เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1681 พูดไม่ได้ ตอนที่ 1682 เสือร้ายโจมตี
ตอนที่ 1681 พูดไม่ได้ / ตอนที่ 1682 เสือร้ายโจมตี
ตอนที่ 1681 พูดไม่ได้
“ท่านรอเดี๋ยว” จ้าวหยาย่อกายลง หยิบถุงฟ้าดินที่ซ่อนไว้ในรองเท้าออกมา จากนั้นก็เอาเหล็กเส้นออกมาจากในนั้น เข้าไปแหย่รูกุญแจอยู่ครู่หนึ่ง ก็เปิดกลอนประตูออกแล้ว เขารีบดึงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่หนีไปทางประตูหลังทันที
“กินยาแก้พิษเสีย” จ้าวหยางยื่นยาแก้พิษให้เขา หลังจากเข้ามาในลานบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ทั้งสองก็นั่งหอบหายอยู่ตรงมุมกำแพง
“หยางหยาง เจ้ามีของพวกนี้ได้อย่างไร?” เสี่ยวเฟิ่งเย่กะพริบตาปริบๆ แล้วถาม
“องค์หญิงมอบให้ข้าเอาไว้ป้องกันตัวขอรับ ข้าเก็บไว้กับตัวตลอด” เขาบอก พลางครุ่นคิด พักหายใจครู่หนึ่ง ก็บอกว่า “พวกเราอยู่ที่นี่นานไม่ได้ คนพวกนั้นใกล้จะรู้แล้วว่าเราหนีมา บางทีอาจกำลังตามหาเราอยู่ในเมือง พวกเราไปกันเถิด!”
“ไปไหนเล่า? กลับวังหรือ?” เสี่ยวเฟิ่งเย่ถาม
“ออกจากประตูเมืองก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขาจูงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่เดินออกไปนอกเมือง ตั้งใจจะไปจากเมืองนี้ แล้วค่อยสืบข่าวไปตามทาง
“หยางหยาง เจ้าใช้เหล็กเส้นเปิดกลอนประตูได้อย่างไร?” เสี่ยวเฟิ่งเย่ถามด้วยความฉงนฉงาย เขาค้นพบว่าสิ่งที่หยางหยางทำได้เขาล้วนทำไม่ได้
“ข้าเคยเรียนสะเดาะกลอน ไม่ได้ใช้เพียงเหล็กเส้น ใช้แท่งพู่กันก็สะเดาะได้” จ้าวหยางตอบ พลางระแวดระวังคนบนท้องถนน ครั้นเห็นว่ามีชายสามสี่คนกำลังตามหาคนอยู่บนถนน ก็อดเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นไม่ได้
“เร็วเข้า! พวกเขาตามมาแล้ว!”
เสี่ยวเฟิ่งเย่ไม่กล้าถามอะไรอีก เท้าสั้นๆ รีบวิ่งตามเขาไป ทั้งสองออกจากประตูเมืองโดยปะปนไปกับฝูงชน หลังจากหนีออกไปนอกเมืองแล้วเข้าไปในป่า เสี่ยวเฟิ่งเย่สะดุดกิ่งไม้ล้มคะมำไปข้างหน้าทั้งตัว ฝ่ามือสองข้างถลอกจนเลือดไหล
เขามองฝ่ามือที่มีเลือดออกอย่างเหม่อลอย มองดูเลือดนั่น ก็อดถึงนึกภาพนองเลือดในค่ำคืนนั้นไม่ได้ ได้แต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นไร้การตอบสนอง
“เลือดออกแล้ว ข้าช่วยท่านทำแผล” จ้าวหยางพูดอย่างตำหนิตนเอง เขาโตกว่าเสี่ยวเฟิ่งเย่จึงวิ่งเร็วกว่า กลับลืมนึกถึงว่าเสี่ยวเฟิ่งเย่จะตามฝีเท้าเขาไม่ทันจนทำให้เขาล้มลงไปอย่างนี้
“ข้าคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่” ผ่านไปครู่หนึ่ง เสี่ยวเฟิ่งเย่เงยหน้ามองจ้าวหยางที่กำลังทำแผลให้เขา น้ำเสียงเหล็กแหลมสะท้อนแววอัดอั้นตันใจ “หยางหยาง ข้าคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่”
จ้าวหยางอึ้งงัน เงียบไปเนิ่นนาน เขาก็นั่งลงมาด้วย แล้วบอกว่า “อีกไม่นานก็ได้เจอแล้ว” เขาเองก็คิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่เหมือนกัน ครั้งนี้ พวกเขาอาจจะไม่อยู่แล้วจริงๆ
“อีกไม่นานคือเมื่อใด?” เสี่ยวเฟิ่งเย่ถาม
จ้าวหยางครุ่นคิด แล้วตอบว่า “รอให้พาองค์หญิงพบเมื่อใด องค์หญิงจะต้องตามหาพวกเขาเจอแน่นอน ขอเพียงพวกเราหานางพบ ก็จะได้พบท่านพ่อกับท่านแม่ของท่านแล้ว”
“เช่นนั้นเราไปถามใครสักคนกันเถิด! ถามดูว่าอาจิ่วกลับมาหรือยัง” เขาไม่ได้มีภาพจำอะไรเกี่ยวกับหลานสาวที่ชื่อเฟิ่งจิ่วเลยสักนิด รู้แค่ชื่อของเธอเท่านั้น รวมถึงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเธอมาไม่น้อย
“ไม่ได้ขอรับ” จ้าวหยางส่ายหน้า “ก่อนที่จะตามหาพวกเขาพบ ห้ามเอ่ยชื่อขององค์หญิงกับคนอื่นเด็ดขาด ห้ามพูดถึงเรื่องในอดีต แล้วก็ห้ามเอ่ยถึงชื่อของท่านพ่อกับท่านแม่ของท่านด้วย”
“ทำไม่เล่า?” เด็กน้อยถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่เอ่ยถึง แล้วจะถามอย่างไรเล่า? หากไม่เอ่ยถึงก็ไม่มีใครรู้มิใช่หรือ? เช่นนั้นเขาจะรู้สิ่งที่เขาอยากรู้ได้อย่างไร?
“เพราะหากเป็นศัตรูบางคนที่มีความแค้นกับพวกเขารู้ว่าท่านเป็นท่านอาน้อยขององค์หญิง จะจับตัวท่านไปข่มขู่พวกเขา พอถึงตอนนั้น พวกเขาจะมีอันตรายได้”
ได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเฟิ่งเย่พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “ก็ได้! เช่นนั้นต่อไปก็จะไม่พูดแล้ว แต่ตอนนี้ข้าง่วงเหลือเกิน ข้าอยากนอน”
………………………………….
ตอนที่ 1682 เสือร้ายโจมตี
“เช่นนั้นเราไปพักที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างในนั้นกันเถิด” จ้าวหยางชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ข้างใน แล้วจูงมือเสี่ยวเฟิ่งเย่เดินเข้าไปข้างใน
ยามพลบค่ำ
เมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำไปทางทิศตะวันตก ท้องฟ้ากว่าครึ่งผืนทาทับไปด้วยเมฆสีแดง กลางคืนใกล้มาเยือน อุณหภูมิในป่าผืนน้อยค่อยๆ ต่ำลง จนกลายเป็นหนาวเย็น
ใต้ต้นไม่ใหญ่ เด็กสองคนนอนพิงกัน พวกเขานอนหลับสนิทอยู่ในป่าผืนน้อยอย่างไร้การป้องกันตัว ก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นเด็ก หนำซ้ำยังเพิ่งหนีเอาชีวิตรอดมา ช่วยไม่ได้ที่จะหลับอย่างผ่อนคลายหลังเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญมา
เพียงแต่ ป่าผืนน้อยแห่งนี้ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ใต้แสงสายัณห์ที่สาดส่องลงมา ป่าผืนน้อยเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีส้มอมแดงหนึ่งชั้น และห่างจากที่นี่ไปประมาณสามสิบจั้ง เสือร้ายตัวหนึ่งที่กำลังออกหาอาหารบิดขี้เกียจ อ้าปากแล้วส่ายเขี้ยวพยัคฆ์ไปมา มันย่างกรายเข้าไปในป่าผืนน้อยทีละก้าวๆ
เพราะด้านหลังของป่าผืนน้อยแห่งนี้อยู่ติดกับภูเขาลึก จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีสัตว์ร้ายออกมาเดินเพ่นพล่าน คนปกติทั่วไปมักใช้ถนนใหญ่ น้อยคนที่จะมุดเข้ามาในป่า ด้วยเหตุนี้จึงไม่ค่อยมีใครพบเจอสัตว์ร้ายนัก
นึกไม่ถึง เด็กน้อยโชคร้ายสองคนนี้กลับเจอเข้าเสียแล้ว
ขณะที่เสือร้ายตัวนั้นสาวเดินไปทีละก้าวๆ ดวงตาโหดเหี้ยมกระหายเลือดสอดส่ายมองหาเหยื่อไปรอบๆ เด็กน้อยสองคนนั้นยังคงหลับสนิทอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ครั้นเสือร้ายได้กลิ่นของมนุษย์ และเสาะหาไปตามกลิ่น ในที่สดุก็เห็นเหยื่อชั้นยอดสองคนที่อยู่ใต้ต้นไม้
สำหรับสัตว์ร้าย มนุษย์เด็กเป็นเหยื่อที่ล่าง่ายที่สุดแล้ว เพราะพวกเขามีพละกำลังที่จำกัด หากโชคร้ายเจอพวกมันเข้า ก็มีแต่ต้องรอถูกกินเท่านั้น
ฟืด!
จมูกของเจ้าเสือร้ายถูกหญ้าไล้ผ่าน ทำให้มันจามออกมาโดยสัญชาตญาณ แต่เสียงนั้นทำให้จ้าวหยางที่กำลังหลับสนิทพลันเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที
แทบจะในเสี้ยวนาทีที่จ้าวหยางลืมตา เขาสัมผัสได้ถึงไออันตรายที่บีบคั้นเข้ามา เขานึกว่าเป็นคนพวกนั้นไล่ตามมา จึงรีบเขย่าตัวเสี่ยวเฟิ่งเย่ให้ตื่น
“ตื่นเร็วเข้าๆ พวกเราต้องรีบ…” ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็นิ่งค้างไปทันที
เห็นเพียงในจุดที่อยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงสามจั้ง เสือร้ายตัวหนึ่งกำลังซุ่มอยู่ตรงนั้นแยกเขี้ยวแหลมคม จ้องพวกเขาอย่างน้ำลายไหล เห็นพวกเขาตื่นขึ้นมาแล้วเห็นมมัน เสือร้ายคำรามเสียงต่ำ ร่างกายท่อนหน้าหมอบต่ำ ขาหลังยกสูง จากนั้นก็กระโจนเข้ามาหาพวกเขาทันที
“โฮก!”
“หยางหยาง อะไร…อ๊าก!” เสี่ยวเฟิ่งเย่ที่เพิ่งตื่นพึมพำโดยที่ยังไม่ทันลืมตา ก็รู้สึกว่าถูกจ้าวหยางผลักกระเด็น กลิ้งเข้าไปในพุ่มหญ้า ตัวกระแทกจนรู้สึกเจ็บ อดไม่ได้ที่จะโอดครวญ
“เจ็บ หยางหยาง ทำไมเจ้า…” เขาตกตะลึง ได้แต่นั่งนิ่งเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าอย่างอึ้งงัน
เห็นเพียงอีกด้านหนึ่ง หยางหยางที่ผลักเขาออกถูกเสือร้ายที่กระโจนเข้ามาใช้กรงเล็บแหลมคมข่วนจนเสื้อตรงหน้าอกฉีกขาด กรงเล็บแหลมคมนั่นข่วนหน้าอกเขาจนบาดเจ็บ ทิ้งรอยเลือดเป็นทางยาวไว้หลายเส้น
“รีบขึ้นต้นไม้เร็ว!” จ้าวหยางตะโกน กลัวว่าเสือร้ายจะหันไปโจมตีเสี่ยวเฟิ่งเย่ จึงทำได้เพียงโบกมือแล้วตะโกนใส่เจ้าเสือร้าย “ทางนี้! ข้าอยู่ทางนี้!”
เสี่ยวเฟิ่งเย่ได้สติกลับมาทันที เห็นเสือร้ายตัวนั้นคำรามแล้ววิ่งพุ่งไปทางหยางหยาง เขาตกใจรีบขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณยกตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ยืนกอดต้นไม้แน่น แล้วตะโกนใส่หยางหยางที่อยู่ข้างล่าง “รีบขึ้นมาเร็ว! หยางหยางรีบขึ้นมา!”
เพียงแต่ แม้จ้าวหยางจะกระโดดขึ้นไปหลบบนต้นไม่แล้ว แต่เสือร้ายก็ยังคงไม่ยอมปล่อยเขาไป เขาเกือบถูกเสือร้ายกัดหลายครั้ง เขาอาศัยแรงเหวี่ยงตนเองขึ้นไปนั่งบนหลังเสือ แต่กลับถูกสะบัดออกอย่างแรง ร่างกายกระแทกเข้ากับต้นไม่ใหญ่อีกต้น จากนั้นก็เกลือกกลิ้งไปกับพื้น
………………………………….