เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1679 ที่มาที่ไป ตอนที่ 1680 หนีไปอย่างไร
ตอนที่ 1679 ที่มาที่ไป / ตอนที่ 1680 หนีไปอย่างไร
ตอนที่ 1679 ที่มาที่ไป
ซั่งกวนหวั่นหรงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คุกเข่าลงไปเงียบๆ นางโขกหัวสามครั้งแล้วอยู่เคียงข้างเฟิ่งเซียว
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วเองก็เดินมาคุกเข่าลงข้างท่านพ่อของเธอ แล้วโขกหัวไปทางซากตำหนักหลังนั้น “ท่านปู่ ท่านย่า พวกท่านวางใจเถิด! พวกข้าจะตามหาเสี่ยวเฟิ่งเย่ให้พบ”
กวนสีหลิ่นที่อยู่ด้านหนึ่งคุกเข่าลงข้างเฟิ่งจิ่ว แล้วโขกหัวสามครั้งด้วยความนับถือ เทียบกับปู่แท้ๆ ของเขา ปู่ที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดคนนี้ดีกับเขา และห่วงใยเขามากกว่าเสียอีก
พวกเขากราบไหว้เสร็จก็มุ่งหน้าไปยังตำหนักใหญ่ ครั้นมาถึง เริ่นเสียงก็ถามว่า “ยังหาตัวคนอยู่เบื้องหลังไม่เจอ พวกท่านนั่งเรือบินกลับมา ไม่กลัวจะดึงดูดความสนใจจากพวกนั้นหรือขอรับ? คนพวกนั้นล้วนเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขึ้นไป ไม่ควรประมาทจริงๆ หากพวกเขาเพ่งเล็งพวกนั้นเกรงว่าจะไม่ดีนัก”
แม้เฟิ่งจิ่วมีระดับวรยุทธ์ไม่ธรรมดาและมีสัตว์เทวะโบราณคอยคุ้มครอง แต่หากถูกผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินรุมโจมตี เกรงว่าจะปกป้องตัวเองได้ยากเช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปกป้องคนอื่น
เดิมเขานึกว่าพวกเขาจะกลับมาอย่างเงียบเชียบ นึกไม่ถึงว่าจะบินเข้ามาในวังหลวง และจอดหน้าประตูวังโดยตรง ปรากฏตัวทีก็รู้โดยทั่วกัน แน่นอนว่าหากคนพวกนั้นจับตาดูอยู่ในที่ลับ พวกเขาจะต้องสังเกตเห็นแน่
เฟิ่งจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “ระหว่างทางกลับมาพวกข้าเจอพวกนั้นแล้ว อีกอย่าง ท่านพ่อของข้าบอกว่าคนของพวกนั้นรู้หมดแล้วว่าพวกเจ้าลอบสังหารคนของพวกเขา เรียกได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวของเราตกอยู่ในสายตาของพวกเขาหมดเลย”
ได้ยินอย่างนั้น พวกเริ่นเสียงกับหลัวอวี่ต่างตกตะลึง “พวกเขารู้หรือขอรับ? เช่นนั้นพวกท่าน…”
เฟิ่งเซียวสูดหายใจลึกๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา เพื่อปรับอารมณ์ แล้วกล่าวเสียงเข้มว่า “ไม่รู้ว่าพวกเขามีแผนอะไร ระหว่างทางเพียงโจมตีพวกข้าไม่ได้หมายเอาชีวิต พวกข้าปรึกษากันมาตลอดทาง ก็คิดอะไรไม่ออกเลย จริงด้วย ทางนี้มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่? รู้หรือไม่ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร?”
“คนพวกนี้ไม่ใช่คนของแปดจักรวรรดิใหญ่”
เริ่นเสียงมองพวกเขา แล้วอธิบายว่า “พวกท่านอาจไม่ค่อยเข้าใจ แม้แต่แปดจักรวรรดิใหญ่ก็มิใช่ทั้งหมดของแผ่นดินผืนนี้ เทียบกับที่อื่น พื้นที่ที่แปดจักรวรรดิใหญ่ตั้งอยู่ ถือได้ว่าเป็นเพียงพื้นที่ปลายน้ำเท่านั้น พื้นที่ที่อยู่ต้นน้ำ มีผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณมากมายดุจขนนก ข้าเคยวิเคราะห์แล้ว หากจะมีที่ใดที่มีกลุ่มอำนาจเช่นนี้อยู่ ก็เกรงว่าจะเป็นพื้นที่ต้นน้ำเท่านั้น มีแค่คนที่นั่นที่จะกล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับตำหนักยมราชของเรา”
สำหรับเรื่องเล่าเกี่ยวกับพื้นที่ต้นน้ำ เฟิ่งเซียวเองก็เพียงเคยได้ยินผ่านๆ กลับไม่เคยสนใจ ยิ่งไม่เคยศึกษา เพียงแต่นึกไม่ถึง ว่าเรื่องครั้งนี้จะเกี่ยวกับกลุ่มอำนาจที่นั่น หากเป็นเช่นนี้จริง เกรงว่า ปัญหานี้…
อารมณ์ของเขาค่อนข้างตึงเครียด โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงเรื่องที่คนคนนั้นพูดถึงเรื่องของเสี่ยวจิ่ว เรื่องลับสุดยอดเช่นนั้นพวกเขาก็ยังรู้ ความสามารถเช่นนี้ ช่างทำให้คนตกตะลึงได้จริงๆ หากต้องการจะทำลายตระกูลเฟิ่งของพวกเขาจริงๆ เกรงว่า…
“ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่ทำอะไรพวกเรา” เฟิ่งจิ่วบอก ลุกขึ้นแล้วเสริมว่า “ในเมื่อตอนนี้พวกเรายังปลอดภัย เช่นนั้นก็ตามหาเสี่ยวเฟิ่งเย่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
หยุดพูดไปครู่หนึ่ง เธอก็หันไปมองพวกหลัวอวี่กับฟ่านหลิน “พวกเจ้าตามหาทั่ววังหลวงและเมืองหลวงแล้วหรือ เมืองข้างๆ ได้ส่งคนไปตามหาแล้วหรือยัง เวิ้งสวนท้อเล่าไปตามหามาแล้วหรือยัง? ได้ตามหาตามเส้นทางลับแล้วหรือไม่?”
………………………………….
ตอนที่ 1680 หนีไปอย่างไร
“นอกจากเส้นทางลับที่นายท่านเคยพาพวกข้าไป ในวังยังมีเส้นทางลับอื่นอีกหรือขอรับ?” หลัวอวี่ถาม แล้วมองนายท่านที่อยู่ตรงหน้า “พวกข้าตามหาแค่ในเส้นทางลับสองเส้นในวัง ส่วนที่อื่นพวกข้าก็ไม่ทราบแล้วขอรับ”
เส้นทางลับที่พวกเขารู้มีจำกัด แต่พวกเขาก็ตามหาทั่วทุกสารทิศแล้ว เพียงแต่ยังไม่เจอเบาะแสใด
ครั้นได้ยินอย่างนั้น นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วไหวระริก “ยังมีเส้นทางลับอีกที่ ข้าว่าพวกเขาน่าจะหนีไปทางนั้น” เอ่ยจบ เธอก็สาวเท้าเดินออกไปข้างนอก
ทุกคนรีบเดินตามเธอไป ภายใต้การนำทางของเฟิ่งจิ่ว พวกเขามาถึงเส้นทางลับที่คืนนั้นซู่ซีส่งเสี่ยวเฟิ่งเย่กับจ้าวหยางหนีไปในคืนนั้น ค้นพบว่ากลไกในนั้นพังไปแล้ว ประตูหินถูกปิดตาย นั่นยิ่งทำให้มั่นใจ ว่าพวกเขาหนีไปทางนี้แน่นอน
“พวกเจ้าให้คนเปิดที่นี่ออก แล้วตามหาตามเส้นทางลับเส้นนี้ไป นอกจากนี้ ส่งคนกลุ่มหนึ่งไปตามหาที่เมืองเทียนหลิงด้วย หากข้าเดาไม่ผิด พวกเขาน่าจะอยู่ที่นั่น”
“ขอรับ พวกข้าจะรีบไปตามหาเดี๋ยวนี้!” หลัวอวี่และคนอื่นๆ รับคำ ก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง ท่ามกลางตลาดค้ามนุษย์ในเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ข้างเมืองหลวง มีทาสมากมายถูกขังไว้ในกรงเหล็ก
ทาสที่ถูกนำตัวมาที่นี่มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีทั้งหญิงและชาย พวกเขาถูกแบ่งออกเป็นระดับสูง กลาง ต่ำ ทั้งหมดสามระดับ ถูกขังไว้ในกรงเหล็กรอวันถูกขาย ทาสเหล่านี้ นอกจากคนที่ถูกเจ้านายขังไว้รอขาย ส่วนมากก็ล้วนถูกจับตัวมาทั้งนั้น
ในหมู่พวกนั้น มีเด็กอยู่มากที่สุด และในกรงเหล็กกรงหนึ่ง จ้าวหยางกับเสี่ยวเฟิ่งเย่ก็ถูกขังไว้ในนั้น ทั้งสองนั่งพิงกรงเหล็ก ใบหน้ามอมแมม เสื้อผ้าบนตัวไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว
พวกเขาหลบหนีการจับตัวจากชายผอมสูงคนก่อนได้ แต่กลับหนีไม่พ้นชะตากรรมถูกนักค้ามนุษย์หมายตา นักค้ามนุษย์หลายคนซุ่มรอพวกเขาอยู่ในที่มืด เพราะสู้ไม่ได้ สุดท้ายก็ตกอยู่ในกำมือของพวกเขาและถูกขังอยู่ที่นี่
“หยางหยาง พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงขอรับ ข้ามีวิธี” จ้าวหยางกระซิบบอก จากนั้นก็กระซิบข้างหูเขาอีกหลายประโยค พลางหยิบยาออกมาจากข้างเอวสองเม็ด แล้วกลืนลงท้องไปคนละหนึ่งเม็ด
ประมาณครึ่งก้านธูปผ่านไป เนื้อตัวของทั้งสองเต็มไปด้วยตุ่มสีแดง ก่อนจะร้องสุดเสียง “โอ๊ย! ทรมานจัง ทรมาน…” ทั้งสองลงไปกลิ้งกับพื้น แล้วร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้น!” คนข้างนอกเดินมาตรวจสอบ เห็นเด็กอายุห้าหกขวบนั่งยองอยู่ฝั่งหนึ่งของกรงเหล็ก อีกฝั่งเด็กสองคนกำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น ผิวนอกร่มผ้าที่สามารถมองเห็นได้ ล้วนเต็มไปด้วยตุ่มสีแดง
“เจ้าเด็กบ้าสองคนนี้ทำไมถึงมีตุ่มสีแดงได้?” ชายที่ถือแส้ไว้ในมือพูดด้วยความสงสัย
อีกคนบอกว่า “เหตุใดจุดแดงนั่นดูเหมือนไข้ทรพิษเลยเล่า? เจ้าเด็กบ้าสองคนนี้คงไม่ได้เป็นไข้ทรพิษหรอกกระมัง?” ขณะกล่าว ก็อดถอยหลังไม่ได้
ชายคนนั้นได้ยินเขาพูดอย่างนี้ก็ตกใจ รีบถอยหลังไปสองสามก้าว “ไข้ทรพิษ? เช่นนั้นหากแพร่เชื้อให้เด็กพวกนั้น กลับไปเราจะอธิบายกับเบื้องบนอย่างไรเล่า?”
“เอาตัวเจ้าเด็กสองคนนั้นไปขังในห้องเก็บฟืนข้างหลังก่อน แล้วหาหมอไปตรวจดูว่าใช่ไข้ทรพิษหรือไม่”
ทั้งสองปรึกษากันแล้วก็เรียกคนงานชายอีกสองคนมา ให้หามหยางหยางกับเสี่ยวเฟิ่งเย่ที่อยู่ในกรงเหล็กออกมา จากนั้นก็พาไปขังไว้ในห้องเก็บฟืนข้างหลัง
ทั้งสองถูกโยนเข้าไปในห้องเก็บฟืนก็ร้องโอดครวญอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นคนเดินห่างออกไป จ้าวหยางก็เดินเข้ามาประคองเสี่ยวเฟิ่งเย่ “ลุกขึ้นมาขอรับ พวกเราหาวิธีหนีไปจากที่นี่กัน”
เสี่ยวเฟิ่งเย่มองรอบๆ ห้องเก็บฟืน แล้วบอกว่า “แต่ว่า ที่นี่ถูกลงกลอนแล้ว พวกเราจะหนีไปอย่างไร?”
………………………………….
———————————