เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1473 มีปฏิกิริยา + ตอนที่ 1474 ความหวัง
ตอนที่ 1473 มีปฏิกิริยา + ตอนที่ 1474 ความหวัง
ตอนที่ 1473 มีปฏิกิริยา
ดวงตาของเฉินเต้ามองเด็กหนุ่มที่ยิ้มตาหยีอย่างเหม่อลอย ภาพก่อนเข้าสู่ห้วงหลับไหลคล้ายผุดขึ้นมาในสมอง เขาอ้าปาก น้ำเสียงแหบแห้ง “เจ้า…”
“ข้าก็คือเฟิ่งจิ่วอย่างไรเล่า! ศิษย์พี่เฉิน หลับไปตื่นหนึ่งก็ลืมข้าไปแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีจ้องเขา แล้วพูดหยอกล้อ
“ศิษย์พี่เฉิน ท่านฟื้นแล้วหรือ? ท่านลองสัมผัสเอวท่านดูเร็ว เร็วๆๆ” ลั่วเหิงที่อยู่ข้างๆ ชะโงกหน้าเข้ามา มองหน้าเขาด้วยสีหน้าคาดหวัง
เอว!
จริงด้วย เอวของเขาหัก กระดูกเอวเขาเคลื่อนที่ กระดูกสันหลังส่วนเอวของเขาแตกจนไม่อาจรักษาได้แล้ว เขา พิการแล้ว…
เสี้ยวนาทีนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมา ทั้งเศร้าหมองและซีดเซียว เขาพิการแล้ว พิการแล้ว ยังทำอะไรได้อีก? ชีวิตเขาพังทลายแล้ว
เขานอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาทั้งสองข้างหม่นหมองไร้ชีวิตชีวา เอาแต่เหม่อมองเพดาน ลั่วเหิงอดเกาหัวไม่ได้ หันไปมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง แล้วเรียกอีกครั้ง “ศิษย์พี่เฉิน ท่านลองขยับเท้าดูหน่อยสิ! ให้ข้าดูผลลัพธ์หน่อย”
ได้ยินอย่างนั้น เฉินเต้าหันหน้ามาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองลั่วเหิงแวบหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไร้วิญญาณ “กระดูกสันหลังส่วนเอวของข้าหักแล้ว ร่างกายตั้งแต่ส่วนเอวลงไปไร้ประโยชน์ ไม่มีแรงอีกแล้ว เจ้าไม่รู้หรือ? ข้าพิการแล้ว ขยับขาไม่ได้แล้ว”
ลั่วเหิงยิ้มกว้าง “ท่านลองดูสิ! ท่านไม่ลองจะรู้ได้อย่างไร? ถ้าอย่างไรข้าลองหยิกข้างล่างเอวท่านดูว่ารู้สึกหรือไม่?”
“ซี๊ด! โอ๊ย!”
ความเจ็บปวดจู่โจมเข้ามา เฉินเต้าที่กำลังทำหน้าไร้วิญญาณพลันตะโกนด้วยความเจ็บปวด แต่พอร้องตะโกนออกมา เขาก็ตะลึงงันไปทันที เพราะความเจ็บปวดนั่นทำให้เขาหดขาเข้ามาเล็กน้อย แต่เพราะการเคลื่อนไหวเล็กๆ นั่น กลับทำให้ขอบตาเขาร้อนผ่าว หน้าตาราวกับไม่อยากเชื่อ
“ปะ เป็นไป เป็นไปได้อย่างไร?…”
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างๆ ถมึงตามองลั่วเหิงอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านหยิกจริงหรือนี่? หยิกก็ไม่ควรหยิกแรงขนาดนี้สิ! ลืมไปแล้วหรือว่าร่างกายเขายังไม่หายดี? เล่นไปเรื่อยจริงๆ”
“ฮี่ๆ ก็ข้าคิดว่าถ้าหยิกเบาๆ เขาไม่รู้สึกจะทำอย่างไรน่ะสิ? ข้าเลยหยิกแรงหน่อย เจ้าดู เขารู้สึกแล้วนี่อย่างไร?”
เขาไม่มีทางบอกหรอกว่าอุตส่าห์มีโอกาสหยิกขาเฉินเต้าอย่างนี้สักที ไม่หยิกก็เสียดายโอกาสแย่สิ ต้องรู้ว่าครึ่งเดือนมานี้เขายุ่งกับการดูแลเฉินเต้าจนเหนื่อยล้าไปหมดแล้ว ขนาดนอนก็ยังไม่ได้นอนดีๆ
เฉินเต้าตะลึงค้าง พูดอย่างไม่อยากเชื่อว่า “เอวของข้า เอวของข้ามีแรงแล้ว? เอวของข้ามีแรงแล้ว? เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“ศิษย์พี่เฉิน ต้องขอบคุณเฟิ่งจิ่ว เขาใช้ยาขี้ผึ้งสูตรลับที่ถ่ายทอดกันมาในตระกูลของเขา ถึงได้ทำให้กระดูกสันหลังส่วนเอวของท่านสมานกันได้ อีกอย่างเจ้าเด็กนี่มีวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม โชคดีที่เขาช่วยท่านผ่าตัด ท่านไม่รู้หรอก เขาใช้มีดกรีดเอาเศษกระดูกสันหลังส่วนเอวของท่านที่แตกออกมา แล้วก็เย็บเนื้อท่านเหมือนเย็บผ้าเลยล่ะ ตอนข้าเปลี่ยนยาให้ท่านข้าเห็นด้วย ตอนนี้เหลือแค่รอยแผลเป็นแดงๆ เส้นเดียว ถ้าไม่บอกคงไม่มีใครรู้ว่าเนื้อตรงนั้นเคยถูกคนผ่าเปิดออกมา”
ได้ยินลั่วเหิงพูดยาวเป็นพรวนอยู่ตรงนั้น แต่กลับเรียบเรียงคำพูดมั่วซั่ว ฟังดูน่ากลัวมาก เฟิ่งจิ่วอดกลอกตาแล้วผลักเขาออกไปอีกด้านไม่ได้ “เอาล่ะๆ ท่านไปยืนตรงนั้น ข้าอธิบายเอง”
เธอผลักลั่วเหิงออกไปแล้วมองหน้าเฉินเต้า จากนั้นก็อธิบายว่า “ความจริงพูดง่ายๆ ก็คือ ข้าผ่าตัดให้ท่าน”
………………………………….
ตอนที่ 1474 ความหวัง
เธอหยุดพูด แล้วยิ้มๆ “กระดูกสันหลังส่วนเอวของท่านที่หักเข้าที่แล้วขอรับ อีกอย่างตั้งแต่ที่ท่านหมดสติจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว หลังผ่าตัดกระดูกของท่านก็สมานกันแล้ว จะไม่เคลื่อนง่ายๆ อีก แต่ถ้าจะให้หายดีทั้งหมดต้องรออีกช่วงหนึ่ง ข้าเดาว่าน่าจะประมาณสามเดือนกระมัง อีกสามเดือนท่านน่าจะลงจากเตียง และเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว”
ได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว เฉินเต้าราวกับได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นเหมือนฟ้าผ่า คำพูดของเขาเหมือนแสงแดดที่ปรากฏกลางท้องฟ้าอันมืดมน ขับไล่พยับเมฆที่ปกคลุมเขาออกไป แล้วก็เหมือนกับขอนไม้ที่ลอยมายามเขากำลังจมน้ำ ทำให้มองเห็นโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง
หัวใจที่เคยสิ้นหวังยามนี้กลับมีความหวังก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง ในห้วงนาทีนี้ ความสิ้นหวังในตอนแรกกลับกลายเป็นความหวัง คนที่ไม่เคยผ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้ ไม่มีทางเข้าใจความตื้นตันและดีใจของเขาในตอนนี้ ไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกที่มีคนช่วยฉุดเขาออกมาจากความมืด ว่ามันน่าตื้นตันใจและยากควบคุมความรู้สึกขนาดไหน
ว่ากันว่าลูกผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ แต่ในนาทีนี้ ขอบตาของเขาแดงผ่าว น้ำตาอุ่นๆ หลั่งรินออกมาจากดวงตา นั่นเป็นน้ำตาแห่งความยินดี เป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ
“ขะ ข้ายังลุกขึ้นยืนได้จริงหรือ? ข้ายังกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้จริงหรือ? ข้าจะไม่กลายเป็นคนพิการจริงหรือ?”
ประโยคคำถามถูกถามออกมาพร้อมกันสามประโยค แสดงให้เห็นถึงความร้อนรนและความตื่นเต้นของเขา
เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “แน่นอน ข้าบอกว่าท่านจะหาย ท่านก็จะหายอย่างแน่นอน แต่เงื่อนไขคือพอท่านฟื้นแล้วก็ยังต้องให้ความร่วมมือในการรักษา ยาขี้ผึ้งต้องทาไม่ให้ขาดสักวัน แล้วก็ห้ามขยับหรือบิดเอวส่งเดช ในช่วงนี้ ท่านยังต้องนอนเป็นส่วนใหญ่อยู่”
“ได้ๆๆ ข้าจะนอน ข้าจะนอนนิ่งๆ เลย ข้าจะไม่ขยับส่งเดชแน่นอน” เขาพูดเสียงสะอึกสะอื้น มองมือกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์อันพลุ่งพล่านของตนเอง
“ท่านเพิ่งฟื้น ไม่ควรมีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป พักสักหน่อยก่อนเถิด!” เธอแนะนำ แล้วกวักมือเรียกลั่วเหิงให้เดินออกไปพร้อมกัน จากนั้นก็ถามว่า “ยาขี้ผึ้งยังเหลืออีกเท่าใด? หากไม่พอข้ายังต้องทำเพิ่มอีก”
“เจ้ารอเดี๋ยว ข้าจะเอามาให้เจ้าดู” ลั่วเหิงเดินเข้าไปข้างใน แล้วเอายาที่เฟิ่งจิ่วเตรียมให้เฉินเต้าออกมา “เจ้าดู ยังเหลือเยอะเท่านี้ ส่วนยาน้ำพวกนั้นก็ยังเหลืออีกหลายขวดที่ใช้ไม่หมด!”
“ยาน้ำพวกนี้ให้เขาดื่มหมดก็น่าจะพอแล้ว ส่วนยาขี้ผึ้ง อืม อีกสองสามวันข้าค่อยทำเพิ่มแล้วเอามาให้ เท่านั้นก็น่าจะพอแล้ว”
เธออธิบาย แล้วบอกว่า “พักนี้ท่านอยู่ดูแลเขาที่นี่ก็คงเหนื่อยมากแล้ว ยามนี้ศิษย์พี่เฉินฟื้นแล้ว ท่านจะกลับไปพักผ่อนสักหน่อยหรือไม่?”
“ไม่ล่ะ” ลั่วเหิงโบกมือ “ถ้ำของเขามีห้องหนึ่งที่ว่างอยู่ พักนี้ข้าเองก็ชินกับที่นี่แล้วด้วย รอเขาหายดีแล้วข้าค่อยกลับไปก็แล้วกัน! เลี่ยงไม่ให้ข่าวที่ศิษย์พี่เฉินหายดีแล้วแพร่ออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นเจ้าคงลำบาก”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ตบไหล่เขาแล้วบอกว่า “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนท่านแล้ว”
“ล้วนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน ไม่เห็นต้องพูดเช่นนี้” ลั่วเหิงยิ้มๆ บอกว่า “ไป เข้าไปคุยเล่นกับเขา”
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองจึงเดินเข้าไปอีกครั้ง แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้เฉินเต้าฟังคร่าวๆ รวมถึงเรื่องที่ผู้อาวุโสสูงสุดส่งคนมารับเขากลับด้วย
เฉินเต้าที่อยู่บนเตียงฟังพวกเขาเล่าจบ ก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “สามเดือน พวกเจ้าบอกว่าอีกสามเดือนข้าก็หายดีแล้ว เช่นนั้น อีกสามเดือนข้าจะทำให้พวกเขาประหลาดใจ ทำให้พวกเขารู้ ว่าข้าเฉินเต้าลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งแล้ว!”
………………………………….