เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1305 ท่านอาหาน + ตอนที่ 1306 ไฟโทสะ
ตอนที่ 1305 ท่านอาหาน + ตอนที่ 1306 ไฟโทสะ
ตอนที่ 1305 ท่านอาหาน
ในวันต่อๆ มา ทั้งสองคนแทบพูดได้ว่าตัวติดกันทั้งวัน ยามเซวียนหยวนโม่เจ๋อจัดการงานต่างๆ เฟิ่งจิ่วจะจัดการสิ่งของให้เขาหรืออ่านหนังสืออยู่ข้างๆ กัน ไม่ก็นอนหลับบนตั่งนอน
วันคืนทั้งอบอุ่นและเงียบสงบ ภายในจวน ทุกคนแทบจะมั่นใจได้แล้วว่าสตรีชุดแดงจะมาเป็นนายหญิงในจวนของพวกเขา
กระทั่งผ่านไปสองเดือน ในวันหนึ่ง
“นายท่าน ท่านอาหานกลับมาแล้ว กำลังรอท่านในห้องหนังสือขอรับ” อิ่งอีเข้ามารายงาน ขณะเดียวกันก็เหลือบมองเฟิ่งจิ่วอย่างไม่ทิ้งร่องรอย
“อืม” เซวียนหยวนโม่เจ๋อรับคำ บอกเฟิ่งจิ่วว่า “ข้าไปครู่เดียวจะกลับมา”
เฟิ่งจิ่วนอนอ่านหนังสือบนตั่งนอนพลางกินองุ่นที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อปอกเปลือกให้เรียบร้อย ครั้นได้ยินคำพูดของเขาก็ขานรับ แล้วพลิกหน้าหนังสืออ่านต่อ
อิ่งอีตามเซวียนหยวนโม่เจ๋อออกไป ส่วนฮุยหลางรั้งอยู่ต่อ เขามองเฟิ่งจิ่วที่กำลังอ่านหนังสือด้วยท่าทางสบายใจ ก้าวเข้าไปอย่างทนไม่ได้ “นายท่านได้ท่านอาหานเลี้ยงมาเลยก็ว่าได้”
“โอ้?” เธอเงยหน้ามองฮุยหลาง “ท่านอาหานคนนี้ไม่ธรรมดาเลยรึ?”
“ใช่ แม้แต่นายท่านก็เรียกเขาว่าท่านอาหาน”
เธอเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “ข้าอยู่ในจวนมาสองเดือนกว่าแล้ว ทำไมที่ผ่านมาไม่เคยพบเขาเลย”
“ท่านอาหานรับผิดชอบดูแลคุกมืด เป็นสถานที่ที่ใช้ลงโทษผู้กระทำผิดและฝึกฝนองครักษ์ลับ ปกติไม่มีเรื่องใหญ่อะไรเขาจะไม่ออกจากคุกมืด ครั้งนี้เดาว่าคงได้ยินข่าวว่าภูตหมอมาถึงจวนจึงเข้ามา”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ ดวงตาฉายแววเล็กน้อย มองฮุยหลางที่พูดจาดูลังเล หัวใจของเธอสั่นไหวเบาๆ แต่ก็ไม่ไปใส่ใจ พลิกหนังสืออ่านต่อไป เสียแต่รอบนี้อ่านไม่เข้าหัวแล้ว
ฮุยหลางอ้าปากอยากพูดอะไร กลับไม่รู้จะพูดอย่างไร สุดท้ายก็ปิดปากทันที
อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องหนังสือ
“ท่านอาหาน ท่านกลับมาทำไม หรือว่าทางนั้นเกิดเรื่องอะไร?” เมื่อเข้าไปในห้องหนังสือแล้วเห็นชายวัยกลางคนนั่งอยู่ตรงโต๊ะ เซวียนหยวนโม่เจ๋อก็ถามขึ้น
“อาเจ๋อ ข้าได้ยินว่ามีผู้หญิงที่ภูมิหลังไม่ชัดแจ้งมาที่จวน มีเรื่องเช่นนี้หรือไม่?” ชายวัยกลางคนถาม คำเรียกเซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่ใช่นายท่านหรือคุณชาย แต่เรียกชื่อตรงๆ เหมือนผู้อาวุโสเรียกผู้น้อย
“ท่านอาหาน นางมีนามว่าเฟิ่งจิ่ว ไม่ใช่ผู้หญิงที่ภูมิหลังที่มาไม่ชัดเจน”
เขานั่งลงตรงโต๊ะ เอ่ยเสียงเข้มเล็กน้อย “ข้ากับนางรู้จักกันเมื่อสองสามปีก่อน นางเป็นหญิงที่ข้ารัก ภายหน้าจะเป็นนายหญิงของจวน ข้าไม่หวังให้ท่านอาหานมีอคติอะไรต่อนาง”
ท่านอาหานได้ยินแล้วแววตาเคร่งขรึม สีหน้าไม่น่าดูอยู่บ้าง “อาเจ๋อ ตั้งแต่เล็กข้างกายเจ้าไม่เคยมีผู้หญิง จึงไม่เข้าใจผู้หญิง ผู้หญิงล้วนจอมปลอมกันหมด สิ่งที่พวกนางหมายตามีเพียงฐานะของเจ้าและทุกอย่างที่เจ้าครอบครอง ไม่ได้รักเจ้าจากใจจริง”
“พอแล้วท่านอาหาน!”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อผุดลุกขึ้นด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ขอบคุณอย่างยิ่งในความเป็นห่วงของท่านอา หากท่านอาหานไม่มีธุระอื่น ก็รีบกลับไปคุกมืดเสียเถอะ!” กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อก้าวยาวๆ ออกไป
เห็นเขาสะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความโกรธ อาหานที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือกำหมัดแน่น ในใจเหมือนมีไฟลุกโชน แววตามืดทะมึน กลิ่นอายโหดเหี้ยมกระจายไปทั่วร่าง ทำให้เขาดูน่ากลัวยิ่งนัก
ในมุมมืด องครักษ์ลับสองสามคนเห็นเช่นนี้ก็ไม่กล้าหายใจ กระทั่งผ่านไปสักพัก เขาลุกขึ้นเดินออกจากห้องหนังสือไปแล้ว องครักษ์ลับถึงจะถอนหายใจเบาๆ
ดูท่าทางท่านอาหานจะไม่เห็นด้วยเรื่องที่นายท่านชอบพอเฟิ่งจิ่ว!
………………………………………………….
ตอนที่ 1306 ไฟโทสะ
ถึงแม้นายท่านเห็นท่านอาหานเป็นผู้อาวุโส ทว่าเรื่องเช่นนี้นายท่านน่าจะไม่ฟังคำพูดของเขา อีกอย่างสำหรับพวกเขาแล้ว นายท่านกับเฟิ่งจิ่วเหมาะสมกันมากจริงๆ นายท่านที่ปกติให้ความรู้สึกว่าเย็นชาไร้น้ำใจ มีเพียงอยู่ต่อหน้าเฟิ่งจิ่วเท่านั้นถึงจะแสดงด้านที่อ่อนโยนออกมา
ด้านนั้นเป็นสิ่งที่เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยเห็น พวกเขาติดตามข้างกายนายท่านมานานเพียงนี้ น้อยนักที่จะเห็นเขาชอบพอคนคนหนึ่งเช่นนี้
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกลับมาถึงในเรือน เห็นคนข้างในเอาหนังสือปิดหน้าคล้ายว่ากำลังหลับ จึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วเหลือบมองฮุยหลาง “ทำไมไม่รู้จักไปหยิบผ้าห่มอะไรมาคลุมให้นาง?”
“เอ่อ…”
ฮุยหลางเกาศีรษะ “เรื่องนี้ เมื่อครู่ข้าไม่ทันคิด หรือจะให้ข้าไปหยิบตอนนี้เลยขอรับ?” กล่าวแล้วก็รีบร้อนเดินไปในห้อง หยิบผ้าห่มผืนหนึ่งมายื่นให้เจ้านาย
ขณะที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อคลุมผ้าห่มให้ ก็เห็นว่าหนังสือที่ปิดอยู่บนใบหน้าถูกเฟิ่งจิ่วหยิบออกไป เผยให้เห็นรอยยิ้มอิ่มเอมใจ “ข้ายังไม่หลับ”
ได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มนั้นแล้ว โทสะในใจเขาก็จางหายไป มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยว่า “หากง่วงก็กลับห้องไปนอนเสีย มานอนตรงนี้จะเป็นหวัดได้ง่ายๆ”
“เช่นนั้นท่านก็อุ้มข้าเข้าไปสิ?” นางยื่นสองแขนทำท่าจะกอดเขา
“ได้สิ” เขารับคำ ก่อนจะลุกขึ้นโน้มกายอุ้มนางขึ้นมา โอบไว้ในอ้อมแขนและเดินเข้าไปในห้อง
ฮุยหลางเห็นภาพนี้ก็ถอนหายใจเบาๆ พลางฉีกยิ้ม ครั้นหันหลังไป เขาเห็นร่างหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกำลังมองภาพนี้ด้วยสีหน้าถมึงทึง ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเขาแข็งทื่อไปทันที และเหลียวมองทางอิ่งอีที่อยู่อีกด้าน
ท่านอาหาน? เขามาถึงที่นี่ทำไม จะมาพบภูตหมอหรือ?
“พวกเจ้าสองคนมานี่” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่นอกเรือนเรียกด้วยเสียงทุ้ม
อิ่งอีกับฮุยหลางชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงเดินออกไป “คารวะท่านอาหาน” คนทั้งสองคารวะพลางเอ่ย
“ผู้หญิงคนนั้นพักอยู่ที่นี่ตลอดหรือ?”
อิ่งอีเม้มริมฝีปากไม่พูดจา ฮุยหลางยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ท่านอาหาน นางมีนามว่าเฟิ่งจิ่ว นาง…”
“แค่ผู้หญิงที่ไร้ยางอายคนหนึ่ง ไม่ต้องบอกชื่อนางกับข้า!” เขาแค่นเสียงหยัน พอนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อครู่ แววตาของเขายิ่งดุร้าย
“ท่านอาหาน นั่นเป็นผู้หญิงในใจของนายท่าน ข้าคิดว่าท่านอาหานอย่าเหิมเกริมนักจะดีกว่า มิเช่นนั้นนายท่านได้ยินเข้าจะไม่พอใจ” อิ่งอีกล่าวอย่างเย็นชา คิดว่าอีกฝ่ายยุ่งมากเกินไปแล้ว
“บังอาจ!”
หลังเสียงตะคอกดุดัน แรงกดดันอันทรงพลังโจมตีออกไป ฉับพลันนั้นทำให้เลือดลมในหัวใจอิ่งอีปั่นป่วน ร้องเสียงอู้อี้ ฝีเท้าซวนเซ และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
“ท่านอาหาน ท่านจะทำอะไร!” ฮุยหลางตกใจ รีบเข้าไปประคองอิ่งอีพลางมองเขาอย่างขุ่นเคือง
“ทำอะไร? พวกเจ้าติดตามข้างกายนายท่าน ทำงานกันเช่นนี้หรือ? ปล่อยผู้หญิงไร้ระเบียบเข้าใกล้เขา พวกเจ้ารู้ความผิดหรือไม่!”
เขาตะคอกเสียงเข้ม เสียงนั้นเป็นดั่งสายฟ้าผ่าลงในหัวใจของคนทั้งสอง ทำให้พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะปริปาก เพราะพลังของอีกฝ่ายแกร่งเกินไป แกร่งเสียจนกำราบพวกเขาได้
ภายในห้องของเขตเรือน เซวียนหยวนโม่เจ๋อได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก สีหน้าก็ทะมึนทันใด ส่วนเฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วเหลือบมองข้างนอก
เธอเพิ่งจะนอนลงบนเตียงเอง! ยังไม่ทันห่มผ้าห่ม ด้านนอกก็เกิดเรื่องขึ้นแล้วหรือ?
“ข้าจะออกไปดูหน่อย เจ้านอนไปเถอะ!” เขาดึงผ้าห่มขึ้นห่มให้เธอ แล้วจึงหมุนตัวเดินออกไป
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็เลิกผ้าห่มออกแล้วตามไปเช่นกัน
………………………………………………….