เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1075 ไม่สู้ + ตอนที่ 1076 ปล้นไปได้เลย
ตอนที่ 1075 ไม่สู้ + ตอนที่ 1076 ปล้นไปได้เลย
ตอนที่ 1075 ไม่สู้
“ไม่มีคนอื่น? หรือว่าพวกเขาไปกันแล้ว?”
ผู้หญิงคนนั้นพึมพำด้วยความตะลึง นึกถึงข้อนี้สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเศร้าใจ “พวกเขาอาจทิ้งข้าไป ถึงอย่างไรในสถานที่เช่นนี้ ไม่กลับไปทั้งคืนพวกเขาจะมาตามหาข้าได้อย่างไร?”
“พวกเราช่วยเจ้าลงมา แค่นี้แล้วกัน! ลาก่อน” ซ่งหมิงประคองนางไปข้างๆ และให้พิงต้นไม้ไว้ ก่อนจะประสานมือกล่าวไป
“จะทิ้งข้าไว้ที่นี่หรือ?” หญิงสาวคล้ายจะตกใจในคำพูดของเขา จึงกัดฟันเล็กน้อย ถามว่า “ขอพวกท่านพาข้าไปด้วยได้หรือไม่? หากทิ้งข้าไว้ที่นี่ ข้าก็ตายไปได้ทุกเมื่อ”
“แต่เดิมทีข้าแค่คิดจะช่วยเจ้าลงมาจากต้นไม้ ไม่เคยคิดว่าหลังจากช่วยจะพาเจ้าไป มันต่างจากความคิดข้าก่อนหน้านี้” ซ่งหมิงโบกๆ มือพลางเอ่ย ซ้ำยังบอกอีกว่า “หนำซ้ำพวกเราเป็นผู้ชาย พาผู้หญิงอย่างเจ้าไปคงไม่ดี ช่วยชีวิตเจ้าไว้ก็ดีมากแล้ว เจ้าอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย”
ซ่งหมิงพูดจบก็มองยังพวกของเฟิ่งจิ่ว “พวกเราไปกันเถอะ!”
พวกเขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย กลับไม่พูดอะไร เห็นเขาบอกว่าไปก็ไปเถอะ!
ผู้หญิงด้านหลังเห็นพวกเขาหมุนตัวจะไปกันจริงๆ สีหน้าตกตะลึงโดยทันที ราวกับไม่คิดว่าเด็กหนุ่มพวกนี้จะช่วยคนครึ่งทางและทิ้งไว้ที่นี่
“เป็นอย่างไรเล่า? ข้าก็บอกไม่ใช่หรือว่าเจ้าแก่แล้ว? อุบายเช่นนี้ใช้ไม่ได้หรอก”
พวกของเฟิ่งจิ่วเดินออกไปสักระยะหนึ่งก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของผู้หญิงลอยมาจากด้านหลัง ฝีเท้าชะงักและหันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นว่าผู้ฝึกตนยี่สิบกว่าคนพลันกระโจนออกมาบริเวณด้านหลัง ในนั้นมีสองสามคนเป็นผู้หญิง
“เป็นอุบายจริงๆ ด้วย!” ซ่งหมิงลูบๆ ศีรษะ ส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้พวกของเฟิ่งจิ่ว “แต่ข้าเห็นแต่แรกว่าไม่ปกติ ดังนั้นจึงไม่คิดจะพานางไปด้วยกัน”
เคยเดือดร้อนไปครั้งหนึ่ง ในใจจึงระวังมากขึ้น อีกทั้งอยู่ในเทือกเขาอเวจีจะชะล่าใจไม่ได้ ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนี้เห็นว่าเขาไม่หลงกล คนในมุมมืดก็โผล่ออกมาเช่นนี้
ผู้ฝึกตนยี่สิบกว่าคนพละกำลังอยู่ระหว่างระดับสร้างรากฐานขั้นกลางกับขั้นสุดท้าย ในนั้นมีเพียงสองคนเป็นวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง กองกำลังอิสระไร้ซึ่งระเบียบคงเป็นผู้ฝึกตนไร้สำนัก
เฟิ่งจิ่วมองคนพวกนั้น จากนั้นค่อยบอกพวกเขาว่า “ดี คนพวกนี้ให้พวกเจ้าฝึกฝีมือ เจอคนใช้อุบาย พวกเจ้าจะปล้นสมบัติเงินทองของศัตรูมาให้หมดข้าก็ไม่ถือสา”
ได้ยินคำพูดนี้คนที่ตื่นเต้นที่สุดคือหนิงหลาง ดวงตาบนใบหน้าน่ารักเจ้าเนื้อเป็นประกายขึ้นมา และพรั่งพรูไปด้วยรัศมีเริงร่า “จริงหรือ? พวกเราปล้นคนอื่นในนี้ได้หรือ?”
ซ่งหมิงกับต้วนเยี่ยรวมถึงลั่วเฟยมองหนิงหลางอย่างหมดคำพูดไปบ้าง คนในนี้จะปล้นได้ง่ายเพียงนั้นจริงหรือ? ไม่เห็นหรือว่ากำลังของศัตรูล้วนอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นกลางและขั้นสุดท้าย ในนั้นยังมีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคน?
เฟิ่งจิ่วเอ่ยออกมาเช่นนั้น คิดจะมอบประสบการณ์และความท้าทายให้พวกเขา การท้าทายนี้ทำได้ไม่ดีคงถึงแก่ชีวิต ดังนั้นเธอจึงบอกว่าขโมยสมบัติเงินทองของศัตรูมาหมดก็ไม่ถือสา
หมายความว่ากำลังใช้ผลประโยชน์ล่อลวงพวกเขา ทำให้พวกเขารู้ว่าแพ้ไปก็ถึงตาย ถ้าชนะกลับจะได้รับสิ่งของพวกนั้น และจะไม่สู้ตายไปเสียเปล่า
สิ่งที่พวกเขากังวลคือกำลังของตนเองเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้น ได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว ก็ชัดเจนมากว่าเขาไม่คิดจะสู้ คิดมาถึงตรงนี้สีหน้าของพวกเขาคร่ำเครียดขึ้นมา ในใจกำลังแอบคิดหาวิธีรับมืออย่างรวดเร็ว
………………………………………………….
ตอนที่ 1076 ปล้นไปได้เลย
มีเพียงหนิงหลางดวงตาเป็นประกาย ท่าทางตื่นเต้นไม่รับรู้ถึงจิตสังหารในนี้โดยสิ้นเชิง คิดได้แค่ว่าในถุงฟ้าดินที่ติดตัวคนพวกนั้นจะมีสิ่งของล้ำค่ามากเพียงใด?
หากคนพวกนี้อาศัยปล้นทรัพย์เพื่อเลี้ยงชีพอยู่ในนี้มาตลอด บนตัวพวกเขาคงมีสมบัติและยาทิพย์ล้ำค่าไม่น้อยแน่ๆ เฟิ่งจิ่วก็บอกว่าสำหรับคนที่ใช้อุบาย พวกเขาปล้นไปได้เขาไม่คัดค้าน
นั่นหมายความว่าภายหน้าเจอคนใช้อุบายพวกนั้น พวกเขาล้วนชิงทรัพย์ไปได้หมด?
เขานึกถึงข้อนี้ ร่างกายก็เร้าร้อนไปหมด
“อืม ใครไม่มาตอแยพวกเรา ก็อย่าไปตอแยพวกเขาหรือวางอุบายอะไร แต่คนที่ใช้อุบายกับพวกเรา ขอแค่ปล้นมาได้ ทั้งหมดจะเป็นของพวกเจ้า”
ระหว่างพูดเธอยังหรี่ตายิ้ม ตบบ่าของหนิงหลางและเอ่ยด้วยคำพูดให้กำลังใจ “เจ้าพยายามเข้าล่ะ คนพวกนี้ดูเป็นคนมีสมบัติมากมาย”
หนิงหลางได้ยินเช่นนี้ สองมือกำหมัดแน่น ใบหน้าจ้ำม่ำเต็มไปด้วยความจริงจัง ประกายความตื่นเต้นในดวงตาแวววาว “อืม เจ้าวางใจได้ ข้าไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน”
คนอื่นข้างๆ ได้ยินคำพูดนี้ สายตาพลันมองไปยังหนิงหลาง เตือนว่า “คนของพวกเขามากกว่าเรา หนำซ้ำกำลังล้วนอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นกลางและขั้นสุดท้าย ในนั้นยังมีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคน”
“ไม่เป็นไร มีหัวหน้าของพวกเราอยู่จะกลัวอะไร!” หนิงหลางเชิดคางมองยังเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าเชื่อมั่น
“ข้าไม่สู้แค่คอยดูพวกเจ้า” เฟิ่งจิ่วพูดจบ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของหนิงหลางก็พาอสูรกลืนเมฆาพุ่งถอยไปด้านหลังในทันที แล้วเรียกพลังกระโดดไปนั่งดูพวกเขาบนกิ่งไม้
“หา?”
หนิงหลางงุนงง เมื่อครู่มัวแต่ตื่นเต้น ไม่รู้ว่าเฟิ่งจิ่วไม่คิดจะช่วย ตามความคิดของเขากำลังของเฟิ่งจิ่วแข็งแกร่งเพียงนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคน แม้มาอีกสองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ กลับไม่นึกว่าเขาไม่คิดสู้
“จะหาอะไรเล่า? เจ้าได้ยินเขาบอกหรือว่านี่เป็นประสบการณ์สำหรับพวกเรา?” ต้วนเยี่ยตบหัวเขาไปอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่ามาทำท่าทางปัญญาอ่อน ถ้าทำไม่ดีคงไม่เหลือชีวิต”
ได้ยินเช่นนี้หนิงหลางเก็บอารมณ์ มองยังยี่สิบกว่าคนตรงหน้าพลางกลืนน้ำลาย ในที่สุดก็รู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงมาก แม้แต่หน้าผากยังเหงื่อไหลออกมาเพราะความรู้สึกกังวล
“สู้ก็สู้เถอะ! เพื่อถุงฟ้าดินของพวกเขาและสมบัติพวกนั้น ขะ ข้าจะสู้ตาย! อ๊าก!”
เขากล่าวจบจู่ๆ ก็ตะโกนเสียงดัง หยิบกระบี่ยาวออกมาพุ่งเข้าไปหาคนตรงหน้าพวกนั้น ทำให้พวกของต้วนเยี่ยสะดุ้งตกใจเสียดื้อๆ
“เจ้าบ้า! จะลงมือก็ไม่บอกก่อนเล่า” พวกเขากัดฟันกรอด พากันเรียกกลิ่นอายในร่างและชักกระบี่ยาวพุ่งไปทางคนพวกนั้น
“คนพวกนี้สมองไม่มีปัญหาแน่หรือ?”
ยี่สิบกว่าคนนั้นได้ยินคำพูดของพวกเขา แต่ละคนประหลาดใจ คนแค่นี้คิดจะมาปล้นพวกเขา? หนำซ้ำหนึ่งคนในนั้นยังไม่คิดสู้? หรือจะมองไม่ออกว่ากำลังของพวกเขาล้วนเหนือกว่าพวกเขา? เข้ามารนหาที่ตายกันกระมัง?
“ฆ่ามันเสีย! เจ้าพวกไม่รู้ที่ตาย!”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งสั่งไป ผู้ฝึกตนไร้สำนักยี่สิบกว่าคนพลันปล่อยจิตสังหารออกมา พากันถือกระบี่พุ่งเข้าไป แม้แต่ผู้หญิงท่าทางอ่อนแอคนก่อนหน้านี้หลังจากกินยาก็ถือกระบี่เข้าไปฆ่า
เฟิ่งจิ่วมองทั้งสี่ถูกยี่สิบกว่าคนนั้นล้อมไว้ตรงกลาง โดนฟันจนบาดเจ็บเพราะรับมือไม่ทัน เมื่อเลือดไหลออกมา แววตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองไปเงียบๆ พลางเล่นเข็มเงินสองสามเล่มตรงง่ามนิ้วมือ
………………………………………………….