เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 655 หรือว่าเป็นอาจารย์ + ตอนที่ 656 ราชาอสูรพิภพระดับเก้า
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 655 หรือว่าเป็นอาจารย์ + ตอนที่ 656 ราชาอสูรพิภพระดับเก้า
ตอนที่ 655 หรือว่าเป็นอาจารย์?
โม่เฉินมองหนุ่มน้อยเหมือนจะคิดอะไรได้ จึงสะบัดแขนเสื้อ ขลุ่ยไม้ไผ่สีเขียวเข้มพร้อมด้วยพู่หยกเขียวปรากฏเบื้องหน้าเขา ปลายเท้าเขาเขย่งกระโดดขึ้นไป ตอนกำลังจะเรียกเด็กหนุ่มขึ้นมาก็เห็นเขาจ้องมองขลุ่ยสีเขียวเข้มใต้เท้าที่ยืนอยู่ด้วยดวงตาเป็นประกาย ซ้ำยังยื่นมือไปแตะพู่ตรงปลายขลุ่ย
“ขลุ่ยนี้สวยจริงๆ เป็นขลุ่ยไผ่ใช่ไหม? ผ่านการสกัดมาหรือ? แล้วไม้ไผ่นี้ได้มาจากไหน? สีเขียวนี้เขียวสะดุดตาจริงๆ!”
สายตาเฟิ่งจิ่วหยุดอยู่บนขลุ่ยนั้นไม่อาจละสายตา ขลุ่ยนั้นเปลี่ยนจากเล็กเป็นใหญ่ บนตัวขลุ่ยเผยกลิ่นอายพลังวิญญาณ แม้ชายชุดขาวจะเหยียบอยู่ด้านบนแต่ไม่ได้เหยียบถึงตัวขลุ่ย ซ้ำพู่ตรงปลายขลุ่ยนั้นยังพลิ้วไหวเบาๆ ช่างงดงามจริงๆ
โม่เฉินกำลังจะเรียกเขาขึ้นมาก็เห็นว่าขลุ่ยมันสั่นๆ เด็กหนุ่มคนนั้นกระโดดขึ้นมาแล้ว มือหนึ่งยังเกาะบนไหล่เขา
“ปล่อย”
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่ผ่านมาไม่ชอบให้ใครแตะ กลับถูกเด็กหนุ่มถูกเนื้อต้องตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ไม่มีความรู้สึกรังเกียจแต่ในใจยังคงไม่ชอบ โดยเฉพาะที่เด็กหนุ่มยังทำเสื้อคลุมเขาขาด
“ปล่อยได้อย่างไรเล่า? ปล่อยแล้วข้าตกลงไปจะทำเช่นไร? ข้าบินไม่ได้หรอกนะ” เฟิ่งจิ่วบอกพลางจ้องมองขลุ่ยใต้เท้า คิดว่าหากตนเองมีของแบบนี้แขวนไว้ตรงเอวบ้างก็ไม่เลว
โม่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ชะงักไปสักพัก แล้วบอกว่า “จับชายเสื้อ” กล่าวจบก็เห็นหนุ่มน้อยคว้าแขนเสื้อเขาไว้ในมือแน่น ดวงตาคู่นั้นยังนิ่งจ้องมองไผ่สีเขียวเข้มใต้เท้า
เขาเห็นเช่นนี้จึงไม่พูดอะไรมากอีก ก่อนจะใช้พลังวิญญาณคุมขลุ่ยที่เหยียบไว้ใต้เท้ามุ่งไปยังใจกลางเทือกเขาหมื่นอสูรทันที…
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเหยียบพาหนะเหาะเหินโผบินไปบนอากาศเช่นนี้ สายลมโหยหวนพัดผ่านจากใบหน้า ไม่มีกระแสลมก่อตัวเป็นเกราะกำบังเหมือนเรือเหาะ หนำซ้ำยืนอยู่บนนี้ยังต้องกังวลถึงความเป็นไปได้ที่เท้าจะลื่นตกลงไปจากกลางเวหา แต่ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าความรู้สึกเช่นนี้ช่างทำให้คนตื่นเต้นจริงๆ
“เจ้ามาตามหาอะไรที่นี่?”
เฟิ่งจิ่วที่กำลังคิดเรื่องอื่นพลันได้ยินชายชุดขาวตรงหน้าถามเธอ จึงบอกว่า “มาเก็บมณีเพลิงจากอสูรเพลิงเขาเดียวไปรับคะแนนคุณงามความดี” สิ้นเสียงเธอยังเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง “เจ้าจะเอาสมุนไพรพวกนั้นไปทำอะไร? เจ้าเป็นนักเรียนสำนักยาหรือ? หรือว่าสำนักพลังวิญญาณ?”
สำหรับเรื่องนี้เธอสงสัยอย่างมาก
คนเบื้องหน้าไม่พูดไม่จาคล้ายว่าไม่ได้ยิน พลางมองไปตรงหน้าด้วยท่าทีสบายๆ กระทั่งเมื่อมาถึงใจกลางเทือกเขาวงแหวนล้อมรอบ ถึงจะร่อนลงจากกลางอากาศ
เฟิ่งจิ่วกระโดดลงบนพื้น เห็นเขาเก็บขลุ่ยนั้นไป จึงมองๆ ตรงเอวเขาทันใด นี่เก็บเข้าห้วงมิติแล้วหรือ?
ขณะกำลังคิดก็เห็นมือหนึ่งเขาจับข้อนิ้วแล้ววางเขตอาคมไว้ เห็นมือข้างที่โผล่ออกมาของเขาดวงตาเธอก็หดลงเล็กน้อย
เขาไม่ใช่นักเรียน!
แม้นักเรียนสำนักศึกษาหมอกดาราจะโดดเด่น ก็ไม่น่าจับข้อนิ้วร่ายคาถาวางเขตอาคมออกมาได้
“ที่นี่จะปกป้องเจ้าให้ปลอดภัย หากพบเจออันตรายก็เข้ามา สัตว์วิญญาณกับสัตว์ร้ายที่นี่ล้วนไม่อาจเข้าเขตอาคมนี้ได้” หลังจากทิ้งคำพูดไว้เขาก็เขย่งปลายเท้า และหายไปต่อหน้าเฟิ่งจิ่ว
“เฮ้…” เฟิ่งจิ่วตะโกน กลับเห็นคนคนนั้นเข้าไปในป่าลึก พริบตาเดียวก็ไม่เห็นร่องรอยแล้ว
“หรือว่าเป็นอาจารย์? สำนักศึกษาแห่งนี้มีอาจารย์อายุน้อยเช่นนี้ด้วยหรือ?” เธอพึมพำและไม่ไปสนใจอีก แต่เดินออกจากเขตอาคมไปเตรียมแผนการวางกับดัก
ทว่าเมื่อเดินออกจากเขตอาคม ท่ามกลางใบไม้อุดมสมบูรณ์ ดวงตาดุร้ายกระหายเลือดแต่ละคู่ยืนจ้องมองมา ขณะที่เธอออกจากเขตอาคมนั้นไปประมาณสิบเมตร ตรงมุมมืดพลันมีร่างมากมายพุ่งออกมา…
………………
ตอนที่ 656 ราชาอสูรพิภพระดับเก้า
“กรร!”
เสียงคำรามเบาๆ ลอยมา ร่างหนึ่งในนั้นพุ่งไปทางเฟิ่งจิ่ว กรงเล็บแหลมคมวาดกระแสลมไปกลางอากาศ เฟิ่งจิ่วที่หันหลังรู้สึกถึงอันตรายด้านหลังจึงหลบถอยไปข้างๆ ทันทีและหันกลับไปอย่างรวดเร็ว มองไปก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ
“ข้าคิดอยู่ว่าคืออะไร! ที่แท้เป็นราชาอสูรพิภพระดับเก้านี่เอง!”
เธอยิ้มน้อยๆ สายตามองผ่านราชาอสูรพิภพหกตนที่ล้อมเข้ามาหาเธอ สัตว์พวกนี้รูปร่างคล้ายสุนัข กลับมีเขาเช่นวัว ฟันแหลมคมราวกับหมาป่า บนตัวยังมีเกล็ดสีดำเหมือนเกล็ดปลา สัตว์พวกนี้สูงประมาณหนึ่งเมตรกว่า ยามนี้กำลังเขม็งมองเธอ ซ้ำยังแยกเขี้ยวน้ำลายไหล
เวลาต่อมา ราชาอสูรพิภพสองตนด้านหลังก็กระโจนเข้ามาทันที ปากใหญ่อ้าออกเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมกัดมายังลำคอ ทันใดนั้นเธอหยิบกริชจากในรองเท้าออกมาพลางเขย่งปลายเท้ากระโดดไปบนหลังตัวหนึ่งในนั้น ส่งกลิ่นอายพลังเร้นลับสู่กริชในมือ แล้วแทงเข้ากลางเหนือหัวซึ่งเป็นจุดตายที่สุดของราชาอสูรพิภพอย่างแรง
“สวบ!”
“กรร!”
เสียงใบมีดคมที่แทงลงไปดังมาพร้อมกลิ่นอายรุนแรง เพียงเห็นราชาอสูรพิภพตนนั้นหอนเบาๆ และนอนลงไปเสียงดังตุบทันทีในตอนที่เฟิ่งจิ่วดึงกริชออกจนเลือดสาดกระเซ็น
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งพลันกระจายไปในอากาศ เธอมองราชาอสูรพิภพตนนั้น หลังจากชักดิ้นชักงอบนพื้นไปสักพักก็สิ้นลมหายใจ ดวงตาอสูรอีกห้าตนที่เหลือต่างแดงฉาน ก่อนจะเห่าหอนพร้อมพุ่งไปทางเฟิ่งจิ่วอีกครั้ง
ราชาอสูรพิภพระดับเก้าห้าตนนั้นแผ่แรงกดดันออกมา กลิ่นอายในอากาศยิ่งหนาแน่นขึ้น กระแสลมโหยหวนรุนแรงดั่งมีด ไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกตนระดับบรรพชนนักรบเลยสักนิด หากพบนักเรียนคนอื่นถูกราชาอสูรพิภพระดับเก้าห้าหกตนล้อมโจมตี เดาว่าคงทนไม่ไหวไปตั้งนานแล้ว
แต่เฟิ่งจิ่วกลับอาศัยท่ากายและความเร็วแปลกๆ จัดการอยู่ในวงพวกมัน แค่ลงมือก็คร่าชีวิตได้ในเสี้ยววินาที ด้วยกำลังเธอจึงไม่ได้ยากเลยที่จะต่อกรกับราชาอสูรพิภพระดับเก้า
ทว่าราชาอสูรพิภพพวกนี้เห็นได้ชัดว่าแสนรู้นัก หลังจากอีกสี่ตัวถูกฆ่าตายเธอก็กระโดดขึ้นหลังอีกตัว มือหนึ่งจับเขาบนหัวมันไว้ อีกมือตวัดกริชกำลังจะแทง กลับเห็นว่าเขาของราชาอสูรพิภพตนที่พุ่งชนเข้ามากะทันหันอย่างไม่คิดชีวิตกรีดมือเธอบาดเจ็บ กริชในมือร่วงลงพื้นตามไป
เพราะถูกชนร่างจึงลื่นหล่นจากหลังอสูร และในเวลานี้ ราชาอสูรพิภพตนนั้นก็วิ่งพล่านขึ้นมา บ้างวิ่งบ้างเหวี่ยงสะบัดชนเสียวุ่นวาย คล้ายว่าคิดจะใช้แรงพุ่งชนเธอให้ตาย ไม่เพียงเท่านี้อสูรตัวด้านหลังยังไล่ตามเข้ามาชนอีก
ทันใดนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ถูก คิดจะถอนตัวยิ่งไม่มีทาง จึงทำได้เพียงจับเขาอสูรไว้แน่นและพยายามหยิบกริชออกมาอีก แต่ระหว่างที่ควบตะบึงก็ชนต้นไม้มั่วซั่ว ทำให้เธอไม่มีโอกาสจะประคับประคองตัวเลย ร่างกายที่ลื่นไปอีกข้างเล็กน้อย เธอยิ่งต้องยื่นมืออีกข้างออกไปจับเขาอสูรไว้แน่นๆ ถึงจะไม่โดนเหวี่ยงจนร่วง
“บ้าเอ๊ย!”
กิ่งไม้วาดผ่านร่างไป ทำให้ชุดสีฟ้าบนร่างขาดหลุดลุ่ย ความเจ็บปวดร้อนผ่าวถาโถมเข้ามา ขณะที่ผิวหนังมีเลือดไหล
ความเร็วในการวิ่งของราชาอสูรพิภพว่องไวยิ่งนัก มันอาละวาดพุ่งชนเพียงเพื่อสะบัดเธอออก หลังจากถูกราชาอสูรพิภพพาพุ่งออกจากป่าทึบ ข้างหูก็ได้ยินเสียงสายน้ำไหลแรงลอยมาจากที่ไม่ไกลรางๆ จึงเงยหน้ามองไป และตกใจโดยฉับพลัน
“บ้าเอ๊ย! รีบหยุดสิ!”
ตรงหน้าคือกระแสน้ำเชี่ยวกราก กระแสน้ำที่คลื่นเต็มไปด้วยโคลนขุ่นมองไม่เห็นก้นบึ้ง หากหัวทิ่มลงไปล่ะก็…
เธอตัดสินใจทันควัน กระโดดลงจากหลังราชาอสูรพิภพโดยต้องไม่คิด ทว่าในเวลานี้เอง ขณะที่เธอกระโดดลงมาราชาอสูรพิภพตนนั้นที่ตามท้ายมาตลอดก็พุ่งชนจากด้านหลังอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เธอตกลงไปยังกระแสน้ำเชี่ยวเบื้องหน้า…
………………………………………………….