เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 831 คนโมโหหึง + ตอนที่ 832 ข่าวของซั่งกวนหวั่นหรง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 831 คนโมโหหึง + ตอนที่ 832 ข่าวของซั่งกวนหวั่นหรง
ตอนที่ 831 คนโมโหหึง + ตอนที่ 832 ข่าวของซั่งกวนหวั่นหรง
ตอนที่ 831 คนโมโหหึง
เนี่ยเถิงยืนตรงหน้าม้าพลางมองเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่บนหลังม้า เมื่อสายตามองผ่านใบหน้าเด็กน้อยด้านหน้าอีกฝ่าย สีหน้าอารมณ์ก็สั่นไหวเล็กน้อย
“เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?” เฟิ่งจิ่วมองเขา เอ่ยเสียงเย็นว่า “หลบไป”
“เจ้าไปไหน? ข้าจะไปส่งเจ้า” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ขอบคุณ แต่ข้าไม่รบกวนเจ้าหรอก” สิ้นเสียงเธอก็ดึงเชือกม้า กระทุ้งท้องม้าเคลื่อนผ่านเขาไป
ขณะมองคนที่ขี่ม้าสบายๆ จากไปไกลทีละนิด เขายืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน มองอย่างเงียบเชียบเช่นนั้น จนกระทั่งร่างนั้นหายไปจากทัศนวิสัยถึงจะดึงสายตากลับมา
“นายท่าน พวกเราต้องจับนางกลับไปหรือไม่ขอรับ?” คนชุดดำที่ปรากฏตัวกะทันหันมายังข้างกายเขา เพิ่งเอ่ยคำไปกลับถูกเนี่ยเถิงกวาดตามอง
คนชุดดำคนนั้นตกใจ รีบร้อนก้มหน้าถอยหลัง ไม่กล้ามองตาเขาตรงๆ ตอนกำลังจะถอยห่าง หางตาก็เห็นเขาขี่กระบี่ตามหลังเฟิ่งจิ่วไปไกลๆ
ชายชุดดำเห็นเช่นนี้ก็อึ้งเล็กน้อย ได้แต่ตามไปเช่นกัน
บนยอดเขาหลักของสำนักศึกษา ร่างสีขาวก็มองร่างชุดแดงนั้นขี่ม้าขาวห่างออกไปเรื่อยๆ อยู่ไกลๆ…
ส่วนโอวหยางซิว เพราะสู้กันถึงขั้นยังไม่ทันแตะชายเสื้อของเฟิ่งจิ่วก็แพ้เสียแล้ว ซ้ำต้องยอมรับฝ่ายตรงข้ามเป็นอาจารย์ ทำให้เขาขุ่นข้องใจนัก และยิ่งปลุกเร้าความตั้งใจที่จะฝึกบำเพ็ญของเขา เดิมทีคิดจะกลับบ้าน แต่ความล้มเหลวจากการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ใจเขาจมอยู่กับการฝึกบำเพ็ญ สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปเช่นเดียวกัน
“พวกเจ้าว่าเขาจะทำอะไร? ตามพวกเรามาตลอดทางเลย” เหล่าไป๋ก้าวกีบม้าเดินพลางหันกลับไปมองเนี่ยเถิงที่ตามมาห่างๆ ด้านหลัง รู้สึกฉงนนัก
ความคิดมนุษย์เข้าใจยาก เนี่ยเถิงเป็นถึงรัชทายาทแคว้นเหินเวหา ครั้งนั้นยังคิดจะบังคับแต่งนายท่านของมันเป็นชายารอง! สถานการณ์นั้นเล่นเอาบันดาลโทสะ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ยังจะตามมาเกาะแกะนายท่านอีก ไม่รู้จริงๆ ว่าคิดทำอะไร
“เดินทางของเจ้าไป อย่าสนใจอย่างอื่น” เฟิ่งจิ่วกล่าว แล้วยื่นมือล้วงผลไม้จากในห้วงมิติมายื่นให้ยมราชน้อยข้างกาย “เจ้ากินสิ”
เด็กน้อยหลับตาเอนพิงอยู่ในอ้อมแขนเธอ เอ่ยโดยไม่แม้แต่จะมองว่า “ไม่กิน”
“เจ้าเด็กน้อยนี่ ปากช่างเลือกกินนัก” เฟิ่งจิ่วไม่สนใจ เขาไม่กินเธอก็กินเสียเอง แต่กลับเห็นว่าเด็กน้อยที่พิงในอ้อมแขนอยู่ไม่นิ่งเลย หากไม่หันหัวก็ขยับตัว ไม่เช่นนั้นก็ปรับท่านั่ง
“ทำไม? นั่งไม่สบายหรือ” เธอกินผลไม้พลางถามไถ่ มือหนึ่งโอบเอวไว้กันเขาตกลงจากม้า
“ทำไมเจ้าถึงหว่านเสน่ห์คนไปทั่ว?” จู่ๆ เขาก็ลืมตาถาม ใบหน้าเล็กงดงามยามนี้เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มที่ไม่อาจเก็บซ่อน
“หา?” เฟิ่งจิ่วอึ้งไปพักหนึ่ง “หว่านเสน่ห์คน? ข้าเปล่าเสียหน่อย!” ไหนเลยเธอจะมีเวลาว่างเช่นนั้น
“ไม่หรือ? เช่นนั้นทำไมเจ้าหมอนั่นถึงตามมา แล้วเจ้าหน้าอ่อนนั่นอีกคืออะไร? ข้าเห็นนะว่าสายตาที่เขามองเจ้าไม่ธรรมดาเลย” เขาเหมือนเป็นสามีที่โมโหหึง จุกจิกจู้จี้ไม่เลิกรา
หากเขาเป็นชายโตเต็มวัยนั้นยังดี แต่ดันมีรูปร่างเป็นเด็กน้อยเช่นนี้ ครั้นได้ยินคำพูดนี้และมองสีหน้าเขา ก็ชวนให้คนหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่
“เจ้าว่างมายุ่งกันมากนักนะ! บอกข้าซิ เจ้าอายุแค่สามสี่ขวบจริงหรือ?” ความสงสัยเอ่อล้นในดวงตาของเธอ คิดว่าแม้เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบจะฉลาด ก็ไม่น่าฉลาดเช่นนี้?
“คนพวกนั้นดูขวางหูขวางตานัก”
เขาขมวดคิ้วน่ามอง แล้วเม้มริมฝีปากเอ่ย เมื่อสีหน้าถมึงทึงขึ้นมา เฟิ่งจิ่วตาฝาดไป คล้ายเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้าคือเจ้าตำหนักยมราช
………………………………………………….
ตอนที่ 832 ข่าวของซั่งกวนหวั่นหรง
“เมินๆ พวกเขาไปก็พอแล้ว เป็นคนต้องใจกว้าง อย่างความคิดว่าขวางหูขวางตาพวกนั้น เราแค่มองเขาเป็นอากาศธาตุ เช่นนี้ถึงจะไม่สร้างปัญหาให้ตนเอง” เธอหัวเราะเบาๆ พลางลูบหัวเขา แล้วกดร่างเขาพิงมาในอ้อมแขนตนเอง
“เอาละ เด็กดี อย่างอนไปเลย อีกเดี๋ยวถึงในเมืองจะซื้อของกินอร่อยๆ ให้เจ้า”
ได้ยินนางเกลี้ยกล่อมเขาราวกับกล่อมเด็กน้อย เขาทั้งรู้สึกแปลกใหม่และหวานซึ้ง ใบหน้าเล็กที่เดิมทีบึ้งตึงผ่อนคลายลง ทำเพียงขานรับ ก่อนจะเอนพิงอ้อมอกเฟิ่งจิ่วไปเงียบๆ
เมื่อเข้าเมืองมา เพื่อไม่ให้ปากเหล่าไป๋สร้างปัญหา เฟิ่งจิ่วจึงมัดผ้าให้มันเป็นพิเศษ หลังจากเข้ามาในเมืองก็ให้มันชะลอความเร็วลง และมุ่งหน้าไปยังตลาดมืด
ครั้นถึงประตูตลาดมืด ส่งเหล่าไป๋ให้สมาชิกตลาดมืดแล้วก็พายมราชน้อยเข้าไปด้านใน ส่วนอสูรกลืนเมฆาตามอยู่ข้างกายคนทั้งสอง
หัวหน้าตลาดมืดที่ได้ยินว่าเฟิ่งจิ่วมารีบร้อนออกมาต้อนรับ พร้อมเชิญเธอเข้าไปด้านในด้วยตนเอง
“คุณชายจิ่ว ข้อมูลที่ท่านต้องการข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ท่านดู อยู่ตรงนี้หมดแล้ว” หลังจากไล่ทุกคนออกไป หัวหน้าตลาดมืดก็หยิบรายงานข้อมูลออกมาส่งให้เธอ
“ตามข้อมูลที่ท่านให้ไว้ ข้าใช้เส้นสายไม่น้อยถึงจะรวบรวมเอกสารพวกนี้ครบ ด้วยเป็นตระกูลใหญ่สูงศักดิ์ในแคว้นเรืองอำนาจระดับหนึ่ง ตลาดมืดต้องผ่านการสืบถามและรวบรวมถึงจะได้เอกสารพวกนี้มา”
“รบการท่านแล้วจริงๆ” เธอพยักหน้าพลางยิ้มเอ่ย จากนั้นเปิดเอกสารออกอ่าน ส่วนหัวหน้าตลาดมืดก็พูดอยู่ข้างๆ
“ตระกูลซั่งกวนนี้เป็นตระกูลนักเล่นแร่แปรธาตุ คนที่มีพรสวรรค์ด้านปรุงยาโดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเขา ไม่มีใครเกินไปกว่าซั่งกวนหวั่นหรงแล้ว เพียงแต่ซั่งกวนหวั่นหรงคนนี้อยู่ในตระกูลซั่งกวนกลับไม่ค่อยออกไปไหน แทบพูดได้ว่าลูกหลานตระกูลซั่งกวนบางคนยังไม่เคยเห็นนางเลย”
เสียงเขาหยุดไปเล็กน้อย ก่อนกล่าว “พวกเราสอบถามมา ดูจากในเอกสารแล้ว เดาว่าซั่งกวนหวั่นหรงผู้นี้จะถูกขังไว้หรือไม่”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดเขาและอ่านดูข้อมูล สีหน้าก็ไม่ค่อยน่ามองนัก บนเอกสารนี้ส่วนใหญ่จะบันทึกภูมิหลังตระกูลซั่งกวน ส่วนเรื่องซั่งกวนหวั่นหรงแม่ของเธอกลับมีเพียงไม่กี่คำ เห็นได้ว่าหากไม่ใช่คนตลาดมืดไปตรวจสอบ ก็คงไม่มีใครรู้ข้อมูลพวกนี้
“ซั่งกวนหวั่นหรงไม่เคยแต่งงาน มีคนบอกว่าตระกูลซั่งกวนไม่อาจตัดใจให้ลูกสาวผู้เป็นนักปรุงยาระดับสูงแต่งงานออกไป ต้องการให้นางทำประโยชน์เพื่อตระกูล ตามที่พวกเรารู้ หลายปีนี้มีคนไม่น้อยคนที่ไปสู่ขอซั่งกวนหวั่นหรงถึงตระกูลซั่งกวน แต่ล้วนถูกตระกูลซั่งกวนผลักไส และเพราะนางปรากฏตัวต่อหน้าคนน้อยนัก ประกอบกับความเข้มงวดของตระกูลซั่งกวน ผู้คนจึงค่อยๆ ลืมเลือนซั่งกวนหวั่นหรงคนนี้ไป”
เฟิ่งจิ่วเก็บเอกสาร บอกหัวหน้าตลาดมืดว่า “ครั้งนี้นอกจากมารับข้อมูล ข้ายังมียาสองสามขวดกับยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ดมาให้ท่านปล่อยประมูลที่นี่”
“โอ้? ไม่ทราบว่าเป็นยาแบบไหน ยาอายุวัฒนะอะไร?” ดวงตาเขาเป็นประกาย ของที่มาจากมือภูตหมอล้วนไม่ธรรมดาเสมอมา เขารู้ว่านางกำลังเรียนกลั่นยาเซียน หรือว่าเวลาสั้นๆ หนึ่งปีจะกลั่นยาเซียนสำเร็จแล้ว?
เฟิ่งจิ่วหยิบยาน้ำสามขวดมาวางเรียงบนโต๊ะ แล้วหยิบขวดใบหนึ่งออกมาอีก เอ่ยว่า “นี่เป็นยาบรรลุขั้น สองขวดในนั้นจะทำให้ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังบรรลุขั้นได้ อีกขวดหนึ่งเหมาะสำหรับผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ ส่วนในขวดนี้มีเพียงยาอายุวัฒนะหนึ่งเม็ด เป็นยาบำรุงโฉมที่ข้ากลั่นออกมาใหม่”
จากนั้นก็บอกประสิทธิภาพของยาบำรุงโฉมและผลลัพธ์หลังกินกับเขาเล็กน้อย สุดท้ายยังกำชับฐานราคาประมูลไปด้วย
………………………………………………….