เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1511 ตายเสียเถอะ + ตอนที่ 1512 รางวัลใหญ่ก่อกำเนิดผู้กล้า
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1511 ตายเสียเถอะ + ตอนที่ 1512 รางวัลใหญ่ก่อกำเนิดผู้กล้า
ตอนที่ 1511 ตายเสียเถอะ + ตอนที่ 1512 รางวัลใหญ่ก่อกำเนิดผู้กล้า
ตอนที่ 1511 ตายเสียเถอะ
“วืด!”
กระแสอากาศอันแข็งแกร่งยังคงพลุ่งพล่านอยู่รอบกายเธอ ขณะเดียวกัน ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคนในสำนัก เสียงระเบิดเลื่อนลั่นก็ดังขึ้นกลางอากาศ กลิ่นอายกดดันและทุ้มต่ำกดลงมาจากท้องฟ้า ปกคลุมไปทั่วสำนัก
“เปรี้ยง!”
“ซี๊ด! นี่มันอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?”
“ท้องฟ้าปลอดโปร่งเช่นนี้เหตุใดจึงมีฟ้าผ่า?”
“กลิ่นอายรอบตัวเฟิ่งจิ่วคนนั้นมันอย่างไรกันแน่? กลิ่นอายรอบตัวนางพลุ่งพล่านรุนแรงถึงเพียงนั้น มะ เหมือนกำลังจะทะลวงขั้น?”
“เมื่อครู่เหมือนว่านางจะกินอะไรบางอย่างเข้าไป! ข้าเห็นเหมือนนางกินอะไรเข้าไปตอนที่ยกมือขึ้น จากนั้นกลิ่นอายรอบตัวนางก็เปลี่ยนไป”
“ทะลวงขั้น? เป็นไปไม่ได้! นางเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นกลาง ในช่วงนี้นางไม่มีทางทะลวงขั้นได้แน่ แรงกดดันบนตัวนางระเบิด ปลุกพลังแห่งฟ้าดิน น่าจะกินยาอะไรที่ช่วยให้พลังสูงขึ้น!”
“ยาหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร? ยาอะไรที่ทำให้มีกระแสอากาศและแรงกดดันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้? แล้วยาอะไรกันที่ทำให้พลังและกลิ่นอายของคนคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปในพริบตาจนน่าตกใจเช่นนี้?”
“นางฆ่าซานหยางจื่อ หรือว่านางแย่งยาฝืนลิขิตสวรรค์อะไรที่ซานหยางจื่อปรุงขึ้นมา?”
ได้ยินเสียงร้องและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความตกตะลึงจากคนรอบข้าง เฉินเต้ารู้สึกเพียงหูอื้ออึง สมองขาวโพลนไปหมด ได้แต่มองเงาร่างอันผ่าเผยในชุดแดงที่ยืนอยู่กลางอากาศด้วยสายตาเหม่อลอย
คนคนนั้น คือเฟิ่งจิ่วหรือ? เฟิ่งจิ่วเป็นผู้หญิง? เขาจะเป็นผู้หญิงได้อย่างไรกัน? เขาเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งต่างหาก! นะ นี่พริบตาเดียว จากเขา ก็กลายเป็นนาง?
ขณะเดียวกันลั่วเหิงที่อยู่บนยอดเขาชั้นล่างเองก็ตะลึงงัน เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เรียกเขาว่าศิษย์พี่ ชั่วพริบตาก็กลายเป็นผู้หญิงแล้ว? ตอนที่เขากำลังมองเงาร่างสีแดงด้วยความอึ้งงัน ก็เห็นว่าท่ามกลางราตรี เงาร่างสีแดงโฉบไหวดุจภูตผี ในมือมีรัศมีของคมกระบี่ส่องประกาย พุ่งแทงไปทางผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณที่แทงเธอจนบาดเจ็บก่อนเป็นคนแรก
ความเร็วของเธอในตอนนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่า รัศมีแสงสีเขียวของกระบี่พาดผ่าน เห็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณผู้นั้นถูกปาดคอโดยไม่ทันหลบเลี่ยง เลือดสีแดงไหลออกจากคอของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง แสดงให้เห็นถึงความไม่จำยอมและเหลือเชื่อ
เห็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเสียหลักร่วงตกลงไป เลือดสีแดงสดนั้นพาให้ผู้พบเห็นตื่นตะลึง ในใจมีคลื่นพายุซัดสาด
เร็วเกินไปแล้ว! ความเร็วอย่างนั้นเร็วเกินไปแล้ว!
เร็วจนทำให้พวกเขามองตามไม่ทัน ความเร็วของนาง กลับเพิ่มขึ้นมากขนาดนั้น!
ทว่า ในขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น กลิ่นอายเย็นเยียบขุมหนึ่งพลันปะทะเข้ามาซึ่งหน้า ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนหนึ่งพลันได้สติ กระบี่ยาวประกายแสงสีเขียวเล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าอกเขา ทำลายวิญญาณต้นของเขาในกระบี่เดียว และปลิดชีพของเขาด้วยเช่นกัน!
“อ๊าก! เจ้า…”
เขากุมกระบี่คมพยับที่แทงทะลุหัวใจเขาด้วยความแค้น สองมือกุมตัวกระบี่จนเลือดไหลอาบก็ยังไม่ยอมปล่อย ดวงตาจ้องมองเฟิ่งจิ่วเขม็ง คล้ายอยากจะลากเธอไปตายพร้อมกัน
ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนนั้นดึงสติกลับมาจากความตกตะลึง เห็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นกำกระบี่ยาวรั้งตัวหญิงสาวชุดแดงคนนั้นไว้ พลันเค้นเสียงตะโกน ซัดฝ่ามือจู่โจมนางทันที
“ตายเสียเถอะ!” ยามนี้ พวกเขาคิดว่าควรฆ่าผู้หญิงคนนี้เสียก่อน! คนคนนี้ อันตรายเกินไปแล้ว!
ประกายมืดมนพาดผ่านดวงตาเฟิ่งจิ่ว เธอจ้องผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณตรงหน้า พลิกกระบี่คมในมือ แล้วกระชากกระบี่คมพยับออกจากมือของคนคนนั้น
………………………………….
ตอนที่ 1512 รางวัลใหญ่ก่อกำเนิดผู้กล้า
อาศัยแรงตอนกระชากกระบี่ออกมา ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นถูกกระแสอากาศดีดจนร่วงดิ่งลงไปท่ามกลางเปลวเพลิงบนยอดเขาที่อยู่ข้างล่าง เพียงไม่นานก็ถูกเปลวเพลิงกลืนกินร่าง
เฟิ่งจิ่วเพียงเหลือบมองแวบหนึ่ง แล้วหมุนตัวพุ่งเข้าไปปะทะกับผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินอีกสองคนที่เหลือ ความสามารถในการหลอมยาของคนในสำนักโอสถตะวันนั้นไม่เลว แต่พลังต่อสู้กลับใช้ไม่ได้ ทว่า ข้างกายของพวกเขาไม่เคยขาดแคลนผู้แข็งแกร่งที่ทำหน้าที่คอยคุ้มกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งอีกแค่ไหนก็ยังมีความต้องการ สำหรับผู้ฝึกตนยาอายุวัฒนะถือเป็นของดีที่ช่วยในการเพิ่มพลัง ฉะนั้นต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการก็เท่านั้น
“แกร้ง!”
คมกระบี่ปะทะกัน เกิดเป็นประกายสะเก็ดไฟ สองผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินรุมโจมตีเฟิ่งจิ่วทั้งจากข้างหน้าและข้างหลัง ส่วนเฟิ่งจิ่วในตอนนี้ เพราะกินยาเพิ่มพลังเข้าไปจึงรู้สึกเหมือนมีไฟดวงหนึ่งกำลังเดือดพล่านอยู่ในตัว กลิ่นอายอันแข็งแกร่งถูกถ่ายเทออกมาไม่ขาดสาย กลายเป็นพลังต่อสู้อันดุดัน
เวลานี้ สองผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินรุมโจมตีเฟิ่งจิ่วคนเดียวก็ยังไม่ได้เป็นฝ่ายเหนือกว่า ลึกๆ ข้างในอดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ พลังต่อสู้เช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่? ผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี กลับมีพลังต่อสู้อย่างนี้ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน ผู้หญิงคนนี้ คงไม่ใช่ลูกศิษย์ของตระกูลเร้นลับหรือราชวงศ์ไหนหรอกกระมัง?
นึกมาถึงตรงนี้ ทั้งสองลังเลเล็กน้อย เดิมทีก็ตกเป็นฝ่ายรองยามต่อสู้กับเฟิ่งจิ่วอยู่แล้ว ร่างกายยังบาดเจ็บเพราะถูกกระบี่คมพยับฟันอีก ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวผู้หญิงคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นกลิ่นอายของสัตว์เทวะโบราณ ยิ่งพวกเขาต่อสู้ก็ยิ่งตกตะลึง ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งไม่กล้าประมาท
กระทั่งทั้งสองถูกพลังกระบี่จู่โจมจนปลิวออกมา พวกเขามองหน้ากันแวบหนึ่ง แล้วถอยออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
คนคนนี้ พวกเขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย!
ในเมื่อฆ่านางไม่ได้ เช่นนั้นก็ถอย ไม่อย่างนั้นก็มีแต่จะสร้างศัตรูที่รับมือยากให้พวกเขา กระทั่งหากเผลอแวบเดียวก็อาจตายด้วยน้ำมือของนางเหมือนผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณสองคนเมื่อครู่
เพียงแต่ พวกเขาเลือกถอยในเวลานี้ เกรงว่าจะอยู่ในสำนักโอสถตะวันไม่ได้อีกต่อไป
เจ้าสำนักเห็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินสองคนนั้นถอยหนี ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ หันไปพูดกับคนข้างหลังว่า “พวกเจ้าเข้าไปช่วย ต้องจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาให้ได้! หากจับเป็นไม่ได้ เช่นนั้นก็ฆ่าเสีย! กล้าล่วงเกินคนในสำนักโอสถตะวันของข้า ข้าไม่มีวันยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่!”
พวกคนข้างหลังได้ยินก็ลังเล เพราะพวกเขาดูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว แล้วก็ดูออกด้วยว่าพลังต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เกรงว่าหากพวกเขาเข้าไปก็มีแต่จะ…
อาจเพราะเห็นถึงความลังเลของพวกเขา เจ้าสำนักจึงเอ่ยปากให้คำมั่นว่า “ไม่ว่าเป็นหรือตาย ขอเพียงจับตัวมาได้ ข้าจะมอบยาวิเศษให้พวกเจ้าคนละเม็ด!”
ได้ยินอย่างนี้ พวกเขาตาเป็นประกาย ความลังเลในเสี้ยวนาทีนั้นถูกล่อลวงด้วยผลประโยชน์อันใหญ่หลวง ยาวิเศษ! อีกทั้งยังเป็นยาที่เจ้าสำนักรับปากจะให้ด้วยตนเอง นั่นต้องไม่ใช่ของที่จะหาได้จากข้างนอกแน่นอน!
แม้รู้ว่าหากลงมือแล้วอาจต้องบาดเจ็บหรือตายได้ แต่ภายใต้ผลประโยชน์ที่น่าเย้ายวนเช่นนี้ พวกเขาก็ยังคงหวั่นไหว พวกเขาจึงรับคำด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
“ขอรับ!”
สิ้นเสียง ผู้ฝึกตนหลายคนเหาะออกไป พุ่งเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหน้า ส่วนผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินสองคนนั้นที่ได้ยินคำพูดของเจ้าสำนัก แม้จะมีหวั่นไหวบ้าง แต่กลับไม่เข้าไปอีก ตรงกันข้ามยังคงถอยหนีเรื่อยๆ
พวกเขาเคยประมือกับผู้หญิงคนนั้น พลังของนางอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณ แต่หลังจากกินยาพลังก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า อีกอย่างนางก็ยังเป็นผู้ฝึกตนประเภทที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง พวกเขาไม่มีความมั่นใจที่จะสู้กับนางจริงๆ
พวกเขาไม่ใช่คนวู่วาม หากไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่มีทางเอาชีวิตตนเองไปล้อเล่นแน่นอน
………………………………….