เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1564 ความหวังของนาง
ตอนที่ 1564 ความหวังของนาง
หลังจากเห็นเงาร่างสีแดงหายลับเข้าไปในประตูจวนเจ้าเมือง ในที่มืด คนชุดเทาสี่คนเดินออกมา หนึ่งในนั้นถามขึ้น “ทำไมไม่ลงมือ ด้วยพลังของเรา จะเอาชีวิตอันไร้ค่าของนางเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ”
“ที่นี่คือเมืองซุ่นเหยียน แล้วยังเป็นถิ่นของเจ้าเมือง อย่าเพิ่งใจร้อน อย่างไรนางก็จะไปจากที่นี่แน่ พวกเราค่อยลงมือระหว่างทางก็ได้” หนึ่งในนั้นตอบ
“ใช่แล้ว พวกเราวางกับดักไว้ระหว่างทาง แล้วรอให้นางกระโดดเข้าไปเองก็ได้ แค่ผู้หญิงคนเดียว จะเก่งกาจสักเพียงใดกัน”
“อยู่จับตาดูต่อสองคน จำไว้ อย่าเข้าใกล้มากเกินไป ไม่อย่างนั้นอาจถูกจับได้” หนึ่งในนั้นบอก แล้วเหลือสองคนไว้เฝ้าที่นี่ ส่วนอีกสองคนก็หายลับไปในความมืดอย่างเงียบเชียบ
ส่วนพวกเฟิ่งจิ่ว ตอนกลับมาถึงก็พบว่าเจ้าเมืองยังรอพวกเขาอยู่ ครั้นเห็นพวกเขาทั้งสาม เขาที่รออยู่ที่ลานหน้าบ้านก็เดินเข้ามา มองลูกสาวตนเองแวบหนึ่ง แล้วหันไปถามเฟิ่งจิ่วว่า “คุณชายเฟิ่ง พวกท่านกินมื้อค่ำแล้วหรือยัง ข้าให้ห้องครัวเตรียมอาหารไว้ให้พวกท่านแล้ว”
“ขอบคุณท่านเจ้าเมือง พวกข้าเพิ่งกินกลับมาจากข้างนอก” เฟิ่งจิ่วบอก แล้วยิ้มอย่างขอโทษ “หากรู้ว่าท่านเจ้าเมืองรออยู่ พวกข้าคงกลับมาเร็วกว่านี้”
“ฮะๆๆ ไม่เป็นไรๆ” เขาโบกมือ แล้วบอกว่า “อ้อ ใช่แล้ว ยาเหล่านั้นล้วนหาได้ครบหมดแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปหา นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเราขอตัวกลับไปพักก่อน” เธอบอก พยักหน้าหนึ่งทีแล้วเดินไปข้างหน้า
อิ๋งอิ๋งมองท่านพ่อของนาง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา แล้วเดินตามเฟิ่งจิ่วไป
กวนสีหลิ่นยิ้มอย่างอารมณ์ดี พูดกับเจ้าเมืองว่า “ท่านเจ้าเมือง รีบไปพักผ่อนเถิด” กล่าวจบก็เดินตามพวกนางไปด้วย
กลับถึงเรือน ทั้งสามต่างคนต่างแยกย้ายไปอาบน้ำเสร็จ เฟิ่งจิ่วก็ไปหากวนสีหลิ่น “ท่านพี่ คืนนี้ข้าจะฝังเข็มให้อิ๋งอิ๋ง ท่านช่วยข้าเฝ้ายามหน่อย”
“ได้ เจ้าวางใจได้เลย! เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง” เขารับคำ แล้วเดินมาที่หน้าห้องอิ๋งอิ๋ง
เพราะตอนอยู่ข้างนอกได้บอกล่วงหน้าไว้แล้ว เฟิ่งจิ่วจึงผลักประตูเดินเข้าไปเลย พอมาถึงข้างใน ก็เห็นอิ๋งอิ๋งที่สวมเพียงเสื้อผ้าชั้นในรอเธออยู่ เธอยิ้มๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะ เขียนบอกนางว่า “ไม่ต้องกลัวนะ”
ต้วนอิ๋งอิ๋งพยักหน้า เพียงแต่นางยังคงอดกลืนน้ำลายไม่ได้ อย่างไรก็ไม่อาจทำใจให้หายกลัวได้ วันนี้ตอนอยู่ข้างนอก เฟิ่งจิ่วบอกว่าเธอสามารถรักษาอาการหูหนวกเป็นใบ้ของนางได้ นางได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่ตะลึงตาค้างไป
รักษาได้หรือ หลายปีมานี้ท่านพี่ของนางหาหมอมารักษานางไม่น้อย แต่ไม่มีใครบอกว่ารักษาได้เลย นางนึกว่านางจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิต ไม่ได้ยินเสียงของโลกใบนี้ ไม่ได้ยินเสียงของคนในครอบครัว และไม่อาจเปล่งเสียงพูดไปตลอดกาลเสียแล้ว
นางไม่กล้าหวังลมๆ แล้งๆ ตั้งนานแล้ว แต่พอเฟิ่งจิ่วบอกว่าเธอรักษาได้ นางแทบไม่อยากเชื่อ แต่ถึงอย่างนั้น ในใจก็ยังคงแอบหวังอยู่ลึกๆ
เฟิ่งจิ่วบอกนางว่า หากช่วยนางรักษาหายแล้ว เธอมีเพียงเงื่อนไขเดียวเท่านั้น นั่นก็คืออย่าบอกคนอื่นว่าอาการหูหนวกเป็นใบ้ของนางรักษาหายแล้ว ให้นางฟังเสียงรอบข้าง และสังเกตท่าทีของคนในครอบครัวให้มากๆ ก่อน
เธอบอกกระทั่งว่า ภายหน้าหากนางเจอคนที่ไม่รังเกียจที่นางเป็นใบ้และหูหนวก ก็มอบทั้งชีวิตให้เขาได้ เธอบอกถึงขั้นว่า หากนางหายจากอาการหูหนวกเป็นใบ้เมื่อใด ก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ่อยๆ ไปชมทิวทัศน์ที่อื่น อย่าเอาแต่อยู่ในเรือนไปตลอด
เธอยังบอกนางอีกว่า หากหายแล้ว ชีพจรที่ติดขัดของนางก็จะกลับมาเป็นปกติ นางยังสามารถฝึกวรยุทธ์ได้ด้วย
ทุกประโยคของเธอ ล้วนทำให้นางเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและความปรารถนา…
………………………………….
————————————–