เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1429 เป็นอะไรไป + ตอนที่ 1430 จัดการง่ายดาย
ตอนที่ 1429 เป็นอะไรไป + ตอนที่ 1430 จัดการง่ายดาย
ตอนที่ 1429 เป็นอะไรไป
“กลางดึกเช่นนี้น้ำพุบนเขาค่อนข้างเย็น ข้าล้างหน้าให้สดชื่นหน่อยก็พอแล้ว” เฟิ่งจิ่วเดินมาที่ตาน้ำ แล้วบอก
คบไฟสองท่อนถูกเสียบไว้บนพื้นให้แสงสว่างไปทั่วบริเวณ พวกผู้ชายเริ่มถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนโคลนออก ขณะกำลังถอดกางเกง พวกเขาก็ชะงัก เหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ แล้วก็เหมือนรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองพวกเขาอยู่ พวกเขาจึงเงยหน้า
“ถอดสิ เหตุใดไม่ถอดแล้วเล่า? พวกข้ากำลังดูอยู่เลย!”
นักเล่นแร่แปรธาตุหญิงทั้งสองคนยืนจ้องพวกเขาอยู่ด้านหนึ่ง ชุดกระโปรงยาวบนตัวเปื้อนโคลน เลอะจนแนบไปกับผิวหนัง ทำให้ทรวดทรงองค์เอวอันเพริศพริ้งของทั้งสองเด่นชัดขึ้นมา
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ หันไปมองหญิงสาวสองคนนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถอยหลังไปนั่งใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล
“พวกเจ้าสองคนไปล้างตัวก่อน เร็วหน่อยเล่า อย่าใช้เวลานานนัก” เฉินเต้าบอก พลางพยักพเยิดให้ผู้หญิงสองคนนั้นไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ข้างน้ำพุ พลางหันไปสั่งนักเล่นแร่แปรธาตุชายพวกนั้น “พวกผู้ชายถอยออกไปสามจั้งแล้วหันหลังไปให้หมด”
เห็นเช่นนั้น พวกนักเล่นแร่แปรธาตุชายทั้งหลายได้แต่อดทนต่อความรู้สึกไม่สบายที่เสื้อผ้าแนบเนื้อตัวแล้วถอยห่างออกไปสามจั้ง ระหว่างชายหญิง อย่างไรผู้ชายก็ต้องยอมอ่อนให้ผู้หญิงอยู่แล้ว นี่เป็นธรรมเนียม แล้วก็เป็นการอบรมสั่งสอนอย่างหนึ่ง
ผู้หญิงสองคนนั้นมองหน้ากันแวบหนึ่ง จากนั้นคนหนึ่งเฝ้าคนหนึ่งล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะอยู่ในป่าลึก ห่างออกไปสามจั้งก็มีกลุ่มผู้ชายอยู่ พวกนางเองก็ไม่กล้าอาบนาน หลังจากล้างคราบโคลนบนตัวออกแบบง่ายๆ ก็รีบเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าสะอาด
“เสร็จแล้ว” ทั้งสองบอก จากนั้นก็เดินไปอีกด้านหนึ่งแล้วใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณเป่าผมให้แห้ง
ท่ามกลางค่ำคืน เรือนร่างของหญิงสาวอวบอิ่มสมบูรณ์ ใบหน้างดงามน่ามอง ยืนสางผมเบาๆ อยู่ใต้ต้นไม้ภายใต้แสงจันทร์ ทำให้ผู้ชายพวกนั้นอดเหม่อมองไม่ได้
“โอ๊ย!”
หนึ่งในนั้นเดินไม่ระวัง สะดุดหินก้อนหนึ่งจนล้มคะมำลงไปบนพื้นอย่างน่าอนาถ ทำให้พวกผู้ชายข้างๆ ได้สติและรีบสงบสติอารมณ์
ส่วนชายคนที่ล้มก็หันไปยิ้มแห้งๆ ให้หญิงสาวสองคน จากนั้นก็รีบลุกเดินไปที่น้ำพุ
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองคนพวกนั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ จากนั้นก็ละสายตาออกไป
ประมาณครึ่งชั่วยามผ่านไป ทุกคนล้วนล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหมดแล้ว เฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้งีบหลับไปตื่นหนึ่ง จนกระทั่ง ได้ยินเสียงเฉินเต้าดังมา เธอจึงตื่นขึ้น
เฉินเต้าที่เปลี่ยนใส่เสื้อผ้าสะอาดเดินมาเห็นเฟิ่งจิ่วหลับอยู่ตรงนั้น แม้แต่หัวก็เอียงไปด้านหนึ่ง ก็อดส่ายหน้าแล้วหลุดขำไม่ได้ “เจ้าเด็กคนนี้ เวลาแค่นี้ก็ยังหลับได้อีกหรือ?”
“ศิษย์พี่เฉิน พวกเราจะเดินทางต่อหรือพักที่นี่หนึ่งคืนขอรับ?” ชายคนหนึ่งถาม ความจริงเขาอยากพักที่นี่หนึ่งคืน เพราะถึงอย่างไรคืนนี้พวกเขาก็เจอเรื่องมามากมายจนยากจะรับไหวแล้ว
“เช่นนั้นก็พักผ่อนเถิด! รอจนฟ้าสางแล้วค่อยเดินทางต่อ”
เฉินเต้ากล่าว จากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมห่มให้เฟิ่งจิ่วที่กำลังหลับอยู่ นึกไม่ถึง เขาเพิ่งจะเดินเข้าไปใกล้ มือที่ถือเสื้อคลุมอยู่เพิ่งจะยื่นออกไป เฟิ่งจิ่วก็ตื่นแล้ว อีกทั้งเสี้ยวนาทีที่ลืมตาตื่น ประกายเยือกเย็นระแวดระวังตวัดออกมาจากดวงตาของเธอ ทำให้เฉินเต้าชะงักงัน คล้ายกับตกใจ
“ศิษย์พี่เฉิน? เป็นอะไรไปขอรับ?” เฟิ่งจิ่วที่ตื่นขึ้นมาถามเขา เห็นเฉินเต้าที่ถอยหลังหนึ่งก้าวถือเสื้อคลุมไว้ในมือ ก็อดแปลกใจไม่ได้ เหมือนยังไม่รู้ตัว
“ข้าเห็นเจ้ายังเด็ก พลังก็ไม่สูง อากาศในป่าลึกกลางดึกเช่นนี้ก็หนาว ซ้ำเจ้าก็หลับอยู่ เลยอยากจะเอาเสื้อคลุมมาห่มให้เจ้า ไม่นึกว่าเจ้าจะตื่นเสียแล้ว”
………………………………….
ตอนที่ 1430 จัดการง่ายดาย
สวรรค์รู้ว่าเขาถูกเฟิ่งจิ่วที่จู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมาทำให้ตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็ว หากไม่ใช่ว่าเขาข่มเสียงตนเองไม่ให้หลุดร้องด้วยความตกใจไว้ได้ คงจะเสียอาการให้คนตรงหน้าเห็นไปแล้วจริงๆ
“อะแฮ่ม!”
เขายกกำปั้นขึ้นมาป้องปากแล้วกระแอมเบาๆ ลอบคิดในใจ หากเป็นอย่างนั้นจริง ก็คงจะเสียภาพพจน์ของเขาแย่
ทว่า แววตาดุดันและเยือกเย็นยามลืมตาขึ้นมาของเจ้าเด็กคนนี้ช่างชวนให้ประหลาดใจนัก ยังมีความระแวดระวังอันรุนแรงนั้นด้วย ช่างไม่เหมือนผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานเลยจริงๆ
“ไม่ต้องขอรับ ไม่ต้อง ข้าแค่งีบไปครู่เดียว อีกทั้งข้าเองก็มีเสื้อผ้า” เธอบอกพร้อมกับยิ้มตาหยี หันไปมองคนอื่น แล้วถามว่า “คืนนี้พักที่นี่หรือขอรับ?”
“อืม พักก่อนสักหน่อยเถิด!” เขาตอบ เดินเข้าไปนั่งข้างเฟิ่งจิ่ว แต่เขาเพิ่งนั่งลง เฟิ่งจิ่วก็ลุกขึ้น
“มีอะไรหรือ?” เฉินเต้าชะงัก มองเฟิ่งจิ่วที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้น
“ศิษย์พี่เฉิน ท่านดู หญ้าพราย!” เธอชี้ไปที่หญ้าพรายสองต้นที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้วยดวงตาเป็นประกาย
เฉินเต้าเหลือบมองแวบหนึ่ง ก็เห็นหญ้าพรายนั่นปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่เขากลับไม่สนใจอะไร “เจ้าสิ่งนี้จับยากเกินไป เด็ดไม่ได้หรอก พักผ่อนเก็บแรงไว้ดีกว่า!”
นักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นเองก็เห็นแล้วเหมือนกัน นึกถึงเมื่อครู่ที่เดือดร้อนเพราะหญ้าพรายสองต้นนั้น แต่ละคนแม้จะหวั่นไหว แต่กลับไม่ขยับเขยื้อนอีก พวกเขารู้กำลังตัวเองดีว่าเด็ดหญ้าพรายสองต้นนั้นไม่ได้แน่นอน หากโชคไม่ดีอาจต้องเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งอีก ช่างมันก็แล้วกัน!
“ศิษย์พี่ พวกท่านไม่เอาแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี แล้วหันไปถามคนอื่นๆ
ได้ยินประโยคนี้ เฉินเต้าเหลือบมองแวบหนึ่ง ยิ้มแล้วค่อนแคะว่า “ฟังเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเองไม่ใช่หรือที่อยากไปเด็ด? หากเจ้ามีปัญญาเด็ดมันมาได้ เมื่อถึงเวลาอยากหลอมเป็นยาชนิดใด ขอเพียงรวบรวมวัตถุดิบมาครบข้าจะช่วยเจ้าหลอมยาเอง”
“พรืด!”
นักเล่นแร่แปรธาตุเหล่านั้นหลุดขำ ชำเลืองมองเฟิ่งจิ่วอย่างดูแคลน “พวกข้ายังเด็ดหญ้าพรายไม่ได้ เจ้าหรือจะจับได้? ไม่รู้จักประเมินกำลังตัวเองเอาเสียเลย”
“ฮี่ๆ ในเมื่อทุกท่านไม่ต้องการ เช่นนั้นข้าจะไปจับแล้วนะ!” เธอไม่สนใจสายตาดูแคลนของพวกเขา เพียงยิ้มกว้างแล้วเดินไปทางหญ้าพรายสองต้นนั้นที่อยู่ไม่ไกล
คนอื่นที่พักผ่อนอยู่ที่เดิมเห็นเช่นนั้นก็หายง่วงนอน แต่ละคนจับจ้องไปยังเงาร่างสีเขียว รอดูว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะทำเรื่องขายหน้าอย่างไร นึกไม่ถึง กลับเห็นเขาเอาแหจับปลาออกมาจากถุงฟ้าดิน
ทุกคนอึ้งงัน ทำหน้าแปลกประหลาด ไม่นานก็เห็นเขาย่องเท้าเบาๆ ไปข้างหน้า สายตาจ้องไปที่หญ้าพรายสองต้นที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย จากนั้นก็เตรียมตัวลงมือ แหนั่นจับหญ้าพรายหนึ่งในสองต้นนั้นไว้ได้
“โอ้!”
มีคนร้องเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืน เบิกตากว้างมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าตื่นเต้น “จับได้แล้ว!”
ใช่ จับได้แล้ว
เฟิ่งจิ่วมองหญ้าพรายต้นที่อยู่ในแห แล้วหัวเราะชอบใจ เธอคุ้นเคยกับการเจริญเติบโตและธาตุของหญ้าพรายดี ด้วยเหตุนี้ จึงหยิบเชือกเส้นเล็กๆ มัดหญ้าพรายที่จับได้แล้วค่อยปล่อยมัน
อีกหนึ่งต้นเคลื่อนตัวไปด้านหน้าเบาๆ แล้วรักษาระยะห่างเล็กน้อย ทว่าไม่นาน เฟิ่งจิ่วหว่านแหออกไปอีกครั้ง กลับจับหญ้าพรายอีกต้นได้อย่างง่ายดาย เธอเก็บหญ้าพรายสองต้นนั้นใส่ห้วงมิติ
หญ้าพรายแบ่งออกเป็นเพศผู้กับเพศเมีย เพศผู้ถูกจับ เพศเมียย่อมไม่หนีไปไหน หากเพศเมียถูกจับ เพศผู้จะหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ เธอเพียงต้องจับเพศผู้ก่อน จากนั้นย่อมจะจับทั้งสองต้นได้อย่างแน่นอน
………………………………….