เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 793 มีเรื่องอะไรก็มาหาข้า + ตอนที่ 794 ตระกูลในภูเขาร้อยปี
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 793 มีเรื่องอะไรก็มาหาข้า + ตอนที่ 794 ตระกูลในภูเขาร้อยปี
ตอนที่ 793 มีเรื่องอะไรก็มาหาข้า + ตอนที่ 794 ตระกูลในภูเขาร้อยปี
ตอนที่ 793 มีเรื่องอะไรก็มาหาข้า
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้ายิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ “ของที่โดนแย่งไปได้ข้าไม่สนใจหรอก ดังนั้นเจ้าเป็นห่วงเราน้อยๆ หน่อยจะดีกว่า”
“ได้สิ!” เริ่นเสียงเผยรอยยิ้ม ถามว่า “เวลานี้ก็สายแล้ว หรือจะให้ข้าพาท่านไปเดินเล่นในหอสายลมหนาวเสียหน่อย?”
“ข้าจำได้ ที่นี่เป็นโรงค้าเด็กหนุ่มสินะ?” เธอจ้องมองเขาด้วยท่าทีแปลกๆ
“ใช่สิ! หนุ่มงามแบบใดที่นี่ล้วนมีหมด ต้องการแบบทรงเสน่ห์ก็มี ต้องการแบบแข็งแรงกำยำยังมี หรือว่าพวกหน้าอ่อน? ล้วนมีมากมายหลายแบบ เห็นหรือเปล่า ยังมีคู่แฝดแบบนี้ด้วยนะ” เขาให้สัญญาณทหารอารักขาคู่แฝดที่ยืนด้านหลัง
สองคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ก็มองเฟิ่งจิ่วพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย จากนั้นค่อยก้มหน้าต่ำลง แล้วก้าวถอยหลังไปอย่างตั้งใจ
“ไว้วันหลังเถอะ! วันหน้ามีโอกาสข้าจะบอกนายท่านเจ้าเสียหน่อย เรื่องที่เจ้าจะพาข้าเดินเล่นในหอสายลมหนาว เชื่อว่าเขาคงสนใจข่าวนี้นัก”
เฟิ่งจิ่วตอกกลับบ้าง เริ่นเสียงยิ้มหน้าเจื่อน “อันที่จริงข้าแค่ล้อเล่นเอง”
“อืม รู้แล้ว ข้าก็ล้อเล่นเหมือนกัน” เธอยิ้มตอบไป
มุมปากเริ่นเสียงกระตุก ยามนี้ในที่สุดก็รู้ว่าทำไมนายท่านถึงถูกกินเสียดื้อๆ และยังรู้ว่าทำไมฮุยหลางแตะต้องนางถึงโดนนายท่านส่งมาอยู่ในหอสายลมหนาว
สุดท้ายเริ่นเสียงได้แต่สั่งคนเก็บข้อมูลวังกำเนิดสวรรค์มาส่งให้นาง แล้วส่งนางออกประตูหอสายลมหนาวด้วยตนเอง ก่อนไปยังถามว่า “คุณชายเฟิ่ง ข้าต้องเรียกคนไปให้ท่านใช้สักสองสามคนหรือไม่?”
“ไม่ต้องหรอก ข้างกายข้ายังมีคนใช้การได้” เธอโบกๆ มือ “ขอบคุณข้อมูลจากเจ้ามาก”
“เช่นนั้นก็ดี หากวันหลังเจอปัญหาอะไร ส่งคนมาหาข้าได้” เขากล่าวเตือนอย่างไม่วางใจนัก
“ได้สิ” เธอหันกลับไปยิ้มถึงจะย่างฝีเท้าจากไป เห็นท้องฟ้ายังสว่างจึงไม่ไปโรงเตี๊ยม แต่คิดจะไปดูที่หอสมบัติเสียหน่อยว่ามีอาวุธถนัดมือที่ทั้งสามใช้ได้หรือไม่
เข้ามาด้านใน เธอเลือกกระบี่โค้งให้เซี่ยงหวาก่อน ซื้อกริชให้ไป๋เสี่ยว แล้วเลือกเข็มเงิน สุดท้ายยังไม่เห็นว่ามีอาวุธที่คล้ายพัดเลย ดังนั้นจึงมาหาเจ้าของร้าน
“เจ้าของร้าน ที่นี่พวกเจ้ามีของวิเศษทรงพัดหรือไม่?”
“พัดหรือ?” เจ้าของร้านคิดๆ แล้วบอกว่า “มีขอรับ คุณชายรอสักครู่ ข้าจะไปหยิบมาให้ดู” เจ้าของร้านขึ้นไปชั้นสอง ไม่นานนักก็หยิบกล่องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ออกมา
“คุณชายเชิญดู นี่เป็นพัดหยกขาว แต่ตรงนี้มีกลไก หนำซ้ำนี่ยังเป็นพาหนะเหาะเหิน นอกจากจะเป็นของวิเศษใช้ต่อสู้ ยังมีพลังป้องกันตัว ด้วยเหตุนี้ราคาจึงค่อนข้างแพง ของสิ่งนี้วางอยู่ในหอเรามาหลายปีแล้ว ไม่ทราบคุณชายคิดว่าอย่างไร?”
เฟิ่งจิ่วหยิบมาดู ก่อนจะพยักหน้า “ไม่เลว ข้าซื้อ”
เจ้าของร้านได้ยินเช่นนี้ก็ระรื่นใหญ่ รีบร้อนวางพัดลงในกล่องและห่อให้เฟิ่งจิ่ว หลังคิดเงินเรียบร้อย เข็มเงินห่อนั้นยังส่งให้เธอเป็นของแถม
เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยม พวกเขาสามคนก็รออยู่ตรงนั้นแล้ว เห็นนางกลับมาทั้งสามถึงลุกขึ้นยืน
“นายท่าน”
“คุณชาย”
สายตาเฟิ่งจิ่วมองผ่านบนร่างพวกเขา เห็นเซี่ยงหวาเปลี่ยนสวมชุดคลุมสีดำ หนวดเคราโกนไปหมดแล้ว ร่างกายดูกระฉับกระเฉง ส่วนตู้ฝานก็เปลี่ยนมาสวมชุดคลุมสีขาวขุ่น แต่งกายเป็นบัณฑิต ท่าทางธรรมดาไม่สะดุดตา กลับยังเป็นระเบียบเรียบร้อย
“ไม่เลว หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน” เธอพยักหน้า แล้วหยิบของจากในห้วงมิติมายื่นให้พวกเขา “ข้าแวะซื้อให้พวกเจ้าตอนกลับมา ใช้แก้ขัดไปแล้วกัน!”
………………………………………………….
ตอนที่ 794 ตระกูลในภูเขาร้อยปี
หลังทั้งสามรับของที่นางยื่นมา ใจก็สั่นไหวเล็กน้อยในทันที โดยเฉพาะตู้ฝาน เห็นว่าสิ่งที่ให้เขาเป็นพัดจึงยิ่งเริงร่า
“ขอบคุณนายท่านมากขอรับ”
“ขอบคุณคุณชายมากขอรับ”
“ข้าก็มีด้วยหรือ?” ไป๋เสี่ยวมองกริชเล่มนั้น ถามว่า “แต่สิ่งนี้ให้ข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ข้าใช้ไม่บ่อยนัก” ถึงให้เขาก็ไม่กล้าฆ่าคนหรอก!
“ข้าให้เจ้าไว้ป้องกันตัว คิดว่าให้เจ้าทำอะไร?” เฟิ่งจิ่วกลอกตามองเขา เอ่ยให้สัญญาณว่า “ทุกคนนั่งลงเถอะ!” จากนั้นค่อยเรียกเสี่ยวเอ้อร์ยกอาหาร แล้วพวกเขาก็สั่งเหล้าและอาหารสำหรับหนึ่งโต๊ะ
“หลังกินเสร็จคืนนี้ก็พักผ่อนเสียหน่อย พรุ่งนี้เช้าเสี่ยวไป๋ตามข้าไปภูเขาร้อยปี เซี่ยงหวา เจ้ากับตู้ฝานรวมกลุ่มไปติดต่อลูกน้องเจ้าแต่ก่อน หลังรวบรวมพลก็ซุ่มในมุมมืดและไปรอคำสั่งยังภูเขาร้อยปี” ระหว่างพูด เธอยังรินเหล้าดื่ม
“ขอรับ”
พวกเขาขานรับ กินอาหารพลางคิดเรื่องไป หลังอาหาร เฟิ่งจิ่วเข้าไปพักผ่อนในห้อง ส่วนเซี่ยงหวากับตู้ฝานออกจากโรงเตี๊ยม คิดจะไปติดต่อดูว่าที่นี่มีคนของพวกเขาหรือไม่
เช้าตรู่วันต่อมา หลังเฟิ่งจิ่วกำชับกับพวกเขาสองสามประโยค ก็พาไป๋เสี่ยวออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังภูเขาร้อยปี เทียบกับไปตามหาจุดปักหลักพวกคนวังกำเนิดสวรรค์แล้ว คิดว่าไปรอที่ภูเขาร้อยปียังสะดวกและลดปัญหาได้มากกว่า
บินผ่านไปเกือบวันหนึ่ง ถึงเวลาตอนเย็น สองคนมายังบริเวณตีนภูเขาร้อยปี เห็นภูเขาลูกนี้ เฟิ่งจิ่วเข้าใจบ้างแล้วว่าทำไมคนวังกำเนิดสวรรค์พวกนั้นถึงเพ่งเล็งสถานที่แห่งนี้
ไม่พูดไม่ได้ว่าสถานที่นี้ไม่เลวจริงๆ ล้อมรอบด้วยภูเขามีเพียงทางออกเดียวเช่นนี้ ด้านล่างภูเขายุบตัวลงไปบ้าง กลายเป็นสถานที่คล้ายหุบเขา รอบๆ มีทั้งภูเขาและน้ำ สภาพแวดล้อมเงียบสงบ เป็นจุดรวมพลที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มอำนาจโดยแท้ หนำซ้ำในอากาศยังกระจายไปด้วยหมอกควัน ดูแล้วเหมือนแดนสวรรค์
“พวกเราจะเข้าไปอย่างไร? นี่คงเป็นสถานที่ส่วนตัวกระมัง? เดาว่าเข้าไปคงโดนจับ” ไป๋เสี่ยวมองไปรอบด้าน เห็นสถานที่นี้มองได้แค่ภายนอก กลับมองไม่เห็นด้านใน อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “เจ้าว่าข้างในจะมีคนซุ่มโจมตีหรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ ตรงขมับก็ปรากฏเส้นเลือดดำ “หากก่อนหน้านี้เจ้าระวังตัวเช่นนี้ เดาว่าคงไม่โดนฝังทั้งเป็นหรอก”
“เจ้าดูที่นี่สิ อย่างไรก็แปลกๆ ตามปกติแล้วตระกูลควรเลือกปักหลักในพื้นที่รุ่งเรืองสิ อย่างน้อยๆ บ้านข้าก็เป็นเช่นนี้ แต่ที่นี่น่ะ! เจ้าดูสิ สถานที่นี้กลางวันเห็นยังดีๆ ถึงตอนกลางคืนเดาว่าคงน่ากลัวไปหน่อย”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดนี้ แววตาสั่วไหวเล็กน้อย แล้วมองอย่างละเอียดอีกครั้ง “อืม เจ้าว่ามาก็มีเหตุผล ข้าสนใจแต่หาข้อมูลวังกำเนิดสวรรค์ ลืมถามข้อมูลตระกูลนี้ เพียงได้ยินว่าเป็นตระกูลเล็กๆ ไม่ค่อยเข้าสังคม แต่ตระกูลนี้เลือกจะอยู่ที่นี่ ยังแปลกไปบ้างจริงๆ”
“ใช่ไหมล่ะ? ข้าคิดว่าแปลกมากๆ ทั้งภูเขานี้มีเพียงสถานที่เช่นนี้ที่นี่ แค่ตระกูลเดียว น่าแปลกใจจริงๆ” ไป๋เสี่ยวกล่าว เห็นท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณชาย พวกเราจะเข้าไป? หรือหาที่ตั้งหลักข้างนอกก่อน?”
“แน่นอนว่าต้องเข้าไปสิ! ไม่เข้าไปพวกเราจะมาทำไม?” เธอเอ่ยพลางมองท้องฟ้า บอกว่า “ฟ้าใกล้มืดแล้ว เราเข้าไปบอกว่าขอค้างคืนยังได้”
กล่าวจบเธอสาวก้าวเดินไปด้านใน ไป๋เสี่ยวด้านหลังเห็นท่าทางได้แต่ตามไป สองคนเดินไปข้างในด้วยกัน หลังจากเดินผ่านทางข้างหน้า เมื่อเข้าไปยังสถานที่จุดหนึ่งด้านในก็หยุดฝีเท้าลงทันที
………………………………………………….