เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1823 ความตายแผ่ปกคลุม / ตอนที่ 1824 ร่วมมือ
ตอนที่ 1823 ความตายแผ่ปกคลุม
คนสามร้อยกว่าคนได้ยินประโยคนั้น แต่ละคนล้วนเงียบกริบ ได้แต่รู้สึกสับสนกับอนาคตที่ยังไม่มาถึง หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตั้งแต่ถูกจับมาที่นี่ และถูกบังคับให้กินยาพิษเพื่อถูกควบคุม ชีวิตของพวกเขาก็ไม่ได้เป็นของพวกเขาอีกแล้ว
สถานการณ์ตรงหน้า หากพวกเขาไม่อยากตาย สิ่งเดียวที่ทำได้ก็มีเพียงพยายามเอาชีวิตรอดอย่างสุดความสามารถ แม้จะต้องใช้ชีวิตเป็นสายลับที่ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยได้ก็ตาม
“ป่าผืนนี้กว้างเท่าใด? ปกติต้องใช้เวลาในการเดินนานเท่าใด? มีอาวุธและยาให้พวกข้าใช้ป้องกันตัวหรือไม่? มีแผนที่หรือไม่? เมื่อถึงอีกฝั่งของป่าจะมีคนรอรับพวกเราหรือไม่?”
ท่ามกลางฝูงคน ชายฉกรรจ์อายุสามสิบกว่าคนหนึ่งถามเสียงเข้ม แต่ละคำถามของเขาล้วนเป็นคำถามสำคัญทั้งนั้น ขณะเดียวกับที่ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วหันไปมองเขาด้วย
ชายฉกรรจ์อายุสามสิบปีกว่าคนหนึ่ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระหายเลือด เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนห้าวหาญไม่รักตัวกลัวตาย แม้แต่ยามยืนก็ยังอกผายไหล่ผึ่ง ทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า มีกลิ่นอายที่เหมือนนักล่ากระจายอยู่
สิ่งที่ทำให้เฟิ่งจิ่วเหนือความคาดหมายคือ คนอย่างนี้ก็ยังถูกจับตัวมาได้ ดูท่าคนของสำนักนี้ที่ออกไปจับตัวคนจะมีพลังไม่ธรรมดาจริงๆ!
ผู้ฝึกวิชามารหนึ่งในนั้นตวัดมองทุกคนแวบหนึ่ง ตอบว่า “ป่าผืนนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าไม่ใหญ่ก็ใหญ่ บางคนใช้เวลาเป็นเดือนก็ยังเดินออกมาไม่ได้ บางคนก็เดินออกมาได้ภายในสามวัน แผนที่มีสองผืน ส่วนอยู่ที่ใดนั้น พวกเจ้าต้องไปตามหากันเอาเองในป่า”
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นหยุดพูดครู่หนึ่ง เหลือบมองพวกเขา ก่อนจะแสยะยิ้ม “ส่วนอาวุธและยา หึๆ ก่อนที่พวกเจ้าจะได้เป็นสายลับอย่างเป็นทางการ ของพวกนี้พวกเจ้าไม่มีทางได้ และของจำพวกอาวุธที่พวกเจ้าใช้กันในสนามตอนนี้ ห้ามเอาเข้าไปในป่าด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว ผู้ใดฝ่าฝืน…ตาย!”
หลังถ่ายทอดคำสั่งอีกสองสามประโยค คนสามร้อยกว่าคนก็ถูกพาไปยังทางเข้าป่าผืนนั้น
มองดูหญ้าที่สูงเกือบครึ่งตัว รวมถึงกิ่งไม้ที่พาดสลับไปมาเต็มไปหมด เฟิ่งจิ่วอดคิดไม่ได้ ป่าผืนนี้แม้แต่ถนนก็ยังไม่มีให้เดิน นอกจากไม่อาจหลงทางที่นี่ได้แล้ว ยังต้องหาทางออก ยังต้องหลบหนีจากการไล่ล่า คนของพรรควิหารราตรีเหล่านี้ ไม่ใช่คนดีดังคาด
สัญชาตญาณบอกเธอว่า หากสามร้อยกว่าคนนี้เข้าไป ยามออกมาเกรงว่าจะเหลือไม่ถึงเจ็ดแปดสิบคนเท่านั้น เธอรู้ดี การจะกลายเป็นสายลับต้องเป็นยอดฝีมือในกลุ่มยอดฝีมือเท่านั้น ต้องหลบหนีจากอันตรายได้และมีชีวิตรอดต่อไปได้ด้วย จึงจะมีคุณสมบัติเป็นสายลับได้
อีกอย่างสำหรับสายลับ ขอเพียงมีไหวพริบเท่านั้น หากคนพวกนั้นลอบลงมือลับๆ เกรงว่าอัตราการตายจะสูงขึ้น
แม้เธอจะไม่รู้จักกับคนพวกนี้ แต่เมื่อเห็นคนที่อยู่ในนี้ต่างต้องตายอย่างไร้ความผิด ลึกๆ ข้างในก็ทนไม่ได้อยู่บ้าง โดยเฉพาะยิ่งส่วนหนึ่งในนี้ยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีเท่านั้น
เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปี อายุที่ยังน้อยถึงเพียงนั้น จะรอดชีวิตจากการถูกคัดออกด้วยความตายอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?
หนำซ้ำ คนเกือบสี่ร้อยคนกลับมีแผนที่เพียงสองแผ่นเท่านั้น เกรงว่าเมื่อเข้าไปข้างใน พวกเขาคงต้องเข่นฆ่ากันเองอีก นึกมาถึงตรงนี้ เธอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
ช่างเถิด เธอเดินช้าหน่อยก็แล้วกัน จะได้ไม่กลายเป็นเป้าโจมตีของคนอื่น
ด้วยเหตุนี้ เพราะตั้งใจจะเดินรั้งท้ายคนอื่น เธอจึงค่อยๆ ตีตัวออกห่างจากกลุ่ม คนข้างหน้าก็ไม่ได้เห็นเธออยู่ในสายตา ได้แต่คิดว่า เด็กหนุ่มตัวผอมแห้งคนหนึ่งเดินในป่า ย่อมไม่สามารถเดินได้เร็วเหมือนยามเดินอยู่บนถนนปกติ
จนกระทั่งหลังจากเข้าป่ามาได้หนึ่งชั่วยาม กลิ่นอายความตายก็พลันแผ่ปกคลุมป่าผืนนี้…
………………………………….
ตอนที่ 1824 ร่วมมือ
หลายคนเริ่มระแวดระวัง เพราะรู้ว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เห็นแน่นอน คนพวกนั้นไม่มีทางทำแค่ขัดขวางการเดินทางของพวกเขา พวกนั้นจะต้องลอบลงมือลับๆ ด้วยแน่นอน หากเป็นอย่างนั้น พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องระวังตัวเท่านั้น
“ฟิ้ว!”
เสียงลูกธนูแหลมพุ่งแหวกอากาศดังขึ้น พุ่งเข้าไปกลางฝูงคนกลุ่มนั้น บ้างก็ล้มลงไปในพริบตา บ้างก็รีบหลบหนีอย่างรวดเร็ว บ้างก็วิ่งชนกันจนล้ม บ้างก็ถูกลูกธนูยิงบาดเจ็บ มีเพียงคนคนเดียวที่รับมือไม่ทันและถูกลูกธนูยิงทะลุหัวใจ
“อึก!”
คนคนนั้นร้องครวญ ดวงตาเบิกกว้างทั้งสองข้าง ก่อนจะล้มลงไปข้างหน้า ร่างกายของเขากระตุกสั่นเล็กน้อย สายตาแฝงแววเจ็บแค้น แต่สุดท้ายก็ยังคงกลืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายและล้มลงไปท่ามกลางสายตาทุกคน
ในนาทีนี้ หัวใจของทุกคนเต้นอย่างบ้าคลั่งราวกับจะกระดอนออกมาจากอก พวกเขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ไม่รู้ว่ากลไกสังหารถูกจัดวางตั้งแต่เมื่อใด
“ดูนั่น มีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น!”
ชายคนหนึ่งตะโกน รีบสาวเท้าเข้าไปดึงลูกธนูออกมา จากนั้นก็ดึงถุงผ้าไหมใบเล็กที่ผูกติดกับลูกธนูออกมา เขาเปิดดู ข้างในเป็นแผนที่ผืนหนึ่ง
“เป็นแผนที่” เขาหันไปมองคนอื่นๆ สังเกตสีหน้าของแต่ละคน สุดท้ายก็ถามว่า “ทุกคนไม่มีอะไรจะพูดหรือ?” ตรงนี้มีคนอยู่ประมาณหลายสิบคน รอบๆ ยังมีคนอยู่อีกสิบกว่าคน ที่เหลือต่างกระจายตัวออกไปกันหมดแล้ว
เขารู้ดีว่าเส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย อย่างน้อย หากอาศัยกำลังของคนคนเดียว เกรงว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่ใหญ่กว่า หากร่วมมือกับทุกคนได้ โอกาสที่จะรอดชีวิตก็น่าจะมีสูงกว่า
คนหลายสิบคนนี้แม้จะระแวงกันเองอยู่บ้าง แต่กลับไม่ได้โง่ เพราะรู้ว่าเดินทางลำพังจะยิ่งอันตรายกว่า ฉะนั้นจึงได้ตั้งใจเดินจับกลุ่มกัน ยามนี้เมื่อได้ยินเขาพูด ต่างก็สบตากันแวบหนึ่ง
“ได้แผนที่แล้วทุกคนก็เดินไปด้วยกันเถิด! หากเจออันตราย ก็ยังช่วยกันได้” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“ข้าเห็นด้วย” ชายอีกคนเอ่ยเสริม
“ได้”
“อย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ แต่ว่าใครจะเป็นคนถือแผนที่?”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างเงียบกริบ แต่ละคนกวาดมองกันและกัน สุดท้ายก็จับจ้องชายคนที่ถือแผ่นที่ “ให้เขาถือไว้ก็แล้วกัน! เดินไปด้วยกัน ใครถือไว้ก็เหมือนกัน”
ทว่า ขณะที่ชายคนนั้นเพิ่งจะพูดจบ จู่ๆ ก็มีผู้ฝึกวิชามารห้าคนตวัดกระบี่โจมตีพวกเขา อีกฝ่ายลงมือเหี้ยมโหด เห็นชัดว่าต้องการเอาชีวิตพวกเขา อีกทั้งดูเหมือนไม่ได้กำหนดเป้าหมาย เพียงแค่ตวัดกระบี่ไปทั่วเท่านั้น ราวกับกระบี่ถูกใครก็ฆ่าคนนั้น
สิ่งที่พวกเขาต้องการ เห็นได้ชัดว่าต้องการแยกคนกลุ่มนี้ออกจากกัน เพื่อกำจัดคนบางส่วนออก มีเพียงคนที่รอดชีวิตไปได้เท่านั้น ที่จะกลายเป็นสายลับได้ ด้วยเหตุนี้ ในหมู่พวกเขา ท่ามกลางคนสามร้อยเจ็ดสิบแปดคนนี้ บางทีอาจรอดชีวิตไปได้ไม่ถึงสิบกว่าคนด้วยซ้ำ
“อย่าแยกกัน! พวกเรามาร่วมมือกันสู้กับพวกเขา!”
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งในกลุ่มตะโกน ทว่า ยามต้องเผชิญหน้ากับการสังหารที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว คนพวกนั้นกรีดร้องและกระจายตัวกันไปคนละทิศคนละทางทันที มีเพียงคนกลุ่มน้อยที่รวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณ ง้างหมัดขึ้นแล้วโจมตีผู้ฝึกวิชามาพวกนั้น เทียบกับการรอดชีวิตจากการวิ่งหนี พวกเขาอยากมีชีวิตต่อด้วยหมัดของพวกเขาเองมากกว่า!
ผู้ฝึกวิชามารทั้งห้าเองก็กระจายตัวเช่นกัน แต่ละคนแยกย้ายกันไล่ตามคนกลุ่มอื่น เหลือเพียงคนเดียว ในสายตาของผู้ฝึกวิชามารคนนั้น ด้วยพลังของเขาคนเดียว ก็มากพอที่จะสู้กับคนกลุ่มนี้แล้ว
แล้วก็เป็นเพราะความประมาทนี้ จนถึงตอนสุดท้ายที่ถูกแย่งกระบี่ไปและถูกสังหารด้วยการใช้ดาบแทงทะลุหน้าอก เขาก็ยังคงเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่อยากเชื่อว่าจะถูกคนพวกนี้สังหารทั้งอย่างนี้