เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 761 ยังต้องกลับมา + ตอนที่ 762 ของขวัญขอบคุณจากเฟิ่งจิ่ว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 761 ยังต้องกลับมา + ตอนที่ 762 ของขวัญขอบคุณจากเฟิ่งจิ่ว
ตอนที่ 761 ยังต้องกลับมา + ตอนที่ 762 ของขวัญขอบคุณจากเฟิ่งจิ่ว
ตอนที่ 761 ยังต้องกลับมา
เฟิ่งจิ่วเห็นพวกนางออกไป ก็ลุกขึ้นมาบอกสองสัตว์อสูรว่า “ข้าจะไปดูอาจารย์พวกนั้นที่ได้รับบาดเจ็บเสียหน่อย พวกเจ้าเฝ้าไว้อย่าวิ่งเพ่นพ่าน”
ระหว่างพูดเธอหยิบยาอายุวัฒนะสามเม็ดออกมา แล้วโยนให้สองสัตว์อสูรตัวละเม็ด ที่เหลืออีกเม็ดโยนให้เสี่ยวเฮยที่นั่งหมอบตรงอาศรมอย่างซื่อสัตย์
“นายท่าน บาดแผลท่านยังไม่หายดี จะออกไปแล้วรึ ไม่รักษาตัวอีกหน่อยค่อยไปหรือขอรับ?” เหล่าไป๋กลืนยาอายุวัฒนะลงไป มองนางพลางเอ่ยถาม
“อาจารย์พวกนั้นสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณและบาดเจ็บเพื่อช่วยข้า ลงจากเตียงไม่ได้นั้นเป็นเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ดีมากแล้ว ข้าจะไม่เข้าไปดูเสียหน่อยได้อย่างไร?”
เธอโยนขนนกเคลือบหลากสีออกไป แล้วกระโดดเบาๆ ขึ้นนั่งด้านบน ไม่ได้ไปห้องแนะแนวแต่ไปยอดเขาหลักที่เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักอยู่เสียก่อน
ร่างหนึ่งสวมชุดสีฟ้านั่งบนขนนกเคลือบหลากสี สองขาห้อยลงกลางอากาศอย่างเป็นธรรมชาติ ลอยละลิ่วไปยังยอดเขาหลัก ภายในสำนักศึกษา นักเรียนพวกนั้นที่สังเกตเห็นร่างบนท้องฟ้ามีท่าทีสับสนและสงสัยในใจ
ภาพเมื่อสองสามวันก่อนหน้าสร้างความตกตะลึงไม่น้อยในหมู่นักเรียนสำนักศึกษา ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่เคยเห็นการทุ่มเทกำลังต่อสู้หมดทั้งสำนักศึกษา และการรวมพวกอาจารย์ระดับหลอมแก่นพลังขึ้นไปไปช่วยนักเรียนคนหนึ่ง
พวกเขาลองสืบถามเพราะความสงสัย กลับรู้เพียงข้อมูลว่าเฟิ่งจิ่วเป็นคนแคว้นระดับเก้าและอื่นๆ แม้ตระกูลพวกเขาอยากจะตรวจสอบ ภายในเวลาสั้นๆ ก็ไม่อาจหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาได้
แต่เพราะภาพเช่นนั้น ในใจพวกเขารู้อยู่รางๆ ว่าเฟิ่งจิ่วคนนี้มีที่มาไม่ธรรมดา
เนี่ยเถิงที่อยู่ที่ใดสักแห่งในสำนักพลังวิญญาณ เมื่อเห็นร่างที่นั่งขนนกเคลือบหลากสีบินผ่านไปบนท้องฟ้าไกลและมุ่งไปยังยอดเขาหลัก สายตาก็มองตามไปตลอด จนกระทั่งร่างนางหายไปจากสายตา
ดูท่าทางบาดแผลนางคงดีขึ้นแล้ว
เมื่อมาถึงยอดเขาหลัก เห็นว่านอกจากเจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนัก ยังมีคุณชายโม่เฉินคนนั้นอยู่ด้วย เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย “ท่านเจ้าสำนัก รองเจ้าสำนัก คุณชายโม่เฉิน วันนี้ข้าเข้ามาขอบคุณ และอยากเชิญท่านรองเจ้าสำนักไปเยี่ยมพวกอาจารย์ที่บาดเจ็บด้วยกันเสียหน่อย”
“เฟิ่งจิ่ว? แผลเจ้าดีขึ้นแล้วหรือ ทำไมพักผ่อนได้ไม่นานสองวันก็ลงจากเตียงมาเดินแล้ว?” รองเจ้าสำนักเห็นนางมา ก็รีบให้สัญญาณนางนั่งลง
“ขอรับ บาดแผลบนร่างหายดีประมาณหนึ่งแล้ว”
เธอนั่งลงตรงโต๊ะหินที่พวกเขานั่งอย่างไม่เกรงใจ เห็นโม่เฉินจ้องมองตั้งแต่เธอเข้ามาก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ “คุณชายโม่เฉิน อย่าสนใจข้าเกินไปนัก ข้ามีคนรักแล้ว”
โม่เฉินถลึงตามองนางแล้วละสายตาออกไป ยกน้ำชาขึ้นจิบ ไม่พูดไม่จา
เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักเห็นเช่นนี้ก็มองหน้ากันทันที เจ้าสำนักยิ้มเอ่ยว่า “เฟิ่งจิ่ว พวกอาจารย์มีอาจารย์สำนักยากับสำนักยาเซียนสองสามคนดูแลรักษา ตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวได้ประมาณหนึ่งแล้ว มีเพียงคนบาดเจ็บค่อนข้างหนักสองสามคนยังลงจากเตียงไม่ได้ หากเจ้าอยากไปดู ให้รองเจ้าสำนักเข้าไปกับเจ้าสิ”
“ขอรับ” เธอลุกขึ้นมองไปยังรองเจ้าสำนัก “เช่นนั้นต้องรบกวนท่านรองเจ้าสำนักแล้ว”
“เหอะๆ ไม่รบกวนเลยๆ” รองเจ้าสำนักยิ้มกล่าว ลุกขึ้นออกไปพร้อมกับเธอ
รอจนพวกเขาออกไปแล้ว เจ้าสำนักถึงจะมองโม่เฉิน “เจ้ามั่นใจแล้วหรือว่าเป็นนาง? ต้องพานางกลับไปพบอาจารย์เจ้าหรือไม่? แต่ตามนิสัยของเฟิ่งจิ่ว หากจะพานางไปพบอาจารย์เจ้า เดาว่าคงยากหน่อย”
โม่เฉินส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ข้ากลับไปหาอาจารย์ด้วยตนเองเป็นพอ นางไม่ต้องไป”
“ยังต้องกลับมาอีกหรือ?”
โม่เฉินเห็นร่างนั้นด้านนอกหายไปแล้ว จึงกล่าวด้วยเสียงเนิบๆ “ต้องกลับมาแน่นอน”
………………………………………………….
ตอนที่ 762 ของขวัญขอบคุณจากเฟิ่งจิ่ว
ภายใต้การนำทางของรองเจ้าสำนัก เฟิ่งจิ่วมาเยี่ยมเหล่าอาจารย์ที่ได้รับบาดเจ็บและขอบคุณพวกเขาทีละคน ขอบคุณพวกเขามากที่เข้าไปช่วยโดยไม่กลัวอันตราย ขณะเตรียมตัวจะออกไป กลับเห็นอาจารย์หลูเดินเข้ามาโดยมีอาจารย์หลี่ว์ช่วยประคอง
“เฟิ่งจิ่ว” อาจารย์หลูเรียกอย่างเกรงใจอยู่บ้าง
“ท่านอาจารย์หลู ร่างกายดีขึ้นบ้างหรือยังขอรับ?” เธอยิ้มเล็กน้อยพลางถาม เห็นสีหน้าเขาไม่เลวเลย ก็รู้ว่าหายดีขึ้นไม่น้อยแล้ว
“ดีขึ้นมากแล้ว ข้าได้ยินว่าเจ้าเข้ามา จึงให้เหล่าหลี่ว์ประคองข้าเข้ามาขอบคุณเจ้าโดยเฉพาะ วันนั้นข้าด่าเจ้าเสียงดังเช่นนั้น เจ้ากลับช่วยข้าอย่างไม่คิดเล็กคิดน้อย ข้าช่าง…” เขาทั้งซาบซึ้งและค่อยข้างละอายใจ
“เพราะสุขภาพไม่ดีอารมณ์ถึงไม่ดีด้วย เรื่องนี้เข้าใจได้ขอรับ”
“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังต้องขอบคุณเจ้า ได้ยินว่าเจ้าเกิดเรื่อง ข้าไปดูเจ้าไม่ได้ ขอโทษด้วยจริงๆ”
“แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ดีขึ้นประมาณหนึ่งแล้วขอรับ” เธอยิ้มเอ่ย แล้วกำชับเขาใส่ใจพักรักษาตัวให้มากๆ คุยกันสักพักถึงจะออกไปพร้อมกับรองเจ้าสำนัก
ครั้นมาถึงด้านนอก เธอแยกกับรองเจ้าสำนัก จากนั้นไปตามทางของตนเอง
สำหรับเรื่องพวกอาจารย์สำนักศึกษาทั้งหลาย เรื่องนี้เธอสนใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง น้ำใจนี้หากภายหน้ามีโอกาสต้องตอบแทนแน่นอน ส่วนตลาดมืดทางนั้น คิดๆ แล้วมีแค่สามคน สามารถส่งยาสามขวดให้พวกเขาโดยตรงได้
หยิบยาออกมาทีเดียวหลายสิบขวดคงไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร หนำซ้ำต้องเป็นที่สนใจแน่ แต่ทางตลาดมืด เธอถือยาสามขวดออกไปได้
กลับถึงอาศรมแล้ว เธอเข้าไปหาในห้วงมิติสักพัก แล้วจึงหยิบยาสามขวดออกมา
เวลาช่วงเย็น กวนสีหลิ่นเข้ามาดูน้องสาวพร้อมถือผลไม้ตะกร้าหนึ่งเข้ามาให้
“เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวจิ่ว ดูซิข้าเอาอะไรมาให้เจ้า” เขายิ้มพลางถือตะกร้านั่งลงตรงโต๊ะหิน โยนให้สัตว์อสูรสามตัวคนละหนึ่งชิ้นขณะตะโกนไปในอาศรม
เฟิ่งจิ่วเดินออกมา เห็นเขาก็ยิ้มเอ่ยว่า “พี่สีหลิ่น ข้าคิดจะให้เหล่าไป๋เข้าไปหา ท่านก็เข้ามาเสียแล้ว”
“อ้อ? หาข้ามีเรื่องอะไรหรือ” เขามองนางอย่างประหลาดใจ ขณะเดียวกันก็ยื่นผลไม้ให้ “ข้าล้างมาแล้ว กินสิ!”
เฟิ่งจิ่วรับมา กล่าวว่า “ได้มาจากไหน? ภายในสำนักศึกษาไม่มีของพวกนี้นี่?”
“ใช้เส้นสายไปซื้อกลับมา” เขายิ้มกล่าว
“เป็นเช่นนี้นี่เอง วันนั้นพวกหัวหน้าตลาดมืดช่วยข้าไว้ จะส่งของขวัญขอบคุณให้พวกเขาหน่อย จึงอยากให้ท่านช่วยไปแทนข้าที”
“ได้ ไม่มีปัญหา แต่เจ้าต้องมอบป้ายคำสั่งเจ้าสำนักให้ข้า มิเช่นนั้นจะออกประตูสำนักศึกษาไม่ได้” เขาพูดจบแล้วยังถามอีกว่า “เจ้าจะส่งอะไรให้พวกเขา?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย “ส่งของขวัญ แน่นอนว่าต้องส่งของที่พวกเขาต้องการที่สุด”
เธอหยิบยาสามขวดรวมถึงยารักษาแผลภายในออกมาพร้อมกำชับเขาอีกเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็มอบป้ายคำสั่งให้ บอกให้เขาไปส่งพรุ่งนี้เช้า
หลังจากกวนสีหลิ่นจำไว้แล้วก็เก็บของไป นั่งกับนางตรงนี้สักพักถึงจะกลับ
เช้าตรู่วันต่อมา เขาถือป้ายคำสั่งออกจากสำนักศึกษา มุ่งหน้าไปยังตลาดมืดทางฝั่งตะวันออกเมือง…
ภายในตลาดมืด สองสามวันนี้ทุกคนกำลังแอบซุบซิบคุยกัน เพราะหลังจากวันนั้นที่หัวหน้ากับผู้อาวุโสรวมถึงผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้รับบาดเจ็บกลับมา ภูตหมอก็ไม่ได้ส่งคนมากล่าวขอบคุณอะไรเลย ขณะเดียวกันพวกเขาก็ดีใจที่ไม่ตามไปด้วยตอนนั้น ยังยินดีในความโชคร้ายอยู่บ้าง
“โชคดีวันนั้นพวกเราไม่ได้ไป เจ้าดูสิ พวกหัวหน้ากับผู้อาวุโสกงรักษาตัวมาหลายวันสีหน้ายังซีดเซียว เมื่อเช้าข้าเห็นผู้อาวุโสกงจับหน้าอกไอด้วย!”
“ผู้อาวุโสกงเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณช่วงที่สอง แม้แต่เขายังบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ เห็นได้เลยว่าเรื่องการช่วยเหลือนี้ทำดีไปก็ไร้ผลตอบ”
………………………………………………….