เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1897 รวมตัว / ตอนที่ 1898 ก่อเหตุเพราะฤทธิ์สุรา
ตอนที่ 1897 รวมตัว / ตอนที่ 1898 ก่อเหตุเพราะฤทธิ์สุรา
ตอนที่ 1897 รวมตัว
ทว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งสองตกใจมากที่สุดก็คือ เด็กหนุ่มนั่นกำลังยิ้มจนตาหยีและจ้องพวกเขาอยู่ ในมือยังถือเข็มเงินไว้สองเล่ม มองดูประกายเย็นเยียบจากเข็มเงินสองเล่มนั้น ทั้งสองอดตัวสั่นไม่ได้
“สหายน้อย นะ นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?” ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นถาม ขณะมองเด็กหนุ่มที่กำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ก็อดรู้สึกหนังศีรษะชาไม่ได้
เฟิ่งจิ่วควงเข็มเงินสองเล่มในมือเล่น ยิ้มตาหยีมองชายทั้งสอง “ข้าเห็นว่าพวกเจ้าตามข้ามาตลอดทางคงเหนื่อยแล้ว ก็เลยจะให้พวกเจ้าขึ้นไปพักบนต้นไม้ดีๆ สักหน่อยไงเล่า!” ขณะเอ่ย มือขยับไหว เข็มสองเล่มแทงเข้าไปในจุดลมปราณของสองคนนั้น
“ซี๊ด! โอ๊ย!”
สองคนนั้นสูดหายใจ รู้สึกเพียงปวดและอ่อนแรงไปทั้งตัว ไม่นาน กลิ่นอายพลังวิญญาณทั้งหมดก็หายไปด้วย ยามสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างกายอีก ทั้งสองหน้าซีดเผือด
“เป็นไปได้อย่างไร? จะ เจ้าทำอะไรพวกข้า?”
เฟิ่งจิ่วดึงเข็มเงินออก ยิ้มตาหยีตอบว่า “ไม่ต้องขอบคุณข้านักหรอก ก็แค่ให้บทเรียนเล็กน้อยเท่านั้น” เธอเอาถุงฟ้าดินบนตัวของสองคนนั้นมา เก็บใส่ห้วงมิติ ตบมือสองสามที “เอาล่ะ พวกเจ้าก็ห้อยอยู่ตรงนี้แล้วกัน!”
เห็นเด็กหนุ่มหันตัวก็เดินจากไป ทั้งสองรีบตะโกนเรียก “เจ้าอย่าเพิ่งไป! อย่าไปนะ! เกิดอะไรขึ้นกับกลิ่นอายพลังวิญญาณของพวกข้า? เจ้าทำอะไรกับพวกข้ากันแน่? เจ้ากลับมา กลับมานะ…”
เสียงตะโกนไล่ตามหลังมา แต่เฟิ่งจิ่วกลับโบกมือ ไม่นานเงาร่างของเธอก็หายวับไปจากทางเดินเล็กๆ เส้นนั้น…
จนกระทั่งถึงยามพลบค่ำ ในที่สุดเธอมาถึงสถานที่ที่เธอนัดกับพวกเหลยเซียว ทันทีที่เดินเข้าไปในป่าผืนเล็ก ก็สัมผัสได้ว่ามีคนจับตาดูอยู่ในที่มืด ครั้นเดินเข้าไปอีก ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความดีใจดังมา
“หัวหน้า!”
“นั่นหัวหน้ามาแล้ว!”
“หัวหน้ามาแล้ว!”
เสียงร้องด้วยความดีใจของใครคนหนึ่งดังขึ้น ไม่นานก็เห็นคนชุดดำปรากฏตัวทีละคน ตอนที่พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มชุดเขียว ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี
“หัวหน้า ท่านกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว! ตอนแรกพวกข้ายังกังวลว่าท่านจะถูกรั้งไว้หรือไม่!” ชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ย
“ระหว่างทางมีเรื่องให้เสียเวลานิดหน่อย ใช่แล้ว ทุกคนมาถึงกันครบหรือยัง?” เธอถาม สายตากวาดมองผ่านทุกคน เห็นว่าจำนวนคนดูจะไม่ค่อยถูกต้อง
“ยังเหลืออีกหนึ่งกลุ่มที่มาไม่ถึง แต่พรุ่งนี้กว่าจะถึงเวลานัดหมาย น่าจะไม่เป็นไรกระมัง” เหลยเซียวก้าวออกมาตอบ
“อย่างนั้นก็ดี” เธอพยักหน้า แล้วตามพวกเขามานั่งในป่า ถามว่า “มาถึงวันนี้กันหมดเลยหรือ?”
“ใช่ขอรับ พวกข้าเพิ่งมาถึงไม่นาน” ปี้ซานตอบ เวลานี้ ทุกคนล้วนถอดหน้ากากออกหมด เผยให้เห็นใบหน้าเดิมของพวกเขา
เธอครุ่นคิดก่อนเอ่ยว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ให้คนตามข้าเข้าไปซื้อของใช้ที่จำเป็นสักสองสามคน เปลี่ยนชุดเครื่องแบบที่มีตราของวิหารราตรีด้วย”
“ได้ เช่นนั้นข้าพาสหายสองสามคนไปกับท่านก็แล้วกัน!” ปี้ซานกล่าว ขณะกำลังจะเอ่ยต่อ หนึ่งในนั้นก็ก้าวออกมา “ข้าก็จะไปด้วย”
ชายชุดดำคนหนึ่งก้าวออกมา เฟิ่งจิ่วเห็นก็จำได้ว่าเป็นชายไว้หนวดคนนั้น แต่เขาโกนหนวดแล้ว ส่งผลให้ดูสดใสขึ้นมาก
“ได้ ไปกันเถอะ! คนอื่นรออยู่ที่นี่ อีกอย่าง ฉีกตราบนเสื้อดำออกเสีย จะได้ไม่ถูกคนจำได้” เธอหมายถึงตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนแขนเสื้อของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้คนทั้งสองจึงฉีกตราสัญลักษณ์ทิ้ง จากนั้นตามเฟิ่งจิ่วเข้าไปในเมือง
“หัวหน้า ท่านดื่มสุราใช่หรือไม่? ข้าได้กลิ่นหอมของสุราจากตัวท่าน!”
………………………………….
ตอนที่ 1898 ก่อเหตุเพราะฤทธิ์สุรา
ชายคนนั้นถาม ก่อนจะชะโงกเข้ามาดมตัวเฟิ่งจิ่ว เพียงแต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกเฟิ่งจิ่วตวาดสั่งให้ถอย
“ยืนดีๆ!”
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ใช้ได้เสียที่ไหน? เข้าไปในเมืองจะเอาสุราเท่าไรย่อมมี จะขาดส่วนของเจ้าไปได้หรือ?”
“ฮี่ๆ นั่นก็จริง” เขายิ้มแห้งพลางลูบหัว พอนึกถึงเรื่องที่ถูกขังหลายเดือน ตอนนี้ในที่สุดก็เป็นอิสระ อารมณ์ของเขาก็เบิกบานยิ่งนัก
ระหว่างทางพวกเขาพูดคุยหัวเราะกัน หลังจากเข้ามาในเมือง ต่างก็ติดตามเฟิ่งจิ่วอย่างมีวินัย พวกเขากว้านซื้อเสื้อผ้าที่ชอบแทบจะทุกร้านในเมือง จากนั้นก็สั่งหมูย่างสองตัวในหอสุรา รวมถึงเนื้อน้ำค้างด้วย จากนั้นก็ไปซื้อสุราที่ร้านขายสุราอีกสิบกว่าไหใหญ่ๆ เก็บของทั้งหมดใส่ถุงฟ้าดินของพวกเขา ก่อนจะเดินวนในเมืองรอบหนึ่ง แล้วค่อยไปเอาหมูย่างที่หอสุรากลับไป
เมื่อท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ในป่าผืนเล็กมีกองไฟหลายกองถูกจุดขึ้น ทุกคนนั่งล้อมวงพูดคุยกัน กระทั่งเห็นพวกเฟิ่งจิ่วกลับมา จึงรีบเดินไปต้อนรับ
“หัวหน้า พวกท่านกลับมาแล้ว!”
“กลับมาแล้ว ของล้วนซื้อกลับมาหมดแล้ว ทุกคนเอาอาหารออกมากินพร้อมกันเถอะ” เฟิ่งจิ่วสั่งให้พวกเขาเอาของในถุงฟ้าดินออกมา
ทันทีที่เห็นสุราและเนื้อ ทุกคนก็หัวเราะด้วยความชอบใจ หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “ข้าว่าแล้วว่าอีกเดี๋ยวต้องได้ดื่มสุรา นี่อย่างไร แก้วไผ่ที่เพิ่งทำขึ้นมาได้ใช้งานพอดี”
ขณะพูด ทุกคนหัวเราะพลางหยิบแก้วไผ่ที่ทำไว้ก่อนหน้าออกมา บ้างก็นำหมูย่างมาจัดวาง บ้างก็ช่วยกันตักสุรา บ้างก็แบ่งกันกินเนื้อน้ำค้าง
“หัวหน้า พอคนมาถึงครบแล้ว พวกเราต้องทำอะไรต่อ?” ชายคนหนึ่งถามขึ้น
“หลังจากที่คนมากันครบแล้ว อย่างอื่นไม่รู้หรอก แต่ทำลายหอรวมสมบัติก่อนเป็นอย่างไร?” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี มองทุกคนแล้วเอ่ยเสริมว่า “ที่นั่นเป็นที่เก็บสมบัติของวิหารราตรีเชียวนะ ข้างในน่าจะมีทรัพย์สมบัติไม่น้อย”
อีกทั้งในตอนนั้น เธอก็ถูกจับตัวจากที่นั่นส่งไปที่ค่ายฝึก อย่างไรก็ต้องกลับไปทักทายกันบ้าง ไม่อย่างนั้นคงเสียมายาทแย่
“ได้! พวกข้าฟังหัวหน้า!” ทุกคนขานรับ เสียงดังฟังชัด
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด เฟิ่งจิ่วหาต้นไม้ที่อยู่ค่อนข้างลึกเพื่อพักผ่อน คนอื่นกลับพากันล้อมวงพูดคุยกันต่อ บางคนก็เดินไปเดินมาบริเวณรอบๆ คอยสังเกตการเคลื่อนไหวแถวๆ นี้
ค่ำคืนนี้ยังถือว่าเงียบสงบ กระทั่งกลางดึก ใกล้ยามจื่อ[1] ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวหลายคนดังขึ้นท่ามกลางราตรี
“กรี๊ด…ช่วยด้วย…ช่วยด้วย…”
เสียงนั้นฟังดูเหมือนไม่ไกลนัก คล้ายว่าอยู่ใกล้ๆ ในป่าผืนนี้ ด้วยเหตุนี้เฟิ่งจิ่วลุกพรวด พาคนสิบกว่าคนตามเสียงนั้นไป
“ร้องหาอะไร? ที่นี่ล้วนมีแต่คนของพวกเรา! ร้องไปก็ไม่มีใครมาช่วยพวกเจ้า”
“นั่นสิ ดูท่าทางของพวกเจ้าก็เหมือนพวกเดินทางอยู่ข้างนอก น่าจะรู้ว่าผู้ฝึกตนหญิงต้องอาศัยผู้ฝึกตนชายที่แข็งแกร่งเพื่ออยู่รอด ไม่เช่นนั้น อาจต้องประสบเคราะห์ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าอยู่กับพวกข้าก็จะไม่เหมือนกัน พวกข้าเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหิน แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าเป็นไหนๆ”
สองคนที่กำลังพูดคือผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินที่อยู่ใต้การดูแลของเฟิ่งจิ่ว ทั้งสองเพราะดื่มมากไป ดวงตาหรี่เล็กแฝงแววหื่นกาม พวกเขาโอบกอดผู้ฝึกตนหญิงสองคนแล้วลูบไล้ตามร่างกาย พลางชะโงกหน้าเข้าไปจะจูบกลีบปากแดงสวยของหญิงคนนั้น
หนึ่งในนั้นออกแรงฉีกเสื้อของผู้ฝึกตนหญิงคนหนึ่ง เผยให้เห็นผิวขาวเนียนดุจหิมะ พวกเขาเห็นแล้วอดเบิกตากว้างไม่ได้
………………………………….
[1] ยามจื่อ หมายถึงช่วงเวลาห้าทุ้มถึงตีหนึ่ง