เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 767 ซื้อยาที่ตลาดมืด + ตอนที่ 768 อิจฉาและเสียใจ
ตอนที่ 767 ซื้อยาที่ตลาดมืด + ตอนที่ 768 อิจฉาและเสียใจ
ตอนที่ 767 ซื้อยาที่ตลาดมืด
“เอ๋ นี่เฟิ่งจิ่วไม่ใช่หรือ? ช่วงนี้ไม่เห็นเจ้าเลย” ตรงจุดรับภารกิจ เมื่อนักเรียนคนหนึ่งเห็นเฟิ่งจิ่วก็เอ่ยทักทาย
“ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง เลยไม่ได้ออกมา” เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ มามองๆ ที่ป้ายภารกิจจากบนลงล่างยังไม่เห็นภารกิจที่มีคะแนนคุณงามความดีเยอะๆ
“เฟิ่งจิ่ว มาทำภารกิจเพิ่มคะแนนคุณงามความดีอีกแล้วหรือ ภารกิจช่วงนี้ไม่ง่ายเท่าไร คะแนนคุณงามความดียิ่งหายาก” นักเรียนคนนั้นมองขนนกตรงเอวของเฟิ่งจิ่ว แววตาเป็นประกาย
“อืม ไม่ง่ายเลย คะแนนคุณงามความดีน้อยเกินไปแล้ว” เธอกล่าวพลางพยักหน้า มองสักพักไม่เห็นภารกิจที่เหมาะ สุดท้ายจึงเดินถอนหายใจจากไป
เทียบกับคะแนนคุณงามความดีพวกนั้นแล้ว เธอคิดว่าออกไปซื้อมาเองยังสะดวกกว่า ยิ่งไปกว่านั้นก็แค่ยาทิพย์เท่านั้นเอง ไม่ใช่ของล้ำค่าที่ต้องใช้คะแนนคุณงามความดีไปแลก
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ เฟิ่งจิ่วไม่กลับไปอาศรม แต่หยิบป้ายคำสั่งจากในห้วงมิติออกจากสำนักศึกษาไปยังในเมือง
ทางนี้เพิ่งออกจากประตูใหญ่สำนักศึกษาไป ทางนั้นก็มีคนรายงานข่าวเจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักว่าเฟิ่งจิ่วออกไปแล้ว สองคนที่ได้ยินข่าวไม่ได้พูดอะไร เพียงให้สัญญาณคนที่เข้ามารายงานถอยออกไป
“ครั้งก่อนนางออกไปให้คนพวกนั้นเพ่งเล็ง ครั้งนี้ยังออกไปอีก คงไม่เกิดเรื่องอะไรอีกกระมัง?” รองเจ้าสำนักถามอย่างกังวลอยู่บ้าง
“น่าจะไม่หรอก ครั้งก่อนคนพวกนั้นตายหมดแล้ว เดาว่าคงยังไม่ส่งข่าวกลับไป เกือบสองเดือนนี้สงบเงียบยิ่ง ไม่เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น” เจ้าสำนักพูดเสียงเนิบ ชะงักไปเล็กน้อยก่อนถามว่า “แต่นางออกไปทำอะไร ช่วงนี้กำลังกลั่นยาเซียนไม่ใช่หรือ?”
“เดาว่าคงหายาทิพย์ได้ไม่พอ ก่อนหน้านี้มีอาจารย์บอกว่าเห็นนางตรงจุดรับภารกิจ แต่นางเหมือนจะไม่ได้รับภารกิจไป”
เจ้าสำนักได้ยินเช่นนี้ก็ไม่ปริปากอีก นักเรียนสำนักศึกษาต้องหาคะแนนคุณงามความดีด้วยตนเองถือเป็นกฎระเบียบ เรื่องนี้แม้เขาเป็นเจ้าสำนักก็แหกกฎไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากยกเว้นให้นางคนเดียว คงหยุดคำติฉินนินทาของผู้คนไม่ได้
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยาม เฟิ่งจิ่วมาถึงในเมือง กินอาหารในเมืองก่อนแล้วถึงมุ่งหน้าไปยังตลาดมืด หมายจะไปดูที่ตลาดมืดเสียหน่อยว่าพวกเขาจะช่วยเธอหายาทิพย์ได้เท่าไร แล้วค่อยวางแผนอีกที
เธอเคยมาตลาดมืดกับเซียวอี้หาน จึงไม่ต้องถามทางก็มาถึงหน้าประตูใหญ่ตลาดมืด เข้าไปด้านในตามหาผู้ดูแลได้เลย
“ข้าอยากพบท่านหัวหน้า รบกวนไปแจ้งที”
ผู้ดูแลคนนั้นกำลังยุ่งกับงานในมือ จึงตอบรับโดยไม่เงยหน้า “หัวหน้าเราไหนเลยใครๆ จะพบได้? มีเรื่องอะไรบอกข้าก็ได้”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเคาะๆ หน้าโต๊ะ “เกรงว่าเจ้าคงรับผิดชอบไม่ไหว”
“เรื่องอะไรข้าถึงรับผิดชอบไม่ไหว? เจ้า…”
ผู้ดูแลเงยหน้าขึ้น ขณะกำลังจะตะคอก สองขากลับสั่นเทาเมื่อเห็นใบหน้างดงามของหนุ่มน้อย จากนั้นปั้นหน้ายิ้มทันที “ที่แท้คุณชายเฟิ่งนี่เอง คุณชายเฟิ่งต้องการพบท่านหัวหน้าใช่หรือไม่? เชิญตามข้ามาด้านใน หัวหน้าอยู่ข้างในขอรับ”
เขาพูดพลางโค้งกายนำทางอยู่ข้างหน้า คุณชายท่านนี้ หัวหน้ากับผู้อาวุโสกงกำชับไว้เป็นพิเศษว่าจะขัดใจไม่ได้ เทียบกับแขกผู้มีเกียรติแล้วยังสูงศักดิ์ยิ่งกว่า พอนึกถึงน้ำเสียงเขาเมื่อครู่ก็อดใจสั่นเล็กน้อยไม่ได้ ต้องเดินไปพลางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อไปพลาง
“นี่ใครกัน ทำไมถึงพามาข้างใน?” ผู้อาวุโสหลี่ที่เดินสวนมาทำหน้าถมึงทึง กวาดมองเฟิ่งจิ่วแต่พูดกับผู้ดูแลคนนั้น
“คารวะผู้อาวุโสหลี่” ผู้ดูแลคารวะก่อน แล้วจึงบอกว่า “ท่านนี้คือคุณชายเฟิ่ง มาพบหัวหน้าตลาดมืดขอรับ”
ผู้อาวุโสหลี่ได้ยินก็ตกใจ เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ท่าทีพลันเปลี่ยนไปร้อยหกสิบองศา
………………………………………………….
ตอนที่ 768 อิจฉาและเสียใจ
“คุณชายเฟิ่งนี่เอง คุณชายเฟิ่ง ข้าเป็นผู้อาวุโสของหัวหน้าตลาดมืด แซ่หลี่” เขาหยีตายิ้ม สีหน้าท่าทางประจบที่มีความเอาอกเอาใจอยู่บางส่วน “ครั้งก่อนพี่ชายท่านเข้ามา ข้าเป็นคนรับรองเอง”
ได้ยินดังนี้ เฟิ่งจิ่วก็ยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า “ที่แท้ก็ผู้อาวุโสหลี่ เป็นเกียรติที่ได้พบ”
ยามนี้ผู้อาวุโสหลี่คนนั้นโบกมือบอกกับผู้ดูแลข้างๆ “เจ้าไปข้างหน้าเถอะ! ข้าพาคุณชายเฟิ่งเข้าไปพบหัวหน้าตลาดมืดเอง”
“ขอรับ” ผู้ดูแลขานรับแล้วถึงจะเดินออกไป ในใจยังนึกแปลกใจว่าทำไมท่าทีของผู้อาวุโสหลี่ถึงเปลี่ยนไปมากเพียงนี้
“คุณชายเฟิ่ง เชิญด้านใน” ผู้อาวุโสหลี่ผายมือเชื้อเชิญ แล้วนำทางไปข้างๆ
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนั้นก็เดินตามเข้าไป
“คุณชายเฟิ่งเชิญนั่ง ข้าจะให้คนไปเชิญท่านหัวหน้ามา” เขาพูดจบก็สั่งทหารอารักขาคนหนึ่งไปเชิญหัวหน้าเข้ามา ส่วนตนเองเข้าไปรับรองเฟิ่งจิ่วด้านใน
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้เขาเสียใจเพียงใด หลังจากกวนสีหลิ่นเข้ามาส่งของขวัญขอบคุณในวันนั้น ภายในหนึ่งเดือนสั้นๆ วรยุทธ์ของหัวหน้าตลาดมืดที่เดิมทีอยู่หลอมแก่นพลังขั้นสูงสุดก็บรรลุขั้น กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ ส่วนท่านอาของอีกฝ่ายคนนั้นก็กลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุด ยังมีเสี่ยวหลิวเช่นกัน จากระดับหลอมแก่นพลังขั้นเริ่มต้นกลายเป็นขั้นสูงสุดไปแล้ว
การบรรลุขั้นอย่างต่อเนื่องนี้ หากเขาเดาสาเหตุไม่ได้ คงไม่ได้เป็นถึงตำแหน่งผู้อาวุโสแห่งตลาดมืด
ทุกครั้งที่นึกถึงว่าหัวหน้าบรรลุเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ พละกำลังก็ไล่เลี่ยกับตนแล้ว ส่วนผู้อาวุโสกงอาของเขา เดิมทีพละกำลังยังต่ำกว่าตนหนึ่งขั้น ยามนี้กลับสูงกว่าสองขั้น เป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดแล้ว
ด้วยระดับเช่นนี้ พวกเขายื่นเรื่องย้ายไปทำงานยังสมาคมตลาดมืดที่สูงกว่าได้แล้ว แต่กลับยังคงเฝ้าอยู่ที่นี่ แค่เพราะภูตหมอยังอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือไร?
ถึงแม้ได้ยินมานานแล้วว่ายาของภูตหมอเป็นของล้ำค่าที่ต้องแย่งชิงกัน แต่ก็ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง เดิมทียังไม่สนใจเท่าไร แต่หลังจากเห็นพวกหัวหน้าทั้งสามคนบรรลุขั้นก็ทั้งอิจฉาและเสียใจ
หากรู้แต่แรกว่าจะได้ประโยชน์เช่นนี้ วันนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องตามไปด้วย ไม่รู้ว่าภายหลังจะยังมีโอกาสดีๆ เช่นนี้อีกหรือไม่?
“เหอะๆๆ คุณชายเฟิ่ง ไม่ทราบว่าวันนี้มามีเรื่องอะไร? หากมีอะไรที่ข้าช่วยได้ ท่านเอ่ยปากได้เต็มที่เลย ถึงบุกน้ำลุยไฟข้าก็ไม่ปฏิเสธ” ผู้อาวุโสหลี่เอ่ยด้วยสีหน้าคาดหวัง
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มๆ ไม่ปริปาก
อีกด้านหนึ่ง หัวหน้าตลาดมืดกับผู้อาวุโสกงได้ฟังทหารอารักขารายงานและรู้ว่าภูตหมอมาก็ต่างยินดี รีบตรงไปยังห้องโถงด้านหน้าทันที ยังไม่ทันเข้าไปข้างในก็ได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสหลี่ อาหลานสองคนจึงมองหน้ากัน ก่อนจะสาวก้าวเดินเข้าไป
“ไม่รู้ว่าคุณชายเฟิ่งมา ขออภัยด้วยที่เสียมารยาท”
หัวหน้าตลาดมืดประสานมือยิ้มกล่าว พลางเดินไปนั่งตรงตำแหน่งผู้อาวุโส จากนั้นมองเฟิ่งจิ่ว กล่าวด้วยความซึ้งใจว่า “อยากหาโอกาสไปขอบคุณคุณชายเฟิ่งมาตลอด เพียงแต่จะพบหน้าคุณชายยังยาก วันนี้ในที่สุดก็ได้โอกาสนี้”
เฟิ่งจิ่วยกถ้วยชาขึ้นจิบน้ำชาเบาๆ แล้วยิ้มขึ้นมา “ไม่ต้องขอบคุณแล้ว อันที่จริงวันนี้ข้าเข้ามาซื้อพวกยาทิพย์กลับไป ไม่รู้หัวหน้าจะหามาให้ข้าได้ครบภายในวันนี้หรือไม่?”
“ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งต้องการสมุนไพรเช่นไร?”
หัวหน้าเอ่ยถาม เห็นอีกฝ่ายหยิบกระดาษจากในแขนเสื้อออกมายื่นให้ เขาอ่านดูสมุนไพรในนั้นก่อนยิ้มเอ่ยว่า “หาได้ สมุนไพรในนี้ไม่ได้หายากมาก หาให้ครบได้ แต่จำนวนค่อนข้างมากอาจต้องการเวลาหน่อย แต่คุณชายเฟิ่งโปรดวางใจ จะจัดการให้เรียบร้อยก่อนพระอาทิตย์ตกดินแน่นอน”
………………………………………………….