เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1829 มีพิษทั้งตัว / ตอนที่ 1830 งูพิษ
ตอนที่ 1829 มีพิษทั้งตัว / ตอนที่ 1830 งูพิษ
ตอนที่ 1829 มีพิษทั้งตัว
“ข้าเคยมีประสบการณ์การฝึกในป่าลึก แม้ไม่มีแผนที่ ข้าก็พาพวกเจ้าออกไปจากป่าผืนนี้ได้” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น เขาคือหนึ่งในสองคนที่เพิ่งเข้ามารวมกลุ่มใหม่
คนที่เหลือได้ยินอย่างนั้นก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง “เช่นนั้นก็ไปกันเถิด! อย่ามัวเสียเวลาอยู่ที่นี่เลย” ข้างในนี้ เวลาก็คือชีวิต หากยังออกจากป่าผืนนี้ภายในเวลาที่กำหนดไม่ได้ เกรงว่าพวกเขาคงยากจะมีชีวิตรอดได้แล้ว
“ไปทางนี้” ชายที่พูดเมื่อครู่เอ่ยขึ้น เขานำทางอยู่ข้างหน้า คนอื่นจึงเดินตามเขาไปด้านหน้า
แม้จะบอกว่าที่นี่เป็นป่าลึก แต่นอกจากเสียงนกร้องบนกิ่งไม้ กลุ่มคนที่เดินอยู่ในป่าลึกผืนนี้กลับไม่เจอสัตว์ป่าแม้แต่ตัวเดียว กอปรกับผู้อาวุโสกุ่ยก็ไม่ได้ให้ยาเลี่ยงอาหารแก่พวกเขา ขณะเดียวกับที่สูญเสียพลังงานในร่างกายไป ท้องก็เริ่มหิว เมื่อเวลาผ่านไป มีบางคนเริ่มเดินทางได้ช้าลง
“ข้าจับงูมาได้ตัวหนึ่ง หากแบ่งกันทุกคนอาจได้กินกันคนละหน่อย” ปี้ซานกล่าว เดินไปหากลุ่มคนที่พักอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกับงูที่ไม่ขยับแล้วในมือของเขา
พวกเขามองงูตัวนั้นแวบหนึ่ง บ้างก็ลุกไปเก็บกิ่งไม้ บ้างก็ถลกหนังงู บ้างก็เริ่มจุดไฟ เตรียมจะเอางูตัวนี้มาย่างแล้วแบ่งกันกิน แม้จะเป็นเนื้อน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่มี
ทว่า เฟิ่งจิ่วเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง ก็เอ่ยว่า “ไม่ต้องเร่งรีบกันแล้ว งูตัวนี้กินไม่ได้”
สิ้นเสียงของเธอ สายตาของทุกคนก็หันมองมา
“ทำไมกินไม่ได้?” ปี้ซานถาม
“นี่เป็นงูพิษ” เฟิ่งจิ่วตอบ
“งูพิษแค่เอาดีงูออกก็พอแล้ว เนื้อของมันยังกินได้อยู่” ปี้ซานอธิบาย เขาจัดการงูในมือได้อย่างเรียบร้อยหมดจดในพริบตา ถลกหนังงูตัวนั้นออก “ข้าเดินทางอยู่ข้างนอกมาหลายปี เคยกินงูพิษมาไม่น้อย แม้จะไม่เคยเห็นงูพิษเช่นนี้มาก่อน แต่จะต่างกันมากได้อย่างไร?”
สำหรับเขา ขอเพียงจัดการเรียบร้อยก็พอ จะกินไม่ได้ได้อย่างไรกัน?
“เนื้อของงูพิษชนิดนี้ก็มีพิษเช่นกัน หากกินแล้วเบาหน่อยก็มีอาการอ่อนแรง หนักหน่อยก็ถึงแก่ชีวิต” เฟิ่งจิ่วอธิบายเสริม สายตาปราดมองมือของเขาที่เปื้อนเลือดงู ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เลือดงูก็มีพิษ มือของท่านไม่อยากได้แล้วหรือ?”
ทุกคนเห็นเฟิ่งจิ่วทำหน้าเคร่งเครียด ไม่เหมือนกำลังโกหก จึงอดลังเลไม่ได้ หันมองงูตัวนั้นที่ถูกถลกหนังเรียบร้อยแล้ว และขณะที่ปี้ซานกำลังจะอ้าปากบอกว่าไม่เป็นไร เขาพลันรู้สึกมือชา งูในมือก็ร่วงตกลงพื้น เขาอดตะลึงไม่ได้
เห็นอย่างนั้น คนอื่นมีหรือจะยังไม่เข้าใจ รีบหันไปมองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “เจ้ารู้วิชาแพทย์หรือ? มือเขาเปื้อนเลือดของงู แก้พิษได้หรือไม่ หากแก้ไม่ได้จะเป็นอย่างไร?”
พวกเขาเดินทางอยู่ข้างนอก แต่กลับไม่เคยพบเจองูพิษที่เต็มไปด้วยพิษทั้งตัว สถานที่บ้าๆ เช่นนี้ เป็นสถานที่อะไรกันแน่?
ปี้ซานมองสองมือของตนเองที่บวมแดงอย่างรวดเร็ว ลอบตกใจ แต่ภายนอกกลับไม่พูดอะไร จะพูดอะไรได้อีก? เมื่อครู่คนอื่นเขาก็เตือนแล้ว เขายังไม่สนใจ ตอนนี้จะโทษใครได้อีก?
เฟิ่งจิ่วมองแวบหนึ่ง ถามว่า “ท่านจับงูมาจากที่ใด? ข้างๆ จุดที่งูตัวนี้อยู่ จะต้องมีอะไรแก้พิษได้แน่นอน”
“ข้างหน้า” ปี้ซานตอบ สาวเท้าเดินไปยังจุดที่จับงูได้เมื่อครู่
เฟิ่งจิ่วเดินตามหลังเขาไป คนอื่นก็เดินตามไปด้วย พวกเขาเดินตามหลัง มองดูเฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย กลับนึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูไม่มีอะไรสะดุดตากลับรู้วิชาแพทย์ หนำซ้ำยังดูเหมือนจะเชี่ยวชาญเสียด้วย
พวกเขาเดินตามไปเงียบๆ ขณะกำลังเดิน จู่ๆ กลับเห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวชะงักเท้า ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปดึงปี้ซานที่อยู่ข้างหน้ามาหลบด้านหลัง
………………………………….
ตอนที่ 1830 งูพิษ
“ฟ่อ!”
เสียงขู่ของงูดังขึ้นฟ่อๆ งูสีสันฉูดฉาดตัวหนึ่งพุ่งตัวออกมาจากพุ่มหญ้า มันส่งเสียงขู่พร้อมกับจ้องพวกเขาเขม็ง
ยามเห็นงูพิษที่พุ่งออกมา คนที่เหลือตะลึงเล็กน้อย ประกายบางอย่างพาดผ่านสายตายามมองเฟิ่งจิ่ว การกระทำที่ดึงปี้ซานถอยหลังอย่างรวดเร็วเช่นนั้น เขารู้ได้อย่างไรว่ามีงูพิษพุ่งตัวออกมาจากตรงนั้น? การตอบสนองนั่น กลับเร็วกว่าพวกเขาทุกคน
“พวกเราเอง บอกพวกเรามาว่ายาแก้พิษนั่นคือชนิดใด?”
เซียวเหลยและอีกสองสามคนเดินนำหน้า บางคนก็ถือดาบ บางคนก็ถือกิ่งไม้ ด้วยระดับสรยุทธ์ของพวกเขาจะจัดการงูพิษไม่กี่ตัว เป็นเพียงเรื่องง่ายเหมือนยกมือ
“ต้นหญ้าใบแหลมๆ ที่อยู่ข้างต้นไม้มีสมุนไพรสีแดงเส้นหนึ่งแก้พิษได้” เธอไม่ได้ก้าวไปข้างหน้า แต่เอ่ยปากบอกพวกเขาให้ไปเด็ดมา
พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ฟันงูตัวหนึ่งในนั้นเป็นสองท่อน งูที่เหลือรีบเลื้อยหนี หลังจากแหวกกิ่งไม้ออก ก็ไม่พบงูพิษอยู่อีก จึงก้าวเข้าไปเด็ดสมุนไพรต้นนั้น
“เด็ดใบเคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนลงไปเสีย แล้วก็เคี้ยวส่วนหนึ่งโปะไว้บนมือ เวลาประมาณหนึ่งก้านธูปก็จะแก้พิษงูได้แล้ว” เฟิ่งจิ่วเอ่ย
ปี้ซานทำตามที่เธอบอก คนอื่นๆ พักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ เวลาประมาณหนึ่งก้านธูปผ่านไป ก็เห็นสีหน้าของเขาดีขึ้นช้าๆ กอปรกับสีดำม่วงและอาการบวมที่มือก็เริ่มหายแล้ว พวกเขาจึงลอบถอนหายใจ
สมุนไพรที่ดูไม่มีอะไรสะดุดตานั่น กลับมีฤทธิ์ที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ด้วย
“สมุนไพรชนิดนี้แก้พิษชนิดอื่นได้ด้วยหรือ?” หลินซีที่อยู่ข้างๆ ถาม ในใจคิดว่าหากแก้พิษชนิดอื่นได้ด้วย ไม่สู้เก็บไปด้วยสักส่วน เผื่อเวลาใดต้องการใช้
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วอดหัวเราะไม่ได้ “จะได้อย่างไรกัน? ไม่ว่าพิษใดล้วนต้องใช้ยาให้ถูก มีสมุนไพรที่ไหนใช้แก้สารพัดพิษได้กัน? อีกอย่าง นี่ยังไม่นับเป็นยาทิพย์ ไม่ได้มีประโยชน์มากขนาดนั้น”
“เจ้ารู้วิชาแพทย์” เหลยเซียวมองเฟิ่งจิ่ว ถามขึ้น ก่อนหน้านี้ตอนเขาถาม เด็กหนุ่มไม่ตอบ ทว่าตอนนี้ยามเขาเอ่ยประโยคนี้ออกมา ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นแน่ใจแล้ว
“รู้บ้างเล็กน้อย” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มซื่อๆ
เหลยเซียวมองรอบๆ แวบหนึ่ง เห็นว่าไม่มีใครอยู่ จึงถามเสียงเบาว่า “พิษในตัวพวกข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นพิษใด? มีวิธีแก้หรือไม่?”
หากแก้พิษในตัวของพวกเขาได้ เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องถูกคนในวิหารราตรีควบคุมแล้ว ขอเพียงมีโอกาส พวกเขาก็ไปจากที่นี่ได้แล้ว เพียงแต่ ยามนี้พิษในตัวพวกเขา กลับเป็นปัญหาใหญ่
คนอื่นๆ ได้ยินอย่างนั้น ต่างก็ลุ้นไปด้วย บางคนก็มองเฟิ่งจิ่วด้วยความกังวล ใช่แล้ว! หากเด็กหนุ่มมีวิธีแก้พิษในตัวพวกเขา…
ทว่า ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา พวกเขาก็อดลอบส่ายหัวกับตนเองไม่ได้ เด็กหนุ่มจะมีวิธีได้อย่างไรกัน? เขาเองก็โดนพิษไปด้วยแล้วไม่ใช่หรือ? พิษในตัวพวกเขา ครึ่งเดือนมีอาการกำเริบหนึ่งครั้ง หากไม่กินยาแก้พิษต้องตายแน่นอน
“ไม่รู้” เธอส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา
พวกเขาลอบถอนหายใจ อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ แต่กลับคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา พิษที่ผู้อาวุโสกุ่ยทำขึ้น จะใช่พิษที่ใครที่ไหนก็แก้ได้ง่ายๆ เสียที่ไหน? เด็กหนุ่มเพิ่งจะอายุเท่าไร? แก้ไม่ได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา
“เอาล่ะ นี่ก็พักมาครู่หนึ่งแล้ว พวกเราเดินทางกันต่อเถิด! พวกเราต้องออกจากป่าผืนนี้ภายในสามวันให้ได้” เหลยเซียวเอ่ย ก่อนจะพาพวกเขาจากไปพร้อมกัน
ยามเดินเข้าไปในป่า กลิ่นอายความตายแผ่ปกคลุม คนอื่นอาจไม่รู้ตัว แต่เฟิ่งจิ่วกลับสัมผัสได้แล้ว ในนี้มีคนเพิ่มมาไม่น้อย หนำซ้ำ ยังมีผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินปรากฏตัวในที่ลับด้วย ทว่าคนพวกนั้นกำลังซุ่มซ่อนอยู่ กลับไม่ได้ลงมือทำอะไรพวกเขา