เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1489 บุกยอดเขา + ตอนที่ 1490 ใช้อุบาย
ตอนที่ 1489 บุกยอดเขา + ตอนที่ 1490 ใช้อุบาย
ตอนที่ 1489 บุกยอดเขา
“บ้าที่สุด มือของข้า…”
เขามองดูเลือดที่ไหลเหมือนสายน้ำ รีบถอดเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือดออก หยิบยาออกมาทำแผลเพื่อห้ามเลือด เพราะได้รับบาดเจ็บ กลิ่นอายทั่วร่างจึงเย็นเยียบ เดาว่าถ้าหากเขาไม่ต้องใช้ซั่งกวนหวั่นหรงเป็นเตาหลอมมนุษย์ เขาคงฆ่านางเพื่อระบายความแค้นไปแล้ว
ผ่านไปไม่นาน เขาทำแผลเสร็จก็หยิบเสื้อคลุมตัวใหม่มาสวม จ้องซั่งกวนหวั่นหรงที่กำลังหมดสติอยู่บนพื้น เขาแค่นเสียงขึ้นจมูกดังๆ หนึ่งครั้ง แล้วลากนางเข้าไปข้างใน
ขณะที่ด้านนอก ณ ทางเข้ายอดเขาชั้นที่เก้า ต้วนมู่ไป๋กำลังพูดกับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นว่า “มีเรื่องสำคัญจะรายงานท่านอาจารย์”
ทั้งสองเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วตอบเสียงเข้ม “ท่านเจ้าเขามีคำสั่ง ระหว่างเก็บตัวไม่ว่าผู้ใดมาก็จะไม่พบ”
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ ตะคอกเสียงดังว่า “เรื่องนี้เร่งด่วนมาก!”
“พวกข้าฟังคำสั่งท่านเจ้าเขาผู้เดียวเท่านั้น เร่งด่วนเพียงใดเจ้าก็เป็นศิษย์ใต้อาณัติของท่านเจ้าเขา เชิญไปจัดการด้วยตนเอง” หนึ่งในสองคนนั้นตอบ ไม่ยอมให้เขาเข้าไป
“ถ้าหากข้าจะเข้าไปให้ได้ล่ะ?” ต้วนมู่ไป๋กำหมัดแน่นแล้วถาม
“เช่นนั้นก็อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจ!” ทั้งสองตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
ได้ยินอย่างนั้น ต้วนมู่ไป๋ชักกระบี่ยาวออกมาดังชิ้ง พลังวิญญาณในร่างกายถูกขับเคลื่อน ดวงตาปรากฏแววมุ่งมั่น เขาตะคอกเสียงดัง “วันนี้ข้าจะเข้าไปพบท่านอาจารย์ให้ได้! ใครกล้าขวางข้า อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นเห็น ก็ตะลึงเล็กน้อย อดมองหน้ากันแวบหนึ่งไม่ได้ แต่พวกเขาไม่หลีกทางให้ กลับขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างกาย เตรียมพร้อมสู้รบ
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา รีบกลับไปเสีย ไม่เช่นนั้นพวกข้าจะใช้กำลังส่งตัวเจ้ากลับไปเอง” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณหนึ่งในนั้นเตือนเสียงเข้ม นึกไม่ถึงเพิ่งจะสิ้นประโยค ก็เห็นต้วนมู่ไป๋ถือกระบี่พุ่งเข้ามาทางพวกเขา เห็นอย่างนั้น หนึ่งในนั้นรีบลงมือทันที
“ฟิ้ว!”
“อย่างไรวันนี้ข้าก็จะเข้าไปให้ได้!”
พลังกระบี่อันคมปลาบพุ่งเข้ามาพร้อมกับแรงกดดันของผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ แม้ต้วนมู่ไป๋จะเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณเหมือนพวกเขา แต่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณที่ฝึกฝนพลังต่อสู้กับฝึกฝนกลิ่นอายพลังวิญญาณนั้นไม่เหมือนกัน
รู้ทั้งรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา แต่พอคิดว่าซั่งกวนหวั่นหรงอาจอยู่ในกำมือของท่านอาจารย์ เขาก็ไม่อาจอยู่เฉย มองดูท่านอาจารย์ของเขาทำเรื่องเลวร้ายเช่นการสังหารศิษย์ได้
นั่นไม่เพียงจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเสื่อมเสีย แต่จะทำให้ศิษย์น้องต้องมาตายเพราะเรื่องนี้ด้วย เขาในฐานะลูกศิษย์ และในฐานะศิษย์พี่ ไม่รู้ก็เป็นอีกเรื่อง ทว่าในเมื่อรู้แล้ว เขาไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้ได้
“บึ้ม!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนหนึ่งปัดกระบี่เขาออก แล้วซัดฝ่ามือใส่เขาจนถอยหลังไปหลายจั้ง เพราะเห็นว่าเขาเป็นศิษย์ของท่านเจ้าเขา ฝ่ามือนี้จึงออมแรงไว้หลายส่วน
“พวกข้าอยู่ตรงนี้ เจ้าไม่มีทางเข้าไปได้ อย่าเสียแรงแปล่าเลย” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเก็บมือกลับไป ยืนผึ่งผายมองต้วนมู่ไป๋ที่ถอยกรูดไปหลายจั้ง
เขาไม่เข้าใจ คนผู้นี้จะเข้าไปทำอะไร? ท่านอาจารย์ของเขาออกคำสั่งเก็บตัวเพื่อหลอมยาแล้ว เขากลับยังอยากจะเข้าไปรบกวนอีก? เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ไม่รู้หรือว่านักเล่นแร่แปรธาตุไม่ชอบถูกรบกวนเวลาหลอมยามากที่สุด?
“ศิษย์พี่ใหญ่? ศิษย์พี่ใหญ่มาทำอะไรอยู่ที่นี่ขอรับ?”
คนอื่นๆ รีบตามมา ครั้นเห็นต้วนมู่ไป๋ที่ยืนถือกระบี่ด้วยอารมณ์ขึ้งเคียดกำลังจ้องมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นเขม็ง ก็อดตกใจไม่ได้ รีบเดินเข้ามาประคองเขาไว้
“ศิษย์พี่ใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นขอรับ?”
เหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา ยามนี้เห็นต้วนมู่ไป๋ในสภาพนี้ ก็คิดว่าเขาถูกคนรังแก
………………………………….
ตอนที่ 1490 ใช้อุบาย
ด้วยเหตุนั้น จึงมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นด้วยสายตาไม่พอใจ “พวกเจ้าเป็นอะไรไป? หรือไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร? เขาเป็นศิษย์เอกของท่านอาจารย์ของพวกเราเชียวนะ เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเรา พวกเจ้าทำอย่างนี้จะเกินไปแล้ว”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนมองหน้ากัน เก็บกลิ่นอายรอบตัว แล้วอธิบายกับพวกเขาว่า “เขาจะเข้าไปพบท่านเจ้าเขา แต่ท่านเจ้าเขาออกคำสั่งไว้แล้วว่าจะไม่พบใครระหว่างเก็บตัว เรื่องนี้พวกเจ้าเองก็รู้ ในเมื่อพวกเจ้ามาแล้ว ก็พาเขากลับไปเถิด!”
ทั้งสองบอก แล้วถอยหลังไปสองสามก้าว ทำหน้าที่เฝ้าทางเข้าต่อไป
ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาอึ้งงัน มองต้วนมู่ไป๋ด้วยความแปลกใจ “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่าน ท่านจะเข้าไปพบท่านอาจารย์?”
อาจารย์ของพวกเขาออกคำสั่งไว้แล้วว่าจะเก็บตัวไม่พบผู้ใด เกรงว่าเขาคงเข้าไปไม่ได้แน่แล้ว เพียงแต่เขาต้องการเข้าไปพบท่านอาจารย์ด้วยเรื่องใดกันแน่? หนำซ้ำยังใช้กำลังกับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญาณสองคนนั้นด้วยเรื่องนี้อีก?
ต้วนมู่ไป๋สูดหายใจลึกๆ แล้วบอกกับพวกเขาว่า “ศิษย์น้องเล็กอาจกำลังมีอันตราย เรื่องนี้ ข้าต้องเข้าไปรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบ” เขาไม่กล้าบอกเหล่าศิษย์น้องของตนเองว่าเขาสงสัยว่าท่านอาจารย์จับตัวศิษย์น้องไป เพราะคำพูดเช่นนั้น พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เขา หากไม่ใช่เพราะพักนี้เห็นพฤติกรรมผิดปกติของอาจารย์เขามากมาย เขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง
พวกเขาได้ยินคำพูดของเขา ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที “อะไรนะ? ศิษย์น้องเล็กมีอันตราย? หรือ หรือว่าเสียงที่ดังข้างนอกเมื่อครู่…”
นึกมาถึงตรงนี้ พวกเขาก็อดตระหนกไม่ได้ หันไปมองผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้น “เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเราย่อมต้องรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบอยู่แล้ว พวกเจ้ารีบหลีกไป เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้!”
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนนั้นเองก็เหมือนจะนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ ท่าทางดูเริ่มลังเลเล็กน้อย
“มัวยืนอึ้งอะไรอยู่อีก? นั่นศิษย์น้องเล็กของพวกเราเชียวนะ เป็นศิษย์ปิดสำนักของท่านอาจารย์ของพวกเรา ท่านอาจารย์ให้ความสำคัญกับนางขนาดไหนพวกเจ้าก็รู้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนางจริงๆ พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนขมวดคิ้ว พึมพำเบาๆ จากนั้นก็บอกพวกเขาว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน! ข้าจะเข้าไปรายงานก่อน หากท่านเจ้าเขาบอกว่าจะพบพวกเจ้า พวกข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าเข้าไป” ขณะกล่าว ก็หมุนตัวเดินเข้าไป
ภายในถ้ำ ซานหยางจื่อที่ได้ยินเสียงรายงานจากผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเอ่ยเสียงเครียด “บอกให้พวกเขากลับไป! ในเมื่อคนหายไปแล้วก็ให้พวกเขาไปตามหาเอง! ตอนนี้ข้ากำลังหลอมยา ยาชนิดนี้จะถูกรบกวนไม่ได้เด็ดขาด!”
“ขอรับ” ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นรับคำ แล้วหมุนตัวเดินจากไป
“ท่านเจ้าเขาบอกว่าหากคนหายไปพวกเจ้าก็ไปตามหา ตอนนี้เขาไม่อาจถูกรบกวนได้”
ได้ยินอย่างนั้น ต้วนมู่ไป๋ดึงเหล่าศิษย์น้องของเขามาใกล้ กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างข้างหูพวกเขา จากนั้นก็เห็นพวกเขาพากันเรียงแถวเดินเข้ามา พลางพูดว่า “อย่างนี้เองหรือ? ท่านอาจารย์ของพวกเราจะไม่พบพวกเราจริงหรือ? เช่นนั้นพวกเราจะไปตามหาคนที่ไหนเล่า?”
สิ้นเสียง ก็กอดพวกเขาเอาไว้โดยไม่ทันให้ตั้งตัว “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านรีบเข้าไปเร็ว!”
“ขอบใจมาก” ต้วนมู่ไป๋บอก แล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างใน
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนตกใจ รีบดิ้นขัดขืน “พวกเจ้ารีบปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! นี่คิดจะทำอะ…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยมา ไม่นาน ทั้งสองก็ตัวอ่อนล้มลงไป
“ฮ่า ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่ายานี้มีประโยชน์? ข้าเพิ่งหลอมขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เอง ถึงจะเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณก็ต้องล้มพับอย่างไม่อาจต้านทาน”
นักเล่นแร่แปรธาตุลำดับที่สองพูดอย่างย่ามใจ แล้วหันไปพูดกับคนที่เหลือว่า “พวกเรารีบตามเข้าไปดูกัน”
………………………………….