เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1595 ผู้เฒ่าเทียนจี ตอนที่ 1596 เส้นทางข้างหน้าไม่ง่าย
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1595 ผู้เฒ่าเทียนจี ตอนที่ 1596 เส้นทางข้างหน้าไม่ง่าย
ตอนที่ 1595 ผู้เฒ่าเทียนจี / ตอนที่ 1596 เส้นทางข้างหน้าไม่ง่าย
ตอนที่ 1595 ผู้เฒ่าเทียนจี
“เฟิ่งจิ่ว ไม่ได้เจอกันนานเลย” โม่เฉินมองเธอที่อยู่ตรงหน้า ดวงหน้าสุภาพอ่อนโยนและสูงสง่าดุจหยกล้ำค่าเผยรอยยิ้มงดงามออกมา
“ใช่! ไม่เจอกันนานเลย ช่วงนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ใช่สิ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะมา? นี่ตั้งใจมารับพวกข้าหรือ?” ดวงตาและคิ้วของเธอเปื้อนรอยยิ้ม มองเขาด้วยดวงหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“อืม ท่านอาจารย์ของข้าบอกว่าพวกเจ้ามา ให้ข้าลงมารับพวกเจ้าขึ้นเขา” เขายิ้มๆ พยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร
เฟิ่งจิ่วกลับไม่เหมือนกัน ได้ยินเขาพูดอย่างนั้นก็ประหลาดใจมาก “ท่านอาจารย์ของเจ้าทำนายชะตาเป็นจริงๆ หรือ? ทำนายได้กระทั่งว่าพวกข้าจะมา? เช่นนั้นเขาทำนายได้หรือไม่ว่าพวกข้ามาทำอะไร?”
ได้ยินอย่างนั้น เขายิ้มๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ย่อมต้องมาเพราะมีเรื่องให้ช่วย” พูดจบ เขาก็ผายมือทำท่าเชื้อเชิญให้พวกเขา ขณะเดียวกันก็กล่าวว่า “ตามข้าไปพบท่านอาจารย์เถิด!” จากนั้นก็เดินนำทาง
พวกเขาเดินตามหลังเขา เฟิ่งจิ่วคุยกับโม่เฉินตลอดทาง เพราะมีโม่เฉินนำทาง พวกเขาจึงไม่พบอะไรระหว่างทาง และเดินขึ้นยอดเขาอย่างผ่อนคลาย ระหว่างพูดคุยกันก็ไม่ได้รู้สึกว่าถนนบนภูเขาเดินลำบากเท่าใดนัก
ระหว่างพูดคุยกัน พวกเขาก็เดินมาหยุดด้านบนยอดเขา เมื่อพวกเฟิ่งจิ่วเห็นวิวยอดเขาลูกนั้น ก็อดดวงตาเป็นประกายไม่ได้
ข้างบนนี้เข้ากับประโยคที่ว่าสี่ฤดูดุจวสันตฤดูจริงๆ ต่างจากภูเขาหิมะที่ไร้ต้นไม้ใบหญ้าด้านล่าง ยอดเขาลูกนี้เป็นพื้นที่ราบเรียบ เขตอาคมได้แยกที่นี่ออกจากข้างนอกนั้น
ด้านในเขตอาคม ร้อยบุปผาเบ่งบาน ผีเสื้อโผบิน ยังมีพวกสัตว์ตัวเล็กๆ วิ่งฝ่าพุ่มหญ้าและดอกไม้ บนต้นดอกเหมย นกน้อยกระโดดเกาะบนกิ่งไม้ ส่งเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าว ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบางส่วนที่พวกเขาเห็นเท่านั้น คล้ายว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดของยอดเขาลูกนี้
“เข้ามาเถิด! ยอดเขาภูผาสวรรค์แห่งนี้ใหญ่มาก นี่เป็นเพียงด้านหนึ่งในนี้เท่านั้น” โม่เฉินเปิดเขตอาคมให้พวกเขาเข้ามา พลางอธิบายให้พวกเขาฟัง “บนเขาลูกนี้มีข้าและท่านอาจารย์เพียงสองคน พวกเจ้าทำตัวตามสบายได้เลย”
“ที่แห่งนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ…” เฟิ่งจิ่วอุทาน นึกไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีสถานที่ที่วิเศษเช่นนี้อยู่ด้วย
“ภูผาสวรรค์มีหลายชื่อ บ้างก็เรียกว่าภูเขาหิมะ บ้างก็เรียกว่าภูเขาเทวดา” โม่เฉินอธิบายเสียงนุ่มนวล พลางนำทางพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกวาดตามองรอบหนึ่ง แล้วถามว่า “บ่อหิมะของภูผาสวรรค์อยู่ที่ใด?” นี่เป็นจุดประสงค์หลักที่พวกเขามาภูผาสวรรค์ เด็ดดอกบัวหิมะได้เมื่อใดก็จะไปจากที่นี่ได้ ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าอ่อนคนนี้อีก
ได้ยินเซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม โม่เฉินมองเขาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แล้วหันไปถามเฟิ่งจิ่ว “พวกเจ้ามาที่นี่ ก็เพื่อดอกบัวที่อยู่ในบ่อหิมะของภูผาสวรรค์งั้นหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “หนำซ้ำยังต้องเป็นดอกบัวที่มีอายุสามร้อยปีด้วย”
ได้ยินอย่างนั้น โม่เฉินตะลึง “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ เมื่อครู่ข้ายังคิดอยู่ ว่าเรื่องใดกันที่ทำให้เจ้ามาขอร้องถึงที่นี่ได้ ที่แท้ก็เป็นเพราะเรื่องนี้” เขาเผยรอยยิ้มงดงาม บอกว่า “ขอยาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้พวกเจ้าต้องไปพบท่านอาจารย์ของข้าก่อน เพราะเขากำชับมาว่า หากพวกเจ้ามาจะต้องไปพบเขา”
เห็นอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อขมวดคิ้ว “แล้วเจ้ายังไม่รีบนำทางอีก?”
โม่เฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ ทำท่าผายมือให้พวกเขา “มาทางนี้เถิด!” เขาพาพวกเขาเดินเข้าไปในภูเขา
กระทั่งมาถึงจุดหนึ่งที่อยู่ด้านใน พวกเขาหยุดเดิน มองดูชายชราที่นั่งตกปลาอยู่ข้างบ่อหิมะ…
………………………………….
ตอนที่ 1596 เส้นทางข้างหน้าไม่ง่าย
นั่นคือชายชราผมขาวผู้หนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสีขาว เขานั่งข้างบ่อหิมะโดยที่มือถือคันเบ็ดอยู่ คล้ายกำลังหลับอยู่ แต่ก็คล้ายกำลังเหม่อลอยอยู่ นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อน
รอบกายเขามีกลิ่นอายเลิศลอยกระจายอยู่ กลิ่นอายเช่นนั้นทำให้เขาราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับผืนฟ้าและแผ่นดิน ให้ความรู้สึกราวกับตัวเขาไม่มีตัวตนอยู่จริง
“มาแล้วหรือ? ข้ารอพวกเจ้านานแล้ว” เขาค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วหันกลับมา มองเซวียนหยวนโม่เจ๋อและเฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ไม่ไกล เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา
“ผู้เฒ่าเทียนจีรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะมา?” เฟิ่งจิ่วยิ้มถาม มองดูชายชราผมขาวตรงหน้า คนผู้นี้ ก็คืออาจารย์ของโม่เฉิน เขารู้กระทั่งว่าเธอเป็นคนที่มาจากโลกอื่น
ผู้เฒ่าเทียนจียิ้มๆ มองพวกเขาสองคน แล้วพูดอย่างมีความนัยแฝง “ข้าไม่ได้รู้แค่ว่าพวกเจ้าจะมา ยังรู้ด้วยว่าพวกเจ้าจะต้องพบกับเคราะห์กรรมครั้งใหญ่”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหัวใจสะท้าน เคราะห์กรรมครั้งใหญ่?
เธอมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่อยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองผู้เฒ่าเทียนจี ถามว่า “ผู้เฒ่าเทียนจีโปรดชี้แนะด้วย”
นึกไม่ถึง ผู้เฒ่าเทียนจีกลับส่ายหน้ายิ้มๆ “ลิขิตสวรรค์มิอาจเปิดเผย”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อขมวดคิ้วมองผู้เฒ่าเทียนจี บอกว่า “พวกข้ามาเพื่อดอกบัวหยกขาวอายุสามร้อยปีที่อยู่ข้างหลังท่าน” ได้ยินผู้เฒ่าเทียนจีพูดจามีเงื่อนงำ มีแต่จะทำให้เฟิ่งจิ่วคิดฟุ้งซ่าน
ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ผู้เฒ่าเทียนจีเพียงยิ้มๆ หมุนตัวเหาะข้ามบ่อหิมะไปเด็ดดอกบัวหยกขาวอายุสามร้อยปีดอกนั้น จากนั้นก็เหาะกลับมาบนบก
เขามองดอกบัวหยกขาวในมือแวบหนึ่ง สาวเท้าเดินเข้ามาช้าๆ หยุดยืนตรงหน้าเซวียนหยวนโม่เจ๋อและเฟิ่งจิ่ว มองพวกเขาแล้วถอนหายใจอย่างไร้เสียง “เส้นทางข้างหน้าของพวกเจ้าไม่ได้ง่ายดาย สถานการณ์ใต้หล้า พายุจักก่อตัว หวังว่าพวกเจ้าจะปลอดภัย!”
เขายื่นดอกบัวหยกขาวในมือให้เฟิ่งจิ่ว จากนั้นก็เอามือไพล่หลังแล้วสาวเท้าเดินจากไปทีละก้าวๆ มีเพียงคำพูดสองประโยคที่ลอยมากับสายลม กระทบโสตประสาทของพวกเขา
“เป็นบุญมิใช่เคราะห์กรรม เป็นเคราะห์กรรมมิอาจหลีกเลี่ยง หากหงส์ไฟจักนิพพาน จำต้องแผดเผาตนเองแล้วฟื้นคืนชีพ…”
ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เฟิ่งจิ่วรู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย เหมือนว่าคนที่มีวิชาโหราศาสตร์ และทำนายชะตาเป็น จะชอบพูดทิ้งท้ายไว้ให้คิด พูดอย่างนี้ ไม่พูดเลยจะทำให้พวกเขารู้สึกดีกว่า
ผู้เฒ่าเทียนจีไม่ใช่คนธรรมดา ในเมื่อเขาพูดอย่างนี้ แสดงว่าจะต้องมีเหตุผลแน่นอน แต่มันเรื่องอะไรกันแน่?
โม่เฉินเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มๆ “พวกเจ้าอย่าถือสาเลย อาจารย์ข้าก็เป็นเช่นนี้ พวกเจ้ามาไกล พักที่นี่ก่อนเถิด!” พูดจบ เขาก็ทำท่าผายมือให้พวกเขาสองคนไปข้างหน้า
เดิมทีเซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่อยากพักที่นี่ แต่พอนึกได้ว่าเฟิ่งจิ่วเดินทางลำบากมาตลอดเส้นทาง จึงไม่ได้เอ่ยคัดค้าน เพียงจูงมือเธอเดินไปข้างหน้า
“ไม่ต้องคิดมากไป ตาเฒ่าเช่นนี้มักชอบทำตัวมีลับลมคมใน” เขาบอกเสียงนุ่มนวล ไม่อยากให้เธอคิดมากเพราะคำพูดของผู้เฒ่าเทียนจี
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าเป็นเรื่องใดกันแน่ พอได้ยินเขาเรียกผู้เฒ่าเทียนจีว่าตาเฒ่า ก็อดยิ้มไม่ได้ หัวใจที่หนักอึ้งในตอนแรกพลันผ่อนคลายลงหลายส่วน หัวเราะแล้วถลึงตามองเขาอย่างไม่เห็นด้วย
“นั่นเป็นถึงผู้เฒ่าเทียนจี จะเรียกคนอื่นเขาว่าตาเฒ่าได้เช่นไร? ไร้มารยาทเกินไปแล้ว” พูดจบ ก็หันไปยิ้มขอโทษโม่เฉินที่อยู่ด้านหนึ่ง
โม่เฉินที่ได้ยินอาจารย์ของตนเองถูกเซวียนหยวนโม่เจ๋อเรียกว่าตาเฒ่า ดวงหน้าสง่างามของเขากระตุกเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ เห็นเฟิ่งจิ่วยิ้ม เขาก็ทำได้เพียงยิ้มตอบอย่างจนใจ
………………………………….