เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1797 จัดการอย่างไร ตอนที่ 1798 ไม่ละสายตา
ตอนที่ 1797 จัดการอย่างไร / ตอนที่ 1798 ไม่ละสายตา
ตอนที่ 1797 จัดการอย่างไร
เธอเงยหน้ามองเสือขาว ในที่สุดก็เข้าใจว่าแววตาอ้อนวอนของมันหมายความว่าอย่างไร
เธอเอื้อมมือลูบคลำไปตามลำตัวของมัน ครั้นลูบโดนเลือดก็ขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่าจะบาดเจ็บหนักขนาดนั้น ยามเธอเอามือแนบท้องของมันอีกครั้ง ก็สัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของมันกำลังค่อยๆ ดับสูญ อาการบาดเจ็บของมันสาหัสกว่าที่เธอคิดไว้มาก
หนำซ้ำ น้ำคร่ำของมันก็แตกแล้ว ตอนนี้ขาหลังของมันสั่นเทา แต่มันกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะคลอดเสือน้อยอกมา ความหมายของการที่แม่เสือตัวนี้หงายท้องให้เธอ กลับหมายถึงให้เธอผ่าท้องของมัน เพื่อเอาเสือน้อยออกมา
ครั้นตระหนักได้ อารมณ์ของเธอพลันเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ สัญชาตญาณของความเป็นแม่ก็ยังคงยิ่งใหญ่อย่างนี้เสมอ
เสือขาวตัวหนึ่งที่กำลังจะทะลวงขั้นเป็นสัตว์เทวะ มันยอมเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อแลกกับการให้ลูกของมันได้เกิด
แม่เสือร้องคราง คล้ายกำลังเร่งให้เธอรีบลงมือ
เสียงครางนั้นดึงสติของเธอให้กลับมา เธอมองแม่เสือ แล้วเผยยิ้มอ่อนโยนออกมา “ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรหรอก ให้ข้าดูแผลของเจ้าก่อน”
แม่เสือนอนหงายท้องไม่ยอมขยับ เอาแต่จ้องเธออยู่อย่างนั้น ดวงตารื้นน้ำแฝงแววตาอ้อนวอน หยดน้ำไหลรินจากดวงตา ก่อนจะซึมหายเข้าไปในขนของมัน
“ในเมื่อเจ้าอยากให้ข้าช่วยก็ต้องเชื่อฟังข้า เร็วเข้า อย่ามัวเสียเวลา” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางตบหัวของมันเบาๆ
แม่เสือจนใจ ทำได้เพียงพลิกตัวเพื่อให้เธอดูแผล
เฟิ่งจิ่วรีบทำความสะอาดแผล จากนั้นก็โรยผงยาห้ามเลือดที่ไหลออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “หันกลับไปเถิด! หงายท้องขึ้น”
พวกนายท่านลู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลตะลึงตาค้าง เสือขาวตัวนั้นทั้งพลิกตัวทั้งหงายท้อง ส่วนเด็กหนุ่มก็ทั้งลูบคลำทั้งใส่ยา นั่นเขาคิดจะทำอะไรกัน?”
“สะ สหายน้อยเฟิ่ง นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?” นายท่านลู่อดถามไม่ได้ เสียงพูดตะกุกตะกักโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว เขาอยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยพบเห็นเรื่องราวประหลาดเช่นนี้มาก่อน
“เสือขาวตัวนี้จะคลอดลูกแล้ว แต่มันได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตกำลังถดถอยจึงไม่มีแรงที่จะคลอดเอง ฉะนั้นข้าจะผ่าท้องแม่เสือ แล้วเอาลูกเสือออกมา” เฟิ่งจิ่วตอบโดยไม่หันกลับไปมอง ก่อนจะสั่งว่า “ท่านลุงลู รบกวนก่อไฟให้ข้า เอาใกล้ๆ ข้าตรงนี้”
คนของตระกูลลู่ตะลึงตาค้าง เบิกตากว้างจ้องแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่กำลังหันหลังให้พวกเขา ขะ ขะ เขาจะผ่าท้องแม่เสือ เหมือนที่คนกลุ่มเมื่อกี้ทำงั้นหรือ?
แม้จะบอกว่าแม่เสือไม่มีแรงคลอดเอง แต่ทำอย่างนั้นก็โหดร้ายเกินไป! เขาจะทำได้ลงจริงหรือ?
ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไร เฟิ่งจิ่วหันกลับมา “ท่านลุงลู่?”
นายท่านลู่สบตากับนัยน์ตากระจ่างใสและสงบนิ่งคู่นั้น พลันได้สติกลับคืนมา และรีบรับคำ “อ้อ ได้” จากนั้นก็หันไปกำชับคนข้างๆ “เร็ว รีบไปก่อกองไฟข้างสหายน้อยเฟิ่ง”
คนอื่นเองก็ได้สติกลับคืนมาเช่นกัน รีบเก็บกิ่งไม้แล้วก่อไฟข้างๆ เฟิ่งจิ่ว พลางมองพวกผู้ฝึกตนที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นแต่ละคน ลังเลครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองผู้นำตระกูลของพวกเขา
“นายท่าน คนพวกนี้จัดการอย่างไรขอรับ?” หากปล่อยให้พวกเขาฟื้นขึ้นมา หรือปล่อยให้ฤทธิ์ยาหมด จะไม่ยุ่งยากหรือ?
นายท่านลู่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “สหายน้อยเฟิ่ง คนพวกนี้เจ้าตั้งใจจะจัดการอย่างไร?”
………………………………….
ตอนที่ 1798 ไม่ละสายตา
เฟิ่งจิ่วไม่แม้แต่จะหันไปมอง ตอบว่า “คนพวกนี้ดูแล้วก็ไม่ใช่คนดีอะไร แน่นอนว่าต้องฆ่าเสียให้สิ้นเรื่อง” บางครั้งการทำอะไรก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย บางคนก็ปล่อยไปได้ บางคนกลับปล่อยไว้ไม่ได้
นายท่านลู่ได้ยินเช่นนั้นก็สายตาไหวระริก นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะพูดว่าฆ่าเสียให้สิ้นเรื่องออกมาได้ง่ายๆ เพราะถึงอย่างไรเมื่อดูจากท่าทางของเขาก็ไม่น่าจะเคยประสบพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน ท่าทางเหมือนคนที่อาศัยอยู่ในเขาลึกมานาน นิสัยใจคอซื่อตรงและจิตใจบริสุทธิ์…
ครั้นนึกถึงความซื่อตรงและจิตใจบริสุทธิ์ เขาก็ยกมือวางข้างมุมปาก พลางกระแอมไอเบาๆ
บางครั้งเขาก็มีเวลาที่มองคนผิดไปบ้างสินะ! เด็กหนุ่มคนนี้ซื่อตรงและจิตใจบริสุทธิ์เสียที่ไหน! คนซื่อตรงและจิตใจบริสุทธิ์ที่ไหนจะล้มผู้ฝึกตนพลังแข็งแกร่งสิบกว่าคนได้อย่างไร้เสียงเช่นนี้? คนซื่อตรงและจิตใจบริสุทธิ์ที่ไหนจะพูดเรื่องฆ่าแกงออกมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?
เด็กหนุ่มคนนี้ ยิ่งรู้จัก ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนปริศนา เดิมนึกว่ามองเขาทะลุปรุโปร่งแล้ว นึกว่าเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่รู้จักโลกไม่มาก ใครเลยจะรู้ว่าเด็กหนุ่มกลับทำให้เขาต้องมองใหม่ และนำพาความตกตะลึงมาให้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากปรับอารมณ์ เขาหันไปสั่งการคนข้างกาย “จัดการให้เรียบร้อย”
“ขอรับ!” ชายฉกรรจ์พวกนั้นทำเรื่องเหล่านี้จนชิน ยามลงมือจึงเด็ดขาดไม่ลังเล นอกจากสองคนที่คอยคุ้มกันอยู่ข้างนายท่านลู่ คนอื่นล้วนดึงดาบสั้นออกมา แล้วปาดคอของพวกคนที่หมดสติอยู่บนพื้น
ความรู้สึกที่เพียงตวัดดาบสั้นเพียงครั้งเดียวก็สามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ทำให้ชายฉกรรจ์พวกนั้นรู้สึกแปลกๆ การต่อกรกับผู้ฝึกตนที่มีพลังระดับนี้ พวกเขายังไม่จัดการได้ภายในดาบเดียวสักครั้ง
ชายชราชุดเทาเพราะเป็นหมอ ยามนี้แม้ไม่ได้ช่วย แต่ก็เดินเข้าไปสังเกตดู แม้แต่เขาที่อายุปูนนี้แล้ว ก็ยังทำเรื่องเช่นการผ่าเปิดท้องเสือไม่ลง ยามนี้อาศัยแสงสว่างจากกองไฟ ดูเฟิ่งจิ่วหยิบดาบสั้นคมกริบเล่มหนึ่งออกมา ใช้มันโกนขนส่วนท้องออกจนเกลี้ยงเกลาก่อน จากนั้นก็ไม่รู้ว่าทายาอะไรตรงนั้น รู้เพียงว่าได้กลิ่นของยาแปลกๆ กระจายไปทั่วอากาศ
เห็นเด็กหนุ่มมีสมาธิแน่วแน่ พวกเขาไม่กล้ารบกวน เพียงมองดูอยู่เงียบๆ ทว่า ยามเห็นเขาใช้มีดกรีดด้านล่างของท้องเสือ คมมีดกรีดเปิดเป็นรอยแผลเส้นหนึ่ง ขณะที่เลือดทะลักออกมา และแม่เสือครวญครางด้วยความเจ็บปวด ก็เห็นเด็กหนุ่มเอามือล้วงเข้าไปในแผล แล้วควานหาเบาๆ
ผ่านไปไม่นาน เสือน้อยสีขาวตัวหนึ่งที่เนื้อตัวเปื้อนเลือดเฉอะแฉะก็ถูกเด็กหนุ่มอุ้มออกมา ยามเห็นทารกเสือที่ขดตัวเป็นวงกลมนั่น พวกเขาได้แต่ตกตะลึงอยู่กับที่
นะ นี่ออกมาแล้วงั้นหรือ?
แม่เสือไม่มีแรงร้องครวญแล้ว มันฟุบลงไปอย่างอ่อนแรง ราวกับพลังชีวิตถึงขีดจำกัดแล้ว มันพยายามลืมตามองลูกของมัน อยากจะเลียลูกน้อยเพื่อจดจำกลิ่นไว้
ทว่า พลังชีวิตที่กำลังดับสูญไปอย่างรวดเร็ว กอปรกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาตอนถูกผ่าท้อง ทำให้มันรู้สึกเพียงหน้ามืดและหมดสติ เข้าสู่ภวังค์อันมืดมิดไปก่อน…
เฟิ่งจิ่ววางลูกเสือไว้บนเสื้อผ้าตัวหนึ่งที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว จากนั้นก็รีบเย็บปิดแผลที่ท้องของแม่เสืออย่างรวดเร็ว
ภาพนั้นทำให้ชายชราชุดเทาที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งมองจนไม่อาจละสายตา พอเขาเห็นเด็กหนุ่มเย็บแผลเสร็จ เลือดก็หยุดไหล เดิมอยากจะถาม แต่ก็กลัวจะเป็นการรบกวน จึงระงับความอยากรู้เอาไว้ก่อน
กระทั่งเห็นเด็กหนุ่มใช้เสื้อตัวนั้นเช็ดตัวเสือน้อย เขาจึงอดถามไม่ได้ “สหายน้อยเฟิ่ง หะ เหตุใดเจ้าจึงเย็บปิดแผลอีกเล่า? หรือแม่เสือยังรอดชีวิตได้อีก?”
………………………………….