ที่เขตเรือนด้านนอกมีสาวใช้ด้วย ทว่าเขตเรือนด้านในกลับเป็นผู้ชายเหมือนกันหมด
ไม่เข้าใกล้ผู้หญิงจริงๆ หรือ นึกไม่ถึงว่าแม้แต่สาวใช้อะไรยังไม่มาเดินไปมาในเขตเรือนด้านใน เช่นนั้นก็ใช้เด็กรับใช้ชายทั้งหมด?
เธอแอบนึกแปลกใจ กวาดพื้นพลางมุ่งไปทางลานบ้านด้านหน้าเรือนหลัก เพียงแต่ไม่ทันได้เข้าใกล้ก็โดนไล่เสียแล้ว
“นี่เป็นเรือนของนายท่าน มีคนปัดกวาดโดยเฉพาะ เจ้าไปตรงอื่นเสีย” องครักษ์เอ่ยเสียงเข้มขณะจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่ถือไม้กวาด
“อ้อ” เฟิ่งจิ่วตอบรับ ชะโงกศีรษะมองเล็กน้อยพลางไปยังบริเวณอื่น เมื่อมาถึงสวนดอกไม้ มองซ้ายขวาไม่เห็นมีคน จึงมานั่งตรงบันไดหิน
บ้านของเธอไม่คุ้มกันเข้มงวดเช่นนี้ จะเข้าใกล้ตัวเขายากเหลือเกินจริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย เป็นเช่นนี้ต่อไปก็เสียเวลาไม่ใช่หรือ?
เธอเอาสองมือเท้าคางครุ่นคิด ดวงตากลอกกลิ้งไปมา หรือว่าคืนนี้จะไปสำรวจดูเสียหน่อย?
แต่ว่าในจวนนี้ นอกจากผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ ก็เหมือนจะมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากอยู่สองสามคน น่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขึ้นไปคอยดูแลจวนพำนักแห่งนี้ หากทำไม่ดีถูกเข้าใจว่าเป็นมือสังหารและถูกฆ่าตาย ก็ไม่คุ้มเลยไม่ใช่หรือ?
ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาทางนี้ เธอรีบร้อนลุกขึ้น กระโดดสองสามก้าวมาหมอบลงในพุ่มดอกไม้ ถอนหญ้าไปพลางสังเกตผู้มาใหม่ไปพลาง
“ข้าได้ยินว่าไม่มีข่าวของภูตหมอเลย สองสามวันมานี้นายท่านจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี? ข้าเลยถูกนายท่านลงโทษให้ไปล้างส้วมเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้? เริ่นเสียงกำลังทำอะไรอยู่? ตัวเขาอยู่ห่างไปไกลนายท่านจัดการไม่ได้ แต่ข้าอยู่ใกล้กว่า กลายเป็นที่ระบายอารมณ์สำเร็จรูปไปแล้ว”
เสียงตัดพ้อของฮุยหลางดังมา เฟิ่งจิ่วได้ฟังแล้วยิ้มอย่างกลั้นไม่ไหว
………………………………………………….
ตอนที่ 1244 หยั่งเชิง
อย่างไรพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะมาถึงที่นี่แล้ว หนำซ้ำยังแอบเข้ามาในจวนเรียบร้อย!
“นี่ เจ้าทำอะไรอยู่ตรงนั้น?” ฮุยหลางสังเกตเห็นร่างที่หมอบอยู่หน้าพุ่มดอกไม้ จึงขึ้นเสียงถามไป
เฟิ่งจิ่วหันมาฉีกยิ้มให้ “ข้ากำลังถอนหญ้าขอรับ!”
“เจ้าเด็กคนนี้?” ฮุยหลางถลึงตา “เจ้าเป็นคนเรือนด้านนอกไม่ใช่หรือ ทำไมถึงวิ่งมาเรือนด้านในเสียแล้ว?”
“ท่านพ่อบ้านให้เข้ามาขอรับ ข้ารับผิดชอบกวาดพื้น รดน้ำดอกไม้ และก็ถอนหญ้า”
“หยางหย่งให้เจ้าเข้ามารึ?” ฮุยหลางพึมพำอย่างแปลกใจ “คนมาใหม่ปะปนเข้ามาในเรือนด้านในได้ตั้งแต่เมื่อไร?”
อิ่งอีที่อยู่อีกด้านเห็นก็เอ่ยว่า “เมื่อวานเจ้าก็ลากเขาเข้ามาไม่ใช่หรือ?”
“นั่นไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันอะไรเล่า” เขาแย้ง เหลียวมองเฟิ่งจิ่วก่อนละสายตาออกไป “คนที่ผ่านตาหยางหย่งมาแล้วย่อมเชื่อถือได้ ไปกันเถอะ!”
ฮุยหลางเก็บสายตากลับไปไม่สนใจอีก เช่นนั้นก็ถูก หยางหย่งเป็นพ่อบ้าน ภายใต้การดูแลของเขา ตลอดมาในจวนไม่เคยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์ คนที่เขาให้เข้ามาได้น่าจะไม่เป็นอะไร
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาจากไป แล้วหมอบกลับลงไปถอนหญ้าบ้างไม่ถอนบ้าง
อยู่ที่เขตเรือนด้านในมาสองสามวัน เฟิ่งจิ่วไม่ได้เจอเซวียนหยวนโม่เจ๋อเลย นี่ทำให้เธออดใจไม่ไหวเล็กน้อย วันนี้ยังไปกวาดพื้นถึงด้านหน้าเรือนนั้น คิดว่าอย่างไรเขาก็น่าจะออกมา หรือว่าตอนเขาออกมาเธอดันไม่เห็น?
เวลานี้เธอไม่รู้ว่าอีกด้านหนึ่ง ในลานบ้านแห่งหนึ่งของเขตเรือนด้านใน หยางหย่งมองชายชราตรงหน้าและถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“มาที่เขตเรือนด้านในสองสามวัน บริเวณที่ไปบ่อยที่สุดคือเรือนหลักของนายท่าน เวลาไม่มีคนจะขี้เกียจ คนผ่านมาค่อยหยิบไม้กวาดทำเสแสร้ง ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ก็หลับอยู่ในพุ่มดอกไม้ วันนี้ยังไปกวาดพื้นหน้าเรือนของนายท่านแต่เช้าอีก มองในขั้นแรกตัดสินได้ว่าคนคนนี้มีปัญหา อีกอย่างคือต้องมาหานายท่านเป็นแน่”
ในน้ำเสียงทุ้มต่ำของชายชรามีความเข้มงวด เขามองหยางหย่งแวบหนึ่ง “ต้องกำจัดหรือไม่?”
หยางหย่งได้ยินก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน ถามกลับว่า “เห็นเขาปฏิปักษ์กับใครหรือไม่”
“ตอนนี้ไม่มี แต่เจตนายากจะหยั่งรู้”
“กำลังวรยุทธ์เล่า สัมผัสไม่เจอหรือ?” หยางหย่งถามอีกครั้ง
“ไม่เลย อาจเป็นวิชายุทธ์ที่ฝึกฝนจนเก็บซ่อนไว้ได้ จึงไม่รู้สึกถึงกำลังวรยุทธ์บนร่างของเขา”
หยางหย่งได้ยินดังนี้ก็พยักหน้า “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปเถอะ! เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”
เห็นเช่นนี้ ชายชราจึงพยักหน้า ก่อนจะหมุนตัวออกไป
หลังจากหยุดชะงักเล็กน้อย หยางหย่งลุกขึ้นเอามือไพล่หลังเดินไปด้านอก อ้อมมวลดอกไม้และภูเขาจำลองทะลุผ่านเขตที่พักจนมาถึงบริเวณที่ไม่ไกลจากเรือนหลัก เห็นว่าร่างนั้นกำลังกวาดพื้นเดี๋ยวกวาดเดี๋ยวหยุด ท่าทางเกียจคร้าน
เขามองเด็กหนุ่มพลางขยับมือเล็กน้อย ยามนี้เข็มเงินเล่มบางดุจเส้นผมจู่โจมออกไปอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ตรงไปทางเด็กหนุ่มอย่างไร้กลิ่นไร้เสียง
เขาเฝ้ามองอยู่เงียบๆ ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มท่าทางเกียจคร้านเพียงเบี่ยงกายหลบเล็กน้อยโดยไม่หันหน้ามา เข็มเงินจึงพุ่งผ่านแก้มไป แล้วฝังเข้าในลำต้นของต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกล จมลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามเฟิน
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนั้น แววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หันกายมามอง “ท่านพ่อบ้าน?”
หยางหย่งเห็นพยักหน้า เดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “อยู่ที่นี่คุ้นชินหรือยัง?” ประสาทสัมผัสที่เหนือความคาดหมายของเด็กหนุ่มทำให้เขาประหลาดใจ ถึงขั้นไม่หันหน้ามาก็หลบเข็มเงินที่เขาส่งไปได้อย่างง่ายดาย
เด็กหนุ่มเช่นนี้จะมาจากชนบทได้ที่ไหน?
………………………………………………….