เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 545 ท่านน้าซู่ซี + ตอนที่ 546 ไม่ใช่การข่มขู่แน่นอน
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 545 ท่านน้าซู่ซี + ตอนที่ 546 ไม่ใช่การข่มขู่แน่นอน
ตอนที่ 545 ท่านน้าซู่ซี
“คุณชายจิ่ว ข่าวที่ท่านสั่งให้ไปตรวจสอบถูกส่งมาวันนี้แล้ว พอข้ารู้ข่าวก็มาหาท่านทันที” หัวหน้าเคอแห่งตลาดมืดพูดยิ้มๆ ขณะก้าวเดินเข้าห้องปีกของเฟิ่งจิ่ว
“อ้อ ไวเพียงนี้เชียว?” เธอแปลกใจนิดหน่อยกับความเร็วในการหาข้อมูล เวลาเพิ่งผ่านไปสองสามวัน นึกไม่ถึงว่าจะหามาได้แล้ว? ความสามารถในการจัดการไม่เลวเลยจริงๆ!
“เหอะๆ ช่วยคุณชายจิ่วทำธุระ ย่อมประวิงเวลาไม่ได้อยู่แล้ว” หัวหน้าเคอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เห็นในห้องล้วนเป็นคนของพวกเขาเองจึงบอกทันที “จะว่าไปหญิงที่ชื่อซู่ซีก็เป็นคนเก่งกาจ มิเช่นนั้นคงไม่หาตัวเจอเร็วเช่นนี้”
“ข้าได้ยินที่คุณชายจิ่วบอก จึงไปตรวจสอบทางด้านตระกูลใหญ่ ตรวจสอบไปก็เจอจริงๆ ซู่ซีในภาพนั้นแซ่หลิน เป็นเชื้อสายตระกูลหลินในเมืองซานเจียง แคว้นมหาสันติ หนุ่มสาวตระกูลหลินล้วนให้เกียรติเรียกนางว่าท่านน้าซู่ซี พี่ชายนางคือผู้นำตระกูลหลิน เป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ หลินซู่ซีอายุหกสิบกว่าแล้ว แต่ข้าตรวจสอบรู้มาว่านางกินยาคงรูปลักษณ์มาหลายปี รูปโฉมจึงคงอยู่ที่อายุยี่สิบตลอดมา”
เอ่ยถึงตรงนี้ หัวหน้าเคอยิ้มขึ้นมาทันควัน ใบหน้าเผยความยินดี “เพราะตรวจสอบลึกลงไป จึงรู้ความลับบางอย่างด้วย ที่แท้หลายสิบปีก่อนนางหลงรักเฟิ่งซานหยวนน้องชายร่วมสาบานของพี่ชายนาง จะว่าไปเฟิ่งซานหยวนคนนี้มาจากแคว้นเล็กระดับเก้า ไม่นึกว่าจะทำให้ซู่ซีท่านนี้หลงรักตั้งแต่แรกเห็นและไม่ยอมแต่งงาน คิดว่าคงมีส่วนที่โดดเด่นไม่ธรรมดาเป็นแน่”
หัวหน้าเคอที่กำลังพูดไม่ได้สังเกตเห็นอาการแปลกใจของเฟิ่งจิ่ว เล่าต่อว่า “แต่น่าเสียดาย ตอนนั้นเฟิ่งซานหยวนแต่งงานแล้ว ว่ากันว่าตอนนั้นพ่อกับพวกพี่น้องของนางล้วนตัดสินใจให้เฟิ่งซานหยวนรับนางเป็นภรรยารอง แต่ภายหลังคุณหนูตระกูลหลินท่านนี้ปฏิเสธเสียเอง ว่ากันว่าเป็นเพราะ…”
เฟิ่งจิ่วฟังหัวหน้าเคอบอกข้อมูลที่ตรวจสอบมาอย่างละเอียด บางข้อมูลที่คนนอกไม่รู้ ภายใต้การสืบหาอย่างตั้งใจของตลาดมืดก็ยังรู้ได้ละเอียดนัก ยิ่งฟังดวงตายิ่งเป็นประกาย และชื่นชมน้าซู่ซีที่ยังไม่เคยพบหน้ากันท่านนี้อย่างยิ่ง
เธอคิดว่าคนที่ลักพาตัวท่านปู่ไปไม่ใช่ศัตรู มิเช่นนั้นคงไม่ได้ไม่ทำร้ายคนตระกูลเฟิ่งสักคน ยิ่งไปกว่านั้นยังเผยเบาะแสมากมาย ต้องเป็นคนที่รู้จักท่านปู่แน่ แต่อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าท่านปู่ที่เหมือนเฒ่าทารกจะมีความหลังรักๆ ใคร่ๆ เช่นนี้ด้วย
ได้ยินข้อมูลที่หัวหน้าเคอบอก ในที่สุดเธอก็รู้ว่าทำไมเขาถึงบอกว่าท่านน้าซู่ซีคนนี้เป็นคนเก่งกาจ ผู้หญิงคนหนึ่งหลงรักชายที่มีภรรยาแล้ว ซ้ำยังมีตระกูลและกลุ่มอำนาจเช่นนั้น ขอแค่นางมีใจคิดร้ายขึ้นมา ก็ไม่ต้องรอเวลาถึงหลายปีเพียงนี้เลย
แต่นางไม่ทำ กลับเลือกที่จะไม่ทำลายครอบครัวของคนที่ตนรัก ปกป้องและเฝ้ารอเงียบๆ มาหลายสิบปี
ความรักของนางไม่ใช่การครอบครอง แต่เป็นการปกป้อง ความรักเช่นนี้น่าซาบซึ้งใจนัก
“ตามข่าวที่สืบมาช่วงนี้ บอกว่าในตระกูลหลินคล้ายจะมีผู้เฒ่าที่ห้อยน้ำเต้าเหล้าไว้ตรงเอว ว่ากันว่าซู่ซีท่านนี้ส่งคนไปจับตัวมาหลังออกจากการเก็บตัวฝึกบำเพ็ญ การกระทำเช่นนี้หาญกล้าจริงๆ แต่ชายหนุ่มรูปงามเมื่อหลายสิบปีก่อนยามนี้กลายเป็นตาเฒ่า เกรงว่าสองคนนี้คงเดินไปด้วยกันยากแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ หัวหน้าเคอส่ายหัวถอนหายใจ ด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาย่อมเข้าใจดี หากรักใครคนหนึ่งจริง คงไม่มีทางรับตนเองได้แล้วสู้หน้าคนรักที่ยังเป็นสาวอายุยี่สิบด้วยรูปลักษณ์แก่ชราแน่ เพราะแบบนั้นมันโหดร้ายเกินไป แม้คนรักไม่สนใจ แต่ตัวเองในฐานะที่เป็นผู้ชายไม่อาจทำเป็นไม่สนใจได้
………………………………………………….
ตอนที่ 546 ไม่ใช่การข่มขู่แน่นอน
เฟิ่งจิ่วที่ฟังถึงตรงนี้ยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ในที่สุด ยังไม่ต้องพูดอะไร แค่เธอนึกภาพที่ท่านปู่ถูกหญิงรูปโฉมอายุยี่สิบบีบบังคับให้แต่งงาน ทำไมถึงนึกสนุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เล่า? แม้ไม่เห็นกับตาตัวเอง แต่ภาพเช่นนั้นต้องน่าสนใจมากแน่ๆ
“ขอบคุณท่านหัวหน้าเคอมาก ข้ารู้แล้ว” เธอยิ้มกล่าว สำหรับพวกเขาที่เป็นห่วงท่านปู่มาตลอด เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดี
ได้ยินเช่นนี้หัวเคอจึงลุกยืนขึ้นมา ประสานมือบอกว่า “เช่นนั้นข้าคงไม่อยู่นาน คุณชายจิ่ว ขอตัวก่อน หากวันใดพบกันอีก ข้าจะทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุด”
เฟิ่งจิ่วลุกขึ้นส่งแขก ขณะเดียวกันก็ยื่นยาขวดหนึ่งให้เขา “นี่คือยาที่ปรุงออกมาในสองวันนี้ ถือเป็นของขวัญขอบคุณเล็กน้อยจากข้า แม้ไม่อาจรักษาแผลเก่าแต่ก็บรรเทาอาการบาดแผลได้”
ได้ยินเช่นนี้ หัวหน้าเคอนั้นแสนยินดี บอกขอบคุณรัวๆ แล้วถึงจะจากไป
ภายในห้อง หลิงโม่หานมองนางเดินเข้ามาพลางถาม “จะไปเมื่อไร?”
“แน่นอนว่ายิ่งเร็วยิ่งดี ตอนนี้ข้าอยากพบท่านน้าซู่ซีเสียหน่อย” ดวงตาเธอหรี่ลง เอ่ยด้วยแววตายิ้มแย้ม ผู้หญิงเช่นนั้นหายากจริงๆ ในโลกนี้ ทำไมท่านปู่ถึงพลาดไปได้?
เห็นสีหน้าท่าทางนาง มุมปากหลิงโม่หานยกขึ้นเล็กน้อย บอกว่า “โลกนี้มีเพียงยาคงรูปลักษณ์ กลับยังไม่มียาน้ำหรือยาเซียนที่ทำให้คนกินแล้วอายุน้อยลง หากท่านปู่เจ้ากับซู่ซีคนนั้นอยากเดินไปด้วยกันก็ยากเย็นจริงดั่งคำพูดคนแซ่เคอนั่น”
หากเป็นคนอื่น ขอเพียงมีความสามารถเช่นนั้น แต่งภรรยาหลวงรับภรรยารองก็ล้วนเลือกผู้ที่งามราวบุปผา แม้เป็นตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณอายุหลายร้อยปีก็เลือกหญิงสาวอายุสิบกว่าถึงยี่สิบมาอุ่นเตียงให้ได้ ความแตกต่างด้านเลขอายุไม่ใช่ปัญหาเลย
แต่คนเช่นท่านปู่นางกลับยากยิ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งทำเช่นนั้นเพื่อเขา หากเขายังหนุ่มก็คงดี แต่เขาตอนนี้อายุมากแล้ว จะยอมรับรูปลักษณ์ตัวเองที่แก่ชราและไปปรากฏตัวต่อหน้าคนรักในทุกๆ วันได้อย่างไร?
“โลกก็มหัศจรรย์เช่นนี้ ไม่ว่ายาเซียนหรือยาทั่วไปล้วนเปลี่ยนแปลงไม่มีสิ้นสุด แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่าโลกนี้จะไม่มียาเซียนที่สามารถทำให้คนกลับมาหนุ่มสาวอีกครั้ง?”
เธอเลิกคิ้วมองเขา กลางหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ความลึกลับของศาสตร์ยาเปลี่ยนแปลงไปมาก ขอแค่ศึกษาลงลึก ข้าเชื่อว่าการพัฒนายาเซียนไม่ใช่ปัญหา หนำซ้ำในเมื่อโลกนี้ยังไม่มียาเซียนเช่นนั้นปรากฏ เช่นนั้นหากข้าพัฒนาออกมาได้ นามภูตหมอก็จะโด่งดังไปทั่วหล้า”
เห็นนางทำหน้าได้ใจ ท่าทางมีชีวิตชีวา รอยยิ้มตรงริมฝีปากเขายิ่งกดลึกขึ้นอย่างอดไม่ไหว “อืม คนอื่นข้าไม่รู้ แต่หากคนคนนี้เป็นเจ้า ข้าเชื่อว่าต้องทำได้แน่” กล่าวจบก็ยกน้ำชาขึ้นจิบเบาๆ
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเขา “เล่นไม้นี้ให้น้อยหน่อย คืนนี้ต่างคนต่างนอน หากท่านกล้าบุกรุกห้องข้ากลางดึก หึๆ! จะทำให้ท่านไม่ขันทุกนาทีเสียเลย”
“แค่กๆ!”
น้ำชาที่ยังไม่ทันกลืนถูกสำลักออกมาเพราะคำพูดนาง เขากระแอมเบาๆ สองครั้ง วางถ้วยชาลงกวาดมองนางด้วยสีหน้าขุ่นเคืองเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้อยู่ต่อหน้าผู้รับใช้สี่คนไม่ว่าอะไรก็กล้าพูดจริงๆ
ฮุยหลางกับอิ่งอีที่ยืนข้างๆ ก้มหน้าหัวเราะอู้อี้อย่างกลั้นไม่ไหว
เหลิ่งซวงยังคงมีสีหน้าเย็นชา แต่นัยน์ตากลับฉายแววยิ้มหัว มีเพียงเหลิ่งหวาที่ฉีกยิ้มกว้างออกมา ไม่อาจปิดบังรอยยิ้มบนใบหน้า
เฟิ่งจิ่วยักคิ้วไปทางเขา เอ่ยพร้อมหัวเราะเบาๆ “อย่าคิดว่าข้าพูดเล่น ข้าพูดจริง หากท่านอยากลิ้มรสชาติอย่างฮุยหลางตอนแรกก็ลองได้”
ฮุยหลางที่หัวเราะอู้อี้ได้ยิน จู่ๆ รอยยิ้มบนหน้าก็แข็งทื่อ ยิ้มไม่ออกทันที…
………………………………………………….