เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1411 สิ่งนี้ให้เจ้า + ตอนที่ 1412 ติดตาม
ตอนที่ 1411 สิ่งนี้ให้เจ้า + ตอนที่ 1412 ติดตาม
ตอนที่ 1411 สิ่งนี้ให้เจ้า
ได้ยินเช่นนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงชะงักเล็กน้อย นางมองเด็กหนุ่มที่ล้มนั่งอยู่บนพื้น ฟังประโยคที่เขาบอกว่าคิดถึงท่านแม่ ก็อดคิดไม่ได้ ลูกสาวนางจะคิดถึงนางเหมือนกันหรือไม่นะ?
ทว่า ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา ประกายเศร้าหมองก็พาดผ่านนัยน์ตา ความจำของเฟิ่งเซียวถูกผนึก ทุกอย่างที่เกี่ยวกับนางเขาจำไม่ได้อีกแล้ว ลูกสาวของพวกเขา จะรู้ได้อย่างไรว่านางยังมีตัวตนอยู่?
“เจ้ารีบกลับไปเถิด! คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงคนพวกนั้นสักหน่อย” นางกล่าวเสียงอ่อนโยน ทำท่าจะหันตัวจากไป ก็เห็นฝ่ามือของเด็กหนุ่มที่กำลังลุกขึ้นยืนถูกหินกรวดบนพื้นถูจนถลอก จึงหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อ
“สิ่งนี้ให้เจ้าเอากลับไปทำแผลบนมือ จะทำให้หายเร็วขึ้น”
ได้ยิน เฟิ่งจิ่วรับไป ยังไม่ทันได้ขอบคุณ ก็เห็นนางหมุนตัวกระโดดขึ้นกระบี่บิน จึงรีบตะโกนบอก “อาจารย์อาซั่งกวน โปรดรอเดี๋ยวขอรับ”
ซั่งกวนหวั่นหรงหันมามองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “มีอะไรอีกหรือ?”
“ขอบคุณอาจารย์อาซั่งกวนที่มอบยาให้ข้าขอรับ” เธอคารวะขอบคุณ แล้วถามอีกว่า “การฝึกอบรมเด็ดยาในดินแดนลับ อาจารย์อาซั่งกวนก็จะไปด้วยใช่ไหมขอรับ?”
“อืม ท่านอาจารย์มีคำสั่งให้พวกเราลูกศิษย์ทั้งห้าคนไปด้วยกัน ถึงตอนนั้นข้าย่อมต้องเข้าไปในดินแดนลับอยู่แล้ว”
ขณะกล่าว นางมองเฟิ่งจิ่ว แล้วอธิบาย “ผู้ฝึกตนที่จะเข้าไปในดินแดนลับได้อย่างต่ำก็ต้องอยู่ในระดับหลอมแก่นพลัง เจ้าเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน เข้าไปไม่ได้หรอก” สิ้นเสียง ก็ไม่พูดอะไรอีก เพียงขี่กระบี่บินจากไป
ได้ยินเช่นนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้ม มองเงาร่างที่จากไปแล้วพึมพำ “ท่านแม่ ข้าเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณนานแล้วเจ้าค่ะ”
วันเวลาหลังจากนั้น เธอก็ไปส่งยาทิพย์ที่ชั้นแปดตามปกติ หากบนยอดเขาชั้นแปดไม่มีของที่ต้องไปส่ง เธอก็จะไปหาเฉินเต้า เทียบกับนักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นที่กำลังยุ่งกับการเตรียมตัวเพื่อเข้าไปในดินแดนลับ เฉินเต้ายังคงหลับจนถึงกลางวันทุกวัน มีอารมณ์เมื่อใดจึงจะเปิดเตาเพื่อฝึกหลอมยา บางครั้งอารมณ์ดี ก็นัดเฟิ่งจิ่วให้มาดื่มเหล้าด้วยกันตอนเย็น
ยามเขาอยู่กับเฟิ่งจิ่ว กลับไม่ได้ดูแคลนเฟิ่งจิ่วเพราะเขาเป็นเพียงศิษย์ชั้นล่างคนหนึ่ง หรือเด็กส่งของคนหนึ่ง แต่เพราะพูดคุยกันถูกคอ แล้วยังเห็นว่าเฟิ่งจิ่วมีนิสัยเจ้าเล่ห์และร่าเริงน่าสนใจ อีกทั้งหลายครั้งที่เขาพอจะช่วยอะไรได้ ก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยบ่อยๆ ด้วย
ก็เหมือนกับการดำเนินการเรื่องการฝึกเด็ดยาในดินแดนลับในครั้งนี้
เย็นวันนี้ เฟิ่งจิ่วแอบไปจับหนูไผ่วิญญาณมาย่างเสร็จแล้วก็เอามาที่ถ้ำของเฉินเต้า
“ศิษย์พี่เฉิน? ศิษย์พี่เฉิน? ท่านดูสิ ข้าเอาของดีอะไรมาด้วย” เธอตะโกนอยู่นอกถ้ำ เฉินเต้าที่อยู่ข้างในได้ยินก็เปิดเขตอาคมแล้วตะโกนบอก
“เข้ามา”
เห็นเขตอาคมถูกเปิดแล้ว เฟิ่งจิ่วรีบสาวเท้าเดินเข้าไป เมื่อเข้าไปก็เห็นเฉินเต้าที่กำลังถือขวดบรรจุยาเต็มไม้เต็มมือสูดจมูกแล้วเงยหน้า มองเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาเป็นประกาย “นี่มันกลิ่นหอมของหนูไผ่วิญญาณย่างไม่ใช่หรือ? ยังมีกลิ่นหอมของไผ่อยู่เลย เจ้าเด็กนี่ เจ้าไปแอบจับหนูไผ่วิญญาณมาหรือ?”
“ฮี่ๆ” เฟิ่งจิ่วหัวเราะเจ้าเล่ห์ “ก็ข้าเห็นว่าพรุ่งนี้พวกเราต้องเข้าไปในดินแดนลับแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร? ข้าเลยไปจับมาอีกหนึ่งตัว ท่านดูสิ ข้าเพิ่งจะย่างเสร็จ ยังร้อนๆ อยู่เลย!”
“ไม่เลวๆ ได้ใจข้าไปเลยเต็มๆ!” เขาพยักหน้าชื่นชม พลางยกมือลูบหนวดเลขแปดของเขา แล้วบอกว่า “เจ้านั่งรอเดี๋ยว ข้าทำนี่เสร็จแล้วจะมาดื่มด้วย”
“ขอรับ”
เธอรับคำ แล้วเปิดห่อเนื้อย่างออก จากนั้นก็นั่งรอเขาที่ข้างโต๊ะ ไม่นาน ก็เห็นย่ามสัมภาระห่อหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าเธอ
“อันนี้ให้เจ้า” เฉินเต้าวางห่อสัมภาระไว้ตรงหน้าเฟิ่งจิ่วแล้วพูดขึ้น จากนั้นก็นั่งลงข้างโต๊ะ
………………………………….
ตอนที่ 1412 ติดตาม
“ให้ข้า? อะไรหรือขอรับ?”
เธอมองหน้าเขาด้วยความฉงน เปิดออกดู ก็เห็นในห่อสัมภาระมีขวดโอสถอยู่เจ็ดแปดขวด บนขวดบ้างก็เขียนไว้ว่า โอสถห้ามเลือด โอสถล้างพิษ โอสถรวมวิญญาณ และอีกหลายอย่าง เมื่อเห็นของเหล่านี้ หัวใจเธอสั่นไหวเล็กน้อย “นี่ ให้ข้าหมดเลยหรือขอรับ?”
ของเหล่านี้หากเอาออกไปขายข้างนอก จะต้องมีค่าสูงมากแน่ๆ! เขากลับให้เธอง่ายๆ อย่างนี้?
“อืม ให้เจ้า ดินแดนลับไม่ใช่เพียงดินแดนแห่งยาทิพย์เท่านั้น เพราะมียาทิพย์ชั้นดีและยาทิพย์ที่หาข้างนอกได้ยากอยู่ในนั้น จึงมีสัตว์วิญญาณบางส่วนคุ้มกันอยู่ เผื่อเอาไว้เวลาได้รับบาดเจ็บหรืออะไรทำนองนั้น ของพวกนี้เจ้ากลับไปแล้วเอาใส่ในถุงฟ้าดินพกติดตัวไว้ เอาไว้ใช้ยามจำเป็น”
“แต่ว่า ของพวกนี้มีค่าเกินไป…”
ได้ยินอย่างนั้น เขาก็หัวเราะเสียงดัง “มีค่าหรือไม่มีค่าอะไรกัน? ข้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุนะ อยากได้ยาอะไรแค่หลอมเอาก็ได้แล้ว ของแค่นี้ไม่มีค่าอะไรมากนักหรอก เก็บไว้เถิดๆ อย่าเกรงใจศิษย์พี่เลย”
เห็นอย่างนั้น เธอทำหน้าจริงจัง ลุกขึ้นประสานมือคารวะ “ขอบคุณศิษย์พี่มากขอรับ” ถึงเขาจะได้มาง่ายดาย แต่ยามยกให้ผู้อื่นกลับไม่ใช่เรื่องง่าย น้ำใจนี้ เฟิ่งจิ่วจดจำไว้แล้ว
“เอาล่ะๆ รีบนั่งลงแล้วกินกันเถิด! เนื้อย่างนี่หากเย็นแล้วจะไม่อร่อย” เขาโบกมือแล้วบอก หยิบเหล้าออกมา พลางกำชับว่า “พรุ่งนี้เช้าเจ้าห้ามตื่นสายเล่า ดินแดนลับไม่รอเคยรอใคร”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้ม “ขอรับๆ ข้ารู้แล้ว ตั้งแต่เข้ามาในสำนัก ข้าก็ตื่นเช้าทุกวันจนชินแล้ว กลับเป็นศิษย์พี่เสียมากกว่า นอนถึงกลางวันทุกวัน พรุ่งนี้ห้ามลืมเรื่องดินแดนลับเด็ดขาดเลยนะขอรับ”
“รู้แล้วๆ มาๆ ป้ายหยกนี้ให้เจ้าไว้ ป้ายหยกนี่ไม่ต้องให้ข้าเปิดเขตอาคม เจ้าก็เข้ามาได้ หากพรุ่งนี้ข้านอนตื่นสายจริงๆ เจ้าต้องเข้ามาปลุกข้านะ” เขายื่นป้ายหยกให้เฟิ่งจิ่วแล้วกำชับ จากนั้นก็ฉีกเนื้อย่างกิน
เฟิ่งจิ่วรับป้ายหยกไปจ้องมองครู่หนึ่ง จากนั้นก็เก็บมันไว้ “ขอรับ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านวางใจได้เลยขอรับ!”
ทั้งสองกินไปพลาง พูดคุยไปพลาง กระทั่งดวงจันทร์ลอยเด่นกลางศีรษะ เฟิ่งจิ่วถึงสาวเท้าที่สะเปะสะปะเล็กน้อยเดินไปยังทางกลับ ขณะก้าวเดิน ก็ฮัมเพลงไปด้วยตลอดทาง อารมณ์เบิกบานยิ่งนัก
ทว่า เมื่อเดินมาถึงทางลงของยอดเขาชั้นเจ็ด เท้าของเธอก็หยุดชะงัก อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปบนยอดเขาชั้นแปดแวบหนึ่ง เวลานี้ ไม่รู้ว่าท่านแม่ของเธอกำลังทำอะไรอยู่?
ในใจคิดเช่นนั้น หันมองซ้ายทีขวาที พอเห็นว่าไม่มีใคร จึงเก็บงำกลิ่นอายรอบกาย เงาร่างโฉบไหวขึ้นไปบนชั้นแปดอย่างเงียบเชียบ
เขตอาคมกับค่ายกลบนยอดเขาชั้นแปด เธอคุ้นเคยดีจนไม่รู้จะคุ้นเคยอย่างไรอีกแล้ว หลังจากหลบหลีกอย่างง่ายดาย ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทำให้ใครแตกตื่น เธอกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่แถวๆ ถ้ำของท่านแม่ของเธอ แล้วนั่งลงบนนั้น
ใบไม้ดกหนา ท้องฟ้ามืดช่วยอำพราง เธอที่สวมชุดเขียวทั้งตัวนั่งอยู่บนต้นไม้ กลิ่นอายรอบกายไม่เล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อย ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้นไม้ เงียบเชียบไร้สุ้มเสียง
เธอเอนกายนั่งอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้ หรี่ตามองถ้ำห้องนั้น มองอยู่นานก็ไม่เห็นอะไร ฉะนั้นจึงหาว หรี่ตาเตรียมจะนอนอยู่ตรงนี้
ทว่าเธอเพิ่งจะปิดตาได้ไม่นาน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น เธอลืมตามองไป ก็เห็นเขตอาคมของถ้ำเปิดออก นางที่สวมชุดสีขาวผุดผ่องงามโดดเด่นเดินออกมา
ท่านแม่ของเธอนี่นา ดึกขนาดนี้แล้ว นางจะไปไหน?
เธอสะดุดใจเล็กน้อย เห็นนางสาวเท้าเดินไปข้างหน้า ก็อดชะงักงันไม่ได้ ก่อนจะติดตามนางไป…
………………………………….