เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1719 วางแผนในป่า ตอนที่ 1720 ช่างมีความสุขเหลือเกิน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1719 วางแผนในป่า ตอนที่ 1720 ช่างมีความสุขเหลือเกิน
ตอนที่ 1719 วางแผนในป่า / ตอนที่ 1720 ช่างมีความสุขเหลือเกิน
ตอนที่ 1719 วางแผนในป่า
เห็นหงส์ไฟบินกลับมา เฟิ่งจิ่วเอื้อมมือออกไป ให้หงส์ไฟเกาะบนมือของเธอ
“เป็นอย่างไรบ้าง? ได้ยินอะไรบ้างหรือไม่?” เธอถามเสียงเบา
หงส์ไฟกระพือปีก แล้วตอบว่า “ได้ยิน ตาเฒ่าของจักรวรรดินทีแดงบอกว่าจะร่วมมือกับจักรวรรดิอื่น โจมตีจักรวรรดิเซวียนหยวนพร้อมกัน”
มันเล่าเรื่องที่ได้ยินในวังให้เฟิ่งจิ่วฟังอย่างละเอียด จากนั้นก็รอคำสั่งต่อไปจากเธอ
หลังฟังหงส์ไฟเล่าจบ เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปาก เผยรอยยิ้มเย็นชา ตาเฒ่าผู้นี้ กลับดีดลูกคิดได้รอบคอบนัก ในเมื่อเขาไม่กลัวตาย เช่นนั้นเธอก็จะเริ่มลงมือจากเขาก่อน
เธอสั่งให้ทุกคนซ่อนตัวไปก่อน แล้วให้หงส์ไฟคอยจับตาดูในวัง ส่วนคนอื่นก็รอพวกกวนสีหลิ่นกับตู้ฝานมาถึงก่อน และการรอครั้งนี้ ก็กินเวลาไปสองวัน
สองวันต่อมา ช่วงหัวค่ำ กวนสีหลิ่นกับตู้ฝานพากลุ่มของพวกเขามาถึงในป่าผืนเล็ก ครั้นองครักษ์เฟิ่งที่ซุ่มรออยู่บริเวณนั้นเห็นพวกเขา ก็พาพวกเขาไปหาเฟิ่งจิ่ว
กวนสีหลิ่นเห็นเฟิ่งจิ่ว ก็รีบสาวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปหา พลางหัวเราะเสียงดังกังวาน “เสี่ยวจิ่ว พวกเจ้ามาถึงตั้งแต่เมื่อใด? พวกเราเดินทางโดยอาศัยการบินมาตลอดเส้นทาง นึกไม่ถึงว่ายังช้ากว่าพวกเจ้าอยู่อีก”
“นายท่าน” ตู้ฝานและเหล่าองครักษ์เฟิ่งค้อมกายคารวะ
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาแวบหนึ่ง ยิ้มบอกว่า “มาถึงก่อนพวกท่านสองวัน พวกท่านเดินทางราบรื่นดีหรือไม่?”
“ระหว่างทางไม่มีปัญหาอะไร ยังดี” พวกเขายิ้มตอบ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะอธิบายเรื่องราวให้พวกท่านฟังคร่าวๆ”
ด้วยเหตุนี้ทุกคนล้วนนั่งล้อมกองไฟใต้ต้นไม้ มองเธอ แล้วรอให้เธอพูด
“ในเมื่อทุกคนมาถึงแล้ว ข้าตั้งใจว่าจะเริ่มลงมือวันพรุ่งนี้ อย่ากระโตกกระตาก ต้องอาศัยการลอบสังหารเป็นหลัก ขอเพียงคนที่กุมอำนาจในจักรวรรดินทีแดงตาย จักรวรรดินทีแดงก็จะล่มสลาย เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาดูแลตนเองยังไม่รอดด้วยซ้ำ ย่อมไม่มีเวลาไปต่อกรกับจักรวรรดิเซวียนหยวนอีก”
หลังจากนั้น เฟิ่งจิ่วก็อธิบายแผนการให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด แล้วถามว่า “จำไว้หมดหรือยัง?”
“จำไว้แล้วขอรับ” ทุกคนรับคำ น้ำเสียงฮึกเหิมทรงพลัง
“ดีมาก กินอะไรหน่อยแล้วรีบพักผ่อนเถิด!” เธอพยักหน้า ให้เหลิ่งหวากับเหลิ่งซวงแบ่งเนื้อที่ย่างเสร็จแล้วให้ทุกคน ส่วนเธอลุกออกมา แล้วเดินสำรวจรอบๆ
เห็นอย่างนั้น กวนสีหลิ่นเดินตามไป “เสี่ยวจิ่ว เรื่องที่พวกเรามาถึงที่นี่แล้ว เจ้าได้บอกโม่เจ๋อหรือยัง?”
เฟิ่งจิ่วหันกลับไป ยิ้มบอกว่า “เขาน่าจะรู้ว่าพวกเรามาที่แปดจักรวรรดิใหญ่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าพวกเรามาที่จักรวรรดินทีแดง” เธอตั้งใจจะทำให้เขาประหลาดใจ ด้วยการช่วยเขาแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ได้ยินอย่างนั้น กวนสีหลิ่นส่ายหน้า ยิ้มบอกว่า “อย่างนั้นตอนนี้เขาคงกำลังเป็นห่วงเจ้าอยู่ เขาไม่รู้ว่าพลังของเจ้าทะลวงขั้นถึงระดับปราชญ์เซียนขั้นสูงสุดแล้ว ข้าเดาว่าเขาน่าจะคิดว่าพลังของเจ้าอยู่ในระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วกระดกปากยิ้มๆ “ไม่นานเขาก็จะรู้เอง” หากเธอสังหารผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดง และทำลายอำนาจในวังกว่าครึ่งของพวกเขาสำเร็จเมื่อใด เขาย่อมได้รับข่าวเอง
อีกอย่าง เมื่อถึงตอนนั้นไม่เพียงแค่เขาที่จะได้รู้ จักรวรรดิที่เหลือก็จะได้รู้ด้วยเช่นกัน เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาย่อมตื่นตระหนกหวาดกลัว เพราะถึงอย่างไร ผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดงก็เป็นถึงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินผู้หนึ่ง
เมื่อถึงตอนนั้น ขอเพียงเธอสังหารผู้ครองแคว้นของอีกหนึ่งจักรวรรดิ เธอเชื่อว่าแรงสั่นสะเทือนก็จะรุนแรงยิ่งกว่าสังหารผู้ครองแคว้นนทีแดง
………………………………….
ตอนที่ 1720 ช่างมีความสุขเหลือเกิน
วันต่อมา หลังตกค่ำ เฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นพาองครักษ์กลุ่มหนึ่งลักลอบเข้าไปในวังหลวงอย่างเงียบเชียบ ส่วนคนอื่นแยกไปทำหน้าที่อื่นภายใต้การนำทางของพวกหลัวอวี่
พวกเขาเข้าไปในวังทางประตูข้าง หลังจากจัดการทหารยามเสร็จก็ให้องครักษ์เฟิ่งปลอมตัวเป็นทหารเฝ้ายามแทนที่ ส่วนคนที่เหลือเข้าไปข้างใน
ผ่านการฝึกฝนมาครึ่งปี ฝีมือและการเก็บซ่อนกลิ่นอายขององครักษ์เฟิ่งเรียกได้ว่าพัฒนาถึงขั้นสูงสุดแล้ว พวกเขาซ่อนตัวท่ามกลางความมืด แม้จะมีทหารลาดตระเวนจำนวนมาก ก็ยังไม่มีใครเห็นเงาของพวกเขา
หงส์ไฟที่คอยสืบข่าวอยู่ในวังหลวงรู้ว่าพวกเขามาแล้ว จึงบินมาหา “ผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดงอยู่ที่ตำหนักด้านหน้า พวกเจ้าตามข้ามา” พูดจบ ก็นำทางพวกเขาอยู่ข้างหน้า
“หงส์ไฟ เรื่องที่ข้าให้เจ้าไปทำ เรียบร้อยหมดหรือยัง?” เฟิ่งจิ่วถามเสียงเบา
“เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ ยาน่าจะใกล้ออกฤทธิ์แล้ว” หงส์ไฟตอบ เธอให้มันวางยาที่ไร้สีไร้กลิ่นลงในแหล่งน้ำของที่นี่ ยานั้นสามารถทำลายพลังวิญญาณของผู้ฝึกตนพวกนั้นได้โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว คำนวณเวลาแล้ว ยาน่าจะใกล้ออกฤทธิ์แล้ว
“ดีมาก” เฟิ่งจิ่วยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็สามารถทำตามแผนได้อย่างง่ายดายแล้ว
ผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดงที่ยังไม่รู้ตัวว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา ยามนี้กำลังโอบกอดและไล้โลมเรือนร่างของสนมงามนางหนึ่ง สนมนางนั้นพูดด้วยน้ำเสียงมีจริต
“ฝ่าบาท อย่านะเพคะ พระองค์อ่านฎีกาอยู่นะเพคะ!”
หญิงสาวรูปร่างทรวดทรงอวบอิ่มสวมผ้าไหมโปร่งบางหน้าตางดงาม นางนั่งอยู่ในอ้อมแขนของผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดง มือข้างหนึ่งโอบคอของเขา อีกข้างปิดทรวงอกที่ถูกดึงผ้าไหมลง เพื่อบดบังทัศนียภาพวสันต์ฤดู เอวคอดบางบิดเล็กน้อย ใต้กระโปรงยาว เรียวขาขาวนวลคู่หนึ่งวับๆ แวมๆ อยู่ใต้ผ้าไหมโปร่งบาง นางกึ่งผลักกึ่งรับ กึ่งเง้างอนกึ่งออดอ้อน ในดวงตาเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล
“ฎีกาอะไรก็เปรียบไม่ได้กับเจ้าชายารักของข้าหรอก! มา ให้ข้าหอมสักที” ผู้ครองแคว้นนทีแดงเอื้อมมือโอบนาง แล้วโน้มกายลงไป
“ฮิๆๆ ฝ่าบาท…” หญิงสาวหน้าตางดงามกึ่งผลักเขา เสียงหัวเราะมีจริตดังสดใสเหมือนเสียงกระดิ่งเงิน ชวนให้ลุ่มหลงยิ่งนัก
เขาอุ้มหญิงสาวขึ้น สาวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปในห้องข้างใน โยนหญิงสาวในอ้อมแขนลงบนเตียง กระชากเสื้อของตนเองออกแล้วพุ่งตัวเข้าไปขึ้นคร่อมข้างบน ทว่าในเวลานี้เอง ประกายเย็นวาบจากกระบี่ยาวพลันปรากฏอย่างเงียบเชียบ พาดอยู่บนคอของผู้ครองแคว้น
“ช่างมีความสุขเหลือเกินนะ!”
เสียงเย้นหยันระคนดูแคลนดังขึ้นในห้อง ฟังดูแปลกประหลาด เสียงนั้น ทำให้ผู้ครองแคว้นจักรวรรดินทีแดงสะดุ้งตกใจ ไฟโลกีย์ราวกับถูกน้ำเย็นสาดจนดับมอดตั้งแต่หัวจรดเท้า อารมณ์ดับหายไปในพริบตา เหลือเพียงความหวาดกลัว
ใครกัน? ใคนกันที่กล้าปรากฏตัวในตำหนักของเขาอย่างเงียบเชียบเช่นนี้?
ใครกัน? ใครที่สามารถเอากระบี่พาดคอเขาได้ราวกับรอบข้างไร้ผู้คนเช่นนี้?
และเขา กลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่ามีคนมา…
คนที่ทำให้เขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยเช่นนี้ หรือระดับวรยุทธ์ของคนคนนี้สูงกว่าเขา? นึกมาถึงตรงนี้ ก็อดตกใจกลัวจนเหงื่อท่วมตัวไม่ได้ โดยเฉพาะยิ่งเมื่ออยู่ในสถานการณ์น่าอับอายเช่นนี้
“กรี๊ด!”
หญิงงามบนเตียงกรีดร้องด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทว่า นางเพิ่งจะส่งเสียง ก็ถูกเข็มเงินยิงเข้ากลางหว่างคิ้ว เสียงกรีดร้องเงียบหายทันที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว ระหว่างคิ้ว เลือดหยดหนึ่งค่อยๆ ไหลลงมาช้าๆ แดงสะดุดตาดุจชาด[1]…
………………………………….
[1] ชาด หมายถึงอัญมณีชนิดหนึ่งที่มีแดง
————————