เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1019 ไก่อ่อนตัวผู้ + ตอนที่ 1020 จัดการเมื่อสบโอกาส
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1019 ไก่อ่อนตัวผู้ + ตอนที่ 1020 จัดการเมื่อสบโอกาส
ตอนที่ 1019 ไก่อ่อนตัวผู้ + ตอนที่ 1020 จัดการเมื่อสบโอกาส
ตอนที่ 1019 ไก่อ่อนตัวผู้
ตอนเห็นนางเปลือยหน้าอก เขาควรรีบละสายตาไปทางอื่นไม่ใช่หรือ? ทะ ทำไมกลับจ้องเนินอกที่เผยออกมาของนางตาไม่กะพริบ?
เพียงเห็นว่าสายตาของเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้าหยุดที่เนินอกของนาง ในดวงตามีความพินิจพิเคราะห์และชื่นชม สายตาที่ไม่หลีกเลี่ยงแม้แต่น้อยนั้นมองนางอย่างโจ่งแจ้งจนนางทำตัวไม่ถูก นางกำลังคิดจะดึงเสื้อผ้าขึ้น ทว่าก็นึกถึงเด็กหนุ่มตรงหน้า ดวงตาคู่งามจึงถลึงมองเฟิ่งจิ่วอย่างเขินอายระคนโกรธเคือง
“คุณชายเฟิ่ง…”
“แค่ก!”
เฟิ่งจิ่วกระแอมไอแล้วถึงจะเบนสายตาออกไป เธอมองด้วยความคิดที่ว่าหากไม่ดูก็น่าเสียดาย พอมองแล้วไม่ต้องพูดเลย ผู้หญิงคนนี้รูปร่างดีไม่ธรรมดาจริงๆ
ผิวพรรณขาวราวหิมะ ไม่ต้องจับยังรู้ว่าต้องเรียบลื่นหาใดเปรียบเป็นแน่ เอวเพรียวบางอ่อนนุ่ม เล็กกว่าเอวงูน้ำหลายเท่า ซ้ำยังมีหน้าอกนั่นอีก…
เดาว่าหากเปลี่ยนเป็นผู้ชาย มาเห็นภาพยั่วยวนเร่าร้อนเช่นนี้ถ้าไม่เกิดอารมณ์ก็คงต้องเลือดกำเดาไหล หากหญิงนางนี้ต้องการล่อลวงผู้ชายสักคนก็ต้านทานยากจริงๆ ถอดเสื้อผ้าพลิ้วบางไปเช่นนั้น เธออดสงสัยไม่ได้ว่าหากเปลี่ยนเป็นซ่งหมิงนักรักจอมเจ้าชู้อยู่ตรงนี้แทนจะกระโจนเข้าไปทันทีหรือไม่?
“เจ้าสวมเสื้อผ้าเถอะ! ข้าจะไปรอเจ้าข้างหน้า” เฟิ่งจิ่วกล่าวจบ ไม่รอให้นางพูดอะไรก็หันกายเดินไปข้างหน้า เล่นเอาหญิงสาวคนนั้นเห็นแล้วตกใจ แทบจะขบเขี้ยวจนฟันร่วง
“เจ้าทึ่มไม่รู้จักเรื่องรัก!” นางด่าเสียงเบา ถอดเสื้อผ้าไปหมดแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะหันหน้าเดินหนีไปเช่นนี้ นางโกรธแทบตายจริงๆ
หลังจากสวมเสื้อผ้าใหม่เรียบร้อยและสงบอารมณ์ที่ขุ่นเคืองนางถึงจะเดินไปข้างหน้า
ส่วนอีกด้าน ซ่งหมิงซึ่งอาศัยคำว่าดูแลพูดได้ว่าฉวยโอกาสเอาเปรียบไปยกใหญ่ อีกทั้งหญิงสาวที่ตื่นขึ้นมายังยั่วยวนอย่างคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ ยิ่งทำให้ซ่งหมิงก้าวไปไหนไม่ได้
ทว่าแม้เป็นเช่นนี้ เขาก็เอาเปรียบแต่ประโยชน์ใกล้มือให้อิ่มตาอิ่มใจ ตอนนี้หญิงสาวที่ตื่นขึ้นมาอิงแอบในอ้อมแขน สองแขนโอบเอวของเขา เอ่ยว่ายินยอมมอบกายและใจให้ด้วยความเหนียมอาย ขณะเดียวกันยังยื่นมือไปแก้ผ้าคาดเอวของเขาออก ทว่ากลับทำให้ซ่งหมิงตกใจผลักนางล้มลงพื้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกมาจากกระโจม
“ฮู่ ข้าตกใจแทบตาย”
เขาออกมาจากกระโจม ถอนหายใจเบาๆ แล้วตบๆ หน้าอก จากนั้นหันกลับไปมองแวบหนึ่ง เห็นว่าหญิงคนนั้นไม่ได้ตามออกมาถึงค่อยโล่งใจ ถึงแม้ตนเองจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ชอบเอาเปรียบแค่ประโยชน์ใกล้มือ พอของจริงแท้เช่นนี้มาเยือนเขากลับไม่สนใจ
หลายปีนี้นอกจากความคิดต่อต้าน อยากทำให้บิดาของเขาเสียหน้าด้วยเรื่องวุ่นวายที่ตนเองก่อไว้ข้างนอกแล้ว ชื่อเสียงด้านความเจ้าชู้ก็มีที่มาที่ไปจริง นั่นคือยามพบสาวงามเขาอยากจะฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวเสียหน่อย แต่นอกจากนี้ก็ไม่สร้างเรื่องนอกกรอบมากมายอะไรอีก ถึงอย่างไรในใจของเขาก็ยังมีตาชั่ง รู้ว่าเรื่องอะไรทำได้ เรื่องอะไรทำไม่ได้
แต่ด้วยกิตติศัพท์ภายนอกของเขา เดาว่าพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อว่าคุณชายใหญ่ซ่งหมิงนักรักจอมเจ้าชู้ที่มักเถลไถลอยู่หอนางโลมและเมาหลับบนเตียงสาวงามจะยังเป็นไก่อ่อนตัวผู้
ใช่ พูดออกไปจะขายหน้านัก เรื่องเช่นนี้ตนเองรู้เป็นพอ บอกคนอื่นไม่ได้
หญิงชราด้านนอกเห็นเขาออกมา แววตาก็อดสั่นไหวเล็กน้อยไม่ได้ เข้าไปถามไถ่อย่างใส่ใจว่า “คุณชายซ่ง ท่านเป็นอะไรไปรึเจ้าคะ?”
“ไม่เป็นไรๆ ข้าแค่รู้สึกร้อนนิดหน่อย เลยออกมารับลม” ซ่งหมิงโบกพัดมือพร้อมหัวเราะเจื่อนๆ ครั้นเห็นต้วนเยี่ยกับหนิงหลางกลับมาอยู่ไม่ไกลจึงเดินเข้าไปหา
………………………………………………….
ตอนที่ 1020 จัดการเมื่อสบโอกาส
“พวกเจ้าจับอะไรมา ไก่ป่าหรือ มาๆ ข้าจะถอนขนให้” เขาเข้าไปบอกพลางรับไก่ป่าที่พวกเขาสองคนจับมาไปจัดการข้างๆ
หนิงหลางกับต้วนเยี่ยมองเขา ทว่าก็ไม่พูดอะไร สองคนใช้กิ่งไม้ก่อกองไฟและตั้งไม้เตรียมไว้จะได้ย่างไก่
หญิงชราเหลือบมองพวกเขา ก่อนจะเข้ากระโจมไปก่อน
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ไก่ป่าสองสามตัวถูกวางย่างเหนือกองไฟแล้ว ทางเฟิ่งจิ่วกับหญิงสาวคนนั้นถึงเพิ่งจะกลับมา
“โอ้? นึกไม่ถึงว่าจะจับไก่ป่ามา!” เฟิ่งจิ่วมานั่งลงข้างกองไฟ มองไก่ป่าที่ย่างอยู่บนราวไม้ เผยให้เห็นความตะกละ
“เดิมทีจะจับกระต่ายมา แต่กระต่ายวิ่งเร็วเกินไป พอวิ่งหนีก็ไม่เห็นเงาแล้ว สุดท้ายเลยจับไก่ป่ามาสองสามตัว คืนนี้คงจะกินกันพอ” หนิงกลางเอ่ยขึ้น มองเฟิ่งจิ่วและถามว่า “เจ้าหิวหรือไม่ ข้ายังมีอาหารแห้งอีก จะกินเติมท้องก่อนสักหน่อยไหม?”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวข้ากินไก่ย่างก็ได้” เธอโบกๆ มือให้ หางตาเหลือบเห็นหญิงชราในกระโจมเล็กเดินออกมาแล้ว
“คุณชายทั้งหลาย หญิงชราอย่างช้าช่วยอะไรไม่ได้ แต่ข้าทำอาหารพอได้ เอาเช่นนี้แล้วกัน! พวกท่านพักผ่อนสักพักก่อน ไก่ย่างนี่ให้ข้าดูให้ก็ได้” นางเผยรอยยิ้มใจดีพลางมองพวกเขา
ซ่งหมิงได้ยินเช่นนี้ก็ตอบโดยไม่ต้องคิด “ได้อย่างไรเล่า ท่านอายุปูนนี้แล้ว ไปพักผ่อนดีกว่า! เรื่องเล็กๆ พวกนี้พวกเราจัดการได้ ท่านนั่งรอพวกเราย่างเสร็จค่อยมากินก็พอ”
หญิงชราเห็นเช่นนี้ รอยยิ้มตรงริมฝีปากแข็งทื่อไปนิด ทว่าก็ไม่พูดมากความอีก เพียงพยักหน้าและมานั่งลงด้านข้าง
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ และนั่งลงข้างๆ เช่นกัน กล่าวกับหนิงหลางและต้วนเยี่ยสองคนว่า “ข้าไปดูรอบๆ มา บริเวณไม่ไกลจากนี้มีตาน้ำธรรมชาติ น้ำที่นั่นหวานใสยิ่ง พวกเจ้าจะเก็บไปดื่มระหว่างทางสักหน่อยไหม?”
“ตอนกลับมาพวกเราเก็บผลไม้ป่ามานิดหน่อย รสเปรี้ยวๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีนัก นี่ เจ้าลองชิมสิ” หนิงหลางยื่นผลไม้ลูกเล็กในมือไป อีกทั้งแบ่งส่วนที่เหลือให้คนอื่น
ทางนั้นซ่งหมิงรับผิดชอบย่างไก่ป่า หญิงชรากับหญิงสาวนั่งมองอยู่ข้างๆ คอยเติมฟืนให้นานๆ ครั้งพลางยิ้มคุยกับซ่งหมิง
ทางนี้เฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยหนิงหลางก็พูดคุยกัน มักจะเฝ้าสังเกตหลายคนทางนั้นบ่อยครั้ง เฟิ่งจิ่วใช้กิ่งไม้เขียนบนพื้นว่า ‘จัดการเมื่อสบโอกาส’ แล้วลบทิ้ง ก่อนจะถือกิ่งไม้วาดบนพื้นไปตามอารมณ์เพื่อแก้เบื่อ
เมื่อค่ำคืนมาเยือน กลิ่นหอมของไก่ย่างกระจายออกไป ซ่งหมิงทางนั้นก็ร้องเรียกพวกเขา “กินได้แล้ว เข้ามาเร็ว”
คนทั้งสามเดินเข้าไปนั่งลงข้างกองไฟ รับไก่ย่างมากินพลางคุยเล่นกัน ซ่งหมิงนำส่วนหนึ่งเข้าไปให้ผู้หญิงคนนั้นในกระโจมเล็ก หลังจากเข้าไปกลับไม่ออกมาอีก แต่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาแทน
“ซ่งหมิงบอกว่าค่อนข้างเหนื่อย ข้าเห็นว่าตัวเองอาการดีขึ้นแล้ว จึงออกมาให้เขาพักผ่อนอยู่ข้างในเจ้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวจบ ก็มานั่งลงข้างกายเฟิ่งจิ่ว
เพียงรู้สึกว่ากลิ่นหอมที่เหมือนมีเหมือนไม่มีอบอวล ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางที่นั่งข้างกันกุมศีรษะกำลังจะลุกขึ้นยืน ร่างกายก็ล้มหงายลงไป
ส่วนเฟิ่งจิ่วเมื่อหญิงสาวนั่งลงข้างกายก็หันมองนางเล็กน้อย หลังจากเห็นต้วนเยี่ยกับหนิงหลางล้มไปเธอถึงขมวดคิ้ว “เจ้า…” ทั้งร่างล้มลงตามและหมดสติไปเช่นกัน
ครั้นเห็นพวกเขาหมดสติไปกันหมด สามคนนั้นถึงจะลุกขึ้นมา หญิงสาวทั้งสองคนมองยังหญิงชรา “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านบอกว่าพวกเขารับมือยากไม่ใช่หรือ ท่านดูสิ ไม่ทันไรก็กลายเป็นเหยื่อของพวกเราแล้ว”
หญิงชรามองเหล่าคนบนพื้น มือข้างหนึ่งฉีกหน้ากากหนังมนุษย์บนใบหน้าออกมา…
………………………………………………….