เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 819 สมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียนแห่งแคว้นศรสวรรค์ + ตอนที่ 820 คิดถึงเขาเสียแล้ว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 819 สมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียนแห่งแคว้นศรสวรรค์ + ตอนที่ 820 คิดถึงเขาเสียแล้ว
ตอนที่ 819 สมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียนแห่งแคว้นศรสวรรค์ + ตอนที่ 820 คิดถึงเขาเสียแล้ว
ตอนที่ 819 สมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียนแห่งแคว้นศรสวรรค์
รองเจ้าสำนักเห็นเช่นนี้ก็ลอบถอนหายใจ ได้แต่ไม่เอ่ยถึงอีกเช่นกัน
เวลาต่อมา เฟิ่งจิ่วไม่ได้เก็บของเตรียมตัวกลับบ้านเช่นคนอื่นๆ แต่จดจ่อกับการกลั่นยาเซียนอีกครั้ง กลั่นยาบำรุงโฉมออกมาก่อนสองเม็ด แล้วพัฒนากลั่นยาอายุวัฒนะที่ผู้ชายกินแล้วใช้ฟื้นสภาพความหนุ่มและความแข็งแรงได้ เรียกยาอายุวัฒนะที่ผู้หญิงใช้ว่ายาบำรุงโฉม ส่วนยาที่ผู้ชายใช้เรียกว่ายาคงรูปลักษณ์
ยาอายุวัฒนะสองชนิดนี้ตั้งแต่เลือกยาจนถึงกลั่นยาล้วนเลือกตามคุณสมบัติเฉพาะ ด้วยเหตุนี้หากกินผิดไป ผลลัพธ์ย่อมเป็นเหมือนอาจารย์โอสถหวงแน่นอน
เพราะเห็นนางเก็บตัวปรุงยามาตลอด กวนสีหลิ่นจึงเข้ามาลา บอกนางว่าเขาจะตามคนตลาดมืดออกไปฝึกฝนวิชา ดังนั้นเฟิ่งจิ่วจึงวานให้เขาช่วยส่งยาบำรุงโฉมให้พวกตู้ฝาน ให้พวกเขาส่งไปยังภูเขาร้อยปี
หลังจากกวนสีหลิ่นไป เยี่ยจิงก็บอกที่อยู่บ้านตนเอง ให้เฟิ่งจิ่วมีเวลาค่อยเข้าไปหานาง ก่อนจะออกจากสำนักศึกษาและกลับบ้านไป
พูดได้ว่าเหล่านักเรียนทั้งสำนักศึกษา เหลือเพียงเฟิ่งจิ่วที่ยังอยู่ในอาศรมเหมือนไม่คิดจะจากไป
เพียงแต่ยังมีสองคนถูกหลงลืม นั่นคือเนี่ยเถิงกับโอวหยางซิว คนแรกเห็นเฟิ่งจิ่วยังไม่ไปไหนจึงอยู่ฝึกบำเพ็ญที่อาศรมตลอด คิดว่าจะรออีกฝ่ายไปก่อนค่อยไป ส่วนโอวหยางซิวคนหลังก็คิดหาโอกาสจะประลองกับเฟิ่งจิ่ว
ด้วยเหตุนี้เมื่อคนอื่นๆ ออกไปกันหมด โอวหยางซิวจึงยังอยู่ในสำนักศึกษา รอเฟิ่งจิ่วกลั่นยาเสร็จออกมาจะหาโอกาสลองเชิงสักหน่อย ด้วยความคิดตั้งมั่นในใจว่าอยากต่อสู้ด้วย
วันนี้ โม่เฉินในชุดขาวมานั่งตรงโต๊ะหินใต้ต้นไม้นอกอาศรมของเฟิ่งจิ่ว ดวงตาลึกล้ำไม่เห็นก้นบึ้งมองอาศรมที่มีเสียงเคลื่อนไหวแว่วมาเลือนราง สีหน้าอารมณ์หวั่นไหวเล็กน้อย ไม่รู้กำลังคิดอะไร นั่งอยู่เงียบๆ ความคิดเหมือนลอยไปไกลแล้ว
สามสัตว์อสูรข้างๆ ไม่ได้นั่งอยู่ สายตาแต่ละตัวจับจ้องบนร่างเขา หยุดอยู่พักหนึ่งก็เคลื่อนจากไป อย่างไรพวกมันก็รู้จักเขา
ในเวลาเกือบหนึ่งเดือนต่อมา เฟิ่งจิ่วอยู่ภายในอาศรม ไม่เดินออกมาแม้แต่ก้าวเดียว ส่วนโม่เฉินคนนั้นจะมานั่งที่นี่ทุกวัน มองพลางเฝ้ารอคอย…
จนกระทั่งวันนี้ สายฟ้าสามสายผ่าลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง รอจนสายฟ้าหายไป สุดท้ายในอาศรมก็มีเสียงหัวเราะร่าลอยมา ยามได้ยินเสียงหัวเราะนั้น มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ เผยรอยยิ้มบางๆ ที่แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้สึก
“สำเร็จแล้วๆ ในที่สุดก็สำเร็จ! ฮ่าๆๆๆ…”
ภายในอาศรม เฟิ่งจิ่วถือยาอายุวัฒนะสองเม็ดในมือ นี่คือยาคงรูปลักษณ์ที่เป็นธาตุหยาง แรกเริ่มตอนปู่ของเธอแต่งงานก็คิดจะกลั่นให้เขา แต่ไม่นึกว่าตอนนี้ถึงเพิ่งจะกลั่นออกมาได้
หลังจากความตื่นเต้นดีใจผ่านไป เธอก็เก็บยาอายุวัฒนะ เห็นร่างกายตัวเองเลอะเทอะจึงล้างให้สะอาดเสียก่อน เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าสะอาดแล้วถึงจะออกอาศรมไป ทว่าเมื่อเดินออกจากอาศรม และเห็นร่างสีขาวใต้ต้นไม้นั้นก็อึ้งงันทันที มองๆ เขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
“คุณชายโม่เฉิน? ท่านมาได้อย่างไร”
ไม่รอให้โม่เฉินเอ่ยปาก เหล่าไป๋ก็บอกว่า “เขามานั่งตรงนี้ทุกวัน ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาวันนี้ขอรับ”
“เจ้าไม่คิดจะกลับบ้านหรือ?” เขาถาม น้ำเสียงทั้งอ่อนโยนและแผ่วเบา ซ้ำยังมีความเฉยชาโดยธรรมชาติ
“ทำไม?” เธอจ้องเขาอย่างระวังตัว “ข้าจะกลับบ้านหรือไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน?”
เขาเห็นสีหน้าเธอระมัดระวัง แววตาก็สั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยว่า “ปีหน้าวันที่สามเดือนสาม แคว้นศรสวรรค์จะมีสมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียน เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”
………………………………………………….
ตอนที่ 820 คิดถึงเขาเสียแล้ว
“ไม่ไป” เฟิ่งจิ่วปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด หนำซ้ำปฏิเสธอย่างง่ายดายและรวดเร็ว
อาจเพราะไม่นึกว่าเฟิ่งจิ่วจะปฏิเสธง่ายๆ เช่นนี้ โม่เฉินจึงตกใจเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ เพียงมองนางอย่างเงียบงันเช่นนั้น
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจ เชิดหน้าขึ้นแล้วถามอย่างจริงจัง “คุณชายโม่เฉิน ท่านพูดมาตรงๆ เถอะ! ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่? อย่าบอกเลยว่าท่านไม่มีเป้าหมาย ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนท่านมีท่าทีรังเกียจข้า ทำไมช่วงนี้ถึงโผล่มาที่นี่ตลอด? ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เขาคิดจะทำอะไร?
โม่เฉินตกใจเล็กน้อย จากนั้นค่อยเผยรอยยิ้มออกมา รอยยิ้มนี้ค่อยๆ คลี่ออกอย่างอ่อนโยน แต่สุดท้ายกลับทำให้เฟิ่งจิ่วรู้สึกหนาวๆ
“ข้าเพียงอยากเห็นเสียหน่อย ว่าดาราหงส์เป็นคนเช่นไรกันแน่”
“ดาราหงส์? หมายความว่าอย่างไร?” คำพูดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เธอไม่เข้าใจสักเท่าไร
“ดาราหงส์ปรากฏ วิญญาณต่างภพเยือนโลก จากเหนือฟ้าไกลโพ้น ทำลายกฎสวรรค์ทั้งแปด และกลายเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้า”
เขามองเฟิ่งจิ่วโดยไม่พลาดความเปลี่ยนแปลงที่ฉายผ่านในดวงตาของเธอ กล่าวเสียงเนิบๆ ว่า “นี่เป็นคำพูดเดิมของอาจารย์ข้า ผู้เฒ่าเทียนจี และการตามหาเจ้าคือเป้าหมายที่ข้ามาที่นี่”
เฟิ่งจิ่วอึ้งๆ ไป ก่อนเอ่ย “กลายเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้าอะไร ข้าไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าแห่งใต้ฟ้า อีกอย่าง นี่เกี่ยวอะไรกับที่ท่านตามหาข้า?” วิญญาณต่างภพมาเยือนโลก เขาพูดถูกแล้ว แต่ทำไมถึงรู้ว่าเป็นเธอ? หนำซ้ำแม้เป็นเช่นนี้ เธอกับเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน!
ได้ยินคำพูดนี้ แววตาเขาเคร่งขรึมเล็กน้อย ดวงตาลึกล้ำราวมหาสมุทร มองเธอเงียบๆ ไม่พูดอะไร ผ่านไปเนิ่นนานก็หมุนตัวจากไปทันที
ขณะมองเขาหันกายจากไป เฟิ่งจิ่วพึมพำว่า “เข้าใจยากจริง”
เดิมทีก็เข้าใจยากแล้ว ถึงแม้เธอเป็นคนคนนั้นก็ไม่เกี่ยวกับเขากระมัง? อีกอย่างคนผู้นี้คล้ายจะชอบพูดอะไรแค่ครึ่งเดียว กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่รู้จะบอกอะไร
“นายท่าน ข้าว่าเขาคิดไม่ซื่อกับท่าน” เหล่าไป๋เอ่ยขึ้นข้างๆ
เฟิ่งจิ่วกลอกตา “หากคิดไม่ซื่อคงไม่ช่วยข้า จะว่าไป แม้คนคนนี้จะแปลกไปหน่อย แต่อย่างไรก็ช่วยข้าไว้ถึงสองครั้ง หนำซ้ำพลังของเขาเหมือนจะสูงมาก?” เธอลูบๆ คาง ถามว่า “พวกเจ้าว่ากำลังวรยุทธ์ของเขาสูงกว่าท่านอาหรือไม่?”
“ไม่ขอรับ”
สองสัตว์อสูรกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน แทบจะตอบออกมาโดยไม่ต้องคิด
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว “เพราะอะไร?”
“บารมีบนร่างเจ้าตำหนักยมราชรุนแรงเกินไป มองแวบเดียวเราก็ไม่กล้าเอ่ยแล้ว คนผู้นี้แม้ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา แต่อำนาจบารมีและแรงกดดันไม่หนักหนาเท่าท่านยมราช แน่นอนว่าย่อมไม่เก่งกาจไปกว่ากัน”
“หึ!”
เธอได้ยินสองสัตว์อสูรเรียกเซวียนหยวนโม่เจ๋อว่ายมราช ก็หลุดหัวเราะอย่างอดไม่ไหว ยมราช? คล้ายมากจริงๆ นั่นแหละ
“เฮ้อ! พวกเรามาที่นี่หนึ่งปี พอนับดูก็ไม่ได้เจอเขามาหนึ่งปีแล้ว ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง?” เธอพึมพำเบาๆ สายตามองไปยังท้องฟ้าไกล ไม่ต้องพูดเลย จริงๆ ก็คิดถึงเขานิดหน่อยแล้ว!
สิบปี เวลาสิบปี เหอะๆๆ เธอคงไม่รอถึงสิบปีค่อยไปหาเขาหรอก รอจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยหมดแล้ว เธอจะไปดูที่แปดจักรวรรดิใหญ่เสียหน่อย ทว่าเทียบกับเรื่องนั้นแล้ว ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการเสียก่อน
เธอวานให้คนตลาดมืดสอบถามข้อมูลของแม่ ผ่านมานานเพียงนี้คงมีวี่แววบ้างแล้วกระมัง?
อืม ไปถามที่ตลาดมืดก่อนสักหน่อย ค่อยอีกทีดูว่าต้องกลับบ้านหรือไม่
………………………………………………….