เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1015 ช่วยได้ก็ช่วย + ตอนที่ 1016 แววตาน่าสะพรึง
ตอนที่ 1015 ช่วยได้ก็ช่วย + ตอนที่ 1016 แววตาน่าสะพรึง
ตอนที่ 1015 ช่วยได้ก็ช่วย
เหล่าคนชุดดำเห็นทั้งสองคนร่วมมือกันพละกำลังยิ่งเพิ่มพูน หากสู้ต่อไปสุดท้ายอาจบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย หนึ่งคนในนั้นจึงยกมือให้สัญญาณ หลังจากถอยไปอย่างรวดเร็วแล้วก็จ้องต้วนเยี่ยกับซ่งหมิง “เรื่องนี้พวกเจ้าหาเรื่องใส่ตัวเอง พวกเราไป!”
หาเรื่องใส่ตัว? บนใบหน้าละอ่อนของต้วนเยี่ยปรากฏความสงสัย หมายความว่าอย่างไร? ขณะกำลังคิดก็ได้ยินเสียงซ่งหมิงลอยมา
“สู้ไม่ได้ก็หนีหรือ แน่จริงอย่าหนีสิ!”
“พอแล้ว พวกเรากลับไปกันเถอะ!” ต้วนเยี่ยกล่าวพลางเก็บกระบี่เดินกลับไป ไม่แม้แต่จะมองหญิงสองคนนั้น
“แม่นาง พวกเราปักหลักอยู่ข้างหน้านี้ พวกเจ้าไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ? ทางนั้นพวกเรามีกระโจมเล็กพักผ่อนได้ ยามนี้ท้องฟ้ายังมืด ปล่อยพวกเจ้าเดินเตร่อยู่ที่นี่คงไม่ดี”
“ซ่งหมิง!” ต้วนเยี่ยมองเขาตาเขียวปัด “ห้ามพาคนที่ไม่รู้จักมักจี่กันกลับไปเชียว!”
“แค่ผู้หญิงสองคน อีกทั้งไม่ใช่คนอันตรายอะไร จริงด้วย ท่านนี้…” ซ่งหมิงมองหญิงชราข้างๆ พลางเอ่ยถาม
“นี่คือท่านย่าของพวกเราเจ้าค่ะ ในตระกูลเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเราจึงพาท่านย่าหนีออกมา หากท่านย่าไม่ปกป้องพวกเรามาตลอดทาง เกรงว่า…” เอ่ยถึงตรงนี้ หญิงสองคนนั้นปิดหน้าสะอื้นเบาๆ
สาวงามร่ำไห้ ผ้าผืนบางปิดหน้าไว้ หยาดน้ำตาคลอเบ้า งดงามอ่อนหวานชวนหลงใหล ทำให้ซ่งหมิงมองแล้วใจอ่อนยวบ แทบทนไม่ไหวอยากจะดึงสาวงามเข้ามาปลอบโยนในอ้อมแขน
ต้วนเยี่ยเห็นเขามองโฉมงามทั้งสองโดยไม่ขยับฝีเท้า ก็แค่นเสียงหยันทันใดแล้วสะบัดแขนเสื้อเดินกลับไป คร้านจะสนใจอีกฝ่าย ในเมื่ออยากพากลับไปก็ปล่อยเขาพาไปเถอะ!
ทางฝั่งกระโจมเล็ก หนิงหลางขยี้ตาโผล่หัวออกมา เห็นต้วนเยี่ยกลับมาก็ถามว่า “ดึกดื่นมืดค่ำพวกเจ้าไปทำอะไรกัน?”
“เจ้าถามซ่งหมิงสิ” ต้วนเยี่ยแค่นเสียง นั่งลงตรงหน้ากระโจมแล้วจัดการบาดแผลเล็กๆ สองสามแห่ง
หนิงหลางเห็นเช่นนี้ก็ตกใจ มองไปด้านหลังถึงเห็นซ่งหมิงประคองหญิงคนหนึ่งเดินมา ด้านหลังของอีกฝ่ายยังมีหญิงชรากับหญิงหน้าตางดงามอีกคน เขาเห็นคนพวกนั้นก็อึ้งไปพักหนึ่ง
“กลางค่ำกลางคืนพาสาวงามจากไหนมา? คงไม่ใช่ภูตผีกลางคืนแปลงกายมากระมัง?” เขาพึมพำขณะมองไปทางกระโจมของเฟิ่งจิ่ว เห็นฝ่ายนั้นไม่ได้ออกมา มีเพียงอสูรน้อยเฝ้าอยู่ตรงนั้น ก็หดตัวกลับไปโดยพลัน
ไม่ว่าซ่งหมิงพามาจากไหน อย่างไรเสียก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาดูแลตนเองดีๆ เป็นพอ ดังนั้นหลังจากเข้ากระโจมไปก็ดึงผ้าห่มคลุมโปงทันที
เมื่อมาถึงตรงกระโจม เห็นด้านนอกกระโจมหลังหนึ่งในนั้นมีเพียงอสูรน้อยคอยเฝ้าอยู่ ไม่เห็นคนด้านใน อีกคนหนึ่งก็เป็นเจ้าอ้วนที่เพิ่งหดตัวเข้าไป ดูไปแล้วท่าทางอายุยังไม่มาก
“นี่กระโจมของข้า พวกเจ้าพักในกระโจมของข้าไปก่อนเถอะ!” ซ่งหมิงยกกระโจมของตนเองให้อย่างกระตือรือร้นยิ่ง แล้วมองบาดแผลบนร่างหญิงทั้งสองคน ก่อนจะหยิบยารักษาแผลออกมา เอ่ยด้วยความสงสารว่า “บาดเจ็บจนเป็นเช่นนี้ ต้องเจ็บมากแน่ๆ สินะ ไม่อย่างนั้นให้ข้าช่วยพวกเจ้าทายาเสียหน่อยดีไหม?”
“ไม่ต้องเจ้าค่ะคุณชาย ข้าช่วยทาให้พวกนางก็ได้” หญิงชรารับยารักษาแผลจากในมือเขาไป จากนั้นประคองสองคนนั้นเข้าไปในกระโจม ขัดจังหวะการพูดคุยระหว่างซ่งหมิงกับหญิงทั้งคู่
เขาเห็นเช่นนี้ก็ลูบๆ จมูก เห็นต้วนเยี่ยนั่งพันแผลอยู่ข้างนอกจึงเดินเข้าไปหา “ต้วนเยี่ย เจ้าบาดเจ็บหรือ อยากให้ข้าช่วยพันแผลหรือไม่…” ยังกล่าวไม่ทันจบก็เห็นต้วนเยี่ยลุกขึ้นเดินไปทางกระโจม
“ดูแลหญิงงามที่เจ้าช่วยกลับมาดีๆ เถอะ ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว”
ซ่งหมิงได้ยินก็นั่งลงบนพื้นหญ้า ถอนหายใจครั้งหนึ่ง “ออกมาข้างนอก หากช่วยได้ก็ช่วยกัน! อีกอย่างยิ่งเป็นสาวงามด้วย เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
………………………………………………….
ตอนที่ 1016 แววตาน่าสะพรึง
เขากล่าวจบก็หันไปชำเลืองมองกระโจม ใครจะรู้ว่าคนด้านในกลับไม่คุยด้วย เขาจึงได้แต่กลับไปด้านหน้ากระโจมของตนเอง และชะโงกหน้าคุยกับหญิงสองคนนั้น
เวลาเที่ยงคืน เขาไม่พักผ่อนต่ออีก อีกทั้งรู้ชื่อรวมถึงเรื่องที่พบเจอมาจากปากของพวกนางแล้ว จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เมื่อแสงอาทิตย์แรกในยามเช้าตรู่สาดส่องลงพื้นหญ้า เสียงตอนตื่นนอนก็ดังออกมาจากด้านในกระโจมทั้งหลาย
ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางต่างตื่นนอนไล่เลี่ยกัน จัดเก็บกระโจมของแต่ละคนไป ส่วนในกระโจมของเฟิ่งจิ่วกลับยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร
หลังจากเก็บของคนทั้งสองเหลือบมองหญิงสองคนนั้นกับหญิงชรา แล้วจึงเดินไปล้างหน้าที่ลำธาร ซ่งหมิงเห็นเช่นนี้ก็บอกทั้งสามคนว่า “ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาก็เป็นเช่นนี้แหละ ตรงนี้ยังมีอาหารแห้งอยู่บางส่วน พวกเจ้ากินเสียหน่อยเถอะ!” กล่าวแล้วก็หยิบอาหารแห้งให้พวกนาง
กระทั่งผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม เฟิ่งจิ่วที่ตื่นนอนถึงจะเดินออกมาจากด้านในกระโจม เธอที่สวมชุดแดงแสบตาดั่งไฟยามนี้ยังงัวเงียอยู่บ้าง เธอเหลือบมองสามคนนั้นหลังเดินออกมาจากกระโจม ก่อนจะละสายตาอย่างเย็นชาและเดินไปล้างหน้าริมลำธาร
“เฟิ่งจิ่ว เมื่อคืนซ่งหมิงพาผู้หญิงสองคนกลับมา ยังมียายแก่อีกคนด้วย” หนิงหลางเขยิบเข้าไปใกล้เฟิ่งจิ่วพลางเอ่ย เขาหันกลับไปมองกระโจมทางนั้น “ข้าว่าผู้หญิงสองคนนั้นไม่ถูกทํานองคลองธรรมสักเท่าไร เสื้อผ้าสวมไม่เรียบร้อยเลย”
เขาพูดจบก็เหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ รีบบอกว่า “ข้าไม่ได้แอบมองนะ ข้าแค่เห็นซ่งหมิงจนมองตาไม่กะพริบ คิดว่าหญิงสองคนนั้นเหมือนจะจงใจ พวกเขาบอกว่าลี้ภัย แต่มองด้วยสายตาของข้าแล้ว รู้สึกว่าพวกนางก็คล้ายหญิงในหอนางโลมอยู่”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วยิ้มโดยทันที “เอาเถอะ อย่าพูดอะไรไร้สาระเลย ถึงอย่างไรเราก็ไม่ได้ร่วมทางไปกับพวกนาง”
“อืม ข้าก็คิดว่าร่วมทางไปกับพวกนางไม่ได้” เขาพยักหน้าตอบรับ ก่อนลุกขึ้นเดินกลับไป ตะโกนบอกซ่งหมิงว่า “ซ่งหมิง เก็บของเสีย เราจะไปกันแล้ว”
“ได้” ซ่งหมิงขานรับ เริ่มเก็บกระโจมและสิ่งของทั้งหมดกลับเข้าถุงฟ้าดิน แล้วจึงเดินมาที่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว “เฟิ่งจิ่ว พวกเราจะขี่กระบี่บินไปใช่ไหม เช่นนั้นใครจะพาพวกนางไปด้วยกันกับข้า?”
เฟิ่งจิ่วที่ล้างหน้าเสร็จและกำลังตบหน้าเบาๆ ให้สดชื่นได้ยินคำพูดนี้ก็ลุกขึ้นหันไปมองซ่งหมิง “ใครบอกว่าจะพาพวกนางไปด้วย ข้าเห็นด้วยหรือ?”
ซ่งหมิงได้ยินดังนี้ก็ตกใจ “แต่ว่า พวกนาง…”
“พวกนางเป็นอย่างไรข้าไม่อยากรู้ ในเมื่อเมื่อคืนเจ้าช่วยพวกนางไว้ ช่วยแล้วก็ช่วยไป ข้าจะไม่พูดอะไรมาก ปล่อยให้พวกนางไปตามทางของตนเอง ที่นี่พวกเราไม่อนุญาตให้พวกนางติดตามมาด้วย”
“ไม่ให้พวกนางตามไปหรอก แค่หลังจากไปถึงเมืองหนึ่งค่อยแยกย้ายกัน เช่นนี้นับว่าช่วยคนจนถึงที่สุดไม่ใช่หรือ?”
“ข้าไม่สนใจ” เธอเดินผ่านข้างกายของเขามายังเบื้องหน้าสามคนนั้น “พวกเจ้าเดินไปได้ กลางวันแสกๆ ไม่ต้องกลัวเจออันตรายอะไรด้วย พวกเจ้าว่าใช่หรือไม่?”
ดวงตากระจ่างใสหยุดลงบนร่างทั้งสามคน ในน้ำเสียงเฉยชาเจือความหนาวเยือกไว้ ฟังคล้ายมีความเลือดเย็นไม่เห็นใจใคร
เมื่อคนทั้งสามเห็นเฟิ่งจิ่ว ในใจหวาดกลัวกันเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อแววตาที่ทั้งเย็นเยียบและหนาวเหน็บนั้นหยุดลงบนร่างพวกนาง ยิ่งทำให้ต้องก้มหน้าลงโดยไม่ตั้งใจ เพื่อหลบเลี่ยงสายตาและความน่ายำเกรงในแววตาของอีกฝ่าย
คนพวกนี้ดูเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีกันทั้งนั้น แม้บุคลิกท่าทางไม่ธรรมดา สูงศักดิ์หาใดเปรียบ แต่ก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น คงเจนโลกไม่ลึกซึ้งนัก แต่ทำไมแววตาของหนุ่มน้อยชุดแดงผู้นี้ถึงน่าสะพรึงเช่นนั้น?
………………………………………………….