เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1605 ไม่กล้ามีเรื่องด้วย ตอนที่ 1606 ร้ายกาจหรือไม่
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1605 ไม่กล้ามีเรื่องด้วย ตอนที่ 1606 ร้ายกาจหรือไม่
ตอนที่ 1605 ไม่กล้ามีเรื่องด้วย / ตอนที่ 1606 ร้ายกาจหรือไม่
ตอนที่ 1605 ไม่กล้ามีเรื่องด้วย
“นี่เจ้ากำลังขู่ข้างั้นหรือ?” ผู้นำตระกูลคนนั้นจ้องกวนสีหลิ่นด้วยสีหน้ามืดมน กลิ่นอายผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินแผ่ปกคลุมทั่วร่างกาย
ทว่า สำหรับกวนสีหลิ่นที่เคยผ่านการต่อสู้มามากและเคยเห็นผู้แข็งแกร่งมาไม่น้อย ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นเริ่มต้นไม่น่าได้กลัวสำหรับเขาเลย แม้กระทั่งแรงกดดันของอีกฝ่ายเขาก็ยังรับได้อย่างสบาย
“ขู่เจ้า? หึ เจ้าก็ช่างประเมินตนเองสูงเกินไป” กวนสีหลิ่นยิ้มหยัน “ก่อนจะหาเรื่องใคร จะให้ดีเจ้าควรสืบสักหน่อยว่าที่นี่คือที่ไหน! อย่าหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง หากเมื่อใดเป็นภัยต่อทั้งตระกูล เจ้าจะเสียใจ!”
ได้ยินอย่างนั้น ผู้นำตระกูลสะดุดใจ ขมวดคิ้วแน่น นาทีนี้เขาจำต้องมองผู้ฝึกพลังเร้นลับที่ตนเองดูแคลนใหม่อีกครั้ง
อยู่ต่อหน้าผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินเช่นเขายังสามารถสงบนิ่งหน้าไม่เปลี่ยนสีได้ หนำซ้ำยังกล้าพูดจากับเขาอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้ เห็นได้ว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ว่าที่นี่เป็นเพียงร้านขายยาเล็กน้อยไม่ใช่หรือ? หรือยังมีอะไรที่พิเศษอีก?
นึกมาถึงตรงนี้ เขาก็อดลังเลไม่ได้ หากหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่องเข้าจริงๆ เกรงว่าจะเป็นภัยต่อทั้งตระกูลอย่างที่เขาว่าจริงๆ!
“พี่ใหญ่ ท่านอย่าไปฟังเจ้านี่พูดเหลวไหล เขาก็แค่ขู่ท่านให้กลัวเท่านั้น!” ชายอ้วนคนนั้นวิ่งเข้ามา ถลึงตาจ้องกวนสีหลิ่น
ทว่าในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนกลับไม่ต่อบทสนทนากับเขาอีก เพียงครุ่นคิดเงียบๆ เวลานี้ ชายวัยกลางคนที่เดิมทีหลบอยู่ด้านหนึ่งไตร่ตรอง สุดท้ายก็ก้าวออกมา
“ท่านผู้นำตระกูล ข้าน้อยมีเรื่องจะเรียนขอรับ”
ผู้นำตระกูลมองเขาแวบหนึ่ง เห็นว่าเขาเป็นผู้ดูแลที่ติดตามข้างกายน้องชายเขา จึงพยักหน้าอนุญาต ทว่า เมื่อได้ยินคำพูดที่เขากระซิบบอก สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที พลันยกเท้าขึ้นถีบ
“เจ้าโง่! เมื่อครู่เหตุใดไม่พูด? ยังปล่อยให้เขาก่อเรื่องอีก?” เขาด่ากราดด้วยความเดือดดาล ถีบคนออกไปไกลหลายจั้ง เรียกได้ว่าเพลิงโทสะในใจใหญ่โตเพียงใด ก็เห็นได้จากเรี่ยวแรงในการถีบในครั้งนี้
ส่วนชายอ้วนที่อยู่ด้านหนึ่งเมื่อเห็นเข้า ก็อดร้อนตัวไม่ได้ เขามองพี่ชายของตนเองแวบหนึ่ง ได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรอีก
ผู้นำตระกูลจ้าวแม้อยากได้หน้า และทะนงตนอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คนไร้สมอง เขายังคงแยกแยะความรุนแรงของสถานการณ์และผลที่จะตามมาได้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้ เขาสูดหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง แล้วประสานกำปั้นให้กวนสีหลิ่นกับตู้ฝาน “เมื่อครู่ล่วงเกินแล้ว เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เป็นผู้แซ่จ้าวอบรมไม่ดีเอง สร้างความวุ่นวายให้แก่พวกท่าน ผู้แซ่จ้าวขอขมาทั้งสองท่าน ณ ตรงนี้ หวังว่าเรื่องนี้จะแล้วต่อกันเพียงเท่านี้”
กวนสีหลิ่นเองก็ไม่ใช่คนที่ได้คืบจะเอาศอก ในเมื่อเห็นเขาขอโทษ จึงสบตากับตู้ฝานแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “หวังว่าภายหน้าเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
สิ้นเสียง เขาหันไปตะโกนบอกฝูงคนที่มามุงดู “แยกย้ายกันไปเสียเถิด! ไม่มีเรื่องอะไรน่าดู!” จากนั้นก็เดินเข้าไปในร้านพร้อมกับตู้ฝาน
“พี่ใหญ่ เหตุใดท่านจึง…” ชายอ้วนก้าวเข้ามาหมายจะพูด ถึงอย่างไรพอเห็นพี่ชายของเขาเอ่ยปากขอโทษพวกนั้นก็ยังรู้สึกคับข้องใจ
“รีบไสหัวกลับไปเสีย!” ผู้นำตระกูลจ้าวตวาดใส่เขา สะบัดแขนเสื้อ แล้วสาวเท้าเดินจากไปด้วยสีหน้ามืดมน
ขายหน้าไปหมดทั้งตระกูลแล้ว!
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่…” ชายอ้วนตะโกนเรียก รีบพาคนไล่ตามไป
ขณะเดียวกันห่างออกไปไม่ไกล คนในตระกูลในเมืองกลุ่มหนึ่งที่กำลังพูดคุยดื่มชากันเห็นเหตุการณ์นั้น ก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะ “ร้านขายยาร้านนั้นน่าสนใจใช่ไหมเล่า?”
………………………………….
ตอนที่ 1606 ร้ายกาจหรือไม่
“น่าสนใจมากจริงๆ”
ชายแต่งกายด้วยชุดหรูหราคนหนึ่งพยักหน้า “คนเมื่อครู่ก็คือผู้นำตระกูลจ้าว ตระกูลที่อยู่ในเมืองข้างๆ ถึงจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่โต แต่อย่างไรก็นับได้ว่าเป็นตระกูลระดับกลาง นึกไม่ถึงกลับไม่กล้ามีเรื่องกับร้านขายยาเล็กๆ ร้านนี้”
“หึๆ ร้านขายยาเล็กๆ?” ชายแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมอีกคนยกชาขึ้นจิบหนึ่งคำ จากนั้นก็บอกว่า “เสียแรงที่พวกเจ้าเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ในเมือง กลับไม่รู้ว่าร้านขายยาร้านนั้นไม่ธรรมดา”
“พวกข้ารู้ว่าร้านขายยาร้านนี้ไม่ธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาอย่างไรเล่า? เจ้ารู้หรือ? ไหนบอกมาสิ” คนอื่นหัวเราะ แล้วคะยั้นคะยอให้ชายคนนี้บอก
“ข้าแค่ได้ยินท่านพ่อของข้ากับท่านลุงคนหนึ่งพูด ว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังร้านนี้มีนามว่าภูตหมอ ชำนาญทักษะการหลอมยา ซ้ำยังมีวิชาแพทย์อันน่าอัศจรรย์ที่สามารถชุบชีวิตคนจากความตายได้ด้วย”
ชายคนนั้นเล่า คล้ายตั้งใจจะกระตุ้นความอยากรู้ของพวกเขา จึงจงใจหยุดพูดไปครู่หนึ่งแล้วกวาดสายตามอง
“เอาล่ะ เจ้ารีบเล่ามาเถิด อย่าเอาแต่เดี๋ยวเล่าเดี๋ยวหยุดเช่นนี้”
เห็นอย่างนั้น ชายคนนั้นจึงหัวเราะแล้วบอกว่า “ได้ยินมาว่า ภูตหมอมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนายแห่งตลาดมืด อีกทั้งมีภูมิหลังไม่ธรรมดา ร้านขายยาร้านนี้ภายนอกเหมือนขายยาธรรมดาทั่วไป แต่จริงๆ แล้วกลับมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่”
“อ้อ? เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือ?” มีคนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“พวกเจ้าน่าจะได้ยินเรื่องที่ท่านพ่อของข้าทะลวงขั้นเมื่อเดือนที่แล้วแล้วกระมัง?” ชายคนเดินถามพวกเขา
“อืม ได้ยินมาแล้ว พ่อของเจ้าเคยได้รับบาดเจ็บภายในรุนแรงมาก ทำให้พลังหยุดอยู่ที่ระดับเซียนเหินระดับเริ่มต้นมาตลอดไม่ใช่หรือ? เรื่องนี้ข้ายังอยากถามเจ้าอยู่เลย เหตุใดจู่ๆ พ่อของเจ้าจึงทะลวงขั้นได้? เรื่องนี้ลือทั่วตระกูลใหญ่ในเมืองแล้ว เพียงแต่ ข้ายังไม่เคยได้ยินพวกผู้ใหญ่พูดถึงว่าทะลวงขั้นได้อย่างไร”
ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความฉงนฉงาย
“นั่นเพราะท่านพ่อของข้าซื้อยาจากร้านขายยาร้านนี้มาได้สองเม็ด เม็ดหนึ่งเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บภายใน เม็ดหนึ่งเป็นยาเพิ่มพลัง” ชายชุดผ้าไหมพูดอย่างภูมิใจ
“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”
“ยาอะไรกันยอดเยี่ยมขนาดนั้น? เช่นนั้นต้องราคาแพงขนาดไหนกัน?”
“ยาที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เหตุใดท่านพ่อของข้าจึงไม่ซื้อกลับบ้านบ้าง? ยามนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างอุปสรรคในการข้ามขั้น หากมียาเช่นนี้อยู่ จะต้องทะลวงขั้นสำเร็จแน่”
“นั่นสิ ข้าก็ไม่เคยได้ยินท่านพ่อของข้าพูดถึงเรื่องนี้เลย หรือพวกเขาไม่รู้? ไม่เช่นนั้นจะปล่อยโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
“พรืด!”
ชายชุดผ้าไหมที่พูดขึ้นก่อนหน้านี้หลุดขำ ชำเลืองมองพวกเขาแวบหนึ่ง “พวกเจ้าคิดว่าแค่มีเงินก็ซื้อได้หรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาพากันชะงักงัน ต่างถามขึ้นพร้อมกัน “แล้วไม่ใช่หรือ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่”
ชายชุดผ้าไหมกระดิกนิ้วชี้ไปมา แล้วบอกว่า “นอกจากเงินแล้ว ยังต้องมีป้ายซื้อยาที่ร้านขายยาร้านนี้กระจายออกไปด้วย ได้ยินท่านพ่อของข้าบอกว่า ผู้ใดถือป้ายยาน้ำก็ซื้อยาเม็ดไม่ได้ ผู้ใดถือป้ายยาเม็ดก็ซื้อยาน้ำไม่ได้เช่นกัน ร้านขายยาร้านนี้ก็ประหลาดอย่างนี้แหละ ยาที่กระจายออกไปข้างนอกมีไม่มาก แต่กลับทำให้ผู้คนแย่งกันหัวแตก รู้ทั้งรู้ว่าร้านตั้งอยู่ตรงนี้ แต่กลับไม่มีใครกล้าล่วงเกิน พวกเจ้าว่าร้ายกาจหรือไม่เล่า?”
พอได้ยินเขาเล่า พวกเขาพยักหน้าด้วยสีหน้าอึ้งๆ “ร้ายกาจ!”
“แต่ว่า ป้ายคำสั่งอะไรนั่นจะทำอย่างไรให้ได้มันมา? พวกข้าพกเงินเข้าไปซื้อก็ซื้อยาไม่ได้จริงๆ หรือ?” ชายคนหนึ่งอดถามไม่ได้ นึกถึงว่ามียาที่น่าเหลือเชื่ออย่างนั้นอยู่จริงๆ หัวใจของเขาก็กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ขึ้นมา
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ ทำให้เขากระตือรือร้นขึ้นมาทันที
………………………………….
————————————–