เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1081 รางวัล + ตอนที่ 1082 แผนที่เทือกเขา
ตอนที่ 1081 รางวัล + ตอนที่ 1082 แผนที่เทือกเขา
ตอนที่ 1081 รางวัล
ที่ผ่านมาทำไมเด็กหนุ่มไม่สู้? กำลังของเขาเป็นเพียงระดับสร้างรากฐานจริงๆ หรือ? ยังมีอสูรน้อยนั่น…
คำถามต่างๆ ผุดขึ้นในใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นความมั่นใจของเด็กหนุ่มชุดแดง ในใจยิ่งมีลางสังหรณ์ไม่ดี หลังจากเห็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนก่อนหน้าถูกฆ่าลางสังหรณ์ยิ่งรุนแรง
ยามนี้เขาถอยหลังไป พลางมองอสูรน้อยที่ขวางอยู่เบื้องหน้า แล้วทุ่มพลังทั่วร่างเต็มที่โดยไม่ลังเล ก่อนจะระเบิดกลิ่นอายทรงพลังของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังออกไป หมุนตัวหนีไปอีกทิศทางหนึ่ง
ไม่ได้จะสู้แต่จะหนี ทุ่มพลังในร่างกายมาใช้หนีเอาตัวรอด!
ท่าทางของเขาที่จู่ๆ ก็หมุนตัววิ่งไปทำให้เฟิ่งจิ่วกับอสูรกลืนเมฆาต่างอึ้งไปพักหนึ่ง เดิมนึกว่าเขาคิดสู้ ใครจะรู้ว่าจะหันหนีไป หนำซ้ำแค่พริบตาเดียวก็หนีไปเสียจนไร้ร่องรอย แทบพูดได้ว่ายามนี้วรยุทธ์ของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเขาแค่ใช้หนีเอาตัวรอด
เธอเห็นเช่นนี้ หลังจากนิ่งไปสักพักก็ลูบๆ คาง เหลือบมองทางนั้นและไม่ไปสนใจ
ช่างปะไร จะหนีก็หนีไปเถอะ! เป็นแค่ปลาที่รอดไปได้เท่านั้น
ดังนั้นเธอจึงหันสายตามายังเบื้องหน้า มองไปเช่นนี้ก็เลิกคิ้วเบาๆ เห็นว่าภายหลังการต่อสู้ผู้ฝึกตนไร้สำนักสองสามคนสุดท้ายล้วนโดนพวกเขาร่วมมือกันสังหาร ยามนี้ผู้ฝึกตนไร้สำนักคนสุดท้ายล้มลงไปพวกของต้วนเยี่ยจึงหอบหายใจนั่งพักผ่อนบนพื้น ส่วนหนิงหลางก็พลิกหาบนศพพวกนั้นด้วยสีหน้าเบิกบาน…
“เจ้าพวกนี้ต้องลักทรัพย์คนมาไม่น้อยแน่ๆ ดูสิ ในถุงฟ้าดินล้วนมีสิ่งของมากมาย หนำซ้ำคนหนึ่งยังไม่พกแค่ใบเดียว” หนิงหลางปล้นของอยู่ตรงนั้น ตักตวงไปพลางเอ่ยอย่างตื่นเต้น ไม่นานนักในอ้อมแขนของเขาก็กอดถุงฟ้าดินมายี่สิบกว่าใบ
เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามา มองบาดแผลบนร่างคนอื่นๆ เห็นว่าร่างกายพวกเขาล้วนมีบาดแผลหนักเบาต่างกันไป มีเพียงหนิงหลางบาดเจ็บเล็กน้อยตรงแขนเท่านั้น เห็นเขาไม่สนใจแผลบนร่าง ซ้ำยังเก็บดาบและกระบี่พวกนั้นลิงโลดใจ เธอก็อดลูบๆ หน้าผากไม่ได้
“หนิงหลาง เก็บของมีค่าก็พอ ดาบกระบี่พวกนั้นล้วนไม่มีราคา อย่าเก็บไปเลย” เจ้าหมอนี่ไม่เว้นเลยสักนิดจริงๆ ไม่ดูเสียบ้างว่าดาบกระบี่ธรรมดาๆ พวกนั้นจะได้ราคาสักเท่าไรเชียว?
“ไม่เอาหรือ?”
ในอ้อมแขนของเขากอดดาบกระบี่ไว้หลายเล่ม ยามนี้ได้ยินเฟิ่งจิ่วเอ่ยเช่นนี้ก็คิดๆ แล้วโยนดาบกระบี่กลับไปบนพื้น “ได้สิ ไม่เอาก็ไม่เอา อย่างไรเสียภายหน้าคงมีอีก ข้าจะเก็บถุงฟ้าดินอะไรพวกนี้ไปเป็นพอ ทีหลังสัมภาระจะได้ไม่มากเกินไป”
คนอื่นได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ มุมปากกระตุก ต่างส่ายหน้ากัน
เฟิ่งจิ่วมองไปรอบๆ และบอกว่า “กลิ่นคาวเลือดตรงนี้ค่อนข้างแรง จะอยู่นานไม่ได้ ไปกันเถอะ! หาที่พักก่อนพวกเจ้าค่อยทำแผล”
“ได้” พวกเขาขานรับ แล้วประคองกันลุกขึ้นมาเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน
มาถึงสถานที่ที่ไม่มีกลิ่นคาวเลือด พวกเขานั่งบนพื้นหญ้าและเริ่มจัดการบาดแผลบนร่าง
“พวกเจ้าดูสิ ข้าฉลาดใช่หรือไม่? ข้าสวมเสื้อผ้าติดตัวไว้เยาะ หนำซ้ำยังมีเสื้อกล้ามวิเศษ ในหมู่พวกเราแม้กำลังของข้าจะเทียบพวกเจ้าไม่ได้ แต่ก็บาดเจ็บน้อยที่สุด แหะๆๆ”
หนิงหลางหัวเราะอย่างได้ใจ หลังจากพันแผลเรียบร้อยก็หยิบสิ่งของในถุงฟ้าดินมาแบ่งเป็นห้าส่วน “เอาล่ะ คนละหนึ่งส่วนนะ”
พวกเขามองไปแวบหนึ่งและเก็บสิ่งของไป แม้ด้วยเส้นสายของตระกูลพวกเขาจะไม่สนใจสิ่งของพวกนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นรางวัลของพวกเขา
………………………………………………….
ตอนที่ 1082 แผนที่เทือกเขา
เก็บของทั้งหมดและพักผ่อนสักพัก ก่อนจะหยิบอาหารในห้วงมิติออกมากินพลางคุยถึงแผนการต่อไป
“จริงด้วย พวกเจ้าดูนี่สิ”
หลังจากกลืนอาหารในปากลงไป หนิงหลางล้วงแผนที่ที่พับไว้ออกมา “ข้าหามันเจอบนร่างของผู้ฝึกตนไร้สำนักระดับหลอมแก่นพลังคนนั้น คล้ายจะเป็นแผนที่ ก่อนหน้านี้ข้าอ่านแล้ว เหมือนว่าเป็นแผนที่ของในนี้”
ได้ยินเช่นนี้เฟิ่งจิ่วรับมาเปิดอ่าน คนอื่นๆ ก็เข้ามาใกล้และนั่งล้อมดูอยู่ข้างๆ เห็นว่าบนนั้นมีสัญลักษณ์ สถานที่ต่างๆ ในแผนที่ก็เหมือนเส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านจริงๆ
“เป็นสถานที่ในนี้ แต่แผนที่นี้ยังไม่ครอบคลุม คงวาดไว้แค่ทางที่เดินผ่านมา พวกเจ้าดูสิ ตอนนี้พวกเราอยู่ป่าตรงนี้ เป็นป่าปีศาจต้นไม้ อ่านจากสัญลักษณ์สถานที่ในนี้ ขอแค่เดินไปทางตะวันออกใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวันก็เดินพ้นละแวกนี้ไปได้ ส่วนตรงนี้ทำสัญลักษณ์ไว้ว่าสำคัญ เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สิบกว่าเท่าของป่านี้”
“แต่ตรงนี้น่าจะยังวาดไม่เสร็จ วาดไม่เสร็จยังใช้ไปเกือบหนึ่งแผนที่ แค่คิดก็รู้แล้วว่าเทือกเขาอเวจีแห่งนี้กว้างใหญ่แค่ไหน”
“กำลังระดับหลอมแก่นพลังอย่างเขาเดินผ่านสถานที่พวกนี้ได้ด้วยหรือ? ตามความคิดของข้า ผู้ฝึกตนไร้สำนักคนนั้นน่าจะได้มาจากที่อื่น” หนิงหลางเอ่ยขึ้น มองเฟิ่งจิ่วและถามว่า “ในนี้มีสัญลักษณ์ หนำซ้ำยังวาดสัตว์ร้ายอะไรไว้ เป็นไปได้ว่าจะอันตรายกว่าที่นี่ที่พวกเราอยู่เสียอีก!”
“เจ้ากลัวหรือ?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วมองเขา
หนิงหลางได้ยินคำพูดนี้ก็ยืดเอวตั้งตรง “กลัว? ได้อย่างไรเล่า? ข้าไม่กลัวหรอก ต่อให้สู้ไม่ไหวข้าก็หนีไปได้!”
“เจ้าก็เป็นเสียอย่างนี้” ต้วนเยี่ยแค่นเสียงหยัน พร้อมชายตามองเขา
ซ่งหมิงได้ยินก็ยิ้มขึ้นมา กล่าวอย่างหยอกล้อ “ข้าคิดว่าเจ้าเข้าไปจะไม่ยอมไปไหนแน่ๆ ยิ่งอันตรายสิ่งของล้ำค่าในนั้นยิ่งมาก! ไม่แน่ว่าเจ้าเก็บยาทิพย์ล้ำค่าอะไรมาตอนไหนล้วนเป็นเงินไปหมด! เจ้าจะตัดใจทิ้งไปหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอก”
“แหะ ข้าไม่เสียดายหรอก” หนิงหลางฉีกยิ้ม แล้วมองยังลั่วเฟย ถามว่า “สิ่งของพวกนั้นที่เจ้าโยนไปก่อนหน้านี้คืออะไร? ยังมีหน้ากากพวกนั้นอีก เป็นฝีมือเจ้าหรือ?”
“เมื่อก่อนไว้ใช้จู่โจม อันที่จริงจะมีผลแค่กับผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน ไม่ส่งผลอะไรมากมายต่อผู้ฝึกตนวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง”
ลั่วเฟยเอ่ยไปและดื่มน้ำให้ชุ่มคอ เห็นเฟิ่งจิ่วจ้องมองแผนที่ตลอดจึงเอ่ยว่า “ในนั้นมีขุมทรัพย์หรือไร? ต้องตั้งใจอ่านเพียงนั้นเชียว?”
“ขุมทรัพย์? มีด้วยหรือ?” หนิงหลางเอ่ยถามทั้งดวงตาเป็นประกาย
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็กลอกตามองพวกเขา บอกว่า “ที่นี่จะมีขุมทรัพย์ได้อย่างไร? ข้าแค่กำลังดูสัญลักษณ์ตรงนี้บอกว่ามีอาศรม ข้าคิดว่ารอไปถึงแถวๆ นี้จะวางค่ายกลและเขตอาคมไว้ตรงนี้ จากนั้นค่อยกลั่นยาอายุวัฒนะข้างใน พวกเจ้าก็ฝึกซ้อมละแวกนี้ได้ ทำความคุ้นเคยเสียก่อนค่อยพัฒนาพละกำลัง”
“พัฒนากำลังในสถานที่เช่นนี้?” ซ่งหมิงกับต้วนเยี่ยชะโงกหน้ามอง ถามว่า “ที่นี่น่าจะยังเป็นบริเวณข้างนอก ไม่เข้าไปอีกหน่อยหรือ?”
เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า “เข้าไปอีกไม่ได้แล้ว อยู่ได้แค่ละแวกนี้ พวกเจ้าดูในนี้ล้วนมีสัญลักษณ์อาณาเขต แถบนี้วาดเป็นหนึ่งเขต ความอันตรายแตกต่างจากที่นี่ ด้วยกำลังระดับสร้างรากฐานของพวกเจ้าได้แต่ฝึกซ้อมอยู่ละแวกนี้แหละ”
เธอมองพวกเขาสี่คนและกล่าวว่า “ภายในเวลาหนึ่งปี พวกเจ้าต้องบรรลุวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง”
………………………………………………….