เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1545 เหรียญตราสองเหรียญ + ตอนที่ 1546 เจ้าเมืองเชื้อเชิญ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1545 เหรียญตราสองเหรียญ + ตอนที่ 1546 เจ้าเมืองเชื้อเชิญ
ตอนที่ 1545 เหรียญตราสองเหรียญ + ตอนที่ 1546 เจ้าเมืองเชื้อเชิญ
ตอนที่ 1545 เหรียญตราสองเหรียญ
“เด็กหนุ่มจากที่ไหนกัน? เบียดมาข้างหน้าทำไม? ไปไกลๆ เลย”
“อย่ามาก่อความวุ่นวายที่นี่ ไปเล่นที่อื่นไป”
“เด็กน้อยมาผสมโรงอะไรที่นี่ รีบไปไกลๆ อย่ามาทำพวกข้าเสียเรื่อง”
เหล่านักเล่นแร่แปรธาตุและหมอที่อยู่ข้างหน้ากำลังยืนคิดหนัก บ้างก็ยืนถกเถียงกัน ทว่าพอเห็นเด็กหนุ่มชุดแดงเบียดมาข้างหน้า ต่างก็ออกปากขับไล่
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “รบกวนหลีกทางหน่อย”
“หลีกทางหรือ เจ้าหนู เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่ที่ไหน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดกับใคร” นักเล่นแร่แปรธาตุอายุสี่สิบกว่าปีตวาดเสียงเข้ม ขณะเดียวกันก็ยืดอกเพื่อให้เห็นเหรียญตราแสดงฐานะของตนเองอย่างชัดเจน
เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง แล้วตอบอย่างไม่ยี่หระ “ท่านเป็นใครแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า รบกวนหลีกทางหน่อย ท่านขวางทางข้าอยู่”
นักเล่นแร่แปรธาตุที่ไม่เคยถูกเมินใส่เช่นนี้ใบหน้าแสดงความโกรธ เขาเป็นถึงอาจารย์โอสถเชียวนะ! เขาเป็นถึงนักเล่นแร่แปรธาตุขั้นอาจารย์โอสถเชียวนะ! อีกทั้งยังเป็นอาจารย์โอสถระดับสูงด้วย เจ้าเด็กคนนี้กลับกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอย่างนี้ ช่างเหิมเกริมไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสักนิด!
“จะ เจ้ากล้า…”
น้ำเสียงเกี้ยวโกรธยังพูดไม่ทันจบ ก็ต้องอึ้งงันกับภาพตรงหน้า คำพูดหลังจากนั้นกลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว แววตาเขาตื่นตะลึง มองเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้าด้วยสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
เห็นเพียง เฟิ่งจิ่วหยิบเหรียญตราขึ้นมาห้อยตรงหน้าอกของเธอ นั่นเป็นเหรียญตราของนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปราชญ์โอสถ เป็นเหรียญตราที่สูงกว่าอาจารย์โอสถหนึ่งระดับ
ระดับปราชญ์โอสถอาจจะหาได้หนึ่งคนหรือสองคนในหนึ่งเมือง แต่กลับไม่เคยเจอนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปราชญ์โอสถที่อายุน้อยเหมือนเด็กหนุ่มเลย มิหนำซ้ำ หากเด็กหนุ่มเพียงหยิบเหรียญตราปราชญ์โอสถมาเหน็บตรงหน้าอกก็แล้วไป แต่หลังจากเหน็บเหรียญตราเหรียญนั้นเสร็จ เขากลับสะบัดชายเสื้อคลุมสีแดง แล้วล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ ไม่นาน เขาก็หยิบเหรียญตราอีกเหรียญหนึ่งขึ้นมาเหน็บตรงหน้าอก
เมื่อเห็นเหรียญตราที่เด็กหนุ่มหยิบขึ้นมาเหน็บตรงหน้าอก คนรอบข้างต่างก็สูดหายใจ เดิมทีกลุ่มคนที่กำลังถกเถียงกันอย่างวุ่นวาย ล้วนเงียบกริบในนาทีนี้ เงียบจนพาให้บรรยากาศแปลกประหลาด เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตกพื้น
เพราะนั่นเป็นเหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหรียญตราที่แสดงถึงระดับนักปรุงยาที่อยู่ในระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์…
ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปราชญ์โอสถหรือนักปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ที่ใดล้วนเรียกได้ว่าเป็นยอดคน เป็นคนที่จะได้รับความเลื่อมใส แต่ภาพตรงหน้า กลับทำให้พวกเขารู้สึกเพียงเป็นเรื่องเหลือเชื่อและแปลกประหลาดเท่านั้น
เหรียญตราอย่างนั้น เหรียญตราปราชญ์โอสถที่สอบยากอย่างนั้น มีค่ามหาศาลทีเดียว เหตุใดจึงมาอยู่ในมือของเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ อีกอย่าง เด็กหนุ่มคนนี้ยังมีเหรียญตราถึงสองเหรียญด้วย? นะ นี่จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
อย่าว่าแต่นักเล่นแร่แปรธาตุคนเมื่อครู่ที่พูดอะไรไม่ออกราวกับถูกดินยัดปาก แม้แต่คนแถวนั้นก็พูดไม่ออกสักคำเดียว
ภาพตรงหน้าเป็นความจริงหรือ? เด็กหนุ่มที่อายุน้อยขนาดนี้ จะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปราชญ์โอสถและนักปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรกัน อย่าว่าแต่ในเมืองซุ่นเหยียนแห่งนี้เลย แม้แต่ที่อื่น ก็ยังไม่เคยมีคนบ้าเช่นนี้ปรากฏตัวเลยกระมัง?
เฟิ่งจิ่วหยิบเหรียญตราสองเหรียญมาเหน็บเสร็จ ก็จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไม่ได้สนใจสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดของคนรอบข้าง แต่เงยหน้ามองนักเล่นแร่แปรธาตุระดับอาจารย์โอสถคนนั้นด้วยแววตาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วถามด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ข้าทำไมหรือ”
………………………………….
ตอนที่ 1546 เจ้าเมืองเชื้อเชิญ
“มะ มะ ไม่มีอะไรๆ” นักเล่นแร่แปรธาตุระดับอาจารย์โอสถคนเดิมพูดติดอ่าง รีบถอยไปด้านหนึ่ง ไม่กล้าขวางทางเฟิ่งจิ่วอีก
ตอนที่เห็นเฟิ่งจิ่วหยิบเหรียญตราสองเหรียญขึ้นมาเหน็บ คนของจวนเจ้าเมืองก็รีบเข้าไปรายงานข้างในแต่แรกแล้ว
“อะไรนะ ข้างนอกมีนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปราชญ์โอสถคนหนึ่งมาอย่างนั้นหรือ? หนำซ้ำเขายังเป็นนักปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย ถึงขนาดมีเหรียญตราสองเหรียญพร้อมกัน” ในห้องโถงใหญ่ เจ้าเมืองได้ยินองครักษ์รายงาน ก็อุทานด้วยความเหลือเชื่อ
“เป็นเรื่องจริงหรือ? ไม่ได้ดูผิดใช่หรือไม่”
“ไม่ผิดแน่ขอรับ ข้างนอกมีคนหลายคนเห็นกับตา แต่เจ้าตัวกลับอายุน้อยมาก ดูท่าทางอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำขอรับ”
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเมืองลุกขึ้น เดินไปเดินมาอยู่ในห้องโถง เนิ่นนาน ก็บอกว่า “ข้าไปดูหน่อย” สิ้นเสียง ก็สาวเท้าเดินออกไป
มาถึงด้านนอก ได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างนอกจวนเข้าพอดี เวลานี้ เด็กหนุ่มชุดแดงอยู่ข้างหน้าสุด คนรอบๆ ต่างถอยออกไปหมดแล้ว ทำให้เขาที่เดิมทีก็สะดุดตาอยู่แล้วยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก
“สอบหรือ เหอะ! เจ้าเห็นข้าว่างไม่มีอะไรทำเลยมาสอบเล่นหรือ เจ้าเก็บไม้นี้ไว้ใช้กับคนอื่นเถิด ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก” เฟิ่งจิ่วหัวเราะหยัน เหลือบมองชายวัยกลางคนที่เป็นผู้คุมสอบด้วยสีหน้าเกียจคร้าน
การสอบที่จัดขึ้นหน้าจวนเจ้าเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ หากใช้กับเธอกลับไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว สำหรับคนที่มีเหรียญตราสองเหรียญอย่างเธอ หากถูกพวกเขารั้งตัวไว้สอบ ภายหน้าเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดอีก
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นฝ่ายร้องขอให้รักษา ไม่ใช่เธอเป็นฝ่ายขอร้องเพื่อให้ได้เข้าไปเสียหน่อย เธอมาจวนเจ้าเมืองเพื่อยาตัวนั้นก็ใช่ แต่จะไม่มีวันขอร้องพวกเขาเพื่อให้นางได้รักษาคนแน่นอน
เป็นหมอไม่ควรประจบประแจงผู้อื่น หากทำเช่นนั้นจริง ไม่เพียงเสื่อมเสียเกียรติ แต่ยังจะทำให้ผู้อื่นสงสัยในความสามารถด้วย เรื่องที่ไม่คุ้มค่าอย่างนี้ เธอไม่ทำหรอก
ไม่เช่นนั้น เธอคงไม่หยิบเหรียญตราสองเหรียญออกมาเหน็บที่นี่ ในเมื่อเธอหยิบเหรียญตราสองเหรียญออกมาแล้ว ก็เท่ากับเป็นการบอกพวกเขาว่า เธอมีความสามารถที่พวกเขาไม่อาจเทียบได้!
“คุณชายท่านนี้”
เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังมา ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้หันไปมอง ครั้นทุกคนเห็นผู้มา ก็มีเสียงกระซิบกระซาบ “ท่านเจ้าเมืองนี่นา!”
“ท่านเจ้าเมืองต้วนออกมาแล้ว”
“ไม่นึกเลยว่าท่านเจ้าเมืองต้วนจะออกมา”
นาทีนี้ ทุกคนได้แต่รู้สึกสับสน นึกไม่ถึงว่าพวกเขารออยู่ตรงนี้มาตั้งนาน หวังว่าจะมีโอกาสได้สร้างชื่อเสียง สุดท้ายกลับไม่มีโอกาสได้ก้าวเข้าไปในประตูจวนเจ้าเมืองด้วยซ้ำ
แต่เด็กหนุ่มชุดแดงที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน กลับมีเหรียญตราถึงสองเหรียญ เรื่องที่ทำให้พวกเขารับไม่ได้มากที่สุดคือ เด็กหนุ่มคนนี้อายุยังน้อยนัก อายุกระดูกของเขายังไม่ยี่สิบปีเต็มเสียด้วยซ้ำ ไม่เหมือนพวกเขาที่มีรูปร่างหน้าตาอ่อนเยาว์ แต่อายุกระดูกกลับร้อยกว่าปีแล้ว
พวกเขาคิดหาสารพัดวิธีเพื่อที่จะได้เจอเจ้าเมือง แต่กลับไม่เคยได้เจอ ทว่าเด็กหนุ่มคนนั้นแค่เอาเหรียญตราขึ้นมาติด เจ้าเมืองก็วิ่งออกมาต้อนรับด้วยตนเองแล้ว
นึกดูแล้ว ความรู้สึกอย่างนี้ช่างเจ็บแสบเกินบรรยายจริงๆ
เฟิ่งจิ่วหันไปมองทางต้นเสียง เห็นผู้มาเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง สวมเสื้อเสวียนบุคลิกไม่ธรรมดา หน้าตาดูคุ้นตาอยู่หลายส่วน ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณชายท่านนี้ ข้าเป็นเจ้าเมืองเมืองซุ่นเหยียน เชิญคุณชายไปคุยกันข้างในก่อน” เดินมาถึงเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว เจ้าเมืองผายมือทำท่าเชื้อเชิญให้เฟิ่งจิ่วเข้าไปข้างใน
เฟิ่งจิ่วพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับเจ้าเมือง มองดูจนคนข้างนอกต่างพากันอิจฉาตาร้อน…
………………………………….