เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1403 แบบอย่างของข้า + ตอนที่ 1404 ปัญหาถูกแก้ไขในพริบตา
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1403 แบบอย่างของข้า + ตอนที่ 1404 ปัญหาถูกแก้ไขในพริบตา
ตอนที่ 1403 แบบอย่างของข้า + ตอนที่ 1404 ปัญหาถูกแก้ไขในพริบตา
ตอนที่ 1403 แบบอย่างของข้า
เช้าตรู่วันต่อมา ศิษย์พี่กัวยังไม่ตื่นจากอาการเมาค้าง เฟิ่งจิ่วจึงล่วงหน้าไปทำงานก่อน ทันทีที่เข้าไปในลาน ผู้ดูแลร่างอ้วนก็ยิ้มทักทาย “ข้าว่าแล้วว่าเจ้าต้องมาเป็นคนแรก มานี่ๆ”
“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านผู้ดูแล” เธอเดินเข้าไปด้วยท่าทางว่านอนสอนง่าย ค้อมกายคารวะอย่างนอบน้อม ยิ้มตาหยีมองผู้ดูแลร่างอ้วน
“เอาละ เมื่อวานเจ้าก็เคยไปยอดเขาชั้นที่แปดมาแล้ว มา นี่เป็นยาทิพย์ที่อาจารย์อาต้วนต้องการ เจ้าไปเบิกออกมาแล้วรีบไปส่งให้เขาเสีย” เขายื่นกระดาษรายการยาทิพย์แผ่นหนึ่งให้เฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วได้ยิน ก็รับคำอย่างอารมณ์ดี “ขอรับ” ได้ขึ้นไปยอดเขาชั้นแปดตั้งแต่เช้าเลย ดูซิว่าจะได้เจอท่านแม่ของเธอหรือไม่
ขณะคิด เธอหันไปมองผู้ดูแลร่างอ้วนที่หันไปยุ่งกับงานอย่างอื่นต่อ แววตาไหวระริกเล็กน้อย ก่อนก้าวเข้าไปกล่าว “ผู้ดูแลขอรับ ต่อไปยาทิพย์ที่ชั้นแปดให้ข้าเป็นคนรับผิดชอบเถิด! ข้าคนเดียวช่วยดูแลงานคนอื่นด้วยก็ได้ ศิษย์พี่ท่านอื่นจะได้ไม่ต้องงานยุ่งมาก”
ครั้นได้ยินประโยคนี้ ผู้ดูแลร่างอ้วนชะงักเล็กน้อย หันไปมองแวบหนึ่ง จากนั้นพยักหน้า “ก็ได้ แม้เจ้าจะยังมาได้ไม่นาน แต่ไม่เคยทำงานพลาดเลย ยาทิพย์ที่เหล่าอาจารย์อาบนยอดเขาชั้นแปดต้องใช้ยิ่งไม่อาจมีข้อผิดพลาดได้ด้วย เช่นนั้นก็ได้! ต่อไปเจ้ารับผิดชอบแต่ยาทิพย์ของชั้นแปดก็แล้วกัน”
“ขอบคุณผู้ดูแลมากขอรับ” เธอกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ
ผู้ดูแลยิ้มๆ ไม่ได้สนใจอะไร จากยอดเขาชั้นสามเดินถึงยอดเขาชั้นแปด บางครั้งต้องไปกลับหลายรอบ บางครั้งคนงานคนอื่นยังบ่นว่าขึ้นลงเหนื่อยเกินไป กลับเป็นเจ้าเด็กนี่ที่มีความสุขและไม่เหน็ดเหนื่อยอย่างนี้
กระทั่งผู้ดูแลจากไป เฟิ่งจิ่วถึงฮัมเพลงพลางเดินไปเบิกสมุนไพร นำสมุนไพรใส่ลงในตะกร้าแล้วตรวจสอบอีกหนึ่งรอบ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดจึงค่อยขึ้นไปที่ยอดเขาชั้นแปด
หลังจากมาถึงหน้าถ้ำลำดับแรกบนชั้นแปดอย่างชำนาญทาง เธอจึงตะโกนเรียกอยู่ข้างนอก ไม่นานก็เห็นศิษย์พี่หูคนเมื่อวานเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่น่าดูนัก เมื่อเห็นเขา นัยน์ตาเธอไหวระริก มุมปากกระตุกเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ศิษย์พี่หู ศิษย์พี่หูช่างทุ่มเทนัก เช้าตรู่ขนาดนี้ก็มาทำงานแล้ว” เธอทักทายด้วยน้ำเสียงแหลมใสร่าเริง
ชายแซ่หูได้ยินเสียงจึงหันมามอง เห็นว่าเป็นเฟิ่งจิ่วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมเป็นเจ้ามาส่งยาทิพย์อีกแล้ว? คนอื่นเล่า?” เมื่อวานเป็นเจ้าเด็กนี่ วันนี้ก็เป็นเจ้าเด็กนี่อีก
เฟิ่งจิ่วมองเขา ไม่ตอบอะไร กลับอุทานด้วยความตกใจ “อ้าว! ศิษย์พี่หู ตากับปากของท่านเป็นอะไรไป?”
เห็นเพียงตาซ้ายกับริมฝีปากของเขาบวมแดง ราวกับมีตุ่มอักเสบอะไรขึ้นอยู่บริเวณนั้น ดวงตาและริมฝีปากที่บวมแดงทำให้ใบหน้าของเขาไม่น่าดูอย่างยิ่ง หากไม่ใช่ว่าเขาทำหน้าเคร่งขรึมตลอด เดาว่าคงจะยิ่งน่าตลกกว่านี้
ได้ยินประโยคนี้แล้ว ศิษย์พี่หูสีหน้าแข็งค้างไปแวบหนึ่ง พยายามหลบเลี่ยงสายตาตกใจสงสัยที่กำลังมองประเมินของเฟิ่งจิ่ว เขาพูดเสียงขรึมว่า “ไม่มีอะไร แค่เป็นร้อนในนิดหน่อย”
ร้อนในอะไรกัน? ฝีมือเธอเองมีหรือเธอจะไม่รู้? เห็นๆ อยู่ว่าเป็นพิษร้อนกำเริบ หากไม่ได้บวมสักสิบกว่าวัน ทำให้เขาเจ็บสักสิบกว่าวัน อยากหายคงเป็นไปไม่ได้
ใครใช้ให้เขาเหลือบสายตามองมั่วซั่ว หากไม่ให้บทเรียนเขาหน่อย เขาก็คงไม่รู้จักประมาณตนเอง
แม้ในใจเฟิ่งจิ่วจะคิดอย่างนี้ แต่ภายนอกกลับทำสีหน้าเลื่อมใส “ต้องเป็นเพราะศิษย์พี่หูมัวยุ่งอยู่กับงานจนไม่ได้พักผ่อนถึงกลายอย่างนี้ ลูกศิษย์เช่นศิษย์พี่หู ช่างเป็นแบบอย่างที่ข้าสมควรเอาอย่างจริงๆ”
ได้ยินเช่นนั้น ศิษย์พี่หูเหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง สีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย กล่าวว่า “เอาละ ส่งยาทิพย์มาให้ข้าเถิด!” พูดจบก็โยนขวดใบหนึ่งให้เธอ
“อันนี้ให้เจ้าเป็นรางวัล”
………………………………….
ตอนที่ 1404 ปัญหาถูกแก้ไขในพริบตา
เฟิ่งจิ่วรับเอาไว้ กล่าวขอบคุณด้วยสีหน้าเบิกบาน “ขอบคุณศิษย์พี่หูขอรับ”
“อืม ไปเถิด!” เขาโบกมือ บอกเป็นเชิงให้เฟิ่งจิ่วไปได้
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
พูดจบจึงหมุนตัวออกไป หลังจากเดินออกมาห่างจากด้านหน้าถ้ำนั้น เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองถ้ำที่อยู่ด้านหลังสุด คิดในใจว่าไม่รู้ว่าท่านแม่ของเธอกำลังทำอะไรอยู่ อยากไปดูสักหน่อย แต่จู่ๆ เสียงของชายแซ่หูก็ดังมาอีก
“ยังมัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอีก? บนชั้นแปดนี้ล้วนเป็นพื้นที่ของเหล่าอาจารย์อา เจ้าเป็นคนงานเล็กๆ คนหนึ่ง อย่าได้ล่วงเกินพวกเขา ส่งยาทิพย์เสร็จแล้วก็รีบกลับไปเสีย”
“ขอรับ” เธอตะโกนตอบ แล้วจึงก้าวเท้าเดินจากไป
ขณะที่เดินกลับและกำลังผ่านยอดเขาชั้นเจ็ด ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างประหลาดใจดังมา
“เอ๊ะ เจ้าคือคนที่ชื่ออะไรนะ? เฟิ่งอะไรนะ?”
เธอเอียงคอมองไป พอเห็นว่าเป็นเฉินเต้า ก็รีบก้าวเข้าไปคารวะ “เฟิ่งจิ่วคารวะศิษย์พี่เฉิน”
“ใช่ๆ เฟิ่งจิ่วนั่นเอง” เฉินเต้าหัวเราะเสียงดัง จ้องเฟิ่งจิ่วขึ้นลงก่อนถามว่า “นี่เจ้าไปส่งยาทิพย์ที่ไหนมา? เป็นอย่างไร คุ้นเคยกับงานนี้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ยิ้มตาหยีแล้วตอบว่า “คุ้นเคยแล้วขอรับ คุ้นเคยมาก”
“คุ้นเคยก็ดีแล้ว” เขาพยักหน้า เห็นว่าตะกร้าของเฟิ่งจิ่วว่างเปล่าจึงถามอีก “นี่ส่งยาทิพย์เสร็จแล้วรึ ยังต้องกลับไปอีกหรือ?”
“ผู้ดูแลให้ข้ารับผิดชอบยาทิพย์ชั้นแปดอย่างเดียว เมื่อครู่ข้าเพิ่งไปส่งยาทิพย์ที่ชั้นแปดเสร็จ ตอนนี้ว่างไม่มีอะไรทำขอรับ” ขณะตอบ เสียงเธอชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ศิษย์พี่เฉินมีอะไรหรือเปล่าขอรับ?”
“อืม” เขาพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าว่างอยู่ เช่นนั้นเจ้าไปเก็บยาทิพย์กับข้าก็แล้วกัน!” สิ้นเสียง เขาก็สาวเท้าเดินนำหน้า พยักเพยิดให้เฟิ่งจิ่วเดินตามมา
เห็นเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ถามมากความและเดินตามไป กระทั่งเห็นเขาเดินออกจากยอดเขาซานหยาง อ้อมด้านหลังยอดเขาซานหยางไปยังด้านหลังของยอดเขาอีกลูก เธอที่เดินตามหลังอยู่ถึงถามด้วยความแปลกใจ “ศิษย์พี่เฉิน จะไปเก็บยาทิพย์ที่ไหนหรือขอรับ? นี่เรากำลังใช้ถนนสายเล็กหลังเขาอยู่กระมัง?”
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าลับๆ ล่อๆ อย่างไรชอบกล?
“ไม่ต้องถามมาก ตามข้ามาก็พอแล้ว” เขาที่อยู่ข้างหน้าตอบโดยไม่หันมา เพียงเดินไปตามถนนสายเล็กเรื่อยๆ
เมื่อเห็นท่าทางนั้น กอปรกับนึกถึงคำวิพากษ์วิจารณ์บนยอดเขาซานหยางที่พูดถึงเฉินเต้า จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนถูกชวนมาทำเรื่องเสียเวลาเปล่า เจ้าหมอนี่คงไม่ได้คิดจะไปทำเรื่องไม่ดีอะไรแล้วชวนเธอมาด้วยหรอกนะ?
นึกถึงตรงนี้แล้ว เธอก็กุมท้องพร้อมร้องตะโกน “โอ๊ย!”
เฉินเต้าที่อยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงจากข้างหลัง จึงหันกลับมาถาม “เป็นอะไรไป?”
“ศิษย์พี่เฉิน ข้าปวดท้อง ข้าขอ…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกตัดบทเสียก่อน
“ปวดท้องหรือ? เช่นนั้นเจ้าไปจัดการเสีย ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ข้างหน้าดีไหม?”
ปัญหาถูกแก้ไขในพริบตา…
เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปากอย่างพูดไม่ออก เห็นเขาจ้องเธอด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ก็ลอบถอนใจ ตอบอย่างจนใจว่า “เรื่องนั้นไม่ต้องดีกว่า”
“ไม่ต้อง? จริงหรือ เจ้าปวดท้องไม่ใช่หรือ ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังเช้าอยู่ ข้ารอเจ้าได้” เขากล่าวพลางลูบหนวดอักษรเลขแปดเบาๆ
“เอ่อ…ไม่ต้องจริงๆ ขอรับ เหมือนจะไม่ปวดแล้ว” เธอยิ้มแห้งบอก
“เช่นนั้นก็ดี! แต่ถ้าเจ้าปวดท้องหรือมีปัญหาทำนองเดียวกันแล้วอยากกลับไปก่อน บอกข้าได้นะ ข้ามีวิธีแก้ปัญหาให้หมดเลย”
เฟิ่งจิ่วพูดไม่ออก สีหน้าแข็งเกร็งเล็กน้อย เธอรู้อยู่แล้วว่าใช้ตรรกะทั่วไปกับเฉินเต้าไม่ได้ ด้วยความจนใจ จึงทำได้เพียงฝืนเดินตามหลังเขาต่อไป
………………………………….