เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 403 ข้าไม่สบายใจ + ตอนที่ 404 ซ้อมเนี่ยเถิง
ตอนที่ 403 ข้าไม่สบายใจ?
ฮุยหลางได้ยินก็รีบดับไฟ พลางบอกว่า “ขอรับ นายท่านพูดถูก เราอย่าเสียเวลาระหว่างทางนานไปนักจะดีกว่า ภูตหมอจะได้ไม่ถูกรัชทายาทแคว้นเหินเวหาผู้นั้นชิงตัวไป ข้าน้อยได้ยินว่ารัชทายาทคนนั้นไม่เพียงรูปลักษณ์โดดเด่น พรสวรรค์ก็ยังไม่…”
เอ่ยถึงตรงนี้คำพูดเขาก็ชะงัก และถูกกลืนลงไปเสียดื้อๆ เพราะโดนอิ่งอีจ้องเสียจนกล่าวต่อไปไม่ได้
แม้สิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริง แต่คำพูดนี้นายท่านอาจไม่ชอบฟังสักเท่าไหร่ เขาแอบทอดถอนใจ คิดว่าในใจว่า ‘เจ้าจิ้งจอกอิ่งอีนั่นเอาแต่เลือกพูดสิ่งที่นายท่านชอบฟัง มีแต่คนเถรตรงเช่นเขาที่พูดความจริงออกมา ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว คำเตือนที่หวังดีมักขัดหูทั้งนั้น’
ขณะฟังคำพูดฮุยหลาง พอได้ยินคำว่ารูปลักษณ์โดดเด่นเข้าถึงหู เขาก็รู้สึกบาดหูยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้จึงชายตามองฮุยหลาง “รูปลักษณ์โดดเด่น? หรือพวกเจ้าคิดว่ารูปลักษณ์ข้าแย่กว่าคนอื่น?”
“แหะๆ ข้าน้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้นขอรับ”
ฮุยหลางยิ้มกระอักกระอ่วน รีบพูดเอาใจว่า “นายท่านสง่าผ่าเผยสูงส่งไร้คนเทียบเคียง ทรงอำนาจเหนือใคร ราวกับเทพสวรรค์ ในโลกนี้ข้าน้อยยังไม่เคยเห็นใครคนไหนเทียบนายท่านได้เลย นายท่านเป็นดวงอาทิตย์เจิดจรัส แม้รัชทายาทแคว้นเหินเวหาคนนั้นจะโดดเด่น เทียบกับนายท่านแล้วก็เป็นเช่นฝุ่นบนพื้นดิน ไม่เข้าตาเลยสักนิดเดียว คนเช่นนั้นยังไงภูตหมอก็ไม่ชอบหรอกขอรับ ดังนั้นท่านวางใจได้”
“แล้วข้าไม่สบายใจงั้นรึ” เขาเลิกคิ้วขึ้นมา ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ได้ยินเช่นนี้ ฮุยหลางก็ปาดๆ เหงื่อตรงหน้าผาก มองขอความช่วยเหลือไปทางอิ่งอี เขาพูดไม่เก่งนี่! ไม่รู้ว่าทำไมเอ่ยคำดีๆ ไปมากมายเพียงนี้ นายท่านยังตอบมาด้วยประโยคเช่นนี้อีก?
อีกอย่าง เดิมทีนายท่านก็ไม่สบายใจอยู่แล้ว! ไม่เช่นนั้นหลังจากได้ยินข่าวที่พวกเขามารายงานและรู้ถึงความตั้งใจของรัชทายาทแคว้นเหินเวหา ไหนเลยจะวางงานในมือโดยไม่พูดไม่จา แล้วรีบแจ้นมาอย่างร้อนรน?
ทว่าคำพวกนี้เขาพูดได้หรือ? พูดไปจะโดนตีจนตายหรือไม่?
อิ่งอีเหลือบมองฮุยหลาง ก้าวเข้าไปแนะนำว่า “นายท่าน พวกเรายังห่างจากแคว้นแสงสุริยันอีกหนึ่งช่วงระยะทาง ออกเดินทางเสียตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ จะได้ถึงจวนตระกูลเฟิ่งเร็วหน่อย แล้วดูว่าภูตหมอมีแผนการเช่นไร”
นึกถึงสาวน้อยคนนั้นที่ยามนี้เหลือตัวคนเดียว นัยน์ตาเจ้าตำหนักยมราชก็ฉายประกายเล็กน้อย เจ็บปวดใจอยู่บ้าง ยามนี้จึงไม่คิดถือสาอะไรฮุยหลาง แต่เรียกพาหนะเหาะเหินออกมา และมุ่งไปยังแคว้นแสงสุริยันพร้อมกับพวกเขาสองคน…
ส่วนในจวนตระกูลเฟิ่ง ยามนี้เกิดความโกลาหลเล็กน้อย
“มีผู้บุกรุก!”
หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้น สิ่งที่ตามมาคือเสียงผู้คนในจวนจับคนร้าย เสียงต่อสู้ดังมารางๆ ทว่าไม่นานนักเสียงนี้ก็เงียบลง สิ่งที่ปรากฏต่อมามีเพียงเสียงร้องอู้อี้และเสียงหมัดที่เหวี่ยงลงบนร่างกายจากฝ่ายเดียว
เมื่อกวนสีหลิ่นที่ดื่มสุรากับเฟิ่งจิ่วอยู่ในศาลาได้ยินการเคลื่อนไหวนั้น สองดวงตาก็สว่างวาบ มองไปที่เฟิ่งจิ่วอย่างแทบจะนับถือ “เสี่ยวจิ่ว เจ้าเดาถูกจริงด้วย คืนนี้มีคนมาจริงๆ สู้กันไม่เท่าไหร่ก็ไม่เคลื่อนไหวอะไรแล้ว ดูท่ายาที่เจ้าวางไว้จะร้ายกาจยิ่งนัก!”
“แค่รอเข้ามาให้ซ้อมถึงที่สักยก ถ้าไม่ได้ให้ซ้อมเปล่าๆ ก็ไม่ซ้อม สู้ก่อนค่อยว่ากัน”
เธอเล่นแก้วสุราในมือ ใบหน้างดงามแดงก่ำน้อยๆ เพราะดื่มเหล้า เผยความเอื่อยเฉื่อยและทรงเสน่ห์ บริเวณริมฝีปากมีรอยยิ้มชั่วร้ายประดับไว้ ยิ่งเสริมความร้ายกาจและมนต์เสน่ห์ที่ทำให้คนไม่อาจต้านทานเพิ่มให้อีกหลายส่วน
“แต่ว่า…”
กวนสีหลิ่นลังเลเล็กน้อย “สู้กันแบบนี้จะดีจริงหรือ ฟังจากการเคลื่อนไหวแล้ว เหมือนพวกเขาจะลงมือกันโหดร้ายมาก!”
………………………………………………….
ตอนที่ 404 ซ้อมเนี่ยเถิง
“ไม่เป็นไร พวกเขารู้จักความพอดี ไม่ทำร้ายถึงชีวิตหรอก” เธอยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ หลังดื่มอีกสองแก้วถึงจะไปยังเรือนด้านหน้าพร้อมกันกับกวนสีหลิ่น
เมื่อมาถึงตรงนั้น ร่างหนึ่งที่ศีรษะคลุมถุงกระสอบไว้กำลังโดนองครักษ์คุมตัวเข้ามา เห็นเฟิ่งจิ่วพวกเขาก็คารวะทันที “นายท่าน พวกเราจับมือสังหารที่ปีนกำแพงเข้ามาได้คนหนึ่งขอรับ”
“อ้อ? มีผู้บุกรุกมาจวนตระกูลเฟิ่งงั้นหรือ” มุมปากเธอยกขึ้นเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้พวกเขาเอากระสอบออก
ฉีคังดึงกระสอบออกมา เผยให้เห็นชายหนุ่มที่โดนพวกเขาซ้อมเสียจนจมูกช้ำหน้าบวม สองสามคนที่เดิมทีคุมตัวชายหนุ่มต่างละมือกลับ ร่างนั้นจึงอ่อนเปลี้ยล้มลงบนพื้น เพียงเบิกตาที่ถูกชกบวมเป่งจ้องมองเฟิ่งจิ่ว แม้แต่พูดยังพูดไม่ออก
เพราะแสงสว่างที่เรือนหน้า ยามนี้ต่อให้ใบหน้าชายหนุ่มบนพื้นโดนชกจนบวมช้ำ กลับยังเห็นรูปลักษณ์เดิมได้เลาๆ รวมถึงชุดคลุมที่หรูหรานั่น
เมื่อสายตาเฟิ่งจิ่วประสานกับชายหนุ่มบนพื้น ก็อดแปลกใจไม่ได้ “เจ้านั่นเอง?” กล่าวจบ กลับหัวเราะขึ้นมาทันควัน “เหอะๆ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ เจ้าโดนข้าวางยาถึงสองครั้ง ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ดีเท่าไหร่สินะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าเฟิ่งจิ่วฉีกกว้างอย่างอดไม่อยู่ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเป็นคนนี้ คนที่ติดกับในเงื้อมมือเธอครั้งก่อนกลับมาติดกับอีกครั้ง ยากนักที่เธอจะไม่หัวเราะ
ครั้งนั้นเธอคิดว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ เป็นไปตามคาด! ที่แท้ก็เป็นเนี่ยเถิงรัชทายาทแคว้นเหินเวหา มิน่าถึงมีบุคลิกท่าทางเช่นนั้น แต่เขาก็อวดดีเกินไปหน่อย กล้ามาจวนตระกูลเฟิ่งตัวคนเดียว สมควรแล้วที่โดนซ้อมหน้าบวมช้ำ
เนี่ยเถิงนอนอยู่บนพื้น ร่างกายไร้เรี่ยวแรงตอนนี้จึงขยับไม่ได้ นอนหงายอยู่เช่นนั้น ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องสาวน้อยงดงามเบื้องหน้าที่แย้มยิ้มราวบุปผา พลันคิดว่าครั้งนี้โดนซ้อมจนล้มก็ไม่ได้ยอมรับยากถึงเพียงนั้น อย่างน้อยๆ ได้เห็นนางยิ้มเบิกบานเช่นนี้ รอยยิ้มแบบนี้ครั้งก่อนเขายังไม่เคยเห็นเลย
ยามนี้ เขาเพียงรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นช่าง…งดงามยิ่ง
เดิมทีมีไฟโกรธสุมในอก ยามนี้เห็นรอยยิ้มนางแล้วก็หายเป็นปลิดทิ้ง ยิ่งพบหน้ายิ่งรู้สึกว่าสตรีคนนี้นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ!
“ข้าคือรัชทายาทแคว้นเหินเวหา นามเนี่ยเถิง”
สายตาเขามองแต่นาง พลางพูดประโยคนี้ออกไปโดยไม่รีบไม่ช้า เห็นใบหน้านางเผยความประหลาดใจ ในดวงตามีท่าทีเหลือเชื่อ มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย กำลังจะเอ่ย แต่เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของนางมุมปากกลับกระตุก คำที่เคยอยากบอกก็ติดอยู่ในลำคอ
“เจ้าบังอาจยิ่งนัก! ถึงกับกล้าแอบอ้างเป็นรัชทายาทเนี่ยเถิง? คนอื่นไม่รู้จักเจ้าแต่ข้ารู้จัก เจ้าคือคนบ้ากามที่ตามข้าอยู่ในเขตแคว้นเสงสุริยันครั้งก่อนไม่ใช่หรือ ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้จะยิ่งกำเริบเสิบสานปีนกำแพงเข้ามาบ้านข้า”
อารมณ์บนใบหน้าเฟิ่งจิ่วเปลี่ยนจากแปลกใจเป็นเหลือเชื่อตามด้วยโกรธเคือง มือชี้เขาอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นยิ้มขึ้นทันใด
รอยยิ้มนั้นพิลึกอยู่บางส่วน ทำให้คนรู้สึกสั่นเทิ้มหวาดกลัว
“วิธีจัดการคนบ้ากามที่ดีที่สุดคืออะไรเจ้ารู้ไหม?” เธอโน้มตัวลงไป ดวงตางดงามโค้งยิ้ม สายตามองจากใบหน้าเขาลงไป ระหว่างที่สายตาหยุดอยู่ตรงกลางหว่างขาก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
“คือทำลายต้นเหตุซะ”
เสียงหัวเราะเบาๆ ลอยเข้าหู สีหน้าเนี่ยเถิงดูไม่ได้ขึ้นมา แม้รู้ว่านางคงไม่กล้าทำเช่นนั้น แต่ฟังคำพูดแล้วนึกถึงนิสัยที่อยากทำอะไรก็ทำของนาง รู้สึกเพียงว่าบริเวณสองขามีลมหนาวพัดผ่าน ทำให้ร่างกายหดเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
………………………………………………….