เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1007 ท่านคือใคร + ตอนที่ 1008 ให้ข้าดูแล
ตอนที่ 1007 ท่านคือใคร + ตอนที่ 1008 ให้ข้าดูแล
ตอนที่ 1007 ท่านคือใคร
ซ่งหมิงได้ยินคำพูดเหล่านั้นแล้วก็ก้าวยาวเดินออกไป ไม่ว่าสามคนนี้เป็นใคร ในเมื่อช่วยเขาเปิดโปงคนร้ายที่สังหารมารดาของตน ก็นับเป็นผู้มีพระคุณของเขาซ่งหมิง!
ส่วนสองคนพี่น้องได้ยินคำพูดของบิดาแล้วได้แต่กัดฟันถอยไปข้างๆ ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก หลายๆ ครั้งลูกนอกสมรสไม่มีสิทธิ์พูดและไม่ได้รับความสำคัญ ข้อนี้พวกเขารู้อยู่แต่แรกแล้ว
เมื่อซ่งหมิงมาถึงข้างนอกและเห็นสามคนนั้นก็ตกใจไปนิดทันที มองพวกเขาด้วยสีหน้าประหลาด “พวกเจ้า?” วันนั้นเขาเล่นพนันอยู่ในตรอก เห็นพวกเขาสามคนยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่นึกว่าจะได้เจอกันอีก หนำซ้ำยังมาเยือนถึงบ้านด้วย
“ก็พวกเราน่ะสิ” หนิงหลางฉีกยิ้มแล้วก้าวยาวเข้าไปด้านใน “ซ่งหมิง บ้านเจ้าวุ่นวายอยู่ไม่ใช่หรือ?”
ซ่งหมิงได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถามว่า “รายงานชุดนั้นในมือท่านตาข้า พวกเจ้าเป็นคนมอบให้หรือ?”
“หา? รายงานอะไรกัน” หนิงหลางตกใจ หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้ามอบรายงานอะไรให้พวกเขา มีประโยชน์อะไร?”
ต้วนเยี่ยซึ่งอยู่ข้างๆ มองเฟิ่งจิ่วเช่นกัน เฟิ่งจิ่วแค่บอกพวกเขาว่าไม่ต้องสอดมือยุ่งเดี๋ยวจะจัดการเอง วันนี้ตามเขาออกมาแต่เช้า ดื่มชาอยู่ในร้านน้ำชาด้านนอกสองสามถ้วยถึงจะบอกให้เข้าไปดูตระกูลซ่ง ส่วนที่ว่าเขาทำอะไรไปบ้างนั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องโดยสิ้นเชิง
“ไม่เชิญพวกเราเข้าไปดื่มชาหรือ หรือว่าคิดจะยืนคุยกันตรงนี้?” เฟิ่งจิ่วเหลือบมองซ่งหมิงพลางเอ่ย
ซ่งหมิงได้ยินดังนั้นถึงค่อยเบี่ยงตัวเล็กน้อย “เชิญ พวกท่านปู่ของข้ารออยู่ด้านในหมดแล้ว”
เฟิ่งจิ่วก้าวเข้าไป ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางตามอยู่ด้านหลังเธอ พวกเขาเดินไปยังด้านใน
กลุ่มคนที่นั่งรอในห้องโถงเห็นซ่งหมิงพาเด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามา เด็กหนุ่มคนที่นำหน้าสวมชุดแดง รูปโฉมงดงามดูซุกซนและรักอิสระ กลิ่นอายสูงศักดิ์หาใดเปรียบ
เมื่อสายตาพวกเขาหยุดลงบนร่างหนุ่มน้อยชุดแดงก็แทบจะไม่ละไปไหนอีก ผู้นำตระกูลหลิ่วและตระกูลซ่งรวมถึงบรรพบุรุษสี่คนมองใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มน้อยชุดแดง ในดวงตาเผยความตกตะลึง เดิมทีนั่งอยู่ยังลุกขึ้นยืนอย่างอดไม่ได้ แล้วเข้าไปต้อนรับด้วยตนเอง
“ท่านคือ…คุณชายเฟิ่ง?”
บรรพบุรุษตระกูลซ่งมองเด็กหนุ่มชุดแดงอย่างตื่นเต้นยินดีและประหลาดใจ แทบพูดได้ว่าในมือผู้กุมอำนาจของแต่ละตระกูลล้วนมีภาพเหมือนของภูตหมอ เดิมทีพวกเขานึกว่าอยู่ที่นี่คงไม่ได้พบภูตหมอ แต่รูปลักษณ์ของหนุ่มน้อยตรงหน้าเหมือนในภาพอย่างกับแกะ ซ้ำยังสวมชุดแดงอีก หากไม่ใช่ภูตหมอแล้วจะเป็นใคร?
เหล่าผู้อาวุโสจากสองตระกูลเห็นบรรพบุรุษและผู้นำตระกูลของตนเสียอาการเช่นนี้ ต่างก็อดแปลกใจไม่ได้ สายตามองพิจารณาบนร่างเด็กหนุ่มชุดแดง เห็นว่านอกจากบุคลิกสูงศักดิ์และใบหน้างดงามเอาแต่ใจ ก็ไม่เห็นว่าเขามีอะไรที่จะทำให้พวกเขาตกใจและประหลาดใจได้เพียงนี้
แต่คุณชายเฟิ่งหรือ คุณชายเฟิ่งอะไรกัน หรือว่าพวกผู้นำตระกูลจะรู้จักเด็กหนุ่มคนนี้?
ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางรู้ตัวตนภูตหมอของเฟิ่งจิ่วนานแล้ว ตลอดทางเห็นเรื่องเช่นนี้มาไม่น้อยจึงเฉยชาแล้ว สองคนยืนอยู่เงียบๆ ข้างกายเฟิ่งจิ่ว แม้แต่กลืนเมฆาน้อยที่ถูกคนเมินเฉยยังนั่งหมอบข้างๆ เฟิ่งจิ่ว พลางมองทุกคนในห้องโถงตาเขม็ง
“เข้ามารบกวนกะทันหัน หวังว่าผู้นำตระกูลซ่งจะไม่ถือสา”
เฟิ่งจิ่วประสานมือคารวะ มองชายวัยกลางคนตรงหน้าที่ลงพุงและมีใบหน้าน่าเกรงขาม ก่อนจะนึกถึงภาพเขาเล่นพลิกผ้าห่มกับไป๋เหลียนที่ตัวเองเห็นรางๆ เมื่อคืนอย่างอดไม่ได้ ชั่วขณะนั้นมุมปากกระตุกก็เบาๆ
………………………………………………….
ตอนที่ 1008 ให้ข้าดูแล
ต่อให้น่ายำเกรงอีกเท่าใด แต่หลังจากเห็นภาพเช่นนั้นก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ยังดีที่เขาไม่รู้ว่าเธอเห็นฉากร่วมรักของเขาเมื่อคืน มิเช่นนั้นเดาว่าคงวางท่าสง่างามเช่นเจ้าบ้านต่อหน้าเธอไม่ได้
“ที่ไหนกันๆ พวกเราได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอย่างคุณชายเฟิ่ง นับเป็นวาสนาของตระกูลซ่งแล้ว” ผู้นำตระกูลซ่งยิ้มเอ่ย จากนั้นมองสองคนที่ยืนอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่วและถามว่า “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือผู้ใด”
“บิดาข้าเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของแคว้นกาฬ เจ้าเมืองหนิงหนิงหย่วน ข้าเป็นลูกชายของเขานามว่าหนิงหลาง” หนิงหลางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย พร้อมแนะนำตัวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ทุกคนในห้องโถงได้ยินก็ต่างอึ้งไปพักหนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนแนะนำตัวโดยแนะนำบิดาของตนเองก่อน
“ข้าคือต้วนเยี่ย” เทียบกับหนิงหลางแล้ว ต้วนเยี่ยเพียงบอกนามไปอย่างง่ายๆ และไม่พูดอะไรอีก
“ที่แท้เป็นคุณชายหนิงกับคุณชายต้วนนี่เอง” ผู้นำตระกูลซ่งเผยรอยยิ้ม บอกคนทั้งสามว่า “เชิญทั้งสามท่านนั่งก่อน”
หลังจากทั้งสองคนแจ้งนาม ใบหน้าของซ่งหมิงที่อยู่ข้างๆ แปลกไป หนิงหลางกับต้วนเยี่ยหรือ นั่นมันตัวแสบอีกสองคนของสำนักศึกษาสองดาราไม่ใช่หรือ เล่ากันว่าสองคนนี้เหมือนกับเขา ไม่ชอบไปฝึกบำเพ็ญที่สำนักศึกษา คนแรกชอบหาเงิน เต็มไปด้วยความโลภ ส่วนคนหลังนิสัยหยิ่งยโส มักจะประพฤติตัวไม่ดีตามอำเภอใจ เทียบกับเขาได้เลย
หลังจากนั่งลง เฟิ่งจิ่วมองทุกคนในห้องโถงแล้วเผยรอยยิ้มเชิงขออภัย “กะทันหันจริงๆ มาเองโดยไม่ได้รับเชิญ เหมือนมารบกวนท่านทั้งหลายเลย? หรือจะให้พวกเรามาเยี่ยมอีกทีวันอื่นดี?”
ต้วนเยี่ยที่นั่งด้านล่างเฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขายกน้ำชาที่คนรับใช้ยกมาให้ขึ้นจิบอึกหนึ่งเพื่อปกปิดอารมณ์บนใบหน้า ส่วนหนิงหลางกำลังดื่มน้ำชา ครั้นได้ยินก็สำลักทันที ไอหนักๆ ไปสองครั้ง
“แค่กๆ!”
เขาเหล่มองเฟิ่งจิ่ว เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเฉยชา อากัปกิริยาสุภาพเรียบร้อย วางท่าทางเช่นสุภาพชน ในใจก็แอบกระซิบอย่างอดไม่ได้ว่า ‘เสแสร้ง ช่างเสแสร้งเก่งจริงๆ’
“เหอะๆๆ ไม่หรอกๆ เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ภายในจวนเท่านั้น จัดการเรียบร้อยแล้วละ” ผู้นำตระกูลซ่งกล่าว มองทุกคนในห้องโถงแวบหนึ่ง ถึงจะมองเฟิ่งจิ่วพลางถาม “ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งมาวันนี้มีธุระอะไรหรือ”
“อ้อ ข้ามาพาซ่งหมิงไปน่ะ” สายตาเธอหยุดลงบนร่างของซ่งหมิง ขณะเดียวกันก็ขยับมือหยิบป้ายคำสั่งออกมาก่อนจะให้คนนำเข้าไปให้ผู้นำตระกูลซ่ง
“วันนี้ข้ามาที่นี่ด้วยฐานะอาจารย์ของสำนักศึกษาสองดารา ซ่งหมิงก็เหมือนสองคนนี้ข้างกายข้า ภายในหนึ่งปีจากนี้ต้องให้ข้าดูแล”
ครั้นได้ยินเช่นนี้ ซ่งหมิงมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ แม้แต่คนอื่นๆ ในห้องโถงยังตกตะลึงอย่างยิ่ง ผู้นำตระกูลหลิ่ว บรรพบุรุษตระกูลหลิ่ว รวมถึงสองคนของตระกูลซ่งต่างรู้ฐานะภูตหมอของเฟิ่งจิ่ว แต่ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะมาในฐานะอาจารย์ นี่…สำนักศึกษาสองดารามีฝีมือเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไร แม้แต่ภูตหมอยังเชิญไปเป็นอาจารย์ได้?
ผู้นำตระกูลซ่งมองป้ายหยกสถานะอาจารย์ แล้วพยักหน้าให้บิดารวมถึงสองคนจากตระกูลหลิ่ว “เป็นป้ายหยกแสดงสถานะอาจารย์ของสำนักศึกษาสองดาราจริงๆ”
กล่าวจบก็มองเฟิ่งจิ่วพลางยิ้ม “หมิงเอ๋อร์ได้คุณชายเฟิ่งมาสั่งสอน พวกเราร้องขอยังไม่อาจได้มาเลย เอาเช่นนี้แล้วกัน! คุณชายเฟิ่งพักอยู่ในจวนก่อน พักผ่อนสักวันสองวัน ให้พวกเราทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีที่สุด”
“พวกเราพำนักอยู่ที่โรงเตี๊ยมในเมือง คงไม่มารบกวนภายในจวน วันนี้มาเพราะแค่จะบอกกล่าวผู้นำตระกูลและแจ้งข่าวซ่งหมิง รอให้ซ่งหมิงจัดการเรื่องในตระกูลเสร็จ ค่อยให้เขาไปหาข้าที่โรงเตี๊ยมแล้วกัน!”
………………………………………………….