เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 801 ไม่เข้าใจ + ตอนที่ 802 คำเชิญจากภูเขาร้อยปี
ตอนที่ 801 ไม่เข้าใจ + ตอนที่ 802 คำเชิญจากภูเขาร้อยปี
ตอนที่ 801 ไม่เข้าใจ
ออกมาด้านนอก เซี่ยงหวาลังเลสักพัก มองไปยังไป๋เสี่ยว “เอาข้อมูลมาให้ข้าอ่านทีซิ!”
ตู้ฝานกับไป๋เสี่ยวได้ยินเช่นนี้ต่างมองยังเขา ชะงักไปเล็กน้อย แล้วไป๋เสี่ยวก็ยื่นเอกสารไป “เช่นนั้นเจ้าอ่านเถอะ! ประเดี๋ยวข้ายังต้องส่งคืน”
“อืม” เซี่ยงหวาขานรับ หลังจากได้รับเอกสารก็เข้าไปห้องข้างๆ ที่เสี่ยวเอ้อร์มาเปิด
ไป๋เสี่ยวเอ่ยกับตู้ฝานว่า “พวกเจ้าจะลงไปกินอะไรหน่อยไหม?”
“อืม” ตู้ฝานพยักหน้า ลงตึกไปพร้อมกับเขา แล้วสั่งอาหารเล็กน้อยสองสามอย่างมากินสองชาม
เมื่อกินไปถึงครึ่งหนึ่ง ไป๋เสี่ยวพลันเอ่ยว่า “เหมือนว่านางยังไม่ได้กินอะไรกระมัง?” ดังนั้นจึงสั่งอาหารอีกสองอย่างให้เสี่ยวเอ้อร์ส่งขึ้นตึกไป
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ประตูห้องชั้นบนเปิดออก เซี่ยงหวาเดินออกมา หลังเห็นทั้งสองนั่งอยู่ชั้นล่าง ก็มายังด้านล่างยื่นเอกสารคืนให้ไป๋เสี่ยวและกลับห้องไปอีกครั้ง
“เขาเป็นอะไรไป? ทำไมดูท่าทางแปลกๆ?” หลังดื่มน้ำแกงไปครึ่งค่อนชามไป๋เสี่ยวก็สั่งเสี่ยวเอ้อร์เก็บอาหารบนโต๊ะ มองไปยังตู้ฝาน “พวกเจ้าไปติดต่อคนพวกนั้นไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมีแค่พวกเจ้าสองคนตามคุณชายกลับมา?”
ตู้ฝานมองร่างเซี่ยงหวา เอ่ยว่า “คนพวกนั้นเข้าภูเขาไปแล้ว”
ไป๋เสี่ยวได้ยินคำพูดนี้ ก็สูดลมหายใจเล็กน้อย “ไม่ใช่กระมัง? เข้าภูเขาไปจริงหรือ? จะใจกล้าเกินไปหรือเปล่า?”
ตู้ฝานลุกขึ้นเดินไปยังชั้นบน “ข้าจะกลับไปพักผ่อนก่อน” ไม่รอไป๋เสี่ยวเอ่ยปากก็ก้าวขึ้นตึกไปก่อน
ไป๋เสี่ยวเห็นแต่ละคนแปลกๆ ไปก็ไม่ได้สนใจ เก็บเอกสาเรียบร้อย คิดจะนำไปคืนเสียก่อน ถึงอย่างไรพวกเขาก็กำชับไว้ นี่มีแค่ชุดเดียวอ่านเสร็จต้องส่งกลับไป
เมื่อท้องฟ้ากลางคืนยิ่งค่อยๆ มืดค่ำ ภายในโรงเตี๊ยมเงียบสงัด ทว่าเวลาเที่ยงคืนเซี่ยงหวากลับเปิดประตูห้องกำลังจะเดินออกมา ก็เห็นร่างหนึ่งกำลังนั่งพิงมองเขาบนราวหน้าประตู
“เจ้าคิดจะสร้างปัญหาให้นายท่านหรือไร?” ตู้ฝานจ้องมองเขา พร้อมเอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ
เซี่ยงหวาครุ่นคิด ผ่านไปเนิ่นนานถึงเอ่ยว่า “เพราะไม่คิดจะสร้างปัญหาให้คุณชาย ดังนั้นข้าจึงคิดจะไปคนเดียวตอนกลางคืน”
“ไม่ต้องไปหรอก เจ้าไปครั้งนี้ก็ไม่เห็นใครรอดสักคน ต่อให้เจ้าไปแค่เพิ่มคนตายอีกหนึ่งเท่านั้น สถานที่แปลกๆ นั่น แม้แต่นายท่านยังไม่อยากไปยุ่งเกี่ยว เจ้าจะลงไปในน้ำโคลนนี้ทำไมอีก”
“แต่ข้าพาพวกเขามา…”
“เดิมทีพวกเขาตามคนพวกนั้นมา ถึงไม่มีเจ้าพามาก็คงเข้าภูเขาไป ส่วนเจ้า แม้นายท่านเตือนแล้ว พวกเขายังดื้อดึงคิดจะเข้าไปรนหาที่ตาย โทษคนอื่นไม่ได้หรอก”
เซี่ยงหวาได้ยินคำพูดนี้ก็ครุ่นคิด ยืนนิ่งไม่ขยับ
“ในเมื่อเจ้าติดตามนายท่านแล้ว ทุกอย่างต้องมีคำสั่งนายท่านก่อน คนพวกนั้นจะเป็นหรือตาย นายท่านไม่บอก เจ้าก็ยุ่งน้อยๆ หน่อย” กล่าวคำพูดนี้จบ เขาถึงจะลุกขึ้นกลับห้อง
เซี่ยงหวาหลังยืนตรงประตูเสียเนิ่นนาน ก็มองไปยังทิศทางภูเขาร้อยปีพลางถอนหายใจเบาๆ ถึงจะหมุนตัวเข้าห้อง
เช้าตรู่วันต่อมา เฟิ่งจิ่วกินอาหารอยู่ชั้นล่าง อีกโต๊ะหนึ่งไป๋เสี่ยวกับเซี่ยงหวาสองคนนั่งดื่มชา ผ่านไปสักพักตู้ฝานที่ออกไปสอบถามข่าวคราวก็เดินเข้ามา
“นายท่าน คนพวกนั้นที่เข้าภูเขาไปยังไม่ออกมาเลยสักคน อยู่ข้างในกันหมดขอรับ”
“อืม”
เธอขานรับ ห้วงความคิดกำลังคิดว่าตระกูลนั้นมีเรื่องอะไรกันแน่? แม้แต่ที่เขียนในเอกสารยังมีแต่พวกเรื่องคาดเดาและผิวเผิน เรื่องเกี่ยวกับภายในกลับไม่เอ่ยถึงสักนิด
ถึงขั้นไม่เคยมีใครเห็นคนตระกูลนั้นเดินออกจากภูเขาร้อยปีเลย…
………………………………………………….
ตอนที่ 802 คำเชิญจากภูเขาร้อยปี
“มีคนให้ข้าส่งสิ่งนี้ให้ท่าน” เด็กน้อยอายุเจ็ดแปดขวบวิ่งเข้ามา ยังไม่ทันเข้าใกล้เฟิ่งจิ่วก็โดนตู้ฝานขวางไว้
“ให้เขาเข้ามา” เฟิ่งจิ่วส่งสัญญาณให้เขาถอยไปข้างๆ
“มีคนให้ข้ามอบสิ่งนี้ให้ท่าน” เด็กน้อยมายังเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว แล้วยื่นของบางอย่างให้ สายตากลับนิ่งจ้องขนมบนโต๊ะ พร้อมกลืนน้ำลาย
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็รับของสิ่งนั้นมา สั่งเสี่ยวเอ้อร์ห่อขนมให้นิดหน่อย พลางถามว่า “ใครให้ของสิ่งนี้กับข้าหรือ?”
“เป็นคนสวมชุดสีดำ เขาบอกให้ส่งให้พี่ชายสวมชุดสีแดง”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็เปิดออกอ่าน เมื่ออ่านเนื้อความที่ระบุไว้ภายในบัตรคล้ายคำเชิญนั้น แววตาก็สั่นไหวเล็กน้อย
“คุณชาย ขนมห่อเรียบร้อยแล้วขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์ถือขนมเข้ามา
เฟิ่งจิ่วรับมายื่นให้เด็กน้อยคนนั้น “ข้าให้เจ้า”
“ขอบคุณขอรับ” เด็กน้อยบอกขอบคุณด้วยความเริงร่า หลังจากรับขนมที่ห่อเก็บเรียบร้อยก็เร่งฝีเท้าวิ่งออกไป
มือหนึ่งเธอถือบัตรเชิญสีแดงใบนั้น อีกมือเคาะบนโต๊ะเบาๆ พลางมองไปด้านนอกด้วยท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิด นางไม่ปริปาก สามคนข้างๆ ก็ไม่กล้าถาม
สุดท้ายยังเป็นไป๋เสี่ยวที่เอ่ยถามอย่างทนไม่ไหว “คุณชาย นั่นอะไรหรือ?”
“คำเชิญที่ตระกูลนั้นในภูเขาร้อยปีส่งมา บอกว่าตอนเย็นจะจัดงานเลี้ยงจึงมาเชิญพวกเราอะไรนั่นแหละ” เธอกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ ถือบัตรเชิญสีแดงนั้นพลางเคาะบนโต๊ะไปเบาๆ
ทั้งสามได้ยินก็ตกใจไปพักหนึ่ง
“พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเราอยู่ที่นี่?” ไป๋เสี่ยวเอ่ยถามอย่างอึ้งๆ จากนั้นค่อยกระซิบ “คงไม่ได้แอบตามเราในมุมมืดมาตลอดกระมัง?”
“ส่งคำเชิญมาโดยไม่มีเหตุผลเนี่ยนะ? ข้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่” ตู้ฝานเอ่ย
“อืม เช่นนั้นเจ้าว่ามาหน่อยสิ ว่าทำไมพวกเขาถึงส่งของเช่นนี้มา?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วมองเขา
ตู้ฝานชะงักไปเล็กน้อย ยังคงบอกว่า “เป็นไปได้มากว่าเพ่งเล็งนายท่านแล้ว”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มๆ น้ำเสียงทั้งยานคางและเกียจคร้าน “ส่งคำเชิญมา ข้าก็ไม่เห็นต้องไปเช่นนั้นสิ? แต่ทำไมถึงเพ่งเล็งข้าเล่า? ข้ายังสงสัยนิดหน่อย”
“คุณชาย ไม่ต้องไปดีกว่า ที่นั่นมีแต่ผี ไปแล้วเป็นไปได้มากว่าจะออกมาไม่ได้” ไป๋เสี่ยวเอ่ยเสียงกดเบาลง นึกถึงสถานที่นั้น ขนก็ลุกตั้งขึ้นมาเลย
“กังวลอะไร? ข้ายังไม่บอกว่าจะไป ทิ้งบัตรเชิญนี้ไปเถอะ!”
เธอลุกขึ้นมาหมุนตัวกลับห้องไป แน่นอนว่าไม่คิดจะไป ที่นั่นแค่เห็นก็รู้ว่าเป็นที่แปลก ใครจะว่างไปเดินเล่นถึงที่แปลกๆ เช่นนั้น? ไปรอบเดียวเกรงว่าคงเปื้อนไอวิญญาณกลับมาบ้างแหละ
เพราะไม่คิดจะไปเธอจึงลืมเรื่องนี้ไปจากสมอง หลังกลับถึงห้องยังเข้าไปฝึกบำเพ็ญในห้วงมิติ และไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจสักนิด
สามคนชั้นล่างได้ยินนางบอกไม่ไปก็ไม่สนใจอีก มีเพียงเซี่ยงหวาที่เก็บบัตรเชิญนั้นไว้ คิดว่ายี่สิบกว่าคนนั้นยังมีชีวิตหรือไม่? ในใจลังเลอยู่บ้าง กลับรู้ว่าเฟิ่งจิ่วไม่ได้บอกจะสร้างปัญหาให้นางไม่ได้ ถึงอย่างไรแม้แต่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณเข้าไปยังไม่ออกมา แล้วนางจะเป็นอย่างไร?
เฟิ่งจิ่วฝึกบำเพ็ญในห้อง เซี่ยงหวากับตู้ฝานก็เฝ้าอยู่ชั้นล่าง ส่วนไป๋เสี่ยวบอกว่าจะออกไปซื้อของเสียหน่อย ทว่ากระทั่งเวลาตอนเย็นไม่เห็นเขากลับมา สองคนคิดว่าผิดปกติ หนึ่งคนอยู่เฝ้าอีกคนออกไปตามหา แต่หาไปก็ไม่พบ สุดท้ายถึงจะเคาะประตูห้องเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วที่เปิดประตูห้องท่าทางยังมีความเกียจคร้านที่เพิ่งตื่นนอน เห็นสองคนหน้าประตูใบหน้ามีความหนักใจ ก็เลิกคิ้วโดยทันที “มีอะไร?”
“นายท่าน ไป๋เสี่ยวหายไปแล้ว” ตู้ฝานเอ่ยปากบอก
………………………………………………….