เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1527 ข้ามาจากโลกอื่น + ตอนที่ 1528 ร้านยาที่ไม่สะดุดตา
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1527 ข้ามาจากโลกอื่น + ตอนที่ 1528 ร้านยาที่ไม่สะดุดตา
ตอนที่ 1527 ข้ามาจากโลกอื่น + ตอนที่ 1528 ร้านยาที่ไม่สะดุดตา
ตอนที่ 1527 ข้ามาจากโลกอื่น
“แต่พื้นที่ด้านบนนี้ เหตุใดจึงไม่เขียนอะไรไว้เลย? แผนที่ผืนนี้ของท่านก็ไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่าไร?” เธอชี้ไปที่พื้นที่บางจุดบนแผนที่ เห็นว่าอธิบายไว้เพียงบางส่วน ส่วนพื้นที่อื่นๆ กลับว่างเปล่า ไม่มีข้อมูลแม้แต่น้อย
“นั่นเป็นเพราะคนในแคว้นแถบตะวันออกตอนล่างของเรา ไม่เคยออกจากอาณาเขตเลยอย่างไรเล่า”
เซวียนหยวนโม่เจ๋ออธิบาย ชี้ไปยังผืนป่าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด รวมถึงพื้นที่บางส่วนที่ถูกกั้นแบ่งไว้ด้วยมหาสมุทร พูดว่า “เห็นตรงนี้หรือไม่? สถานที่เหล่านี้นอกจากมีป่าไร้ขอบเขตกั้นอยู่แล้ว ยังมีเขตอาคมและค่ายกลวางอยู่ด้วย คนธรรมดาไม่มีทางผ่านทางได้แน่นอน เพราะไม่มีใครรู้จักพื้นที่แถบนั้น ด้วยเหตุนี้ พื้นที่แถบนั้นล้วนถูกเรียกว่าพื้นที่ลึกลับ
แต่ข้ากลับได้ยินมาว่า อาจารย์ของผู้เฒ่าเทียนจีก็อยู่ในพื้นที่ลึกลับผืนนี้เช่นกัน ท่านอาจารย์ที่เคยสอนและถ่ายทอดวิชาให้ข้า ก็มาจากพื้นที่ลึกลับนี้เช่นกัน”
“ผู้เฒ่าเทียนจีกับอาจารย์ของท่าน?” เธอกระพริบตาปริบๆ สองมือเท้าคาง “เหตุใดข้าไม่เคยเห็นท่านพูดถึงอาจารย์ของท่านเลยสักครั้ง?”
“เพราะเขาคอยสอนข้าอย่างลับๆ ไม่อยากให้ข้าพูดชื่อของเขาออกไป แม้แต่พวกฮุยหลางที่ติดตามข้ามาตั้งแต่เล็ก ก็ยังไม่รู้ว่าเขามีตัวตนอยู่”
“อ้อ ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” เธอพยักหน้า ไม่ถามอะไรอีก แต่กลับนึกอีกเรื่องขึ้นมาได้ “เมื่อก่อนโม่เฉินเคยเล่าให้ฟังอยู่บ้าง แต่ข้าไม่เคยใส่ใจ แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว มักรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ล้วนมีเงื่อนงำ”
“ดาราหงส์ปรากฏ ดวงวิญญาณเข้ามาสู่โลก นางมาจากโลกอื่น ทำลายซึ่งกฎแห่งสวรรค์ทั้งแปด และจำต้องกลายเป็นเจ้าแห่งใต้หล้า” เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเธอ แล้วท่องประโยคนี้ออกมา
“อืม ประโยคนี้แหละ คำว่าทำลายกฎแห่งสวรรค์ทั้งแปด ข้าไม่เคยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ทำลายกฎแห่งสวรรค์ทั้งแปดอะไรกัน? กฎแห่งสวรรค์ทั้งแปดคืออะไร? แล้วยังมีจำต้องกลายเป็นเจ้าแห่งใต้หล้าอีก? ความจริงข้าขี้เกียจมาก ไม่คิดจะไปแย่งชิงกับใครเพื่อเป็นเจ้าแห่งใต้หล้าอะไรทั้งนั้น ฉะนั้นข้าจึงคิดว่าคำพูดพวกนี้เหลวไหลทั้งเพ”
เธอเอามือเท้าคาง ขมวดคิ้วพลางบ่นพึมพำ
ได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อสายตาไหวระริก มองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง ถามว่า “มาจากโลกอื่น ดวงวิญญาณเข้ามาสู่โลก สองประโยคนี้หมายความว่าเช่นไร? เจ้ารู้หรือไม่?”
คำพูดประโยคนี้ได้แพร่กระจายออกไปนานแล้ว คนในแปดจักรวรรดิใหญ่เองก็กำลังตามหาหญิงสาวที่ชื่อเฟิ่งซิง เพียงแต่ คนอื่นๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเฟิ่งซิงก็คือเฟิ่งจิ่ว
ทว่า สองประโยคนี้ ทำให้เขาสงสัยมาโดยตลอด เหตุใดจึงมาจากโลกอื่น? ดวงวิญญาณเข้ามาสู่โลก? หรือว่า วันหนึ่งในอนาคต นางจะถูกดวงวิญญาณที่มาจากโลกอื่นแย่งตัวไป?
หากสองประโยคนี้ไม่ได้หมายความเช่นนี้ แล้วจะหมายถึงอะไร? จำต้องบอกว่านี่เป็นเรื่องที่เขาแอบกังวลลึกๆ มาตลอด คำพูดที่ออกมาจากปากของผู้เฒ่าเทียนจี ไม่มีทางเป็นเรื่องที่พูดออกมาส่งเดช ในเมื่อเขาพูดอย่างนี้ เขาจะต้องมีเหตุผลแน่นอน
เห็นสายตาลึกล้ำของเขาจับจ้องมาที่เธอ ราวกับต้องการจะมองทะลุเข้ามาในจิตวิญญาณของเธอ แววตาเฟิ่งจิ่วไหวระริก ยิ้มแล้วพูดทีเล่นทีจริงว่า “สองประโยคนี้เข้าใจง่ายมาก! ก็หมายความว่าข้าเป็นดวงวิญญาณที่มาจากโลกอื่นอย่างไรเล่า!”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ได้ยินเธอพูดอย่างนี้ หัวใจที่บีบเกร็งเล็กน้อยกลับผ่อนคลายลง เขากุมมือเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูด “ใช่ ไม่ว่าเจ้าจะมาจากที่ใด ขอเพียงเจ้าเป็นเจ้า ก็เพียงพอแล้ว”
เขาเพียงต้องการรู้ว่าเธอคือหญิงสาวที่เขารักก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเลยสักนิด
………………………………….
ตอนที่ 1528 ร้านยาที่ไม่สะดุดตา
วันนี้ ทั้งสองหาเวลามาอยู่ร่วมกัน ไม่ได้เจอกันนาน ระหว่างทั้งสองราวกับมีเรื่องให้คุยกันไม่รู้จักจบ ต่างก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมาให้อีกฝ่ายฟัง บอกเล่าถึงความคิดถึงที่มีให้กัน
จากพบเจอ เป็นรู้จักกัน กระทั่งถึงครองรักกัน สายสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพัฒนาไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติมาก เริ่มแรกเธอเกี้ยวพาราสีเขา จนถึงตอนที่เขาสารภาพความรู้สึกกับเธอ แล้วเฟิ่งจิ่วก็ปฏิเสธเขาไปตรงๆ กระทั่งมาถึงตอนที่ทั้งสองสร้างสัญญาสิบปี
ถึงแม้เวลายังผ่านไปไม่ถึงสิบปี แต่หลายปีผ่านมานี้ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด ในใจเริ่มมีเงาของอีกฝ่ายอยู่ด้วยแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
เช้าวันต่อมา
“ไม่ต้องส่งแล้ว รอข้าสะสางปัญหาเสร็จจะกลับมาหาเจ้า” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอกกับเฟิ่งจิ่วที่เดินออกมาส่งเขานอกลานบ้าน
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “อืม ระวังตัวด้วย ข้าจะอยู่ที่นี่รอท่านกลับมา”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อโอบเธอเข้าไปหา แล้วจูบหน้าผากเธอเบาๆ “ดูแลตัวเองด้วย อย่าเอาแต่ทำให้ข้าเป็นห่วง”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหัวเราะร่า “ดูท่านพูดเข้าสิ พูดเหมือนข้าเป็นตัวก่อเรื่องอย่างไรอย่างนั้น” พูดจบ เธอก็อดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ ก่อนจะกลอกตา แล้วยิ้มตาหยี “แต่จะว่าไป เหมือนข้าจะเป็นตัวก่อเรื่องจริงๆ! ไปไหนก็มีแต่ความวุ่นวาย”
“ไม่เป็นไร เจ้าก่อเรื่องมีข้าคอยช่วยแก้ปัญหา ขอเพียงเจ้าไม่เอาแต่บาดเจ็บบ่อยๆ ก็พอ” เขากุมมือเธอแล้วบอก สายตาลึกล้ำสะท้อนแววอาลัยอาวรณ์
เพิ่งได้อยู่ด้วยกันไม่กี่วันก็ต้องไปสะสางปัญหาที่ตำหนักยมราชแล้ว ปัญหามาไม่ถูกเวลาเลยจริงๆ
เห็นถึงความอาลัยอาวรณ์ของเขา เธอยิ้มตาหยี แล้วบอกว่า “เอาล่ะๆ ท่านไปเถิด! รีบไปรีบกลับมา”
สุดท้าย หลังจากเธอเร่งเร้าอยู่สองสามครั้ง เซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงค่อยหมุนตัวจากไป…
หลังจากเขาไป เฟิ่งจิ่วเดินกลับเข้ามาในลานบ้าน กินข้าวเช้ากับท่านแม่ของเธอเสร็จ ก็ให้เหลิ่งซวงอยู่ดูแลท่านแม่เธอ ส่วนตนเองก็เปลี่ยนกลับไปใส่เสื้อผ้าผู้ชาย แล้วพาตู้ฝานออกไปข้างนอก
หายากที่จะมีโอกาสได้ออกไปข้างนอกกับนายท่าน แววตาตู้ฝานดีใจอย่างปิดไม่มิด ตลอดทาง เขาคอยเดินตามและดูแลความปลอดภัยของเธออย่างแข็งขัน
ครั้นเห็นเธอเดินไปยังอีกฝั่งของถนน ตู้ฝานที่เดินตามก็อึ้ง ถามว่า “นายท่าน ท่านจะไปตลาดมืดไม่ใช่หรือ? ตลาดมืดไปทางนี้ขอรับ”
“เหลิ่งหวาอยู่ที่ร้านไม่ใช่หรือ? แวะไปดูสักหน่อย”
เธอตอบ แล้วสาวเท้าเดินไปทางร้านค้า นั่นเป็นร้านค้าที่พวกเขาสร้างขึ้นตรงหัวมุมของที่นี่ ปกติหากไม่ใช่เหลิ่งหวาคอยดูแลที่นี่ ก็จะเป็นตู้ฝาน นอกจากนี้ ในร้านยังมีคนงานที่พวกเขาจ้างมาอีกหนึ่งคน
ได้ยินว่าเธอจะไปที่ร้าน ตู้ฝานจึงไม่ถามอะไรอีก เพียงเดินตามไปเงียบๆ กระทั่งมาถึงหน้าร้าน เห็นเหลิ่งหวาที่กำลังขายของ เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ สาวเท้าเดินเข้าไป
เห็นเฟิ่งจิ่วเดินเข้ามา เหลิ่งหวายิ้มแล้วสั่งให้คนงานต้อนรับลูกค้าที่มาซื้อของแทนเขา ส่วนตนเองก็เชิญเฟิ่งจิ่วไปที่ห้องโถงด้านหลัง แล้วถาม “นายท่าน ท่านมาได้อย่างไรขอรับ? มีเรื่องอะไรหรือขอรับ?”
“ตั้งใจว่าจะไปตลาดมืด จึงแวะมาดูสักหน่อย” เธอนั่งลงข้างโต๊ะ แล้วถามว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีกระมัง?”
เหลิ่งหวายิ้มอย่างอ่อนโยน “ทุกอย่างปกติดีขอรับ พวกเราขายแค่ยาทั่วไป มีเพียงลูกค้าเก่า ถึงจะเอาของดีจริงๆ ออกมาให้พวกเขาดู”
ภายนอกพวกเขาขายยาทั่วไป แต่แท้จริงแล้ว มีแค่ลูกค้าเก่าไม่กี่คนที่รู้ ร้านยาที่ไม่สะดุดตาของพวกเขาแห่งนี้ มีของดีที่คนอื่นไม่มีอยู่ในมือ
………………………………….