เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1529 แม้มีทองก็ยังหายาก + ตอนที่ 1530 มีคนตามมา
ตอนที่ 1529 แม้มีทองก็ยังหายาก + ตอนที่ 1530 มีคนตามมา
ตอนที่ 1529 แม้มีทองก็ยังหายาก
ขณะพูด ก็ได้ยินเสียงคนงานดังมาจากข้างนอก “ผู้ดูแลเหลิ่ง”
ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอก เหลิ่งหวาพูดกับเฟิ่งจิ่วว่า “นายท่าน ข้าออกไปดูประเดี๋ยว” พอเฟิ่งจิ่วพยักหน้า เขาก็หมุนตัวเดินไปข้างนอก
“ผู้ดูแล ข้างนอกมีลูกค้าคนหนึ่งส่งนี่มาให้ บอกว่าจะพบท่าน” ผู้ดูแลยื่นป้ายไม้ที่มีความกว้างสองนิ้วมือมาให้หนึ่งแผ่น
เหลิ่งหวารับไปดู สาวเท้าเดินออกไปข้างนอก พอมาถึงข้างนอก เสี่ยวเอ้อร์ชี้ให้ดู จึงเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังยืนดูยาอยู่ในร้าน รวมถึงผู้ติดตามสองคนที่ตามเขามาด้วย
หลังจากโบกมือให้เสี่ยวเอ้อร์ถอยไป เหลิ่งหวาก็ประสานมือคารวะ แล้วยิ้มทักทาย “ข้าน้อยแซ่เหลิ่ง เป็นผู้ดูแลของที่นี่ ไม่ทราบลูกค้าท่านนี้ชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร?”
ชายวัยกลางคนผู้นั้นกวาดตามองพิจารณาเหลิ่งหวาอย่างแนบเนียน เห็นเด็กหนุ่มตรงหน้ามีกลิ่นอายอ่อนโยน พลังกลับอยู่ในขั้นสร้างรากฐาน จึงอดลอบประหลาดใจไม่ได้
ไม่นึกเลยว่าคนคนนี้จะยังเด็กขนาดนี้ อีกทั้งพลังยังอยู่แค่ระดับสร้างรากฐาน พลังเช่นนี้ เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเขาวางใจให้เขาดูแลเรื่องการค้าขายได้อย่างไรกัน?
แต่ทว่า เขากลับไม่ได้ดูเบาคนตรงหน้าเพียงเพราะเหตุผลนี้ แต่เหลือบมองป้ายไม้สีดำที่เขายื่นออกมาตรงหน้า แล้วยิ้มตอบว่า “ข้าแซ่หนี”
เหลิ่งหวาพยักหน้า แล้วผายมือทำท่าเชื้อเชิญ “คุณชายหนี เชิญทางนี้” เขาเชิญชายวัยกลางคนเข้ามายังจุดที่อยู่ด้านหลังร้านเล็กน้อย ตรงนั้นมีโต๊ะหนึ่งตัวและเก้าอี้สองตัว มักเอาไว้ให้แขกนั่งพัก
หลังจากนั่งลง ชายวัยกลางคนผู้นั้นเห็นว่าในร้านไม่มีลูกค้นคนอื่น จึงเอ่ยปากตรงๆ “ผู้ดูแลเหลิ่ง ข้าอยากได้ยารวมพลังวิญญาณระดับสี่หนึ่งขวด”
เหลิ่งหวาหน้าไม่เปลี่ยนสี เพียงถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณชายหนีรู้ราคาหรือไม่?”
“รู้ ขวดละหนึ่งล้านเหรียญทอง” ชายวัยกลางคนกล่าว พยักพเยิดให้คนข้างกาย คนผู้นั้นก้าวเข้ามาหยิบถุงฟ้าดินออกมาวางบนโต๊ะ
“ในนี้มีอยู่หนึ่งล้านเหรียญทอง ไม่ทราบว่าข้าจะได้ยารวมพลังวิญญาณระดับสี่เมื่อใด?” เขามองเหลิ่งหวา ยารวมพลังวิญญาณระดับสี่ แม้แต่ลานประมูลข้างนอกก็ยังหาได้ยาก แต่ที่นี่ กลับสามารถหาซื้อได้จริงๆ
ข่าวนี้แพร่ออกไปทั่วหล้าแล้ว แต่หากต้องการซื้อยาหรือยาน้ำวิญญาณอะไรจากที่นี่ กลับจำเป็นต้องมีป้ายไม้สีดำที่พวกเขาส่งออกไปจากที่นี่ก่อน ไม่เช่นนั้น แม้จะให้ราคาสูงเท่าไรก็ไม่อาจซื้อของที่ต้องการไปจากที่นี่ได้
เขามาเพราะอยากลองดูสักครั้ง นึกไม่ถึง เด็กหนุ่มคนนี้กิริยาสงบนิ่ง ดูท่าทาง เหมือนจะมียาน้ำรวมพลังวิญญาณอยู่จริงๆ
เหลิ่งหวารับถุงฟ้าดินไป วางมือลงข้างบนแล้วใช้ดวงจิตสัมผัสผ่าน เผยรอยยิ้มออกมา แล้วพูดกับชายวัยกลางคนแซ่หนีว่า “ได้เดี๋ยวนี้เลยขอรับ”
จากนั้น เขาก็หยิบถุงฟ้าดินที่เอวขึ้นมาแล้วล้วงเอายาน้ำรวมพลังวิญญาณออกมาวางบนโต๊ะหนึ่งขวด ขณะเดียวกัน ก็เก็บถุงฟ้าดินที่ใส่เหรียญทองไปด้วย
ชายแซ่หลีชะงัก มองดูยาน้ำขวดนั้นที่อยู่ข้างหน้าเขา หยิบขึ้นมาเพ่งมองอย่างละเอียด แล้วเปิดขวดดมกลิ่นดู ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เป็นยาน้ำรวมพลังวิญญาณจริงๆ ด้วย หนำซ้ำยังเป็นของชั้นยอดเสียด้วย!”
เขามองเหลิ่งหวา แล้วถามด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด “ได้ยินมาว่า ที่นี่ยังมียาอายุวัฒนะชนิดต่างๆ ด้วย?”
เหลิ่งหวายิ้มอ่อนโยน “คุณชายหนี ป้ายไม้สีดำหนึ่งแผ่น ซื้อยาได้เพียงหนึ่งขวดเท่านั้น” ความหมายก็คือ ถึงจะมี ท่านก็ซื้อไม่ได้
ชายแซ่หนีชะงักเล็กน้อย เห็นเขาเก็บป้ายไม้สีดำแผ่นนั้นกลับไปแล้วก็อึ้งงัน ก่อนจะเก็บยาน้ำวิญญาณ แล้วประสานมือกล่าวว่า “ผู้แซ่หนีทราบแล้ว เพียงแต่ ไม่ทราบว่าผู้ดูแลเหลิ่งจะช่วยหาวิธีขายป้ายไม้สีดำแผ่นนี้ให้ข้าอีกครั้งได้หรือไม่?”
………………………………….
ตอนที่ 1530 มีคนตามมา
ยาขวดนี้ราคาหนึ่งล้าน แต่ป้ายไม้สีดำแผ่นนี้ราคาก็ไม่ต่ำเช่นกัน ไม่เช่นนั้นหลายคนคงไม่แอบเพิ่มราคาป้ายไม้เพื่อเก็งกำไรอย่างลับๆ
เขาเองก็ลงทุนลงแรงไปไม่น้อยกว่าจะได้ป้ายไม้สีดำแผ่นนี้มา ป้ายไม้สีดำนั้นดูธรรมดา แต่กลับไม่มีใครเลียนแบบได้ บนป้ายไม้สีดำทุกแผ่นล้วนมีคำว่าภูตหมอ รวมถึงสัญลักษณ์เฉพาะสลักไว้ มีเพียงคนที่ได้ป้ายไม้สีดำของภูตหมอไปเท่านั้นที่จะซื้อยาได้
ยามนี้เขาได้ยามาหนึ่งขวดแล้ว ยาน้ำรวมพลังวิญญาณระดับสี่ อีกทั้งยังมีความบริสุทธิ์สูงอย่างที่หาข้างนอกไม่ได้แน่นอน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหวังว่าจะสามารถซื้อกลับไปได้อีกหนึ่งขวด เพียงแต่…
“ขออภัยคุณชายหนี” เหลิ่งหวายืนขึ้นแล้วขอโทษ “ป้ายคำสั่งไม้ดำมีวันเปิดประมูล อีกทั้งยังเปิดประมูลในตลาดมืดด้วย เรื่องนี้ข้าช่วยไม่ได้จริงๆ ขอรับ”
เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง คารวะแล้วบอกว่า “ขออภัยด้วย ข้ายังมีธุระ ต้องขอตัวก่อน”
ได้ยินอย่างนั้น คุณชายหนีลุกขึ้น “เอาเถิด! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ผู้แซ่หนีก็จะไม่ฝืนใจ ทว่า ผู้แซ่หนีมีเรื่องหนึ่งอยากถาม ไม่ทราบผู้ดูแลเหลิ่งจะช่วยชี้แจงสักนิดได้หรือไม่?”
เหลิ่งหวายิ้มอ่อนโยน “หากจะถามเรื่องนายท่านของข้า คุณชายหนีไม่ต้องเสียเวลาเอ่ยปาก ข้าเองก็ทำตามคำสั่ง หากไม่มีคำสั่งจากนายท่านของข้า ไม่ว่าเรื่องใดข้าไม่อาจเปิดเผยได้แม้แต่น้อย เชิญ” เขาผายมือทำท่าเชิญ เพื่อเตรียมส่งเขากลับไป
คุณชายหนีอึ้งไปเล็กน้อย เขายิ้มแล้วพยักหน้า “เอาเถิด! ข้าเชื่อว่าภายหน้าจะต้องมีโอกาสได้พบนายท่านของเจ้าแน่” เอ่ยจบ จึงพาคนสาวเท้าเดินจากไป
หลังจากพวกเขาไป เหลิ่งหวาหมุนตัวเดินไปด้านหลัง มาถึงตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว แล้วเล่าเรื่องให้เธอฟัง “นายท่าน ป้ายไม้ดำที่เราส่งออกไปเก็บกลับมาได้ไม่น้อยแล้ว เวลามาซื้อยาคนพวกนั้นมักอยากจะถามเรื่องท่าน แต่กลับไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไร”
“แน่นอนสิ เราตั้งกฎไว้แล้ว ใครก่อเรื่องจะถูกจัดอยู่ในบัญชีดำ ถึงจะมีป้ายไม้ดำก็ซื้อยาของเราไม่ได้ พวกเขาย่อมไม่กล้าก่อปัญหาอยู่แล้ว” เธอลุกขึ้น สะบัดเสื้อคลุมบนตัว แล้วบอกว่า “เอาล่ะ พวกเราไปตลาดมืดสักหน่อย เจ้าลองตรวจสอบดูว่าขาดยาอะไรบ้างแล้วบอกข้า”
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ออกไปส่งเธอข้างนอก หลังมองส่งเธอกับตู้ฝานจากไป จึงกลับเข้ามาในร้าน
ร้านของพวกเขาเริ่มต้นด้วยการขายเพียงยาบางอย่างเท่านั้น ต่อมาถึงได้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลง อาจดูเหมือนร้านยาธรรมดา แต่กลับเป็นที่สนใจ เรียกได้ว่าที่ผ่านมา พวกเขาได้สร้างรากฐานที่มั่นคงที่นี่แล้ว ไม่ว่ากลุ่มอำนาจใดล้วนต้องไว้หน้าพวกเขาบ้าง
ชื่อเสียงภูตหมอของนายท่านเดิมก็ไม่ได้โด่งดังในแปดจักรวรรดิใหญ่แห่งนี้ ไม่ว่าชื่อเสียงนางจะโด่งดังอีกเพียงใด แต่ก็คงไม่ข้ามน้ำข้ามทะเลโด่งดังมาจนถึงที่นี่ โดยเฉพาะ เดิมทีร้านขายยากับยาน้ำวิญญาณหลักของนายท่านไม่ใช่ที่นี่ เพราะอย่างที่บอก กลุ่มอำนาจที่อยู่ที่นี่ไม่รู้ชื่อเสียงของภูตหมอ ไม่รู้ที่มาที่ไปของภูตหมอ
ทว่า หลังค้าขายมาได้ระยะหนึ่ง ชื่อเสียงภูตหมอของนายท่านเริ่มเป็นที่รู้จักของกลุ่มอำนาจในพื้นที่แถบนี้ มีอำนาจตลาดมืดอยู่ที่นี่ พวกเขากลับไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ เพราะไม่ว่าอย่างไรทุกฝ่ายก็ต้องเกรงใจอำนาจของตลาดมืดอยู่แล้ว ไม่มีใครกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูด้วย
ในอีกด้าน เฟิ่งจิ่วพาตู้ฝานออกมาจากร้านยา เดินผ่านถนนหนึ่งเส้น ตู้ฝานที่เดินอยู่ข้างๆ ก็กระซิบว่า “นายท่าน มีคนตามเรามาขอรับ”
“อืม” เฟิ่งจิ่วรับคำอย่างไม่ยี่หระ ยังคงเดินทอดน่องอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
………………………………….